ตอนที่ 66 - การปะทะ
ตอนที่ 66 - การปะทะ
ดินแดนเซียนแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก แม้ว่าจะมีเด็กหนุ่มสาวจำนวนมากที่มา แต่ก็ยังมีภูเขาวิญญาณและดินแดนอันมีค่าเพียงพอให้พวกเขาเลือกถ้ำเซียนเป็นของตนเอง
สถานที่ที่ปราณเซียนหนาแน่นที่สุดอยู่ในส่วนกลาง ยอดเขาสิบยอดมีความพิเศษที่สุด
เป็นเพราะมีสายเลือดบรรพบุรุษโลกที่หลงเหลือจากยุคเซียนโบราณถูกฝังไว้ที่นี่คลื่นของหมอกเซียนสีขาวบริสุทธิ์พุ่งออกไปด้านนอกอย่างไม่สิ้นสุด
นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง ในโลกปัจจุบันสถานที่ประเภทนี้แทบไม่มีให้เห็น มันเทียบเท่ากับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของยุคเซียนโบราณขึ้นมาใหม่
สาเหตุที่ไม่มีผู้อมตะในโลกนี้ได้นั้นเป็นเพราะสวรรค์และปฐพีเปลี่ยนไปสภาพแวดล้อมเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถหล่อเลี้ยงผู้แข็งแกร่งจนสามารถเป็นผู้อมตะได้
“รีบไปกันเถอะ ถ้าเราไปสายคนอื่นจะยึดครองสถานที่ดีๆก่อน!” เฉาอวี่เซิ่งตะโกน
เป็นเพราะในตอนนี้ทุกคนต่างกำลังวุ่นวายในการเลือกถ้ำเซียนของตัวเอง
ราชันย์สวรรค์น้อยของสำนักเซียนนั้นทรงพลังมาก เขาเคลื่อนไหวเข้าหายอดเขาที่สูงที่สุด นี่คือสถานที่ที่มีสมุนไพรวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์พลังงานสีม่วงมากที่สุด
เมื่อหลายคนเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ข่มความโกรธแค้นไม่กล้าต่อสู้กับเขา
จิ!
สือฮ่าวก็เคลื่อนไหวเช่นเดียวกันเนื่องจากเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่นี่ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องได้สถานที่ที่ดีที่สุด
แม้แต่ในยอดเขาทั้งสิบก็ยังมีความแตกต่างด้านคุณภาพกันอยู่บ้าง!
ตามกิ่งก้านของเส้นโลหิตบรรพบุรุษโลกที่ยื่นตรงเข้าไปในภูเขาเหล่านี้!
การเคลื่อนไหวของสือฮ่าวนั้นรวดเร็วมาก แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวตามหลังคนอื่นๆ แต่เขาก็ยังยึดภูเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนนี้ไว้เป็นของตัวเองได้
“เจ้า…” หลายคนไม่เต็มใจ พวกเขาจวนจะมาถึงแล้วแต่ก็พบว่าคนอื่นชิงตัดหน้าไปเสียก่อน พวกเขาต้องการยึดคืน
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาพบว่าเป็นสือฮ่าวที่ชิงไป คนเหล่านั้นก็เงียบทันทีและรีบถอนตัว
หากกล่าวว่าความสำเร็จในการต่อสู้ที่ผ่านมาของสือฮ่าวยังไม่เพียงพอที่จะแสดงพลังของเขา การต่อสู้ของเขาที่ดินแดนสวรรค์สีชาดได้เปลี่ยนแปลงสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง ไม่มีใครกล้ายืนขวางอยู่ข้างหน้าเขาอีกต่อไป
นี่คือความรุ่งโรจน์อย่างแท้จริงที่สร้างขึ้นด้วยเลือดและกระดูกการสังหารราชาผู้ยิ่งใหญ่สิบคนในครั้งเดียว เป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถทำได้?
ไม่กี่วันที่ผ่านมาทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนสวรรค์สีชาดแพร่กระจายไปตามกลุ่มมหาอำนาจต่างๆทำให้ชื่อเสียงของสือฮ่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล
สิ่งมีชีวิตอาวุโสถูกสังหารในสนามรบสิ่งมีชีวิตรุ่นเยาว์ที่มีเมล็ดพันธุ์โบราณก็ถูกสังหารเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันยิ่งขับเน้นให้ความสำเร็จในการต่อสู้ของสือฮ่าวนั้นน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิมพร้อม ๆ กันลดความหวาดกลัวที่พวกเขามีต่อศัตรูต่างมิติลงไปไม่น้อย
"มานี่สิ!" สือฮ่าวเรียกชิงยี่, ฉางกงเอี๋ยน,เซียนสาว, มดเขาสวรรค์และคนอื่นๆ โดยต้องการให้ผู้ที่เขาคุ้นเคยจากสามพันแคว้นเซียนมาบ่มเพาะที่ภูเขาลูกนี้
“มีคนจำนวนมากเกินไปพวกเราก็มีคนอยู่ด้านนี้ด้วย” เฉาอวี่เซิ่งกระต่ายหยกจันทราและคนอื่นๆ โบกมือจากยอดเขาที่อยู่ไม่ไกลเกินไป พวกเขาเร็วมากสามารถยึดยอดสวรรค์ที่อยู่ในอันดับที่สิบได้แล้วในขณะที่คนอื่น ๆกำลังต่อสู้เพื่อชิงภูเขาที่ดีที่สุด
หลายคนได้แต่มองด้วยความอิจฉา
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานี้ทุกคนค้นพบด้วยความตกใจว่ามีคนที่เดินข้ามไปยังภูเขาที่ฮวงอยู่ราวกับว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงมัน
นี่ใคร? ถึงกับกล้าที่จะต่อสู้กับฮวงอย่างแท้จริงสิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย
“มันคือเขาจินซาน!” ใครบางคนพูดอย่างเงียบๆ และเข้าใจทันที
จินซานคนนี้เป็นคนจากสำนักปราชญ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ของคนรุ่นนี้มีความแข็งแกร่งจนถึงขีดสุด ฝึกฝนการบ่มเพาะของโลกปัจจุบันจนถึงขั้นสูงสุด เขาเหนือกว่าทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่เคยมีใครเทียบได้ในอาณาจักรเดียวกัน!
ด้านข้างของเขามีอีกสองสามคนจากตระกูลหวังยืนหยัดที่จะต่อสู้กับสือฮ่าวมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา จินซานจะลงมือแก้แค้นแทนตระกูลหวังหรือไม่?
สิ่งนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมากจินซานกำลังจะเผชิญหน้ากับฮวงที่นี่?
“ฮวงเป็นคนที่สร้างบารมีและนำความรุ่งเรืองมาสู่โลกของเราจากการต่อสู้ในดินแดนสวรรค์สีชาด! ถ้าจินซานสู้กับเขามันมันจะทำให้ทุกคนมองเขาด้วยสายตาไม่ดี?” มีคนพูดอย่างเงียบๆ
เฉาอวี่เซิ่งเยาะเย้ยทันทีว่า“เจ้าหนูคนนี้ต้องการทำอะไร? สู้กับสือฮ่าว? หากเจ้ามีความกล้าก็ไปต่อสู้กับศัตรูที่ชายแดนรกร้าง หากเจ้าชนะศัตรูได้ 10 คนถึงจะมีคุณสมบัติต่อสู้แย่งชิงกับสือฮ่าว แต่หากเจ้าต้องการแก้แค้นให้ตระกูลหวังมีส่วนร่วมในการสร้างความขัดแย้งให้แก่เก้าสวรรค์ เจ้าก็มีคุณสมบัติที่ดีเหมาะแก่การเป็นลูกเขยของตระกูลหวังจริงๆ เพราะพวกเจ้าเป็นคนประเภทเดียวกันและเราก็มีวิธีจัดการคนประเภทนี้อย่างเหมาะสมเสมอ!”
มีผู้ที่เข้าข้างสือฮ่าวและมีผู้ที่เข้าข้างจินซานด้วยเช่นกัน วิธีการบ่มเพาะในโลกปัจจุบันของเขาก้าวถึงจุดสูงสุดทำให้มีผู้คนไม่น้อยคอยติดตาม
“จินซานเก็บตัวบ่มเพาะในความสันโดษ นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่สามารถมุ่งหน้าไปยังดินแดนสวรรค์สีชาดได้ทัน มิฉะนั้นความรุ่งโรจน์ของชัยชนะต่อเนื่องสิบครั้งจะตกเป็นของผู้อื่นได้อย่างไร? ผู้คนจากต่างมิติคงได้วิ่งหางจุกตูดกลับบ้านไปแน่นอน !”
“จินซานมีพรสวรรค์สูงสุดใต้ท้องฟ้านี้ ได้รับตำแหน่งความภาคภูมิใจของสวรรค์สำหรับคนรุ่นนี้นับว่าเป็นเกียรติสูงสุดแค่ไหน? จะมีใครอื่นมาเปรียบเทียบกับเขาได้อย่างไร? นี่เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการต่อสู้กับ ฮวงดูว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน!”
ผู้สนับสนุนจินซานต่างยกย่องเขาจนถึงที่สุด
หลายคนรู้ว่าเมื่อไม่นานมานี้สือฮ่าวยังคง 'ต่อสู้อย่างเข้มข้น' กับตระกูลหวังสำนักเทพสวรรค์ได้รับชัยชนะจนถึงขั้นส่งมังกร 5 ตัวจากตระกูลหวังไปที่ชายแดนรกร้าง!
ผู้คนจากตระกูลหวังอาจกล่าวได้ว่าเกลียดชังสือฮ่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว ในขณะเดียวกันจินซานในฐานะคู่หมั้นย่อมต้องออกหน้าแทนหวังซีเรื่องนี้นับว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง
บนยอดเขาใหญ่สือฮ่าวไขว้มือไว้ข้างหลังขณะมองไปที่ทุกคนสีหน้าของเขาสงบนิ่ง เขากวาดสายตาจากจินซานไปยังหวังซีจากนั้นไปยังผู้ติดตามเหล่านั้นทีละคน
จินซานหยุดแล้วและมองไปที่สือฮ่าวเกิดไอสังหารขึ้นระหว่างคนทั้งสอง
เขาจะต่อสู้กับสือฮ่าวเพื่อแย่งชิงถ้ำเซียนจริงๆหรือไม่? หลายคนอกสั่นขวัญแขวน!
จินซานเป็นบุคคลที่ลึกลับมาก ปกติเขาไม่ค่อยแสดงตัวมากนัก แต่ถึงจะอย่างนั้นชื่อเสียงเขาก็ไม่ได้ต่ำต้อย ร่างกายเขาปกคลุมไปด้วยหมอกแห่งความโกลาหล ดวงตาของเขาเหมือนดวงอาทิตย์บนสวรรค์ปลดปล่อยความสดใสราวกับตอนที่โลกถูกสร้างขึ้นในครั้งแรก!
เปง!
ตอนนั้นเองที่ช่องว่างระหว่างผู้เชี่ยวชาญทั้งสองได้ระเบิดขึ้น เป็นฉากที่น่ากลัวอย่างยิ่ง!
อย่างไรก็ตามการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่พวกเขาคาดหวังยังไม่มาถึงจินซาน พยักหน้าไปทางสือฮ่าวกล่าวว่า“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าประสบความสำเร็จในการต่อสู้ มันน่าเกรงขามอย่างมากถ้าเรามีโอกาสมาแลกเปลี่ยนคำชี้แนะกันเถอะ”
หลังจากพูดจบเขาก็หันกลับไปไม่ได้อยู่ที่นี่ หวังซีและคนอื่นๆก็ออกเดินทางไปถึงภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง
มีผู้บ่มเพาะบางคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น แต่เมื่อพวกเขาเห็นจินซานพวกเขาทั้งหมดก็ใบหน้าบูดบึ้งและถอยกลับไปด้วยตัวเอง
“เราไม่ควรเสียเวลาอีกต่อไป จะต่อสู้ก็เริ่มตอนนี้เถอะ!” สือฮ่าวกล่าวอย่างไม่แยแส
สิ่งนี้ทำให้ร่างกายของจินซานหยุดชะงักในทันที หลายคนตกตะลึงเฝ้าดูอย่างประหม่า
“พอได้แล้ว! พวกเจ้ายังมีโอกาสอีกมากในดินแดนรกร้าง เราจะคอยดูว่าผู้ใดสังหารศัตรูได้มากที่สุด” เสียงของผู้อาวุโสดังมาจากหน้าผาที่ห่างไกล
เมื่อเขากล่าวเช่นนั้นการต่อสู้ย่อมไม่สามารถดำเนินไปได้ เหล่าผู้อาวุโสจะไม่อนุญาตให้มีการทะเลาะวิวาทกันภายใน แต่ต้องการให้พวกเขาต่อสู้กันด้วยการสังหารศัตรูจากต่างมิติแทน
แต่มีบางสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในแดนรกร้าง แต่การต่อสู้ระหว่างทั้งสองย่อมต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ทุกคนระบายลมหายใจอย่างโล่งอก อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่สามารถรับชมการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งทั้งสอง
หลังจากนั้นไม่นานฉวีโต้ว, ซีกู้, องค์หญิงเหยาเยว่, และคนอื่นๆ ก็ได้พบกับยอดเขาของตัวเอง ดินแดนล้ำค่าถูกยึดครองทั้งหมด
มีบางคนที่จ้องมองไปที่ยอดที่สิบของกระต่ายหยกจันทราและคนอื่นๆ ที่ถูกยึดครองและพยายามที่จะยึดมัน แต่เมื่อพวกเขาเห็นสือฮ่าวพวกเขาทั้งหมดก็ถอนตัวออกไป
เดิมทีนี่เป็นเรื่องง่ายๆเพียงแค่เลือกถ้ำเซียนของตัวเองเท่านั้น แต่ก็ยังพอมองเห็นกลุ่มมหาอำนาจในอนาคตได้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
สือฮ่าวนั่งอยู่กลางยอดเขานั้นและศึกษาคัมภีร์หยกเล่มหนึ่ง นี่เป็นคัมภีร์โบราณที่เขาอยากอ่านมาตลอด แต่จนถึงตอนนี้ค่อยมีโอกาสอย่างจริงจัง
ในอดีตเมื่ออัจฉริยะรุ่นเยาว์ทุกคนของสามพันแคว้นเข้าสู่อาณาจักรเซียนโบราณเพื่อต่อสู้และค้นหาโชควาสนา สือฮ่าว ราชันสิบสมัย หนิงชวนและคนอื่นๆ ได้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงให้ได้มันมา
ในท้ายที่สุดสือฮ่าว เป็นคนแรกที่เข้าสู่สถานที่แห่งโชควาสนาจากสวรรค์ เขาแบกโลงศพโบราณไว้บนหลังภายในนั้นมีคัมภีร์หยกเล่มนี้
นอกเหนือจากนี้เขายังมีกำไรอื่นๆที่คนภายนอกไม่รู้
ตอนนี้เขากำลังอ่านหนังสือหยกเล่มนั้น!
มีแต่ต้องเข้าสู่อาณาจักรธรรมปลอมเท่านั้นจึงจะสามารถอ่านคัมภีร์นี้ได้ ในตอนนั้นสือฮ่าวที่อยู่ในอาณาจักรเทพสวรรค์ไม่มีปัญญาแม้แต่จะสัมผัสมัน
“อ๋าว?!”เมื่อสือฮ่าวส่งพลังเข้าไปในคัมภีร์หยกเขาได้กระตุ้นนิมิตจากสวรรค์และปฐพีในทันที สัญลักษณ์ลึกลับทุกประเภทพุ่งขึ้นปกคลุมตัวเขาไว้ภายใน
“คัมภีร์อมตะ!” หลายคนส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก ฉากที่ผิดปกติเหล่านั้นน่าตกใจเกินไปราวกับว่ามีใครบางคนกำลังทะยานขึ้นฟ้าด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสี มีมังกรที่แท้และหงส์เพลิงอมตะกำลังคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด เทพเซียนนับร้อยต่างมาร่วมชุมนุม นิมิตฉากนี้นับว่าสร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนอย่างแท้จริง!