ตอนที่ 30 - อันหลาน
ตอนที่ 30 - อันหลาน
เหล่าราชาหนุ่มสาวจากต่างมิติจะไม่โกรธแค้นได้อย่างไร? เจ้าหนูคนนั้นบนสนามรบพูดออกมาคำไหนก็มีแต่จะสังหารพวกเขาทั้งหมดไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา นี่ถือเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างรุนแรง!
สำหรับพวกเขาแล้วการที่ฝ่ายตรงข้ามมาดูถูกเหยียดหยามพวกเขาอย่างนี้นับเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง ในรุ่นเดียวกันยังไม่เคยมีใครมองพวกเขาเหมือนกับเนื้อบนเขียงรอการเชือดเฉือนอย่างเช่นสือฮ่าว
“ข้าจะฆ่าเขา!” งูยักษาคำรามเสียงต่ำร่างสีเงินของมันเปล่งประกายและปล่อยปลดปล่อยไอสั่งหารออกมาเป็นจำนวน
นอกเหนือจากวิหคปีศาจสีทองที่เริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของราชาหนุ่มสาวคนอื่นๆก็สาดประกายเย็นชาออกมา คนคนนี้หยิ่งผยองเกินไปพวกเขาต้องสอนบทเรียนแก่เขาต้องฆ่าเขาให้จงได้!
เลือดบนพื้นยังแดงสดเป็นร่องรอยของราชาหนุ่มจากต่างมิติทั้งสองคนที่เพิ่งถูกฆ่าไป
หลังจากคนประหลาดคนนั้นถูกฆ่ามันก็กลายร่างเป็นแพะสีทอง ไม่น่าแปลกใจที่ใบหน้าของมันเหมือนแพะมีเขาคู่หนึ่งบนหัวร่างเดิมของมันก็เป็นแบบนี้ ขนสีทองของมันเปล่งประกายแวววาวอย่างมากเลือดที่ไหลออกมาเต็มไปด้วยพลังแก่นแท้อันน่าอัศจรรย์
แขนทั้งสิบสองข้างเหล่านั้นกลายเป็นเท้าแพะที่แข็งแรงและทรงพลัง
ตอนนี้มันเป็นชิ้น ๆ เพราะมันถูกทำลายโดยสือฮ่าว มีเพียงซากศพเสียหายที่ปล่อยแสงสีทองอ่อน ๆ กองอยู่บนพื้น
มันเหมือนกับตั๊กแตนตำข้าวหลังจากการต่อสู้มันก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ จากการโจมตีของสือฮ่าว เนื้อและเลือดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง
“ช่วยห่อแพะตัวนี้และตั๊กแตนตำข้าวให้ข้าด้วย” สือฮ่าวบอกมดตัวน้อยสีทองและเฉาอวี่เซิ่งที่อยู่ข้างหลังเขา
ทุกคนตกตะลึงแต่พวกเขาก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนพูดไม่ออกเพราะรู้ว่าเขาจะเก็บศพไว้เพื่ออะไร
“ข้าจะฆ่าเจ้า!” งูยักษาคำราม
“ ถ้ามีโอกาสขึ้นไปข้าจะฆ่าเขาอย่างแน่นอน! ราชาหนุ่มในชุดขาวกล่าว เขาแข็งแกร่งมากเมื่อยืนอยู่ตรงนั้น ความว่างเปล่าในสภาพแวดล้อมของเขาบิดเบี้ยวมีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้ายืนอยู่ข้างเขาแม้จะเป็นฝ่ายเดียว
“ไม่เคยมีใครกล้าดูถูกเหยียดหยามเราถึงเพียงนี้ สังหารคนๆนี้ซะ!” มีคนอื่นกล่าวขึ้นด้วยโทสะ
"คนต่อไป!"สือฮ่าว ไม่มีคำพูดอื่นยังคงเป็นเพียงคำนี้เสียงของเขาดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
สิ่งนี้ทำให้การแสดงออกของสิ่งมีชีวิตในอีกด้านหนึ่งเปลี่ยนไป ดวงตาของราชาหนุ่มสาวเหล่านั้นล้วนปลดปล่อยแสงประหลาดอันน่ากลัวออกมา
สำหรับผู้ที่มาจากเก้าสวรรค์สิบพิภพพวกเขาทุกคนต่างก็ได้ระบายความขุ่นเคืองออกมาราวกับว่าพวกเขากินผลไม้วิเศษดื่มน้ำอมฤตทุกคนรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้เก้าสวรรค์สิบพิภพพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องผู้กล้าหาญตายตกทีละคน มันช่างน่าเศร้าอย่างยิ่งบรรยากาศบีบคั้นสุดขีด
ตอนนี้สือฮ่าวได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สองครั้งติดต่อกัน เปลี่ยนความเศร้าหมองให้กลายเป็นความสุขสันต์ยินดี
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะร้องเชียร์สือฮ่าว
“ฮวงเจ้าฆ่าพวกมันได้ดี! ฆ่าพวกมันให้หมด! แก้แค้นให้กับคนที่ตาย!”
...
สือฮ่าวจ้องไปข้างหน้า คนที่เขาอยากฆ่ามากที่สุดคืองูยักษาวิหคปีศาจสีทอง อยากให้พวกเขาเริ่มที่จะก้าวขึ้นมาด้วยตัวเองเพราะผู้ชนะมีโอกาสทำเช่นนี้
หลังจากที่เขาชนะศึกใหญ่สองครั้งเขายังคงยืนอยู่ที่นี่เพื่อต่อสู้ต่อไป ในขณะเดียวกันเขาก็สามารถเลือกที่จะกลับลงมาได้เช่นกัน
“ ไม่เคยมีใครกล้ากระทำการอย่างไร้มารยาทเช่นนี้กับเรามาก่อน เขาจะต้องถูกฆ่ายังโหดเหี้ยมที่สุด!
ชายหนุ่มชุดขาวพูดอีกครั้ง ร่างของเขาสูงสง่ามากเมื่อเขาพูดเช่นนี้ก็มีคนรอบข้างที่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา
ในเวลานี้กระดองเต่าเซียนเปล่งประกายพร้อมกับพลังความโกลาหล มันลอยขึ้นจากพื้นเพื่อเลือกคู่ต่อสู้คนต่อไปของสือฮ่าว
เอ็น?
ทุกคนตกตะลึงเพราะเศษกระดองเต่านั้นตกลงมาเบื้องหน้าของชายชุดขาว มันเพิ่งจะเลือกเขา
หลายคนแสดงสีหน้าประหลาดใจชายหนุ่มชุดขาวคือคนต่อไปที่จะขึ้นไปต่อสู้กับสือฮ่าว
“เป็นโชคชะตาจากสรวงสวรรค์ข้าเพียงพูดขึ้นมาก็ได้รับโอกาสที่จะขึ้นไป แม้แต่สวรรค์ก็ยอมรับความปรารถนาของข้า ให้ข้าได้สังหารเจ้าคนหยิ่งผยองนี้!” ชายหนุ่มชุดขาวกล่าวอย่างไร้ความปรานี
เขาเริ่มก้าวไปข้างหน้าเสื้อคลุมสีขาวชุดยาวกระพือตามสายลม ร่างกายของเขาปลดปล่อยปราณต่อสู้ราวกับว่าเทพเจ้าสงครามกำลังจะลงมาเยือนโลกนี้อย่างทรงพลัง
“ฆ่าเขา!”
เมื่อชายหนุ่มชุดขาวเดินเข้าสู่สนามรบ มีคนจำนวนมากส่งเสียงเชียร์ให้เขาสังหารสือฮ่าวด้วยวิธีการที่โหดร้ายที่สุด สือฮ่าวยังคงมีท่าทีปกติรอคอยให้ชายหนุ่มชุดขาวเดินเข้าสู่สนามรบ
เจ้าหนูคนนี้ไม่ได้รับการปนเปื้อนจากฝุ่นละอองแม้แต่น้อย สวมชุดขาวบริสุทธิ์รองเท้าก็ยังสีขาวนับเป็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง เขาเหมือนเป็นเด็กแห่งโชคชะตาที่สวรรค์โปรดปราน!
ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ใต้เท้าของเขาเกิดรอยแยกแม้แต่ขุนเขาที่อยู่ด้านหลังยังถล่มลงมา
ภายนอกร่างกายของเขามีวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวหมุนวนอยู่รอบๆ สร้างความหวาดหวั่นให้แก่ผู้พบเห็น
“การต่อสู้กับข้านับว่าเป็นโชคร้ายของเจ้า จงตายเสียเถิด!” ชายหนุ่มคนนี้จ้องไปที่สือฮ่าวและพูดตรงๆเช่นนี้
จิ!
ทันใดนั้นกระดองเต่าเซียนก็ส่องแสงออกมาทำให้เกิดสัญลักษณ์บางอย่าง เป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามมันหายไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
"สิ่งนี้หมายความว่า?" สือฮ่าวรู้สึกสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอสถานการณ์แบบนี้ กระดองเต่าแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ
“ตัวอักษรนี้แสดงให้เห็นถึงตระกูลใหญ่บางตระกูล!” มีคนสองสามคนจากฝั่งตรงข้ามส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
คนกลุ่มหนึ่งตัวสั่นสะท้านอยู่ข้างในพวกเขาทั้งหมดรู้สึกสับสนอย่างมาก
“แม่ของจ้านเฟิงเป็นลูกหลานของตระกูลสูงส่ง จ้านเฟิงมีสายเลือดที่แท้จริงของตระกูลนั้นอยู่ในร่างกาย!” ผู้อาวุโสฝั่งตรงข้ามอธิบาย
ชายหนุ่มชุดขาวมีชื่อว่าจ้านเฟิงตระกูลของแม่เขานั้นน่ากลัวมากไม่มีผู้คนอีกฝั่งที่กล้าพูดถึง
ทุกคนตัวสั่น สิ่งนี้เกิดจากสายเลือดแท้จริงที่อยู่ในกายของจ้านเฟิงหรือไม่? มันถูกกระตุ้นโดยแซ่นั้นนั้น
“พูดง่ายๆก็คือตระกูลฝั่งมารดาของจ้านเฟิงนั้นยิ่งใหญ่เกินไป แม้ว่าเขาจะมีเลือดของตระกูลนั้นอยู่ในกายเพียงแค่ 1 ใน 4แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างไม่มีใครเทียบได้ในปัจจุบัน!” ใครบางคนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
ไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นแม้แต่สือฮ่าวที่เอาแต่คิดจะจัดการกับศัตรูก็ยังตะลึงกับรายละเอียดเชิงลึกนี้ ตระกูลแบบไหนกันที่ทำให้สิ่งมีชีวิตต่างถิ่นต้องปฏิบัติด้วยความเคารพถึงขนาดนี้?
จิตใจของสือฮ่าวก็สั่นไหวเช่นกัน ชื่อสกุลนั้นปรากฏบนกระดองเต่าแม้ว่ามันจะหายไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังบ่งบอกถึงบางสิ่ง เขาจะยุ่งเกี่ยวกับตระกูลนี้ในอนาคตหรือไม่?
เป็นเพราะก่อนหน้านี้มีคำบอกเล่าจากผู้อาวุโสฝั่งนั้นว่าผู้ที่ถูกเลือกไม่ได้มีชะตากรรมที่จะต้องต่อสู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีความเกี่ยวข้องกับตะกูลของอีกฝ่าย
“ต้นกำเนิดของเจ้าดูเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดาเจ้าเป็นคนสำคัญหรือเปล่า?” สือฮ่าวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
นี่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก ความตั้งใจของเขาคือจะสังหารราชาหนุ่มสาวจากต่างมิติโดยไม่เสียเวลาพูดคุย! แต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง
“ข้ามีสายเลือดแท้จริงของตระกูลอันหลานอยู่หนึ่งในสี่!” จ้านเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
เมื่อเขาเอ่ยชื่อตระกูลอันหลานมีประกายแวววาวในดวงตาของเขาความสดใสนี้เกิดจากความภาคภูมิใจ
“เลือดที่แท้จริงหนึ่งในสี่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าหยิ่งผยอง?”สือฮ่าวเยาะเย้ยและพบว่าเรื่องนี้ยากที่จะเข้าใจ
“เจ้ากล้า!” ในตอนนี้ไม่ใช่แค่จ้านเฟิงเท่านั้นที่พูดขึ้นแม้แต่คนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นพร้อมกับด่าว่าสือฮ่าว!
เห็นได้ชัดว่าชื่อตระกูลนี้มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษทำให้กลุ่มที่มีอำนาจมากมายรู้สึกเคารพนับถืออย่างไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาจะไม่ยอมให้มีการดูหมิ่นตระกูลนี้อย่างเด็ดขาด
“ตระกูลอันหลานแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือ”สือฮ่าวพูดกับตัวเอง
อย่างไรก็ตามในขณะนี้จิตใจของเขาหวั่นไหวเป็นอย่างมาก เมื่อเขาพูดชื่อตระกูลอันหลานก็ปรากฏคลื่นพลังแห่งการสังหารที่น่าตกใจเต็มท้องฟ้า
สิ่งนี้ทำให้สือฮ่าวมึนงง เขาเบิกตากว้างรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึง เขาจ้องมองเข้าไปในความว่างเปล่า
มองเห็นหอกทองคำที่ดูเหมือนจะสามารถทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย กำลังล่องลอยอยู่ที่นั่นมีเจตนาสังหารที่มุ่งร้ายอย่างล้นฟ้าหันมาทางสือฮ่าว
สือฮ่าวมีความรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้จะปรากฏขึ้นเมื่อสิ่งมีชีวิตบางตัวพูดถึงแซ่ตระกูลนี้โดยขาดความเคารพ
ทางด้านเก้าสวรรค์สิบพิภพใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่แสดงความจริงจังอย่างไม่น่าเชื่อ
"นั่นอะไร?" มีบางคนถาม.
“การดำรงอยู่ที่น่ากลัวเหนือจินตนาการ เมื่อมีการพูดชื่อสกุลของพวกเขามันก็เหมือนกับการเรียกชื่อจริงของอาวุธสุดทรงพลัง” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ
นี่เป็นการดำรงอยู่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว
ในที่สุดสือฮ่าวก็เข้าใจว่าตระกูลอันหลานเป็นอย่างไร มันเป็นตระกูลที่น่ากลัวจริงๆ!
อย่างไรก็ตามเขาแสดงท่าทีดูเหมือนไม่มีความกังวล เขามองไปที่ชายหนุ่มในชุดขาวและพูดว่า“ เลือดแท้เพียงหนึ่งในสี่ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะทำให้เจ้ารู้สึกเย่อหยิ่ง?
สิ่งมีชีวิตต่างมิติจำนวนมากมีสีหน้าโกรธแค้นเมื่อมองมาที่สือฮ่าว
อันหลาน บุคคลที่ใช้แซ่นี้มีจำนวนน้อยมาก ถึงจะเป็นตระกูลที่ทรงพลังแต่พวกเขาไม่มีคนมากนักนั่นคือสาเหตุที่เด็กหนุ่มในชุดขาวที่มีสายเลือดถึงหนึ่งในสี่นั้นแสดงความเย่อหยิ่งออกมา
เป็นเพราะไม่ว่าจะผ่านไปนับหมื่นปี น้อยครั้งนักที่ตระกูลอันหลานจะปรากฏทายาทออกมา
“เจ้าพูดแบบนั้นเพียงเพราะเจ้างมงายไม่มีวันเข้าใจในอำนาจของแซ่นี้ เจ้าต้องจ่ายด้วยชีวิตที่กล้าดูถูกข้า!” จ้านเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
“อันหลาน!” สือฮ่าวพูดแบบนี้กับตัวเองอีกครั้ง ฉากที่น่ากลัวข่มขวัญปรากฏขึ้นอีกคราเขาเห็นหอกทองคำยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ราวกับว่ามันสามารถฉีกผ่านจักรวาลอันยิ่งใหญ่มาถึงที่นี่ได้โดยตรง
อาวุธนี้น่ากลัวเกินไปในขณะเดียวกันก็ทำให้สือฮ่าวหวั่นไหว เขารู้สึกว่ามันดูคุ้นเคยราวกับว่าเขาเคยเห็นมาก่อน
เอ็น?
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็จำได้ว่าเคยเห็นมันที่ไหน
เมื่อเขาอยู่ในถ้ำใต้ดินของสำนักเทพสวรรค์เขาเคยเห็นรอยประทับที่พ่อของมดตัวน้อยสีทองทิ้งไว้ข้างหลังชายวัยกลางคนผมสีทองที่รู้จักกันในนามหนึ่งในสิบอสูรผู้ยิ่งใหญ่
สือฮ่าวได้พูดคุยกับชายวัยกลางคนคนนั้นโดยเห็นฉากสองสามฉากก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
ในเวลานั้นหนึ่งในสิบอสูรผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือชายผมสีทองมดเขาสวรรค์ที่มีพลังที่ไม่มีใครเทียบได้เคยเผชิญหน้ากับการโจมตีของสิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญ เขาถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
นี่เป็นความประทับใจที่ลึกซึ้งที่สุดที่สือฮ่าวหลงเหลืออยู่ในช่วงเวลาวิกฤต สุดท้ายหอกยาวสีทองได้ฉีกผ่านจักรวาลอันยิ่งใหญ่และพุ่งลงมาอย่างฉับพลันแทงทะลุร่างของมดเขาสวรรค์ด้วยเสียง ปู!!
“หอกยาวนี่เอง…มันคือหอกด้ามนี้เอง!” ใบหน้าของสือฮ่าวเปลี่ยนไปทันที
“ตะกูลอันหลานจะไม่ยอมให้มีการดูหมิ่นเหยียดหยามเกิดขึ้น การดูหมิ่นของเจ้าจะต้องได้รับการชดใช้ด้วยเลือด ชดใช้ความผิดของเจ้ามา!” ชายหนุ่มชุดขาวจ้านเฟิงตะโกนด้วยความขุ่นแค้น
อันหลาน เพียงแค่เอ่ยชื่อตระกูลนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสัมผัสถึงพลังของนามที่แท้จริงว่ามันน่ากลัวแค่ไหน? นี่เป็นพลังที่มีเพียงผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดจากอีกด้านหนึ่งเท่านั้นที่สามารถครอบครอง
ว่ากันว่าเจ้าของหม้อหลอมเซียนก็มีพลังระดับนี้เช่นกัน!
“อย่าว่าแต่คนอย่างเจ้าที่มีเพียงสายเลือด 1 ใน 4 แม้แต่คนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์มาเจอข้ายังต้องตายอย่างไม่มีข้อยกเว้น!” นี่คือคำตอบของสือฮ่าว
“หน้าด้าน!”จ้านเฟิงตำหนิและเตรียมต่อสู้ทำที เมื่ออีกฝ่ายพูดคำว่า 'เลือดบริสุทธิ์' มีย่อมเป็นการล้อเลียนตัวเขาที่เป็นเพียงลูกครึ่ง?คำพูดนี้สร้างความขุ่นแค้นให้กับจ้านเฟิงอย่างยิ่ง