ตอนที่ 65 - ความลับของโลกในอดีต
ตอนที่ 65 - ความลับของโลกในอดีต
นี่เป็นปัญหาร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ใหญ่ในอนาคต หลายคนกลั้นหายใจมองไปที่ผู้อาวุโสเหล่านั้นบนหน้าผาที่หมอกสีม่วงลอยเป็นเกลียวขึ้นรอให้เขาอธิบาย
บนหน้าผาผู้อาวุโสที่กำลังนั่งอยู่บนแท่นอาสนะที่ล้อมรอบไปด้วยปราณเซียนถอนหายใจ สายลมเย็นพัดผ่านมาเผยให้เห็นใบหน้าชราการแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวังและหงุดหงิดเล็กน้อย
จิตใจของผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์หนาวเหน็บลงไปหมด ด้วยสถานการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ในอนาคตไม่มีความหวังจริงหรือ?
“ด้วยความที่ฝ่ายตรงข้ามมีผู้แข็งแกร่งขนาดนี้?หลายคนคงรู้สึกว่าไม่มีความหวังที่จะเอาชนะเลย เพียงพวกเขาเพียงคนเดียวก็สามารถกวาดล้างเก้าสวรรค์ให้พังพินาศไปได้จนหมด”
แทนที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้การพูดคุยตรงตรงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
ด้วยความเป็นจริงที่เป็นเช่นนี้แม้ว่าจะมีกำแพงกั้นขวางอยู่ แต่ด้วยกฎธรรมชาติของโลกที่ปฏิเสธสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเหล่านั้น ก็เพียงสามารถหยุดพวกเขาไว้ได้แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เป็นเพราะท้ายที่สุดแล้วโลกทั้งสองก็จะรวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว กฎธรรมชาติอันยิ่งใหญ่จะไม่ส่งผลต่อพวกเขาอีกต่อไป
“ข้ารู้ว่าหลายคนรู้สึกว่าสถานการณ์มุ่งไปสู่ความเลวร้าย” เมื่อผู้อาวุโสพูดถึงที่นี่เขาก็หยุดเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ย้ำว่า“แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น ข้าอยากบอกพวกเจ้าทุกคนว่าชายแดนรกร้างสามารถป้องกันไว้ได้อย่างแน่นอน!”
ทุกคนตกตะลึง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสบนหน้าผา โลกนี้ยังมีไพ่ลับอะไรอีกถึงกับสามารถเปลี่ยนแปลงจากความพ่ายแพ้เป็นชนะได้!
“ผู้อาวุโสโปรดอธิบายให้พวกเราฟัง!” ศิษย์จากสำนักเซียนคนหนึ่งพูดขึ้นโดยขอให้ผู้อาวุโสพูดในรายละเอียดเพิ่มเติม
อาวุโสคนนั้นพยักหน้าและพูดว่า“จริงๆแล้วโลกของเรามีความลึกลับมากมายที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ตัวอย่างเช่นมีพื้นที่หวงห้ามบางแห่งที่มีสิ่งมีชีวิตทรงพลังดำรงอยู่มาอย่างนาวนาน บางแห่งเกิดขึ้นก่อนยุคเซียนโบราณด้วยซ้ำและตอนนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เราไม่สามารถก้าวเข้าไปหาพวกเขาได้ แน่นอนสิ่งที่ข้าอยากจะพูดถึงไม่ใช่เรื่องนี้” เมื่อเขาพูดถึงจุดนี้ดวงตาของเขาก็ทอประกายลึกล้ำ เขามองไปที่ขอบฟ้าราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านแดนรกร้างได้ “สิ่งที่ข้าอยากจะบอกก็คือ ดินแดนรกร้างมีเมืองโบราณอยู่”
“อี?” ทุกคนตกใจและสับสนมาก
จิตใจของสือฮ่าวสั่นสะเทือนอย่างมากและคิดถึงบางสิ่งในทันที
“มีเมืองโบราณแห่งหนึ่งที่มีมายาวนานยากที่จะย้อนกลับไป มันตั้งอยู่นอกเมืองยักษ์ของดินแดนรกร้าง” ผู้อาวุโสคนนั้นกล่าว.
ทุกคนเริ่มมึนงง มีเพียงไม่กี่คนที่รู้รายละเอียดภายในว่ามีเมืองยักษ์อยู่ในดินแดนรกร้าง มันมีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อสูงตระหง่านเทียบเทียมจักรวาลกำแพงที่สร้างจากดวงดาวนับพันซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นตำแหน่งป้องกันที่ทรงพลังที่สุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์!
นี่คือเมืองจักรพรรดิที่ไม่สามารถทำลายได้!
ในขณะเดียวกันเมืองโบราณที่ผู้อาวุโสคนนี้พูดถึงไม่ใช่เมืองนี้อย่างแน่นอน
และเมื่อเขาพูดต่อไปมันก็ยืนยันการคาดเดาของทุกคน
“ในแดนรกร้างนอกเมืองจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ท่ามกลางกำแพงแห่งความโกลาหล ดินแดนปีศาจที่ย้อมด้วยเลือดมีเมืองโบราณแห่งหนึ่งอยู่!”
มันสังหารทุกสิ่งป้องกันไม่ให้กองทหารต่างมิติเหยียบเข้ามาในโลกนี้!
เมืองนี้ลึกลับอย่างไม่น่าเชื่อบางคนบอกว่าเป็นเมืองโบราณที่ถูกสาปแช่ง มันตั้งอยู่ที่นั่นมาอย่างยาวนานไม่มีผู้ใดรู้ว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ทุกคนต่างกล่าวว่ามันเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดปกป้องชายแดนรกร้างของโลกใบนี้
เล่าขานกันว่าผู้ที่ปกป้องเมืองแห่งนี้คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเก้าสวรรค์สิบพิภพ แต่พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตในการต่อสู้ทำให้สถานที่นั้นกลายเป็นเมืองแห่งความตาย อย่างไรก็ตามก่อนตายพวกเขาได้ทิ้งวิธีการบางอย่างไว้จัดการพวกศัตรูต่างมิติ
ผู้อาวุโสค่อยๆอธิบายทุกอย่างในที่สุดเขาก็ถอนหายใจโดยไม่บอกว่าตำนานใดเป็นความจริง
เขาบอกเพียงว่ามีเมืองโบราณอยู่ที่นั่นซึ่งจะมีบทบาทสำคัญทำให้สิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญเกิดความกลัวป้องกันไม่ให้พวกเขาบุกฝ่าเข้ามา!
ในขณะเดียวกันเมืองโบราณแห่งนี้เป็นเพียงหนึ่งในดินแดนลึกลับของ เก้าสวรรค์สิบพิภพ และยังมีสถานที่แปลกๆอื่นๆในดินแดนรกร้างอยู่อีกมาก
ทุกคนตกใจกับสิ่งนี้!
มีเมืองอยู่นอกเขตแดนรกร้างซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ผู้คนและเหตุการณ์น่ากลัวดูเหมือนจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
“จัดการกับสิ่งมีชีวิตต่างมิติสังหารศัตรูไม่เว้นว่าง เป็นเมืองโบราณที่อาบไปด้วยโลหิตตลอดเวลา!” ผู้อาวุโสถอนหายใจสีหน้าเต็มไปด้วยความข่มขืน
หนุ่มสาวหลายคนไม่เข้าใจว่าเขากำลังรู้สึกแบบไหน? ทำไมผู้อาวุโสถึงมีสีหน้าเช่นนี้? มีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนี้? ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกว่าเขารู้สึกผิดหวังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ใต้หน้าผามีบางคนที่รู้ว่าทำไม
สือฮ่าวกำหมัดแน่นหายใจลำบากเล็กน้อย เป็นเพราะเขานึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง!
ในใจของเขามีร่างของคนสองสามคนปรากฏขึ้น: ราชาทั้งเจ็ดของดินแดนรกร้าง!
จะใช่เมืองนั้นหรือเปล่า
เขาลืมไปได้ยังไง? ย้อนกลับไปตอนนั้นเมื่อเขาพยายามติดตามลางบอกเหตุเขาเข้าไปในเรือโบราณสีดำ นอกเขตแดนรกร้างมันเป็นเมืองที่โดดเดี่ยว มีผู้แข็งแกร่งสามคนที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญ ราชาทั้ง 7 แห่งดินแดนรกร้างใช้ชีวิตของพวกเขาเฝ้าเส้นทางนั้นไว้
สถานการณ์เลวร้ายสุดขีด ราชาทั้งเจ็ดแห่งดินแดนรกร้าง บางคนร่วงหล่นเหี่ยวเฉาไปแล้ว บางคนยังคงต่อสู้ด้วยความเศร้าโศกอยู่
หลังจากเวลาผ่านไปหลายชั่วอายุคนพวกเขาจะยังอยู่หรือไม่? มันเป็นเมืองแห่งความตายจริงหรือ? สถานที่แห่งนั้นไม่เป็นมงคลอย่างยิ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย!
สือฮ่าวรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อยภายใน เขานึกย้อนไปถึงฉากเหล่านั้นที่เขาเห็นบนแท่นบูชา ชายชราคนหนึ่งและชายหนุ่มอีกสองคนยืนอยู่บนกำแพงปกป้องเมืองนั้นอย่างสุดชีวิต
ตอนนี้สือฮ่าวรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยภายใน จะใช่สถานที่แห่งนั้นหรือไม่?
เหตุใดมันจึงสามารถหยุดยั้งศัตรูต่างมิติได้? มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่? เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสคนนั้นจงใจข้ามเรื่องนี้ไป แน่นอนว่ามีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกเศร้าโศกอย่างมาก
ก่อนหน้านี้สือฮ่าวเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนว่าสถานที่ที่เจ็ดราชาแห่งดินแดนรกร้างปกป้องนั้นเป็นทางผ่านของเมืองจักรพรรดิหรือไม่ แต่สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้
เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาเคยถูกส่งข้ามไปยังดินแดนของศัตรูก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ทดสอบผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์จากสามพันแคว้น
สือฮ่าวเคยเห็นมาแล้วทั้งสองเมืองมีความแตกต่างกัน!
“ราชาทั้ง 7 แห่งดินแดนรกร้าง เมืองโบราณข้าต้องไปที่นั่นสักวัน ก่อนหน้านี้บรรพบุรุษของข้าเคยต่อสู้อยู่ที่นั่นเขาเคยบอกว่าสัญลักษณ์นี้ไม่ใช่สัญลักษณ์ของคนบาปแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ!”สือฮ่าว กล่าวเบา ๆ
นอกเหนือจากสือฮ่าวและสือยี่แล้วดวงตาของฉินฮ่าวยังเปล่งประกายสดใสเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งภายใน
นอกเหนือจากนี้ราชัน 6 สมัยหนิงชวน ยังขมวดคิ้วเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าหมกมุ่นอยู่กับบางสิ่งโดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่!
“นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกพื้นที่หนึ่งในชายแดนรกร้างที่ปกป้องโลกของเราด้วย” ผู้อาวุโสบนหน้าผากล่าว
จากสิ่งที่เขาพูดมีเหวลึกลับอยู่นอกเขตแดนรกร้าง เหวที่ลึกจนเชื่อมถึงก้นพิภพและสูงจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้านับเป็นสิ่งผิดปกติที่สามัญสำนึกของคนทั่วไปไม่สามารถจินตนาการถึง
เหวนรกที่ลึกไม่มีที่สิ้นสุดสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งจากจักรวาลอื่น!
“แดนรกร้างมันเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่? มีเรื่องแปลกๆ มากมายเกี่ยวกับสถานที่นี้ได้อย่างไร” มีคนถามด้วยความสับสน
“สถานที่แห่งนั้นลึกลับอย่างยิ่ง ยังมีความลับอีกจำนวนมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ อย่างไรก็ตามมันสามารถแยกโลกทั้ง 2 ใบออกจากกันได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของมันแล้ว นอกเหนือจากสิ่งที่ข้าพูดถึงแล้วยังมีสิ่งอื่นๆอีกมาก ที่ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโชควาสนาจากธรรมชาติอันยิ่งใหญ่อยู่อีกรอให้พวกเจ้าค้นพบ!” ผู้อาวุโสกล่าว.
“โชควาสนาแบบไหน”
“ที่ป่าลึกลับที่สามารถทำให้พวกเจ้าบรรลุเต๋าได้ในเวลาอันสั้นหากค้นพบ, ถ้ำเซียนของผู้อมตะมากมาย , เทือกเขายาศักดิ์สิทธิ์อันกว้างใหญ่, สัตว์ร้ายจากสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัว, พื้นที่ฝังศพและสถานที่อื่นๆอีก แล้วพวกเจ้าจะเห็นด้วยตัวเอง…”
สถานที่เหล่านี้ล้วนมีโชควาสนาไม่ธรรมดาถือได้ว่าเป็นสถานที่สั่นสะเทือนจิตใจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามโอกาสและอันตรายมักมาพร้อมกันเสมอ ความโชคดีอาจเปลี่ยนเป็นความตายได้ทุกเมื่อขอให้พวกเจ้าจงระวัง”
มีข่าวลือว่ากองทหารต่างมิติเคยหลงเข้าไปในป่าอสูรสวรรค์ แต่พวกเขาไม่สามารถออกมาได้
ตระกูลโบราณที่เป็นเจ้าของกองทหารนั้นส่งคนจำนวนมากออกไปตามหาแต่พวกเขาไม่เคยกลับมาอีกเลย
ว่ากันว่ามีหมอกขนาดใหญ่เข้ามาปกคลุมผู้คนจากต่างมิติจำนวนมาก หลังจากหมอกจางหายเหลือเพียงอาวุธและยุทโธปกรณ์ของพวกเขา ส่วนคนที่มีชีวิตหายสาบสูญไปหมด
เรื่องนี้ฝ่ายต่างมิติเคยส่งผู้ไม่ดับสูญมาค้นหาความจริงด้วยตัวเองแต่กลับไม่พบอะไร
“มีดินแดนลับอยู่ที่นั่นมากมาย แต่ก็อันตรายก็ไม่น้อยเช่นเดียวกัน มันจะขึ้นอยู่กับว่าเจ้าทุกคนจะสามารถผ่านมันไปได้หรือ” ผู้อาวุโสกล่าวถึงสถานการณ์ที่นั่น นี่คือดินแดนแห่งการสูญเสียและเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยโชควาสนาจากสวรรค์ มีคนจาก 9 ใน 10 ที่เสียชีวิตอยู่เสมอ
เขาไม่ได้ซ่อนอะไรเลย บอกกล่าวตรงๆว่าถ้าอัจฉริยะร้อยคนมุ่งหน้าไปที่นั่นเหลือรอดกลับมาสัก 2-3 คนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็นๆเข้าจมูก ร่างกายของพวกเขาแข็งค้าง ตามที่คาดไว้มีอันตรายมากเกินไป!
“ดินแดนรกร้างนั้นลึกลับไม่สามารถเข้าใจได้มีแดนลับมากมายที่สามารถหยุดศัตรูไว้ด้านนอกป้องกันไม่ให้กองกำลังข้ามผ่านมาและชะลอการโจมตีของพวกเขา”
“ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองว่ายังจะมุ่งหน้าไปที่ชายแดนรกร้างหรือไม่ การจะก้าวขึ้นเป็นผู้แข็งแกร่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆพวกเจ้าต้องเตรียมใจที่จะสละชีวิตไว้ด้วย!”
นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสต้องบอกพวกเขา เขาต้องการให้คนหนุ่มสาวถามตัวเองว่าพวกเขายังจะไปหรือไม่เมื่อได้ยินสิ่งที่น่ากลัวนี้
พวกเขาไม่ได้บรรยายตำราศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้ แต่พูดถึงเรื่องลึกลับของชายแดนรกร้างแทน และให้เวลาทุกคนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“เจ้าจะไปไหม” ผู้คนจากสามพันแคว้นรวมตัวกันทั้ง ชิงยี่,เฉาอวี่เซิ่งและคนอื่นๆพวกเขาให้ความสนใจกับท่าทีของสือฮ่าวมากที่สุด
“ข้าต้องไปเตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะไปชายแดนรกร้างอย่างแน่นอน!” สือฮ่าวตอบสนองอย่างเด็ดขาด