ตอนที่ 49 - การเปลี่ยนแปลงอันแปลกประหลาด
ตอนที่ 49 - การเปลี่ยนแปลงอันแปลกประหลาด
หงส์เพลิงแสดงความเป็นศัตรูออกมาอย่างไม่ปิดบัง!
เดิมมันควรเป็นวิหคอมตะที่มีความเป็นมงคลและศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้มันกระหายเลือดอย่างยิ่งแม้แต่ขนห้าสีของมันก็ยังถูกย้อมเป็นสีแดงสดไม่เหมือนกับรัศมีของวิหคอมตะที่ควรจะมี
ติง ติง ติง ...
เสียงดนตรีจากกู่ฉินนั้นไพเราะมากทำให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังจะบรรลุเต๋า เรื่องนี้น่าตกใจแค่ไหน?
โครงกระดูกสีขาวดึงท่วงทำนองของบทเพลงได้อย่างไรไพเราะ กระดูกนิ้วของมันละเอียดขาวเปล่งประกายดูเหมือนกับมือของสตรี
ด้วยความงุนงงทุกคนเริ่มเข้าใจผิดว่านี่ไม่ใช่โครงกระดูกสีขาว แต่เป็นหญิงงามที่โดดเด่นกำลังเล่นเครื่องดนตรีในลักษณะสบาย ๆ โดยดึงโน้ตที่สวยงามที่สุดออกมา
ทุกคนสะบัดหัวพยายามทำตัวให้ปลอดโปร่ง แต่ยิ่งทำเช่นนี้ก็ยิ่งดูเหมือนจริงมากขึ้น โครงกระดูกสีขาวราวกลับเปลี่ยนไปกลายเป็นหญิงงามสวมชุดขาวคนหนึ่ง
นางงดมากไม่มีข้อบกพร่องใดๆดูไร้ที่ติราวกับว่าหลุดออกมาจากภาพวาด
นี่คือเทพธิดาสวรรค์อย่างแท้จริงไม่ใช่หญิงงามในโลกมนุษย์ ซึ่งเดิมทีนางก็ไม่ใช่คนที่มาจากเก้าสวรรค์สิบพิภพอยู่แล้ว
เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นโครงกระดูกสีขาวอย่างชัดเจนเหตุใดเหตุใดจึงกลายเป็นหญิงงามที่มีเนื้อหนังขึ้นมาแม้แต่ดวงตาสวรรค์ก็ไม่สามารถมองทะลุได้อีกต่อไป
"ตื่น!" ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนออกมาโดยใช้เสียงแห่งเต๋า
พวกสือฮ่าวตัวสั่นสะท้านและจากนั้นพวกเขาก็ตื่นขึ้นนี่คือวิชาเซียนแบบใด? ทำไมพวกเขาถึงสับสนในทันทีที่พบเห็น? แม้แต่สิ่งที่เรียกว่าดวงตาสวรรค์ก็ใช้ไม่ได้ผล?
เหตุการณ์ครั้งนี้แม้แต่ผู้อาวุโสจากต่างมิติบางคนยังรู้สึกละอายใจ ตอนนั้นพวกเขาก็โดนวิชาจนรู้สึกสับสนเช่นเดียวกัน หลังจากที่คนรอบข้างปลุกพวกเขาตื่นขึ้นร่างกายก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น
ที่อยู่ด้านหน้ายังเป็นโครงกระดูกสีขาวอันสวยงาม เลือดและเนื้อของนางหายไปแล้ว เสียงดนตรีนี้น่ากลัวอย่างยิ่งทำให้ทุกคนตกอยู่ในความสับสนประสาทสัมผัสของพวกเขาพร่ามัว
กระดูกของนางเรียวและยาวมากซึ่งเป็นโครงกระดูกของสตรีคนหนึ่งแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นใคร ๆ ก็บอกได้ว่านางเป็นสตรีที่งดงามที่สุดเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้นางได้ตายไปแล้ว
“กู่ฉินเทพธิดาวิหคเพลิง!”
ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองไปที่กู่ฉินตัวนั้นโดยเห็นว่ามันมีส่วนเสียหายอยู่บ้าง สายของมันขาดหายไป 2 เส้น
นี่คือกู่ฉินขั้นเซียนที่บันทึกไว้ในตำราโบราณซึ่งวัสดุของมันคือแก่นของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของตระกูลหงส์เพลิง
กู่ฉินตัวนี้หายสาบสูญไปนานเกินไปไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นที่นี่ มันได้รับความเสียหายในระดับร้ายแรงไม่ว่าใครก็สามารถเห็นได้ว่าสภาพของมันน่าสังเวชแค่ไหน
เดิมนี่เป็นหนึ่งในของวิเศษที่มีชื่อเสียงที่สุดจากเก้าสวรรค์สิบพิภพซึ่งเปรียบได้กับ ถุงสวรรค์ปฐพี และ แผนภาพสิบพิภพ!
สตรีคนนี้คือใครกันแน่
ทันใดนั้นหงส์เพลิงโลหิตก็กู่ร้องออกมาราวกับว่ามันกำลังสื่อสารกับโครงกระดูกสีขาว
ดิง ดิง!
เสียงจากกู่ฉินวิหคเพลิงดังขึ้น สายที่ขาด 2 เส้นนั้นหลุดออกมาฟาดฟันผู้คนจากต่างมิติเหมือนแส้
แดง!
หม้อหลอมเซียนส่องแสงสีทองออกมาต้านรับสายกู่ฉินทันที ถึงจะสามารถส่งสายกู่ฉินบินกลับไปได้ แต่เสียงการปะทะนั้นก็สั่นสะเทือนถึงสวรรค์ สามารถเห็นได้ว่าการโจมตีครั้งนี้น่ากลัวเพียงใด
สายกู่ฉินที่ถูกทำลายปลดปล่อยเสียงมังกรร่ำร้อง มันกลายเป็นมังกรวารีสองสายท่วมเข้าใส่สือฮ่าวและคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว
เปง!
ผ้าห่อศพคลี่ออกและปะทุขึ้นด้วยความสดใสเพื่อต่อต้านสายกูฉินสองเส้นนี้ปิดกั้นไม่ให้น้ำท่วมมาถึง
เสียงร้องของมังกรวารีดังขึ้นเป็นคลื่นและหมุนตัวกลับออกไป
นี่เป็นเพียงการจู่โจมเพียงครั้งเดียวแต่มันก็ทำให้ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปแล้ว โครงกระดูกสีขาวนี้มีความลึกลับไม่มีที่สิ้นสุดสามารถโจมตีด้วยกู่ฉินขั้นเซียนอย่างน่าหวาดหวั่น ทุกคนทราบว่าวิกฤตร้ายแรงกำลังมาถึง
จิ่วจิ่ว… หงส์เพลิงโลหิตที่ยังไม่โตเต็มที่สื่อสารกับโครงกระดูกเจื้อยแจ้วไม่รู้ว่ามันพูดอะไร เป็นเพราะไม่มีใครเข้าใจภาษาของนก
ภายในโครงกระดูกสีขาวนั้นมองไม่เห็นเปลวไฟวิญญาณย่อมแสดงว่านางตายไปแล้วไม่มีวิญญาณดั้งเดิมสิงสถิตอยู่ อย่างไรก็ตามนางยังคงผงกศีรษะราวกับว่ารับฟังและเข้าใจสิ่งที่นกตัวน้อยกล่าวนับว่าเป็นเรื่องประหลาดยิ่ง
ดิง ดิง!
เสียงดนตรีดังขึ้นอีกครั้ง!
เสียงนั้นไม่ได้ดังและก้องมากนัก แต่แสงที่พุ่งออกมาสามารถผ่าท้องฟ้าให้แยกเป็น 2 ซีก
จากนั้นตัวโน้ตก็พุ่งออกมาเป็นแนว ทุกตัวเป็นสีเงินลอยเข้าหาสิ่งมีชีวิตต่างมิติรวมทั้งผู้อาวุโสใหญ่และพวกโดยไม่แบ่งแยก
“เป็นเพียงแค่เศษซากแห่งความชั่วร้ายจากอดีต เจ้าคิดว่าเรากลัวเจ้าจริงๆหรือ? หม้อหลอมเซียนโปรดสังหารมันซะ!” ผู้อาวุโสที่เป็นผู้นำกลุ่มจากต่างมิติคำราม
ฮ่อง!
หม้อหลอมเซียนส่องแสงเจิดจ้าถูกปลดปล่อยพลังทั้งหมด ให้ความรู้สึกราวกับว่าเทพสงครามโบราณก้าวข้ามแม่น้ำแห่งกาลกลับคืนมายังยุคปัจจุบัน!
มันปลดปล่อยริ้วแสงสีทองขนาดยักษ์โจมตีโครงกระดูกและกู่ฉินเซียน
ต๋อง!
เกิดคลื่นเสียงทำลายล้างขนาดใหญ่ปะทุออกมาราวกับจะฉีกใบหูของทุกคน เมื่ออาวุธวิเศษทั้งสองปะทะกันสายฟ้ากระจายไปออกไปในทุกทิศทาง ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบบริเวณ
ผู้อาวุโสใหญ่เปิดใช้งานผ้าห่อศพราชาอมตะเพื่อปกป้องสถานที่แห่งและใช้กระบี่เซียนฟาดฟันตัวโน๊ตสีเงินที่ลอยอยู่บนฟ้า
โครงกระดูกสีขาวได้รับความทุกข์ทรมานจากการโจมตีของทั้งสองฝ่ายยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่โจมตีมันยังเป็นอาวุธเซียนขั้นสูงสุดดังนั้นความกดดันที่โครงกระดูกได้รับจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ทันใดนั้นเสียงนกร้องดังขึ้น นกยักษ์บินลงมาจากอาคารโบราณในหุบเขา
นี่คือนกยักษ์ที่แห้งเหี่ยวแล้วแต่มันยังคงมีขนอยู่บ้าง สามารถเห็นเนื้อเหี่ยวย่นของมันห่อหุ้มกระดูกไว้บางส่วน
อย่างไรก็ตามทุกคนต่างตกตะลึงเพราะนี่คือหงส์เพลิงแท้จริงซึ่งเป็นวิหคอมตะที่โตเต็มวัย!
อย่างไรก็ตามมันได้ตายไปแล้วตอนนี้ถูกเรียกออกมาในฐานะอาวุธหุ่นเชิด
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนดวงตาส่องสว่างขึ้น นี่ค่อยคุ้มค่าสมกับเป็นดินแดนโบราณที่ถูกปิดผนึก มันลึกลับเกินไปแม้แต่ซากศพของวิหคอมตะก็ยังมีอยู่ที่นี่!
อย่างไรก็ตามหงส์เพลิงตัวนี้ยังไม่สามารถติดอันดับ 1 ใน 10 อสูรได้
แต่ถึงจะอย่างนั้นตอนที่มันมีชีวิตอยู่ก็ต้องเป็นเซียนผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
ในโลกนี้ตั้งแต่อดีตมีวิหคอมตะไม่กี่สายพันธุ์ แต่วันนี้พวกเขาเห็นพวกมันถึงสองตัวตัวโตหนึ่งตัวตัวเล็กอีกหนึ่ง
"ฆ่า!" ฝ่ายต่างมิติคำรามขึ้นอย่างดุร้าย เมื่อมีหม้อหลอมเซียนอยู่ในมือพวกเขาไม่กลัวศัตรูใดๆ
ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกปวดหัว ซากศพของหงส์เพลิงและโครงกระดูกสีขาวนั้นได้โจมตีอยู่ด้านข้างของเขา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้กลับไป
ฮ่อง!
การระเบิดครั้งใหญ่ที่สามารถเขย่าโลกปะทุขึ้น ซากศพของหงส์เพลิงบินลงมาจากท้องฟ้า เมื่อร่วมกับกู่ฉินที่เล่นโดยโครงกระดูกหญิงลึกลับพลังโจมตีเช่นนี้สุดที่พวกเขาจะต้านรับได้
ทั้งผู้อาวุโสใหญ่และฝ่ายต่างมิติต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือ เดิมทีพวกเขาเป็นศัตรูแต่ตอนนี้ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันจึงจะสามารถต่อต้านความตายครั้งนี้ได้
แม้ว่าพระราชวังขนาดใหญ่ที่นี่ไม่สามารถต้านทานพลังของอาวุธวิเศษที่ไม่มีใครเทียบได้พวกมันบางส่วนก็แตกสลายทันที
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างเข้มข้น กระบี่เซียนผ้าห่อศพและหม้อหลอมเซียนผลัดเปลี่ยนกันเข้าโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน
พวกเขาเดิมเป็นศัตรูกันดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการโจมตีของโครงกระดูกสีขาวและซากศพของหงส์เพลิงรวมถึงกู่ฉินวิเศษแต่ผู้คนจากอีกฝั่งก็ยังไม่ลืมที่จะต่อสู้กับผู้อาวุโสใหญ่ไปด้วยทำให้การต่อสู้เกิดความวุ่นวาย
ฮ่อง!
ทันใดนั้นคลื่นพลังที่รุนแรงบางอย่างพุ่งเข้ามาในสนาม เสียงแตรโบราณดังขึ้นเพื่อหยุดการต่อสู้
พลังกดดันอันยิ่งใหญ่มหาศาลครอบคลุมสนามรบไว้นี่เป็นค่ายกลสังหารเซียนชนิดหนึ่งถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายไปมาก แต่ก็เพียงพอจะสังหารสิ่งมีชีวิตทุกคนที่อยู่ที่นี่
“หยุดให้ข้า!” เสียงตะโกนดังขึ้น หม้อหลอมเซียนสั่นสะท้านพร้อมกับปลดปล่อยแสงสีทองออกมาทำให้ท้องฟ้าแตกเป็นเสี่ยงๆมันถูกบังคับให้หลบหนีเข้าไปในรอยแยกของมิติขนาดใหญ่
"ฆ่า!" ผู้อาวุโสใหญ่ยังไม่ยอมแพ้
อย่างไรก็ตามหมอกสีเทาฟุ้งกระจายไปทั่วสถานที่แห่งนี้กาลเวลาหมุนวน ราวกับว่ามันกำลังนำพวกเขาทั้งหมดเข้าสู่สนามรบโบราณ
สามารถเห็นได้ว่าทิวทัศน์ที่นี่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เริ่มปรากฏโครงกระดูกอยู่ทั่วไปทุกที่เป็นซากของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด!
“รีบหนี! เราอยู่ที่นี่ไม่ได้!” ใครบางคนจากอีกด้านหนึ่งปล่อยเสียงตะโกนอู้อี้รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ พวกเขาตกลงไปในค่ายกลโบราณบางอย่าง
ต้องบอกว่าหม้อหลอมเซียนนั้นทรงพลังอย่างยิ่งมันฉีกสวรรค์และปฐพีออกจากกันระเบิดสิ่งกีดขวางทุกชนิดเพื่อนำผู้คนจากต่างมิติกลับออกไป
ในอีกด้านหนึ่งอาวุโสใหญ่ฝ่าก็ออกไปข้างนอกโดยใช้ผ้าห่อศพคุ้มกันและกระบี่เซียนเพื่อเปิดเส้นทางออกจากสนามรบโบราณแห่งนี้
ภายนอกทัศนียภาพเปลี่ยนไปแล้ว พระราชวังที่ดูสวยงามตอนแรกกลายเป็นซากปรักหักพัง ในซากอาคารพวกนั้นเผยให้เห็นแท่นบูชาขนาดยักษ์ มีโลงศพโบราณตั้งอยู่ที่นั่นมันมีกิ่งก้านสาขาเหมือนกับต้นไม้งอกออกจากโรงศพนั้น
“ต้นไม้อมตะ!” พวกเขาร้องเตือน
เป็นเพราะคลื่นหมอกเซียนลอยขึ้นมาจากโลงศพ แม้ว่ามันจะกลายเป็นโลงศพไปแล้วแต่มันก็ยังมีพลังชีวิตอยู่ กิ่งก้านสาขางอกออกมาใบไม้สีเขียวขจี
ลวดลายมากมายปรากฏบนแท่นบูชาพื้นผิวของมันปกคลุมไปด้วยเลือดแก่นแท้ลึกลับที่หล่อเลี้ยงโลงศพนี้
“นี่มันโลงศพแปลก ๆ แบบไหนกัน? หลังจากผู้ไม่ดับสูญในโลกของเราเสียชีวิตจากการต่อสู้แก่นแท้โลหิตของพวกเขาถูกสูบมาที่นี่ช่วยบำรุงสิ่งที่อยู่ในโลงศพนี้!” คนจากฝั่งต่างมิติทั้งหวาดกลัวทั้งโกรธเกรี้ยว
ในสถานที่แห่งนี้นอกเหนือจากหงส์เพลิงโลหิตแล้ว ทุกอย่างล้วนแต่เสียชีวิตไปสิ้นเหตุไฉนจึงมีกับดักประเภทที่อยู่
ทุกคนสับสนจ้องมองไปที่โลงศพเซียนที่เต็มไปด้วยพลัง
เสียงดนตรีจากกู่ฉินนั้นยังคงดังอยู่โดยมีคลื่นแห่งความเศร้าโศกราวกับว่ามันกำลังเรียกดวงวิญญาณจากสถานที่อันห่างไกล
ในขณะนี้ทุกคนต่างพากันสั่นสะท้านภายใต้เสียงดนตรีอันแสนเศร้านี้ขนเส้นเล็กๆทั้งหมดของพวกเขาลุกชี้ชันหนังศรีษะกลายเป็นชาด้าน เป็นเพราะพวกเขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังมาเยือน
เขตภูเขาในระยะไกลเกิดแรงสั่นสะเทือน ร่างที่น่ากลัวหกร่างกำลังใกล้เข้ามาที่นี่ พวกเขาเป็นซากศพของผู้ไม่ดับสูญทั้งหกที่ก่อนหน้านี้นอนอยู่ในสนามรบ พวกเขาถูกเรียกตัวมาจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นจากระยะไกลหลุมศพเซียนที่อยู่ปากทางเข้าก็เริ่มแตกกระจาย มีซากศพโผล่ออกมาจากพื้นเป็นจำนวนมาก
“มารดามันเถอะ! อะไรกันนักหนา? ที่นี่มันเกิดบ้าอะไรกันขึ้นมา!”เฉาอวี่เซิ่งสาปแช่ง
พวกเขาจะทำเช่นไรในสถานการณ์อย่างนี้? ฝ่ายตรงข้ามควบคุมซากศพเซียนจำนวนมากได้อย่างไร? ถ้าพวกเขาถูกล้อมแบบนี้พวกเขาก็จะตายทั้งหมด!