ตอนที่ 55 - การปิดล้อมของตระกูลหวัง
ตอนที่ 55 - การปิดล้อมของตระกูลหวัง
ฆ่าพวกเขาทั้งหมด! สือฮ่าวเป็นคนตรงไปตรงมาอย่างมากไม่ไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียว ผู้คนจากตระกูลหวังถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งต่างๆไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ สือฮ่าวพูดคุยเรื่องต่างๆกับ เฉาอวี่เซิ่ง, ฉางกงเอี๋ยน และปรึกษากับผู้อาวุโสว่าฐานที่มั่นของตระกูลหวังอยู่ที่ไหน
เขาจะไปทำลายที่นั่น?
ความวุ่นวายปะทุขึ้นทุกคนตกใจสุดขีด ฮวงกำลังจะลงมืออย่างสุดกำลัง! นี่เป็นเหตุการณ์สะเทือนสวรรค์อย่างแน่นอน!
หลังจากข่าวแพร่ออกไป ศิษย์เก่าสำนักเทพสวรรค์ต่างโกรธเกี้ยวมาก ตระกูลหวังล้ำเส้นไปไกลเกินพวกเขากล้าลอบแทงข้างหลังพวกเดียวกันเอง หลายคนเกิดความสงสัยต่อตระกูลหวังว่าพวกเขามีเจตนาอะไรกันแน่
“เราต้องขอคำอธิบายจากตระกูลหวังพวกเขาพยายามจะทำอะไรกันแน่”
ใครบางคนตะโกน ราวกับว่าดินปืนถูกจุดขึ้นสถานการณ์ปั่นป่วนไปหมด
“ฮ่าฮ่าข้ารอไม่ไหวแล้วตระกูลหวังพวกเจ้ามีเจตนาร้ายอย่างชัดเจน เราจะทำลายพวกเจ้าให้สิ้นซาก!” มดตัวน้อยสีทองตื่นเต้นสุดขีดมันชอบทำสงครามมากเป็นพิเศษ
หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็ขึ้นไปบนเรือรบ หลายคนเดินตามหลังเขามุ่งหน้าไปยังฐานที่มั่นที่ใกล้ที่สุดกับสำนักเทพสวรรค์
สือฮ่าวเชื่อว่าฐานที่มั่นนี้เป็นที่รวบรวมสายสืบของตระกูลหวังที่อยู่ใกล้ ๆ พวกเขาล้วนจับตาดูสำนักเทพสวรรค์ตลอดเวลาดังนั้นฐานที่มั่นประเภทนี้ควรถูกกำจัดออกไป
มีปราสาทโบราณขนาดกลางอยู่ที่นั่น
มีต้นไม้โบราณสูงตระหง่านในสวรรค์ภูเขาใหญ่น้อยมากมาย นี่อาจถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ขัดเกลาจิตวิญญาณหรือมิฉะนั้นตระกูลหวังจะไม่ให้ความสำคัญกับดินแดนที่นี่ แน่นอนว่าจะไม่ได้ใช้มันเพื่อบ่มเพาะคนรุ่นใหม่
"ใคร?"
ระหว่างเทือกเขาอันเขียวชอุ่มมีเสียงตะโกนดังออกมาจากปราสาทโบราณเนื่องจากมีคนค้นพบว่ามีเรือรบใกล้เข้ามา
“ใครกล้าเข้ามาในดินแดนหวงห้ามของตระกูลหวัง ใครกล้าที่กระทำอย่างป่าเถื่อน? พวกเจ้าทุกคนจะถูกฆ่าโดยไม่ได้รับการอภัยโทษ!”
บนลานกว้างหน้าเขตภูเขามีเด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่ พวกเขามีท่าทีหยิ่งผยองมากแม้ว่าพวกเขาจะเห็นเรือรบบินผ่านไปพวกเขาก็ยังไม่ตื่นตระหนกแต่กับคว้าหอกออกมาชี้ไปที่เรือรบอย่างโอ้อวด
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้เป็นผู้รับผิดชอบในการเฝ้าระวังผู้บุกรุก อย่างไรก็ตามพวกเขาหยิ่งผยองอย่างมากไม่เชื่อว่าจะมีคนที่กล้าโจมตีตระกูลหวังจริงๆด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับเรือรบที่ลอยเข้ามานี้เลย
“อี? ยังไม่หยุดอีก? พวกเจ้าทั้งหมดคิดรนหาที่ตาย? นี่คือดินแดนหวงห้ามของตระกูลหวังทุกคนที่กล้าล่วงเกินจะถูกฆ่า!” พวกเขาตะโกนอย่างเย็นชา
เรือรบไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เจตนาชัดเจนว่ามันจะพุ่งตรงเข้าไปในปราสาทโบราณ
“การโจมตีของศัตรู!”
เด็กหนุ่มทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกับเป่าแตรส่งสัญญาณ
ในช่วงเวลานั้นผู้คนในปราสาทโบราณต่างตื่นตระหนกเริ่มเตรียมตัวรับการต่อสู้อันยิ่งใหญ่อาวุธวิเศษจำนวนมากถูกนำออกมาเพื่อต่อต้านศัตรู
เมื่อเรือรบแล่นผ่านลานด้านนอกปราสาทโบราณก็ยิงลำแสงออกโจมตีเด็กหนุ่มที่ขวางทางทั้งสองคน เด็กหนุ่มทั้งสองสูญเสียความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ไปหมดพวกเขาหวาดกลัวจนกลิ้งไปกับพื้นร่างของพวกเขานอนแนบชิดกับพสุธาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฆ่า
ต๋อง!
ทางเข้าหลักของปราสาทโบราณแห่งนี้พังทลายลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันทีเนื่องจากพลังการโจมตีของเรือรบสูงเกินไปแม้แต่ค่ายกลเวทย์ที่ปกป้องปราสาทยังไม่สามารถต้านรับได้แม้แต่ครั้งเดียว
อาคารจำนวนมากแตกออกจากกันและจากนั้นก็พังทลายลง เรือรบขนาดยักษ์ได้บดขยี้ลงบนสถานที่แห่งนี้ฉีกทุกอย่างราวกับวัชพืชที่เน่าเปื่อยทำลายฐานที่มั่นนี้ให้หมดสิ้น
"ใครบังอาจ? เจ้าไม่รู้จักตระกูลหวังหรือ? ถึงได้กล้ามาสร้างปัญหาที่นี่ช่างไม่รู้จักคำว่าตายสะกดยังไง!” เสียงตะโกนสั้น ๆ ดังขึ้น ในที่สุดก็มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งปรากฏตัว เขาใช้ญาณอันวิเศษอันน่ากลัวออกมาราวกับว่ามีทะเลคลื่นใหญ่พุ่งเข้ามาหยุดเรือรบ
นี่เป็นบุคคลที่ทรงพลังอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นเขาจะมีญาณวิเศษประเภทนี้ได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในสาขาของตระกูลหวังซึ่งเป็นฐานที่มั่นที่ห่างไกลจากพื้นที่หลักของตระกูล ย่อมไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากนัก
เรือรบหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ
...
ร่างหลายสิบพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเผชิญหน้ากับเรือรบ หนึ่งในนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่มีการบ่มเพาะอย่างลึกซึ้ง ดวงตาของเขากระพริบราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ
บุคคลนี้อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสสองคนที่เข้าสู่สำนักเทพสวรรค์เล็กน้อย แต่เมื่อพูดในเชิงเปรียบเทียบแล้วเขาควรจะยังคงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมอย่างน้อยที่สุดก็เทียบได้กับหวังเทียนหมิง
“เจ้าคือฮวง เจ้ากล้ามาที่นี่จริงๆ!” คนเหล่านี้รู้จักสือฮ่าวเป็นอย่างดี ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง “หวังเทียนหมิงอยู่ที่ไหน”
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะมีเป้าหมายอยู่ที่ข้าจริงๆ หวังเทียนหมิงมุ่งหน้าไปที่ สำนักเทพสวรรค์อย่างไรก็ตามเขาตายไปแล้ว” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา
"อะไร?" คนเหล่านี้ตกตะลึง จากนั้นพวกเขาก็โกรธแค้น แต่ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำนั้นค่อนข้างเด็ดขาดเขาพูดว่า 'หนี!' และเขาเป็นคนแรกที่หนีไป
“ไม่มีใครสักคนเดียวที่จะได้รับอนุญาตให้หลบหนี!” สือฮ่าวตะโกน
บนเรือรบมีแสงหลายสายพุ่งออกมาซึ่งเป็นค่ายกลโจมตีของเรือโบราณ พวกเขาเปิดการโจมตีครั้งใหญ่ภายใต้เสียงผู่ผู่ มีคนไม่กี่คนที่เหลือรอด
จิ!
ในเวลาเดียวกันร่างสีดำก็บินออกมาทันทีและจับชายวัยกลางคนคนนั้นไว้จากนั้นหอกสีดำก็แทงทะลุร่างของเขาพร้อมกับชูขึ้นฟ้า เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะต้านทาน
นี่คือหนึ่งในองครักษ์ที่มดตัวน้อยสีทองเรียกออกมาพลังต่อสู้ของเขาทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ!
คราวนี้เขาไม่ได้ลงมือสังหารในทันทีเพราะ สือฮ่าวต้องการที่จะเข้าใจสถานการณ์สักหน่อย
สือฮ่าวเชิญผู้อาวุโสจากสำนักเทพสวรรค์มาลงมือคว้านความทรงจำของเขาค้นหาว่าตระกูลหวังต้องการทำอะไร
“คัมภีร์อมตะ!” เมื่อผู้อาวุโสแอบถ่ายทอดข้อความให้ สือฮ่าวก็ตกตะลึงคัมภีร์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นจากการอนุมานของเซียนอมตะหวัง
สือฮ่าวไม่สามารถพูดอะไรได้ เซียนอมตะหวังนั้นน่าเกรงขามเกินไปเพียงแค่มีเบาะแสเล็กน้อยเขาก็สามารถคาดคำนวณได้ว่าคัมภีร์อมตอยู่ในมือของสือฮ่าว
เมื่อ สือฮ่าวมองไปที่ชายวัยกลางคนก็ทราบทันทีว่าคนตระกูลหวังพวกนี้ไม่ยอมรับความเมตตาใดๆ
ปู!
สือฮ่าวลงมือจัดการเขาด้วยตัวเองตัวกระบี่เจาะกะโหลกของผู้อาวุโสคนนั้นกำจัดวิญญาณดั้งเดิมของเขาไป
“ที่ต่อไป!”
เรือรบแล่นออกไปกลายเป็นริ้วแสงสีทองหายไปในเทือกเขา
วันนั้นในสวรรค์ไร้ขอบเขตฐานที่มั่นสี่แห่งของตระกูลหวังถูกทำลาย บุคคลสำคัญทั้งหมดถูกสังหาร
สิ่งนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนตามมาอย่างมหาศาล หลายคนให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ฮวงพยายามทำอะไร? เขากล้าล้มล้างฐานที่มั่นของตระกูลหวังจริงๆ!
นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายปี กล้าที่จะโจมตีฐานที่มั่นหลายแห่งของตระกูลอมตะนี่ก็เหมือนกับต้องการจะพลิกคว่ำสวรรค์!
คลื่นใต้น้ำถาโถมโหมกระหน่ำ พายุขนาดใหญ่กำลังจะก่อตัว!
แน่นอนว่าคนของตระกูลหวังปรากฏตัวออกมาประณามสือฮ่าวต่อสาธารณะชน สำหรับการก่ออาชญากรรมของเขาในครั้งนี้ และยกกองทัพมากมายไปล้อมสำนักเทพสวรรค์ไว้
นี่คือรถศึกที่ถูกลากโดยสัตว์ร้ายขนาดยักษ์เก้าตัว มันบีบคั้นสวรรค์ส่งเสียงดังก้องเมื่อมันมาถึง
รถศึกเป็นสีเขียวอมทองแดงดูโบราณเก่าแก่ มันถูกปกคลุมไปด้วยรอยกระบี่และรูดาบมากมายที่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม เนื่องจากกฎธรรมชาติของเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้รวมตัวกันบนพื้นผิวของรถศึกคันนี้และทำให้มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
หวังเจิ้น!
นี่คือทายาทของหนึ่งในเก้ามังกรตระกูลหวัง เขาเป็นลูกชายคนโตของวังเอ้อเป็นคนรุ่นที่สามที่เก่าแก่ที่สุดของตระกูลหวัง เขาเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งมีอำนาจมากมากมายมหาศาลในตระกูล
แน่นอนว่าการบ่มเพาะของเขาก็ทรงพลังเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วด้วยสถานะนี้จึงเป็นเรื่องง่ายดายมากที่เขาจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงสุด อีกทั้งประสบการณ์ชีวิตของเขายังมีมาอย่างยาวนานจึงได้รับความไว้วางใจให้นำทัพมาครั้งนี้
ตระกูลหวังโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง ขณะนี้ได้รวบรวมกองกำลังอันยิ่งใหญ่นำรถศึกหลายร้อยคันบินไปทั่วท้องฟ้า สัตว์ป่าเถื่อนหลายร้อยตัววิ่งลากรถศึกเข้ามาทำให้สวรรค์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
สิ่งนี้ทำให้ผู้มีอำนาจมากมายต่างตกใจ ตระกูลหวังเอาจริงแล้ว! พวกเขานำธงสงครามประจำตระกูลออกมาประดับไว้ที่รถศึกคันสีเขียว โดยปกติแล้วพวกเขาจะทำสิ่งนี้ก็ต่อเมื่อพวกเขาออกเดินทางเพื่อต่อสู้กับศึกใหญ่
ตระกูลหวังยังอยู่ไกล แต่สำนักเทพสวรรค์ได้รับข่าวแล้ว
เฉาอวี่เซิ่งรู้สึกโกรธมากเขาพูดออกมาว่า“คนของตระกูลหวังช่างไร้ยางอายจริงๆ! เมื่อทุกเผ่าพันธุ์มุ่งหน้าไปยังสวรรค์สีชาดเพื่อต่อสู้ พวกเขาก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนให้เห็น แต่ตอนนี้พวกเขาส่งรถศึกหลายร้อยคันออกมาพร้อมกับยอดฝีมือหลายพันคน!”
หลายคนให้ความสนใจกับเรื่องนี้
ผู้คนจากตระกูลหวังกำลังใกล้เข้ามาพวกเขาทำการปิดล้อมสำนักเทพสวรรค์ไว้อย่างแน่นหนาสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่ชั่วร้ายแม้จะอยู่ห่างไกล
นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดสิ่งนี้ขึ้นกับสำนักเทพสวรรค์นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาอีกฝ่ายต้องการทำลายล้างที่นี่ให้สิ้นซาก
“ฮวงอยู่ที่ไหน!” จากขอบฟ้าเสียงอันทรงพลังดังมาจากภายในรถศึกสีเขียวทองแดง มันฟังดูเหมือนฟ้าร้องราวกับจักรพรรดิสวรรค์กำลังคำรามทำให้ท้องฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นคนของสำนักเทพสวรรค์หรือคนจากตระกูลต่างๆที่มาหลังจากได้รับข่าวพวกเขาต่างก็ตกตะลึง นั่นคือหวังเจิ้น! พลังการฝึกฝนของเขาลึกล้ำเป็นอย่างมาก
สือฮ่าวยืนอยู่บนยอดเขาใหญ่ภายในสำนักเทพสวรรค์ตะโกนออกมาว่า“พวกเจ้าไม่ได้ไปชายแดนรกร้างเพื่อต่อสู้กับศัตรู แต่นำกองกำลังมาปิดล้อมสำนักเทพสวรรค์พวกเจ้าต้องการทำอะไร? พวกเจ้าทรยศเก้าสวรรค์ไปแล้วใช่หรือไม่!”