ตอนที่ 64- ชุมนุมอัจฉริยะ
ตอนที่ 64- ชุมนุมอัจฉริยะ
สือฮ่าวลุกขึ้นยืนจ้องมองไปยังขอบฟ้า
ในเวลาเดียวกันกับที่อัจฉริยะที่ดีที่สุดของทุกภูมิภาคถูกถามว่าพวกเขาต้องการอาบเลือดและเปลวไฟหรือไม่ต้องการผงาดขึ้นมาในโลกที่วุ่นวายหรือไม่
“เหลือเวลาอีกไม่มากไม่มีใครรู้ว่าประตูสวรรค์พิภพจะเปิดเมื่อใด เมื่อศัตรูบุกข้ามมาเราอาจจะตระหนักได้ว่าสายเกินไป!”
“ข้าอยากไปชายแดนรกร้างสักครั้งที่นั่นพ่อของข้าเคยต่อสู้อาบเลือดศัตรูมาก่อน!” มดตัวน้อยสีทองกระโดดขึ้นและตื่นเต้นยิ่งกว่าสือฮ่าว
ในเวลานี้บรรพบุรุษอาวุโสจากตระกูลอมตะบางคนถึงกับออกจากฌานสมาธิในรอบหลายหมื่นปีเพื่อให้คำปรึกษาแก่ลูกหลาน
“ปล่อยให้เด็กๆ เป็นคนเลือกเอง!”
อาจกล่าวได้ว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเผ่าพันธุ์เล็กๆ หรือตระกูลอมตะที่มีอัจฉริยะระดับสูงต่างก็ที่ได้รับข้อความนี้
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของโลกนี้กำลังเคลื่อนไหว!
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ก่อตั้งสำนักปราชญ์, สำนักเซียน หรือสำนักเทพสวรรค์ ล้วนเกิดจากเสียงลึกลับเหล่านี้เป็นผู้ชี้นำ! ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นลึกลับเป็นอย่างมาก แม้ว่าข้อความพวกนี้จะปรากฏขึ้นไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์ แต่เมื่อพวกมันปรากฏขึ้นก็เป็นการกำหนดทิศทางประวัติศาสตร์ของเก้าสวรรค์สิบพิภพ!
ว่ากันว่าพวกเขาคืออาคันตุกะลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ใน สำนักเทพสวรรค์ มีข่าวลือว่าเรื่องการรวม 3 สำนักเข้าด้วยกันก็เป็นความคิดของเขา
อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้เป็นเหมือนนกกระเรียนที่บินไปทุกที่ พวกเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับบุญคุณความแค้นของผู้คน เพียงแต่เป็นผู้กำหนดทิศทางของประวัติศาสตร์เท่านั้น
คราวนี้ด้วยความหายนะของโลกกำลังมาถึงพวกเขากลับมาอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะฟูมฟักอัจฉริยะรุ่นหลังให้แข็งแกร่งมากที่สุดก่อนที่ทั้งสองดินแดนจะรวมเข้าด้วยกัน
นั่นคือเหตุผลที่ในวันนี้อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงที่สุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพได้รับการเชื้อเชิญ!
ในความเป็นจริงอัจฉริยะส่วนใหญ่เป็นศิษย์ของสำนักปราชญ์ สำนักเซียน หรือไม่ก็สำนักเทพสวรรค์อยู่แล้วเนื่องจากพวกเขาได้รับการคัดเลือกมาก่อนจึงเป็นกลุ่มเด็กหนุ่มสาวที่ทรงพลังที่สุด
“สำนักทั้งสามจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ!” ใครบางคนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
วันนั้นอัจฉริยะหนุ่มสาวหลายคนตอบรับคำเชิญ!
ในวันต่อมาอัจฉริยะหนุ่มสาวจากที่ต่างๆทั้งหมดก็มุ่งหน้าสู่สวรรค์ไร้ขอบเขตที่ที่อัจฉริยะจากทุกภูมิภาครวมตัวกัน
“แม้ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่จะไม่ได้ไปสู้ศึกที่ชายแดนรกร้างกันทุกคนแต่เราให้สัญญาว่าจะฝึกฝนพวกเจ้าให้ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาจะมีเพียงผู้ที่เต็มใจเท่านั้นที่จะมุ่งไปสู่สงคราม สำหรับผู้ที่ต้องการกลับบ้านพวกเราก็ไม่บังคับ!” นี่คือสิ่งที่บุคคลลึกลับได้ให้สัญญาไว้
ที่นี่คือดินแดนเซียนอย่างแท้จริง ภูมิประเทศของที่นี่งดงามยิ่งกว่าที่ไหนๆควันสีม่วงลอยขึ้นเป็นเกลียวนั่นคือแก่นแท้ทางจิตวิญญาณในเส้นเลือดของบรรพบุรุษใต้ดิน
เมื่อสือฮ่าวมองเห็นภาพนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นี่คือดินแดนเซียนปิดผนึกที่กว้างใหญ่!
มีโชควาสนาอันยิ่งใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ดินแดนลึกลับที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ยุคเซียนโบราณ อย่างไรก็ตามมันไม่เคยถูกขุดขึ้นมาสถานที่แห่งนี้ใช้เพื่อเลี้ยงดูผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์เท่านั้น
สถานที่แห่งนี้อยู่ในสวรรค์ไร้ขอบเขตอย่างแน่นอน แต่มันไม่ได้อยู่ในสำนักเทพสวรรค์และไม่เคยเป็นหนึ่งในถ้ำเซียนที่เคยถูกขุดพบมาก่อน
“เวลากำลังเร่งรีบเราไม่มีเวลาขุดค้นและจัดระเบียบถ้ำที่หลงเหลือจาก ยุคเซียนโบราณในขณะเดียวกันสถานที่แห่งนี้สามารถตอบสนองทุกความต้องการของเราได้รอบด้าน!”
“นี่คือเส้นเลือดใหญ่ของบรรพบุรุษโลกที่หลงเหลือ แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหายอย่างมาก แต่ก็เพียงพอสำหรับทุกคนที่อยู่ที่นี่!”
หมอกสีม่วงแผ่ปกคลุมหน้าผา ผู้อาวุโสหลายคนนั่งอยู่ที่นั่นอธิบายสถานการณ์ให้ทุกคนฟัง
พวกเขากล่าวว่าพวกเขาจะรวมสำนักทั้งสามเข้าเป็นหนึ่งเดียวเพื่อที่พวกเขาจะเลือกราชาอมตะหนึ่งคน แต่พวกเขาจะมีเวลาเตรียมการเหล่านี้ได้จากที่ไหน? บุคคลที่มีอำนาจทั้งหมดไปต่อสู้ในชายแดนรกร้างหมดสิ้นแล้ว
กลุ่มคนลึกลับไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านี้พวกเขาเพียงปลดผนึกเส้นเลือดบรรพบุรุษของโลกทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นถ้ำเซียนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์เพื่อเลี้ยงดูอัจฉริยะรุ่นเยาว์เท่านั้น
“ผู้ที่เต็มใจจะมุ่งหน้าไปยังชายแดนรกร้างพวกเจ้ามีเวลาหนึ่งปีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองให้ได้มากที่สุด!”
ผู้อาวุโสนั่งอยู่ในหมอกแห่งความโกลาหลบอกทุกคนในช่วงเวลาสำคัญนี้
“ในปีถัดไปเราจะสอนเจ้าเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของศัตรูต่างมิติเราจะสอนพวกเจ้าทุกอย่างเท่าที่พวกเรามีเพื่อฝึกฝนพวกเจ้าให้กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด!”
ในปีนี้อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่มาจากเก้าสวรรค์ทุกคนจะเรียนและฝึกฝนที่นี่ ไม่ว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังชายแดนรกร้างหรือไม่ แต่พวกเขาก็ยังสามารถฝึกฝนเซียนได้ที่นี่ได้
“การทำความเข้าใจรายละเอียดภายในของศัตรูการฟังประสบการณ์การต่อสู้ของคนโบราณนี่คือสิ่งที่พวกเจ้าทุกคนควรเรียนรู้!”
“เคยมีคนผู้หนึ่งที่ต่อสู้นองเลือดกับศัตรูตั้งแต่เป็นทหารตัวเล็กๆธรรมดาจนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนในที่สุด ข้าเชื่อว่าในหมู่พวกเจ้าก็ต้องมีคนที่ทำได้เช่นกัน!”
“ความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ที่เรียนรู้จากหนังสือมักจะตื้นเกินไป คนเราต้องต่อสู้กับชีวิตและความตายด้วยตัวเองเท่านั้นนั่นเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะพัฒนาตัวเอง ข้าอยากเห็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลกมาจากหนึ่งในพวกเจ้า!”
...
เหล่าผู้อาวุโสต่างพูดเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างทำให้ทุกคนล้วนมีกำลังใจในในการพัฒนาตัวเอง
หากไม่ใช่เป็นเพราะเวลาเร่งด่วน การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังมาถึงในไม่ช้าทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนี้? เป็นเพราะพวกเขาทุกคนหวังให้ใครสักคนสร้างปาฏิหาริย์ผงาดขึ้นจากโลหิตและเปลวเพลิง
สือฮ่าวเห็นผู้คนมากมายที่เขารู้จักที่นี่ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงคนที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมอย่างชิงยี่และเซียนสาวนอกจากนี้ยังมีคนมากมายจาก สำนักเซียน เช่นราชันย์สวรรค์น้อย ,อ๋าว สุนัขเก้าโลกันตร์, มหาโสดาฉวีโตว้ และคนอื่น ๆ !
นอกจากนี้เขายังเห็นกลุ่มคนจากสำนักปราชญ์ ในหมู่พวกเขามีคนหนึ่งมาพร้อมกับหวังซี ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงความสนใจได้แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการ บุคคลนั้นถูกห่อหุ้มด้วยหมอกเซียนราวกับว่าจักรพรรดิสวรรค์เข้าสู่โลกมนุษย์!
ไม่จำเป็นต้องถามนี่คือจินซานชายที่รู้จักกันว่าเป็นความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ในยุคนี้!
ถึงแม้เขาเดินไปตามเส้นทางการฝึกฝนของโลกปัจจุบัน แต่เขาตอนนี้กลับมีปราณเซียนหนาแน่นปกคลุมทั่วร่างกาย มันน่าตกใจจริงๆ
นอกเหนือจากพวกเขาแล้วยังมีอัจฉริยะมากมายที่เขาไม่รู้จักบางคนฝึกฝนอยู่ในสำนักบางคนเก็บตัวอยู่ในดินแดนเซียนตระกูลอมตะของตัวเอง!
ครั้งนี้เป็นการรวมตัวของเหล่าดวงดาวอย่างแท้จริงที่ควรมาล้วนมาทั้งหมด
“สือฮ่าวข้าได้ยินมาว่าเจ้าเอาชนะราชาสิบคนในดินแดนสวรรค์สีชาดด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าเพียงคนเดียว สมแล้วที่เป็นพี่ชายของข้า!” กระต่ายหยกจันทรากระโดดขึ้นมาตบไหล่ของสือฮ่าวด้วยท่าทางที่กล้าหาญ
ในความเป็นจริงราวกับว่านางจะไม่มีวันเติบโตขึ้นมาเลยไม่ว่าจะมองอย่างไรนางก็เหมือนกับคนอายุไม่เกินสิบสามหรือสิบสี่ปีเส้นผมสีเงินแวววาวดวงตากลมโตเหมือนทับทิม ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนนี่คือเด็กสาวที่อ่อนโยนและยังไม่บรรลุนิติภาวะ
“สือฮ่าวไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าใช่ไหม” ชิงยี่ เดินเข้ามาดวงตาของนางมีประกายความอ่อนโยนถามเบาๆด้วยความกังวลอย่างยิ่ง การต่อสู้ใน ดินแดนสวรรค์สีชาดทำให้คนรุ่นใหม่เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก
ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงและลู่หงก็ถูกฆ่าตายในสนามรบไป บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นที่รู้จักในนามของสิ่งมีชีวิตอายุน้อยที่แข็งแกร่งที่สุด!
แต่ฮวงกลับสามารถกวาดล้างคู่ต่อสู้ทั้งหมด มีชัยชนะต่อเนื่องถึง 10 ครั้ง มันยากสำหรับเขาที่จะไม่ดึงดูดความสนใจแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการก็ตาม!
ตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างมองมาที่เขาทั้งราชันย์สวรรค์น้อยของสำนักเซียนรวมไปถึงความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์จินซาน หวังซีและคนอื่น ๆ
สือฮ่าวยิ้มและกล่าวว่า“เมื่อเรากลับไปข้าจะเชิญพวกเจ้าทุกคนไปกินอาหารจากวัตถุดิบต่างมิติพวกนั้น พวกนี้ล้วนเป็นสายเลือดระดับราชาถือได้ว่าเป็นอาหารที่หายากที่สุดในโลกนี้ อย่างน้อยที่สุดข้าไม่เคยชิมมาก่อน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม!ข้าชอบกินผักมากที่สุดข้ายังไม่เคยลองหัวไชเท้าและกะหล่ำปลีจากต่างมิติมาก่อนเลย คราวนี้ข้าจะได้สนุกจริงๆเสียที!” ผิวหน้าของกระต่ายตัวน้อยไม่แดงแม้สักนิดเดียว
อย่างไรก็ตามความสุขของพวกเขาที่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งก็ถูกหยุดลง
เป็นเพราะผู้อาวุโสบนหน้าผาได้กล่าวถึงตระกูลราชาจากสองเผ่าพันธุ์ของฝ่ายต่างมิติได้บุกเข้ามาถึงชายแดนรกร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ มีตระกูลที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตระกูลจักรพรรดิ์ที่เก่าแก่ที่สุดถึงแม้จะไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลอันหลานและซือถู แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นน่ากลัวมากพอที่จะทำให้ผู้คนตกอยู่ในความสิ้นหวัง
เป็นเพราะเผ่าพันธุ์นี้มีญาณวิเศษโดยกำเนิดชนิดหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถลบล้างญาณวิเศษนานัปการที่โจมตีเข้าใส่ตัวเองได้!”
เมื่อผู้อาวุโสพูดถึงเรื่องนี้ทุกคนก็รู้สึกหวั่นไหวกดดันอย่างมาก มีภูมิคุ้มกันต่อความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีญาณวิเศษชนิดนี้? เราจะเอาชนะศัตรูพวกนี้ได้อย่างไร?
สือฮ่าวไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาพอจะรู้เกี่ยวกับตระกูลจักรพรรดิพวกนี้มาบ้างแล้ว
ในขณะเดียวกันก่อนหน้านี้เขาก็มีพลังประหลาดประเภทเดียวกันนั่นคือ สรรพวิชาไม่กล้ำกราย มันสามารถทำลายญาณวิเศษอันล้ำค่าของศัตรูได้ แต่มันสามารถใช้ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่เขาได้มาโดยบังเอิญสาเหตุหลักเป็นเพราะเขากินผลโพธิ์สีทอง
อย่างไรก็ตามนี่เป็นความสามารถโดยกำเนิดของตระกูลจักรพรรดิ์ต่างมิติ พวกเขามีเวลาถึงสองยุคสมัยในการพัฒนาญาณวิเศษชนิดนี้ แน่นอนว่ามันย่อมลึกซึ้งกว่าที่เขาเข้าใจ
“เมื่อถึงเวลาข้าจะเป็นคนจัดการศัตรูพวกนี้เอง!”สือฮ่าวพูดกับตัวเอง เขาต้องการใช้คนกลุ่มนี้เพื่อทำให้ญาณวิเศษของเขาสมบูรณ์แบบ
“ตระกูลอันหลานน่ากลัวเกินไป คำว่าอันหลานเป็นสิ่งต้องห้ามพลังของมันเคยทำให้เซียนโบราณมากมายต้องตายลง ย้อนกลับไปตอนนั้นมดเขาสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ร่างของเขาถูกแทงทะลุด้วยหอกทองของอันหลานจนเป็นเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตในภายหลัง…” ผู้อาวุโสเหล่านั้นเล่าถึงเหตุการณ์ลึกลับโดยไม่ปิดบัง
เมื่อพวกเขาพูดถึงสิ่งนี้เหล่าเด็กหนุ่มสาว ที่มาที่นี่ต่างก็ตกใจอย่างมาก
“ผู้อาวุโสข้าอยากทราบว่าฝ่ายตรงข้ามมีผู้ไม่ดับสูญคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแต่ฝั่งเรากลับไม่มีผู้อมตะหลงเหลือแม้แต่คนเดียว?แล้วเราจะเอาชนะพวกมันยังไง!”