ตอนที่ 73 - ตระกูลเลือดคนบาป
ตอนที่ 73 - ตระกูลเลือดคนบาป
ชายชรานั่งอยู่ตรงนั้นเขาเผยรอยยิ้มที่มีความหมายและพูดว่า“ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามนั้นไม่ใช่ร่างที่แท้จริงเป็นเพียงรูปสลักหินเท่านั้น”
หวังฉางเหอ,กู่หมิงเต้า และคนอื่น ๆ รู้สึกมึนงงไม่เข้าใจสิ่งที่ชายชรากล่าว
“ผู้อาวุโสโปรดอธิบายเพิ่มเติม เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ทุกอย่างได้พูดไปแล้ว พวกเขาเป็นเพียงรูปสลักหิน มีคนมาถวายเครื่องบูชาและนั่นคือสาเหตุที่วิญญาณวีรบุรุษปรากฏตัว” ชายชราหรี่ตาของเขามันมีลักษณะเดียวกับเปลือกไม้เก่า
หวังฉางเหอ,กู่หมิงเต้า และคนอื่นๆ มีใบหน้าดำคล้ำพวกเขาเข้าใจความเป็นมาของเรื่องนี้ในที่สุดว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้ทั้งสามจึงปกป้องสือฮ่าว เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อย
“ที่ข้ารู้เรื่องนี้เพราะว่าก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับคำร่ำลือของแท่นบูชาบรรพบุรุษมาก่อน …”ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาระเบิดอารมณ์ออกมามันลุกโชนเหมือนกับเปลวไฟ จริงๆแล้วพวกเขาถูกหลอกลวงให้หวาดกลัวรูปสลักหินเท่านั้น
นี่เป็นเรื่องน่าอับอายอย่างแท้จริง พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงมานานหลายปีแล้ว แต่พวกเขาก็ยังถูกหลอกลวงจากเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกู่หมิงเต้า เมื่อนึกถึงตอนที่เขาตบปากตัวเองพร้อมกับกล่าวขอโทษไปด้วยนั่นทำให้เขาโกรธจนตัวสั่นไปหมด ไม่มีอะไรน่าอับอายไปกว่านี้แล้ว
“ข้าต้องการให้พวกมันชดใช้!” กู่หมิงเต้าคำรามด้วยความโกรธเขาตบโต๊ะและลุกขึ้นยืน
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ภูมิหลังของเย่ชิงเซียนไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะแตะต้องได้!” ผู้อาวุโสกล่าวด้วยใบหน้าดำคล้ำ
“เรื่องนี้ยังไม่จบ!” หวังฉางเหอก็ไม่พอใจเช่นกัน มังกรทั้งห้าของ ตระกูลหวังถูกส่งมายังชายแดนรกร้างเพียงเรื่องนี้อย่างเดียวก็ทำให้พวกเขาหงุดหงิดและไม่พอใจมากพอแล้ว ตอนนี้พวกเขายังต้องทนกับความอับอายอีกครั้งจะให้เขาข่มกลั้นความโกรธแค้นครั้งนี้ได้อย่างไร
สำหรับยักษ์สีทองผู้เชี่ยวชาญของตระกูลจินใบหน้าของพวกเขาเขียวคล้ำเช่นกัน หากข่าวนี้แพร่ออกไปพวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกอย่างแน่นอน
“ผู้อาวุโสเรื่องนี้ไม่ควรถือว่าเป็นปัญหาเล็กๆ มีใครบางคนที่แสร้งทำเป็นบรรพบุรุษโบราณพวกเขาจะต้องถูกลงโทษให้หนัก! โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามพี่น้องจากตระกูลหินผาที่ตอนนี้ยังคงไม่ยอมรับความผิดของพวกเขา พวกเขาควรถูกลงโทษ!” กู่หมิงเต้ากล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา
“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเจ้าจะมาพูดคุยเรื่องนี้กับข้า!” ใบหน้าของผู้อาวุโสเขียวคล้ำเขาตัดจบการสนทนานี้และไล่พวกเขาออกไป
คนกลุ่มนี้ลุกขึ้นไม่กล้าพูดอะไรอีกได้แต่แสดงความเคารพแล้วกล่าวอำลา
โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่ยอมเลิกราเรื่องนี้ง่ายๆเพราะครั้งนี้พวกเขาเสียหน้ามากเกินไป เมื่อพวกเขาคิดย้อนกลับไปสิ่งนี้ช่างน่าละอายเหลือเกิน
พอคนเหล่านี้เคลื่อนไหวก็ทำให้คนอื่นตกใจเช่นกัน หลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้วทุกคนก็อดขำไม่ได้
ต้นกำเนิดของเย่ชิงเซียนนั้นยิ่งใหญ่มาก กู่หมิงเต้าและคนอื่นๆไม่กล้าแตะต้องนาง ในขณะเดียวกันฮวงที่ได้รับชัยชนะต่อเนื่อง 10 ครั้งก็มีคุณความดีอันยิ่งใหญ่ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ ตอนนี้พวกเขาเกิดความอับจนปัญญาอยู่บ้าง
“รายงานให้คนที่อยู่ในแท่นบูชาบรรพบุรุษรู้ว่ามีคนพยายามแอบอ้างเป็นบรรพบุรุษโบราณ!” กู่หมิงเต้ากล่าวด้วยฟันที่ขบแน่น
“เราประเมินตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า? คนประเภทนี้จะไม่มาพบเราอย่างแน่นอน” ใครบางคนพึมพำ
“เราไม่จำเป็นต้องพบตัวผู้คนเหล่านั้นตราบเท่าที่เราได้พบกับเด็กรับใช้ของพวกเขาก็พอ” หวังฉางเหอกล่าว เขาเข้าใจสถานการณ์ของคนที่อยู่ในระดับนั้นดีเพราะตอนที่เขายังเด็กเขามีความโชคดีในการบ่มเพาะเต๋าเขาจึงถูกส่งให้ไปเป็นเด็กรับใช้ของเซียนอมตะหวังอยู่ 3 ปี
แท่นบูชาบรรพบุรุษเงียบสงบมาก คนกลุ่มนี้มาถึงโดยที่ยังไม่ทันกล่าวอะไร
“พวกเจ้าทุกคนโปรดกลับไป บรรพบุรุษโบราณอยู่อย่างสันโดษพวกเขาไม่ต้องการให้ใครมารบกวน”
นี่คือแท่นบูชาบรรพบุรุษโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในเมืองจักรพรรดิ คนเหล่านี้ถูกหยุดทันทีที่เข้าใกล้หลังจากสนทนากันชั่วครู่พวกเขาก็ถูกไล่กลับมา
"ทำไม? แอบอ้างเป็นบรรพบุรุษโบราณแล้วจะไม่ได้รับการลงโทษได้อย่างไร”กู่หมิงเต้ากล่าว
“บรรพบุรุษโบราณเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากมีคนนำเรื่องนี้มารายงานก็ให้บอกพวกเขาว่า ‘ลืมมันซะ!” ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ที่หยุดพวกเขากล่าวและไล่พวกเขากลับมาทันที
“ลืมไปหรือ” ทุกคนต่างตะลึงมันเป็นเพียงสองคำนี้ มีอะไรซ่อนอยู่ในเรื่องนี้มากเกินไป
เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถตรวจสอบต่อไปได้ แต่บรรพบุรุษอาวุโสนั้นก็ดูเหมือนจะไม่พอใจเช่นกัน ท้ายที่สุดมีคนแสร้งทำเป็นบรรพบุรุษโบราณอย่างพวกเขาโดยที่เขาไม่ทราบมาก่อน
“เราไม่สามารถสร้างความวุ่นวายได้มากเกินไป เพียงแค่บรรพบุรุษโบราณไม่ได้เข้าข้างคนเลือดบาปพวกนั้นก็เพียงพอแล้ว” ใครบางคนกล่าวอย่างเงียบ ๆ
“เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ!”
แน่นอนว่าทุกคนยังคงมีความแค้นอยู่ภายใน ครั้งนี้พวกเขาโกรธแค้นอย่างมากรู้สึกเหมือนถูกคนอื่นหลอกลวงและทำให้อับอาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ภายในแท่นบูชาบรรพบุรุษใบหน้าของเฉาอวี่เซิ่งขมขื่นเขาพูดว่า“แม้ว่าการระบายความโกรธของเราจะทำให้รู้สึกดี แต่คนโง่พวกนั้นจะไม่ปล่อยให้เรื่องจบลงที่นี่ พวกเขาจะสร้างปัญหาใหม่ในไม่ช้า”
“อย่าห่วงเลยพวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก เพียงแค่ถือว่านี่เป็นการลับคมตนเองเท่านั้น” เย่ชิงเซียนหัวเราะ
"เจ้ารู้ได้อย่างไร?" เฉาอวี่เซิ่งมองไปที่นางอย่างระมัดระวัง
“เพราะว่า…” เย่ชิงเซียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็รีบปิดปากอันงดงามของนางอย่างรวดเร็วจากนั้นก็หัวเราะด้วยท่าทีสนุกสนาน
“โอกาสดีๆกำลังมาถึงพวกเจ้าแล้ว เมื่อถึงเวลาข้าจะมาร่วมสนุกด้วย” เย่ชิงเซียนกล่าวขณะกระพริบตากลมโตของนาง นางส่งพวกเขาออกจากแท่นบูชาบรรพบุรุษเป็นการจบบทสนทนา
ในที่สุดก็มีคนมารับพวกเขาไป อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องแยกตัวไปยังตระกูลต่างๆ
เมืองจักรพรรดิ์มีขนาดใหญ่มากราวกับโลกใบหนึ่ง ภูเขาแม่น้ำสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทุกสิ่งมีอยู่มากมายที่นี่ สือฮ่าวรู้สึกเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่กว่าดินแดนสวรรค์ทั้งเก้ารวมกันมากมายหลายเท่า! เขาถูกนำไปสู่ชนเผ่าเล็กๆแห่งหนึ่งในหุบเขาเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางความทุรกันดาร
เฉาอวี่เซิ่งอยู่ใกล้กับเขาในชนเผ่าขนาดกลางคั่นด้วยแม่น้ำสายหนึ่ง เมื่อเทียบกันแล้วสือยี่และฉินฮ่าวอยู่ไกลกว่าเล็กน้อย
“เจ้าแซ่สือ? ทำไมไม่เปลี่ยนชื่อสกุลชั่วคราวก่อนมาที่นี่” ชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากชนเผ่าเล็กๆ โดยสวมชุดผ้าหนังสัตว์ที่ปะแล้วปะอีกแล้วมองไปที่สือฮ่าว
“นี่คือแซ่ของข้าทำไมต้องเปลี่ยน?!” สือฮ่าวถาม
ชายชราถอนหายใจเบา ๆ และไม่พูดอะไรอีก
ชนเผ่าเล็ก ๆ นี้ไม่ได้มีคนจำนวนมากมีเพียงประมาณหนึ่งพันคน เมื่อเทียบกับเมืองจักรพรรดิขนาดใหญ่และกลุ่มต่างๆแล้วมันมีขนาดเล็กมากและไม่มีความสำคัญอะไรเลย
หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็เข้าใจบางเรื่องเพราะแซ่ของเผ่าเล็ก ๆ นี้คือ สือ
“พวกเจ้าทุกคนแซ่สือ?”
ชายชราพยักหน้าด้วยจิตใจท้อแท้
“เจ้าถูกส่งตัวมาที่นี่?” ชายผู้แข็งแกร่งเดินผ่านไป เขาสวมชุดเกราะขาดรุ่งริ่งถือหอกสงครามที่เก่าคร่ำคร่า
“ผู้ที่มาที่นี่ไม่มีจุดจบที่ดีพวกเขามักจะถูกส่งออกไปต่อสู้” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาเพิ่งกลับมาหลังจากออกล่าสัตว์ในภูเขาใหญ่
“เจ้าหมายถึงอะไร” สือฮ่าวถาม
“เป็นเพียงเพราะเรามีแซ่สือ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถมีอำนาจได้นับวันมีแต่จะยิ่งตกต่ำลงเท่านั้น ก่อนหน้านี้เราเป็นหนึ่งในมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว!” ชายหนุ่มคนนั้นพูดอย่างไม่เต็มใจ
ตามสิ่งที่เขาพูดในยุคโบราณ ตระกูลสือมีเคยมีคนหลายคนเป็นผู้ทรงพลังที่มีอำนาจในเมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้ อย่างไรก็ตามคดีเก่าๆ ถูกขุดคุ้ยไม่เลิกราและจากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นทายาทสายเลือดของคนบาปสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาออกไปรบคนของตระกูลหินผาต้องต่อสู้ที่แนวหน้า สมาชิกของตระกูลนับไม่ถ้วนเสียชีวิตในสนามรบไม่ว่าจะมีอัจฉริยะกี่คนผู้เชี่ยวชาญกี่คนก็ไม่สามารถรองรับการสูญเสียครั้งใหญ่นี้ได้
ต่อมาอัจฉริยะทุกคนก็เหี่ยวแห้งไป!
คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าผ่านไป กลุ่มชนที่ยิ่งใหญ่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เหลือเพียงโครงกระดูกและน้ำตาเท่านั้น
ตอนนี้ตระกูลหินผามีผู้คนไม่ถึงหนึ่งพันคนซึ่งยังคงเป็นผลมาจากการปกป้องจากผู้ยิ่งใหญ่บางคนในเมืองแห่งนี้ มิฉะนั้นกลุ่มของพวกเขาจะถูกกำจัดไปนานแล้ว
เมื่อสือฮ่าวได้ยินเช่นนี้เขาก็โกรธเกรี้ยวทันที คลื่นเลือดร้อนพุ่งเข้ามาที่ศีรษะของเขา?
การลดลงของสายเลือดคนบาปเป็นสถานการณ์ที่นี่เลวร้ายมากและรุนแรงยิ่งกว่า 'แคว้นบาป' ในสามพันแคว้นเซียนเสียอีก!
อ๊าววว ..
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้จากระยะไกล กลุ่มชนที่มีแซ่สือในชุดหนังสัตว์ที่ขาดรุ่งริ่งนำโลงศพกลับมาหลายใบ
"ท่านพ่อ!" ชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้เพิ่งกลับมาจากการล่าสัตว์ก็ส่งเสียงคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา เขาโยนช้างตัวใหญ่ทิ้งแล้วแล้วรีบวิ่งไปทางโลงศพพวกนั้น
“พวกเขาตายได้อย่างไร” สือฮ่าวถามผู้อาวุโสด้วยเสียงต่ำ
ผู้อาวุโสที่รับเขาเข้าเผ่าถอนหายใจยาวกล่าวว่า“ตายจากการสู้รบเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเรา พ่อของอาซูเป็นทหารที่มีฝีมืออย่างมากเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลของเรา น่าเสียดายที่เขายังคงถูกฆ่าตายในสนามรบ”
เมื่อใดก็ตามที่ตระกูลนี้มีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังพวกเขาจะถูกส่งออกไปต่อสู้ในสนามรบทันที
พวกเขาจะถูกส่งออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่มีวันได้กลับจากสนามรบจนกว่าพวกเขาจะตาย
“พวกเขารังแกคนอื่นมากเกินไป!”สือฮ่าวกล่าวด้วยความโกรธแค้น
“อีกไม่นานจะมีคนมาเกณฑ์พวกเราไปแนวหน้าอีกครั้ง เจ้าก็น่าจะเป็นคนที่ถูกส่งออกไปเช่นกัน? ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ถูกส่งมาที่นี่ทันทีหลังจากเข้าสู่เมืองจักรพรรดิ์” ชายชรากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
สือฮ่าวรู้ว่าพวกเขาเป็นตระกูลเดียวกันบรรพบุรุษเดียวกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่มีรอยประทับโลหิตของคนบาปแบบเดียวกันที่หน้าผาก!
“ สิ่งที่ไหลเวียนอยู่กับเราไม่ใช่เลือดของคนบาปมันคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเกียรติยศและอำนาจสือฮ่าวกล่าว
ผู้อาวุโสรีบตักเตือนอย่างรวดเร็วว่า“จุ๊ๆ คนพวกนั้นไม่สามารถยอมรับคำพูดนี้ได้เจ้าจะนำหายนะครั้งใหญ่มาหาพวกเรา!”
“ข้าก็อยากรู้ว่าพวกเขาจะจัดการข้าาอย่างไร!”สือฮ่าวกล่าวด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา
ชนเผ่าตระกูลหินผานี้มีคนอยู่น้อยมาก ในขณะเดียวกันสถานที่แห่งนี้ก็ล้าหลังเช่นกันแก่นแท้จิตวิญญาณแทบไม่มีสิงสถิตในภูเขา
สือฮ่าวอยากรู้จริงๆว่าบรรพบุรุษของตระกูลสือ ทำความผิดเช่นไรพวกเขาจึงถูกลงโทษเช่นนี้ เขาต้องการเข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้
เนื่องจากการพบกับเย่ชิงเซียนเป็นเวลารีบเร่งเกินไปเขาจึงไม่มีเวลาถามนาง
มีใครบางคนที่แสดงสีหน้างุนงงพลางถอนหายใจ“ในปีนั้นบรรพบุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดของเราได้ลงมือกระทำบางอย่าง…”