ตอนที่ 63- เป้าหมาย ชายแดนรกร้าง
ตอนที่ 63- เป้าหมาย ชายแดนรกร้าง
คำพูดของเซียนอมตะหวังทำให้ทุกคนตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้!
ประตูนั้นมีขนาดใหญ่มหึมา ราวกับว่าสร้างขึ้นจากยอดเขาเซียนขนาดใหญ่ มันตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างสวรรค์และปฐพีค้ำจุนจักรวาลก่อตัวเป็นเส้นทางเข้าอาณาจักรด้วยเต๋าอันยิ่งใหญ่
กองทหารออกเดินทางทุกคนพลุ่งพล่านด้วยพลังโลหิตแก่นแท้ที่อยู่รอบตัวพวกเขา
คนเหล่านี้เป็นชนชั้นสูงอย่างแน่นอน เพียงหมวกเหล็กและชุดเกราะของพวกเขาก็ไม่ใช่ของที่ตระกูลเล็กๆจะสามารถครอบครองได้แม้สักชิ้น ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงอาวุธของพวกเขาที่ส่องสว่างไปจนถึงสวรรค์หากผู้ที่มีขั้นบ่มเพาะที่อ่อนด้อยสักหน่อยเพียงรัศมีของมันก็สามารถทำลายวิญญาณดั้งเดิมได้แล้ว พวกเขาเป็นเหมือนกลุ่มเทพปีศาจจากนรกกำลังจะไปต่อสู้ที่ชายแดนรกร้าง
ในตอนแรกพื้นที่แห่งนี้ยังคงมีความสงบอยู่ แต่เมื่อกองทัพขนาดใหญ่มาถึงพร้อมกับสัตว์ป่าดุร้ายที่ถูกจับเพื่อใช้เป็นสัตว์ขี่ก็สร้างความหวาดกลัวให้กลับผู้คนเป็นอย่างมาก สัตว์ดึกดำบรรพ์ทุกตัวมีหลายสายพันธุ์ที่บ่มเพาะมานานกว่าหมื่นปี อัศวินขึ้นขี่พวกมันพร้อมกับถือหอกสงคราม นับว่าสร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้พบเห็นอย่างยิ่ง
สัตว์ร้ายเหล่านี้มีเกล็ดวิบวับด้วยแสงเย็นเหมือนโลหะ พวกมันมีขนาดใหญ่มากทุกตัวส่งเสียงคำรามเขย่าความว่างเปล่าจนแยกออก
มีสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์มากกว่าหมื่นที่ถูกจับ กีบของพวกเขามีขนาดใหญ่เหยียบย่ำลงบนโลกจนสวรรค์และปฐพีสั่นสะเทือนเสียงดังกึกก้อง
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยไอสังหารพุ่งพล่าน!
ไม่มีใครคิดว่าเซียนอมตะหวังจะลงทุนอย่างมหาศาลโดยส่งกองทัพขนาดใหญ่นี้เพื่อสนับสนุนเขตแดนรกร้าง!
นี่ไม่ใช่ทั้งหมด เสียงนกร้องดังขึ้นและชัดเจนปีกยักษ์สยายไปบนท้องฟ้า นกยักษ์ที่ดุร้ายบินออกมาจากประตูมิติทีละตัวกางปีกอันศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมท้องฟ้าและบดบังดวงอาทิตย์
ราวกับว่าเมฆดำทะมึนลอยมาทับถมกันทำให้เกิดเงามืดขึ้นเหนือพื้นโลกผู้คนที่อยู่ด้านล่างรู้สึกหายใจลำบาก
สัตว์ร้ายหนึ่งหมื่นตัวบินผ่านไปทุกตัวมีผู้ฝึกฝนนั่งอยู่ มนุษย์และนกยักษ์นี่เป็นการผสมผสานที่ทรงพลัง
นกดุร้ายเหล่านี้ประกอบไปด้วยทายาทของนกศักดิ์สิทธิ์ทุกประเภทในขณะที่นกที่นำหน้าอยู่ล้วนเป็นนกศักดิ์สิทธิ์สายเลือดแท้จริงตัวอย่างเช่นอีกาทองสามขา นกหลวนทองคำและอื่นๆ!
ทัพม้าที่ประกอบขึ้นด้วยสัตว์ร้ายนับหมื่น กองทัพบินที่มีนกดุร้ายนับหมื่นถูกใช้เป็นพาหนะ และทหารราบอีกแปดหมื่นนายบนรถศึก ทั้งหมดเคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้าสร้างฉากที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
“นี่คือความจริงใจของข้า!” เสียงของเซียนอมตะหวังดังขึ้นจากด้านหลังประตูมิติ
ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะลงทุนในสงครามมากถึงขนาดนี้ นี่ไม่ใช่การส่งกำลังออกไปอย่างเสียมิได้ แต่นี่คือกองกำลังส่วนตัวของเซียนอมตะหวัง ทหารพวกนี้คือรากฐานของตระกูล
เซียนอมตะหวังถึงกับส่งพวกเขาไปที่ชายแดนรกร้าง!
สิ่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ทุกคนคิด!
ผู้อาวุโสใหญ่มองดูกองทัพที่ยิ่งใหญ่นี้ หลังจากเงียบไปสักพักเขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“พี่หวังได้แสดงความกรุณาอย่างมาก กองทัพที่ยิ่งใหญ่นี้ถือได้ว่าช่วยได้มากในเวลาที่เราต้องการ!”
ที่ด้านหลังของผู้อาวุโสใหญ่ยังมีชายชรา 3 คนจากตระกูลอมตะยืนอยู่ที่นั่นเพื่อสนับสนุนคำพูดของเขา!
พวกเขาไม่ได้พูดอะไร เดิมทีพวกเขาต้องการที่จะสนับสนุนผู้อาวุโสใหญ่ เมิ่งเทียนเจิ้งและต้องการคำอธิบายจากตระกูลหวัง แต่เมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้พวกเขาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเบา ๆ
จินไท่จุนตกใจเป็นครั้งแรกและจากนั้นนางก็เผยรอยยิ้มกล่าวว่า“พี่หวังยังคงเป็นคนที่น่าเกรงขามเหมือนตอนที่ยังเป็นหนุ่ม ความสง่างามและกล้าหาญไม่มีผู้ใดเสมอตลอดมา การอุทิศตนครั้งนี้ควรค่าแก่การชื่นชม!”
"ฆ่า!"
กองทัพจำนวนนับแสนคำรามออกมาพร้อมกัน
“ยอดเยี่ยม! ถ้าทุกเผ่าเป็นแบบนี้ชายแดนรกร้างจะรักษาไว้ได้อย่างแน่นอนลูกหลานของพวกเราจะมีเวลาได้เติบโตเต็มที่!” สัตว์ประหลาดเก่าแก่จากตระกูลอมตะที่ด้านข้างของผู้อาวุโสใหญ่ พยักหน้ากล่าว
“ท่านพ่อพวกเราทำให้ท่านขายหน้าแล้ว!” หวังต้ากล่าวขึ้น
มังกรทั้งห้าไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือและไม่ได้สาปแช่งผู้อาวุโสใหญ่ เมิ่งเทียนเจิ้ง น้ำเสียงแบบนี้ทำให้คนอื่นอดสงสัยไม่ได้ พวกเขาควรตอบสนองต่อการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของเซียนอมตะหวังถึงจะถูก?
“เจ้าพวกโง่!พวกเจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป จงไปที่ชายแดนรกร้างสังหารศัตรูสองสามคนเพื่อล้างความผิดของพวกเจ้า!” เซียนอมตะหวังกล่าวอย่างเย็นชา
ใบหน้าของมังกรทั้งห้าเปลี่ยนไปทั้งหมด บิดาของพวกเขาตัดสินใจเช่นนี้จริงๆ ทหารชั้นยอดจำนวนหนึ่งแสนนายที่ถูกนำมานั้นไม่ได้มาเพื่อแลกตัว พวกเขายังคงถูกส่งออกไป
หลังจากนิ่งเงียบพวกเขาทั้งหมดก็ก้มหน้าลงทำตามคำสั่งนี้
เซียนอมตะหวังกล่าวว่า“ทหารแสนนายจะถูกส่งให้พวกเจ้าห้าคนสั่งการ อย่าทำตัวโง่ๆอีก และอย่าหลั่งโลหิตโดยไร้เหตุผลความรุ่งโรจน์ของพวกเราขึ้นอยู่กับโลหิตมาตลอด!”
“พวกเราเข้าใจแล้ว!” มังกรทั้งห้าตะโกนเสียงดังดวงตาของพวกเขาเป็นประกายลึกล้ำ ผู้คนจำนวนนับแสนได้เตรียมพร้อมสำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือสิ่งที่พวกเขาใช้พึ่งพาที่ชายแดนรกร้าง พวกเขาไม่อาจทำให้พ่อผิดหวังได้
ในตอนแรกทุกคนขมวดคิ้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานการแสดงออกของพวกเขาก็สงบลง เป็นไปไม่ได้สำหรับคนนอกที่จะควบคุมกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหวังมีเพียงมังกรทั้งห้าเท่านั้นที่เหมาะสมกับเรื่องนี้
ในเรื่องนี้ทั้งผู้อาวุโสใหญ่และผู้ปกครองที่แท้จริงของตระกูลอมตะทั้ง 3ไม่ได้แทรกแซงแต่ยอมรับข้อเท็จจริงนี้
“พี่หวังใจกว้างมาก!” จินไท่จุนหัวเราะ จากนั้นนางก็ปลดปล่อยมังกรทั้ง 5 ให้เป็นอิสระ
ฮ่อง!
ในทันใดนั้นพลังโลหิตของมังกรทั้งห้าก็ระเบิดออกมาเป็นริ้วแสงหลากสีพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นี่คือโลหิตแก่นแท้แห่งชีวิตของพวกเขาซึ่งก่อนหน้านี้ถูกทหารหุ่นเชิดทั้ง 5 ระงับไว้ทำให้พวกเขาไม่สามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
ฉากนี้น่ากลัวเกินไป ความแข็งแกร่งของมังกรทั้งห้านั้นยอดเยี่ยมเหนือจินตนาการ
คราวนี้ถ้าไม่ใช่เพราะทหารหุ่นเชิดซึ่งเป็นนักรบโบราณลงมือจัดการ การจับกุมพวกเขานั้นจะเป็นไปไม่ได้เลย
พวกเขาเชื่อมต่อกับร่างกายที่เสียหายของตัวเองทันที ราวกับว่าฟ้าร้องดังก้องอยู่ในร่างกายของพวกเขา มันมาพร้อมกับหมอกเซียนและพลังแห่งความโกลาหลมากมายซึ่งช่วยทำให้พวกเขาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ผู้คนที่ทรงพลังเช่นนี้เต็มไปด้วยพลังชีวิตอันมากมายมหาศาล แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะถูกฉีกออกจากกันและฝังแยกคนละทิศทางแต่ท้ายที่สุดพวกมันก็จะกลับมารวมกันได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อพลังมาถึงระดับนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะฆ่าพวกเขา!
“พวกเจ้าทุกคนนับเป็นลูกผู้ชายอันกล้าหาญ ข้าหวังว่าทุกคนจะสามารถสังหารศัตรูจำนวนมากในชายแดนรกร้างสร้างตำนานปลุกพลังเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้ในอดีตของตระกูลหวังขึ้นมาใหม่!” จินไท่จุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณมากผู้อาวุโส!” มังกรทั้งห้าแสดงความยินดีพร้อมกัน
ดวงตาของพวกเขาเย็นชาเมื่อกวาดไปที่ สือฮ่าว, เฉาอวี่เซิ่ง, มดน้อยสีทอง อย่างไรก็ตามครั้งนี้พวกเขาไม่ได้แสดงความอาฆาตออกมา
“พี่หวังทำไมเจ้าไม่มาคุยด้วยล่ะ” ผู้อาวุโสใหญ่พูดเชิญเซียนอมตะหวังให้ตามมา จากนั้นเขาเดินนำไปก่อน
"ขอฟังรายละเอียด!"
เส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นที่ประตูมิติแสงหลากสีอันเป็นมงคลมีมากมายอย่างน่าเหลือเชื่อ
นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักจะปรากฏก็ต่อเมื่อบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดเดินไปทั่วโลกสัมผัสกับขอบเขตชีวิตอันยาวนานกำลังจะบรรลุความเป็นอมตะ!
ครึ่งก้าวสู่ความเป็นอมตะ!
นี่คือความแข็งแกร่งของเซียนอมตะหวังซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกนี้!
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่พลังชีวิตงอกงามอย่างไม่อาจบรรยาย นี่เป็นชายหนุ่มที่มีบุคลิกเย็นชาและห่างเหินกีดกันผู้คน ทุกๆคนที่พบเห็นต่างดวงตาเบิกกว้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลายคนได้เห็นผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานคนนั้น!
ทุกคนปฏิเสธที่จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าชายหนุ่มรูปงามคนนี้ซึ่งดูเหมือนมีอายุเพียงสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีคือเซียนอมตะหวังที่ปกครองแดนสวรรค์ของเขามาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้โอกาสทุกคนมองดูนานเกินไป
เส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่ที่ทอดยาวจากขอบฟ้าไปยังสำนักเทพสวรรค์หายไปอย่างรวดเร็วจากสายตาของทุกคน
“พระคุณของสหายเต๋าทำให้เราชื่นชมอย่างแท้จริง!” ผู้ปกครองของตะกูลอมตะถอนหายใจด้วยความสรรเสริญ นี่คือสิ่งที่พวกเขารู้สึกอย่างจริงใจและไม่ได้พูดออกมาเพื่อเยินยอ
“ข้าแก่แล้ว ต่อให้ศึกษาชีวิตที่ 2 อย่างจริงจังก็ทำสำเร็จไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียว”เซียนอมตะหวังยิ้มฟันของเขาขาวราวกับหิมะส่องประกายแวววาว
“พวกเจ้าทุกคนมาขอขมาพี่เมิ่ง” เซียนอมตะหวังเรียกลูกๆของเขา
กล่าวโดยเปรียบเทียบแล้วมังกรทั้งห้าถือเป็นชายชราทั้งหมดผมของพวกเขาเป็นสีเทาและสีขาว
มังกรทั้งห้ามีอาการมึนงง แต่พวกเขายังคำนับผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งและกล่าวพร้อมกันว่า "ผู้อาวุโสโปรดยกโทษให้กับความหุนหันของเรา!"
“ไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาให้เด็กรุ่นหลังอีกต่อไปพวกเขาทุกคนเป็นเด็กดี” จินไท่จุนยิ้มแย้มแจ่มใสใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอย
ผู้อาวุโสใหญ่ส่งเสียงไปยังเซียนอมตะหวังโดยกล่าวว่า“พี่หวังข้าเป็นคนตรงไปตรงมามาหากมีข้อเรียกร้องใดๆก็พูดในวันนี้ เด็กคนนี้ ฮวงได้รับคัมภีร์บางอย่างมาและเขาได้มอบให้ข้าศึกษา ข้ารู้สึกว่าคัมภีร์นี้ทรงพลังอย่างยิ่งหากท่านสนใจพวกเราสามารถปรึกษากันได้”
จากนั้นเขาก็ถ่ายทอดต่อว่า“ข้าได้ใช้ญาณวิเศษบางอย่างใส่ไว้ในวิญญาณดั้งเดิมของฮวงแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีบุคคลภายนอกสามารถดูคัมภีร์นี้ได้ หากยังมีคนฝืนกระทำมันจะทำลายวิญญาณดั้งเดิมของเขา”
ดวงตาของเซียนอมตะหวังทอประกายลึกลำ เมื่อเขามองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่
“คัมภีร์นี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง หากตระกูลหวังสามารถสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ในการรบ ข้าจะมอบมันให้ท่านศึกษาเป็นการส่วนตัว” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว
เซียนอมตะหวังพยักหน้าไม่กล่าวอะไร
จากนั้นพวกเขาทั้งหมดได้ปรึกษากันเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายจากกันไป
“ออกเดินทางไปยังแดนรกร้าง!” กองทัพชั้นยอดแสนคนของตระกูลหวังเดินหน้าทันที ภายใต้การนำของผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสจากตระกูลอมตะอื่นๆ
สวรรค์ทั้ง 9 โดยปกติแล้วต้องมีคนคอยปกป้อง ดังนั้นจึงมีผู้อาวุโสจากตระกูลอมตะบางส่วนคอยเฝ้าที่นี่!
ผู้แข็งแกร่งหนุ่มสาวทั้งหมดไม่ได้ถูกลืมเลือน ในวันนี้มีคนมาหาพวกเขา
“ทุกคนอยากจะเติบโตอย่างรวดเร็วกลายเป็นปาฏิหาริย์หรือไม่?มีเพียงการต่อสู้ด้วยชีวิตและความตายเท่านั้นที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว!”
นี่คือเสียงที่ได้ยินในหูของสือฮ่าวเสียงที่ดังกึกก้องเหมือนระฆังใบใหญ่!
“คนสมัยโบราณมีความแข็งแกร่งมากเป็นเพราะพวกเขาต่อสู้อยู่ในสงครามตลอดเวลา เล่าลือกันว่าตั้งแต่อายุยังน้อยพวกเขาก็มุ่งหน้าเข้าสู่ดินแดนรกร้างยิ่งอาบโลหิตของศัตรูมากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น พวกเขาค่อยๆกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและจากนั้นก็ผ่านการทดสอบแห่งความตายกลายเป็นเซียนที่แท้จริง!”
“ในอดีตมีคนทำได้ แล้วพวกเจ้าทุกคนล่ะ? พวกเจ้าต้องการให้ชื่อของตัวเองถูกเล่าขานอย่างไม่รู้จบหรือต้องการจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง เลือกเอา!”
“ต้องเข้าใจด้วยว่าดินแดนรกร้างไม่ใช่เป็นเพียงแค่สนามรบเท่านั้น แต่ยังเป็นโชควาสนาอันยิ่งใหญ่รอคอยอยู่อีกมากมาย ถึงแม้ว่าจะมีหลุมฝังศพเรียงรายไม่สิ้นสุด แต่ถ้ำเซียนของผู้แข็งแกร่งโบราณก็มีอยู่ไม่น้อยพวกเจ้ากล้าแสวงหาหรือไม่!”
เสียงนี้ดังไปทั่วสวรรค์และปฐพีทำให้ผู้ฟังโลหิตเดือดพล่าน