ตอนที่ 26 - ตายอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 26 - ตายอย่างต่อเนื่อง

"หงเอ๋อ!"  ผู้คนตระกุลลู่รีบวิ่งขึ้นไปสนามประลองพร้อมกับความเศร้าโศกเสียใจ พวกเขาคว้าร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของลู่หงกลับมา ร่างที่แต่เดิมเคยงดงามเต็มไปด้วยพลังชีวิต บัดนี้สูญสิ้นทั้งสองอย่างแล้ว

สือฮ่าวต้องการที่จะขึ้นไปสังหารวิหคปีศาจทองคำกับงูยักษาทันทีทำลายความเย่อหยิ่งและความเชื่อมั่นทั้งหมดของพวกมัน

วิหคปีศาจสีทองกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้งสีหน้าของนางซีดเซียวเส้นผมสีทองดูยุ่งเหยิง นางถอนตัวออกจากการต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากได้รับสัญญาณเตือน

กระดองเต่าเซียนได้มอบคำทำนายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับนางแม้จะไม่สามารถตีความออกทั้งหมด แต่เมื่อกระดองเต่าเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเหมือนโลหิต พร้อมกับปรากฏตัวอักษรคำว่า ‘สือ’ สำหรับนางนี่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีงามอย่างแน่นอน

ตอนนี้ไม่ใช่แค่สือฮ่าวที่เดินออกมาเพียงคนเดียว อีกคนกำลังเดินออกมาข้างหน้าคือสือยี่ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

สือฮ่าวไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์เพียงคนเดียวที่มีแซ่สือแต่ยังมี สือยี่ชายผู้มีนัยน์ตาดำ2ดวง ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตำนานไร้พ่าย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสือยี่ค่อนข้างเก็บตัวจึงทำให้เขามีชื่อเสียงไม่โด่งดังเท่าที่ควรมีคนไม่มากนักที่ทราบว่าเขามีความแข็งแกร่งถึงขั้นไหน เป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้ต่อสู้มากนัก ทันใดนั้นมีชายหนุ่มอีกคนเดินเข้าไปในสนามประลอง

เขาคือฉินฮ่าว เขามาดูว่ากระดองเต่าเซียนจะเลือกเขาหรือไม่

ทำเอาหลายคนตกใจ ผู้ฝึกตนที่มาจากสามพันแคว้นต่างก็เข้าใจทันทีโดยตระหนักว่าไม่ใช่แค่สือฮ่าวและสือยี่ที่มีแซ่’สือ’แต่ยังมีอีกหนึ่งคน

ฉินฮ่าวน้องชายร่วมสายเลือดของสือฮ่าวซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความยินยอมจากผู้อาวุโสสำนักเซียนให้มาสังเกตการณ์การต่อสู้

ในช่วงแห่งความกดดันที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เขาไม่ได้พยายามที่จะพูดคุยเรื่องต่างๆกับสือฮ่าวพี่ชายของเขา เพียงแต่พยักหน้าจากระยะไกลให้กันเท่านั้น

นับตั้งแต่พวกเขามาถึงพรมแดนของสวรรค์สีชาด ผู้คนของเก้าสวรรค์สิบพิภพได้สูญเสียอย่างต่อเนื่อง ผู้กล้าหาญตกตายทีละคนทำให้จิตใจของทุกคนมืดมนอย่างยิ่ง คนส่วนใหญ่ที่นี่เงียบสงบไม่ปริปาก

ในระยะไกลกระดองเต่าเซียนกระพริบไปมาหมอกแห่งความโกลาหลกระจายออกไป ขอบฟ้ากลายเป็นหมอกทุกอย่างเข้าสู่ความโกลาหล

“ไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยนัก กระดองเต่าถูกย้อมด้วยเลือดบ่งบอกถึงความเสื่อมถอยและความตายเป็นลางแห่งโชคชะตาสถานการณ์ที่สิ้นหวังจะปรากฏขึ้น!” ถัดจากหุบเหวดำสิ่งมีชีวิตโบราณต่างถิ่นพึมพำเบาๆ

มันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก

ก่อนหน้านี้กระดองเต่าเซียนเป็นสมบัติวิเศษขั้นสูงสุดสามารถใช้ในการทำนายพยากรณ์แนวโน้มของโลกและชะตากรรมของแต่ละบุคคล ต่อมาในสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้ายมันถูกทำให้เสียหายกลายเป็นสมบัติผุๆพังๆคุณสมบัติของมันลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตามในบางครั้งมันจะปลดปล่อยจิตวิญญาณเปล่งประกายในตัวมันเอง แสดงการทำนายความลึกลับของสวรรค์ออกมา!

หลังจากที่กระดองเต่าเซียนแสดงคำทำนายของวิหคปีศาจทองคำด้วยสีแดงฉาน ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตโบราณก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขารู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายกำลังมาเยือนแล้ว!

สิ่งมีชีวิตโบราณเรียกวิหคปีศาจสีทองกลับมาในทันที วิหคปีศาจสีทองไม่รอช้าหลบหนีออกจากลานประลองด้วยความเร็วที่แม้แต่ตัวนางเองยังคาดไม่ถึง

เหล่าราชาหนุ่มสาวจากต่างมิติตกตะลึงสับสนเล็กน้อย กระดองเต่าเซียนทำนายได้อย่างแม่นยำจริงๆหรือ?

เป็นเพราะแม้ว่าวิหคปีศาจสีทองจะไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นนี้ แต่นางก็ไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอนถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่าราชาหนุ่มสาวหลายคนที่อยู่ที่นี่ หากนางไม่กลับมาจะมีอันตรายถึงชีวิตจริงหรือ!

หลังจากที่ วิหคปีศาจสีทองหลบหนีออกจากลานประลอง สีแดงที่เคยเคลือบอยู่บนกระดองเต่าเซียนก็ค่อยๆจางหายไป

“หืม! น่าแปลก?นี่มันทำนายได้ถูกต้องจริงๆ? หรือจะบอกว่าคน ๆ นั้นมีกรรมบางอย่างกับตระกูลวิหคปีศาจทองคำ?” สิ่งมีชีวิตโบราณต่างมิติกล่าวด้วยความสงสัย

จิ!

ในเวลานี้กระดองเต่าเซียนบินออกมาจากหมอกแห่งความโกลาหลพุ่งตรงไปที่สือฮ่าวอย่างไรก็ตามหลังจากลังเลเล็กน้อยมันก็บินต่อไป มาถึงด้านหน้าของสือยี่

“หือ? แล้วมันคือเขาจริงๆเหรอ” ทุกคนต่างประหลาดใจ

อย่างไรก็ตามมันยังคงไม่หยุด แต่กลับเคลื่อนที่ผ่านอากาศลอยอยู่เหนือศีรษะของฉินฮ่าว

ทำเอาหลายคนตะลึง ตกลงมันจะเลือกใคร?

ซิ่ว!

กระดองเต่าเซียนปรากฏต่อหน้าศิษย์คนหนึ่งจากสำนักปราชญ์แสงของมันริบหรี่ลงอย่างชัดเจนคราวนี้ไม่บินไปไหนอีกแล้ว

มันเลือกเขา!

ผลลัพธ์นี้เกินความคาดหมายของทุกคน จริงๆแล้วมันเป็นศิษย์จาก สำนักปราชญ์ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลแซ่สือทั้งสามคน

“แปลกประหลาดเกินไป!” สิ่งมีชีวิตโบราณต่างมิติพูดกับตัวเอง เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นผลลัพธ์เช่นนี้เช่นกัน

“เป็นไปได้ไหมที่คน ๆ นี้มีพลังมหาศาล” กลุ่มราชาหนุ่มสาวจากต่างมิติขมวดคิ้วเผยให้เห็นสีหน้าจริงจัง

สำนักเซียน, สำนักปราชญ์, เหล่าผู้อาวุโสตะกูลอมตะและคนอื่น ๆ ก็หรี่ตาเช่นกันโดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่

ตอนนี้กระดองเต่าเซียนกระพริบเลือกผู้แข็งแกร่งจากต่างมิติอีกด้านนึง นั่นคือหญิงสาวงดงามผมสีเงิน ไม่มีผู้ใดสนใจความแปลกประหลาดของกระดองเต่าเซียนเมื่อสักครู่แล้ว เพราะการต่อสู้ครั้งต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้น

“สังหารศัตรูต่างมิติ !” มีบางคนส่งเสียงให้กำลังใจ

ศิษย์ของสำนักปราชญ์คนนี้เป็นคนตรงไปตรงมามาก เริ่มโจมตีโดยใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มี ทุ่มเดิมพันลงไปในครั้งเดียว นี่เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะปกติแล้วเขาไม่ได้เผยโฉมต่อโลกมากนัก ทำให้เขาไม่ค่อยมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ในความเป็นจริงพลังฝีมือของเขาไม่ได้ด้อยกว่านักพรตซีกู้แม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดาย หญิงสาวเส้นผมสีเงินคนนี้แข็งแกร่งเกินไปน่ากลัวกว่าวิหคปีศาจทองคำเสียอีก การต่อสู้แทบจะเดาผลได้ในทันที

การต่อสู้ดำเนินไปเพียงร้อยกระบวนท่าอัจฉริยะของสำนักปราชญ์ใช้ทุกสิ่งที่เขาเรียนรู้ผลักดันญาณวิเศษล้ำค่าทุกชนิดที่เขาเข้าใจไปถึงจุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม…เขายังคงพ่ายแพ้!

ร่างของหญิงสาวผมสีเงินนั้นงดงามเกินจะพรรณนาการเคลื่อนไหวที่สง่างามแต่ละก้าวคล้ายดอกบัวบานญาณวิเศษส่องแสงภายใต้ผมยาวสลวยสีเงิน ทันใดนั้นเองนางชี้นิ้วออกด้วยมือขวา สัมผัสกับกระดูกหน้าผากของอัจฉริยะจากสำนักปราชญ์เบาๆ

เลือดทะลักออกมาดุจทำนบแตก อัจฉริยะของสำนักปราชญ์คนนั้นเบิกตากว้างและสูญเสียพลังชีวิตทั้งหมดเขาล้มลงนอนหงายกลางสนามรบนั้น

หญิงสาวหยุดมือในทันทีพร้อมหันหลังกลับ ผิวของนางซีดขาวราวหิมะความเย็นชาที่แฝงไปด้วยความรังเกียจ นางปฏิบัติต่อชัยชนะจากการต่อสู้ครั้งนี้ราวกับเป็นเรื่องที่ไม่ควรค่าต่อการใส่ใจ

“อ่อนแอเกินไปแม้แต่คนประเภทนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์? น่าหัวเราะเกินไป!” นางหันกลับมาเพียงเพื่อเหยียดหยามผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์จากเก้าสวรรค์สิบพิภพ

ทุกคนกำหมัดแน่นรู้สึกโกรธเกรี้ยวอยู่ภายใน การเสียชีวิตของคนข้างกายเป็นสิ่งที่เจ็บปวดและน่าเศร้าเสมอ แต่ตอนนี้พวกเขายังถูกอีกฝ่ายเยาะเย้ยเช่นนี้ ทุกคนแทบคลุ้มคลั่ง

“ขอทราบนามของเจ้า?” ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา

“หยินหลิงตระกูลราชันย์สีเงินจากหุบเขาโบราณ เจ้ารับไม่ได้เหรอ?” หญิงสาวผมสีเงินตอบโต้กลับมาอย่าหยิ่งผยอง

ในด้านของเก้าสวรรค์สิบพิภพผู้อาวุโสสองสามคนจากตระกูลอมตะสั่นสะท้านโดยรู้เกี่ยวกับตระกูลโบราณนี้มาบ้าง คนพวกนี้สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองให้เป็นโลหะสีเงินที่แข็งแกร่ง นับเป็นความสามารถที่ท้าทายสวรรค์อย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามตอนนี้หญิงสาวที่ชื่อหยินหลิงยังไม่ได้แสดงความสามารถด้านนี้ออกมาด้วยซ้ำ!

ในสนามรบผู้คนของ9 สวรรค์ 10 พิภพรู้สึกว่าจิตใจหนาวเหน็บ พวกเขาต่อสู้สามรอบติดต่อกันผู้กล้าหาญอายุเยาว์เสียชีวิตลงต่อเนื่องทั้ง 3 คนยังไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่รอบเดียวผลลัพธ์ที่ได้นั้นโหดร้ายเกินไป

หลังจากนั้นไม่นานกระดองเต่าเซียนก็ส่องแสงเลือกบุคคลที่สี่

"นั่นเขา!"

ใครบางคนร้องออกมา คราวนี้กระดองเต่าเซียนเลือกราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลัง หากไม่ใช่พ่ายแพ้ให้กับสือฮ่าว ก่อนหน้านี้เขาจะดั่งเป็นตำนานที่มีชีวิต มีเรื่องราวแปลกประหลาดตั้งแต่ที่เขาเกิดมา ตอนที่มารดาของเขาตั้งครรภ์เกิดแสงประหลาดสีม่วงวนเวียนอยู่รอบๆครรภ์ของนางอยู่หลายเดือนจนกระทั่งเขาถือกำเนิดขึ้น

หุบเหวสีดำอยู่ไม่ไกลเสียงการ่ำร้องบินออกมา เศษหินจำนวนมากระเบิดขึ้นจากพื้นพร้อมกับการปรากฏตัวของศัตรู

นี่เป็นสายพันธุ์ที่แปลกประหลาดโดยมีลำตัวเป็นตะขาบสีทองร่างกายยาวกว่าร้อยจ้าง เมื่อขานับร้อยวิ่งผ่านไปที่ใดทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายแหลกละเอียด

อย่างไรก็ตามมันมีขามนุษย์คู่หนึ่งซึ่งทำให้สามารถยืนบนพื้นได้ในขณะที่เคลื่อนไหว ตัวตะขาบถูกลากไปข้างหลังเหมือนหาง

นอกจากนี้ยังมีแขนคล้ายเคียวของตั๊กแตนตำข้าวคู่หนึ่งเป็นสีทองคมเหมือนใบมีดยาวสองเล่มปลดปล่อยความเย็นยะเยือก

สัตว์ประหลาดตัวนี้ทรงพลังอย่างแน่ชัดไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาจะเทียบได้ ร่างกายของตะขาบอาศัยขาของมนุษย์ในการเคลื่อนไหวลักษณะที่น่ากลัวสยดสยองยิ่ง

ปง ...

เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงชิงใช้ญาณวิเศษสีม่วงเข้มเข้าโจมตีตะขาบตัวนี้ก่อน

เคร้งเคร้ง ...

ร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตัวนี้เชื่อมต่อกันทีละข้อ ร่างกายสีทองเข้มของมันร่ำร้องราวกับเสียงโลหะกระทบกัน เคียว 2 เล่มพราวระยับอย่างหาที่เปรียบมิได้ ขาตะขาบขยับไปมาได้ปลดปล่อยรัศมีอันน่าสะพรึงกลัว

มันกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้าปะทะกับราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงโดยตรง!

ในระยะไกลใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลอมตะต่างแสดงออกอย่างจริงจัง

เป็นเพราะพวกเขาจำสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ได้ มันเป็นสัตว์ร้ายที่เรียกว่า ตั๊กแตนตำข้าวหางตะขาบ

นี่คือเผ่าพันธุ์ราชาที่เลือดเย็นที่สุดของอีกด้านหนึ่งวิธีการสังหารของเผ่านี้เต็มไปด้วยความชั่วร้ายที่สั่นสะเทือนโลก

แม้ว่าราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงจะทรงพลังไม่น้อย เขาใช้ยาณวิเศษสุดล้ำค่าที่สามารถเขย่าโลก แต่การโจมตีครั้งแรกของเขาถูกตั๊กแตนตำข้าวหางตะขาบใช้ร่างกายเข้ารับโดยไม่หวาดกลัว!

เคร้งเคร้ง

ถึงจะรับการโจมตีเข้าไปเต็มๆแต่ตั๊กแตนตำข้าวหางตะขาบก็ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

ทุกคนต่างหวาดผวา เผ่าพันธุ์นี้น่ากลัวเกินไปจริงๆแม้จะถูกโจมตีเข้าไปขนาดนั้นกลับไม่สามารถทำอันตรายมันได้แม้แต่น้อย

ตะขาบนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้าขาของมนุษย์เคลื่อนที่ไปมาตรงหน้าราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วง มันยกแขนรูปเคียวขึ้นปลดปล่อยปราณศักดิ์สิทธิ์สีทองเข้าใส่ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วง

การเคลื่อนไหวของมันรวดเร็วดุร้ายและที่สำคัญที่สุดคือแขนของตั๊กแตนตำข้าวของมันนำพาปราณเซียนที่แปลกประหลาดราวกับว่าจะทำให้ท้องฟ้าถล่มไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะได้ บดขยี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างไร้ความปราณี

ชูวา!

ท้องฟ้าถูกตัดเปิด ใบมีดทั้ง 2 เล่มแทงเข้าสู่ช่องว่างมิติบนท้องฟ้าด้านล่างหางตะขาบของมันฟาดเข้าใส่แผ่นดินจนแยกออกจากกัน

หลายคนสูดอากาศเย็นเข้าปอดใบหน้าของคนหนุ่มสาวทั้งหมดซีดเซียว ตั๊กแตนตำข้าวตัวนี้คู่ควรกับการเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตระดับราชาที่ทรงพลังที่สุดอยากจะหาคนจากฝั่งนี้ไปต่อกรได้

ในขณะนี้จิตใจของราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงเย็นเฉียบ เขาแสดงพลังสีม่วงจากญาณวิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไปกว่านั้นยังดึงพลังของเมล็ดพันธุ์โบราณสมบูรณ์แบบออกมาใช้อย่างไม่หยุดยั้งยังไม่สามารถสร้างแม้แต่รอยแผลให้กับตะขาบตัวนี้ได้

แดง!

ใบมีดถูกฟันลง เมล็ดพันธุ์พลังงานสีม่วงอันยิ่งใหญ่ถูกกระแทกสั่นสะเทือน ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงปัดป้องอย่างทุลักทุเล

อย่างไรก็ตามเมื่อดาบที่สองฟันลงมาเมล็ดพันธุ์เริ่มไม่เสถียรทันที!

"ตาย!"

ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงโกรธแค้นดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ พวกเขาไม่สามารถแพ้ได้อีกแล้ว! ไม่มีทางออกอื่นแต่เดิมเขาต้องการใช้การต่อสู้นี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้จิตแห่งเต๋าให้สมบูรณ์

การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สามารถเขย่าโลกปะทุขึ้นอีกครั้ง ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงไม่เคยต่อสู้อย่างหนักเท่านี้มาก่อนในชีวิตของเขา

คราวนี้เขารวบรวมพลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยใช้มาในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นเมล็ดพันธุ์ม่วงอันยิ่งใหญ่กับวิญญาณดั้งเดิมที่ไต่ไปถึงจุดสูงสุดต่างส่งพลังออกมาในการโจมตีครั้งนี้ หวังปิดชีพตะขาบในครั้งเดียว

มีคนเห็นว่าช่องว่างกระดูกหน้าผากของเขาลุกโชติช่วงเปลวไฟสีขาวเผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง นั่นคือแสงแห่งวิญญาณดั้งเดิมซึ่งกำลังแสดงพลังทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังที่สุด

สำหรับร่างกายของเขามันสั่นเล็กน้อย เขาเปิดเผยศักยภาพทั้งหมดทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อต่อสู้กับตั๊กแตนตำข้าวหางตะขาบโดยต้องการที่จะฆ่ามันที่นี่

การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้สวรรค์และโลกสั่นสะเทือนภูตเทพต่างร่ำไห้ ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงใช้ทุกอย่างที่เขามีไปกับการโจมตีในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามตั๊กแตนตำข้าวตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป!

แม้ว่าเขาจะใช้พลังจากเมล็ดพันธุ์สีม่วงอันยิ่งใหญ่ อีกฝ่ายก็ยังมีไพ่ลับที่สามารถต่อกรกับมันได้ มันท่องคาถาโบราณชนิดหนึ่งโดยไม่มีใครคาดคิดเพื่อรบกวนพลังของเมล็ดพันธุ์โบราณ

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันเกือบจะตัดความเชื่อมโยงระหว่างเมล็ดพันธุ์ล้ำค่ากับราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก

ทางด้านเก้าสวรรค์สิบพิภพใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกว่ามีปัญหาแล้ว ผู้คนจากอีกฝั่งประสบความสำเร็จในการค้นคว้าวิธีการจัดการกับเมล็ดพันธุ์โบราณ!

ในในการต่อสู้กระบวนท่าที่แปด ตั๊กแตนตำข้าวหางตะขาบก็อ้าปากพ่นของเล่นสีดำออกมา นี่เป็นวิชาลับของมันเองของเหลวที่สามารถกัดกร่อนทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ความว่างเปล่า

"แย่แล้ว!" มหาโสดาฉวีโต้วและคนอื่น ๆ ส่งเสียงร้องออกมา

ราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงกำลังถูกจัดการ!

ในขณะเดียวกันตั๊กแตนตำข้าวก็สวดคาถาด้วยเจตจำนงอันสูงส่งของมัน เขย่าสวรรค์และโลกรบกวนพลังของเมล็ดพันธุ์สีม่วงราวกับว่าประตูชีวิตของราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงติดขัดไม่สามารถเปิดออก

ปู!

จากนั้นแสงดาบส่องแสงริบหรี่สองเล่มก็ตัดไปทั่วท้องฟ้า ดาบนี้ตัดเข้าที่ร่างกายส่วนกลางของราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงจนแยกออกจากกัน

เปง!

ตั๊กแตนตำข้าวหางตะขาบลงมือปล้นเมล็ดพันธุ์พลังสีม่วงอันยิ่งใหญ่ยึดมันไว้เป็นของตนอย่างรวดเร็ว

ชัว!

แสงจากใบมีสีขาวฟันเข้าใส่ร่างกายของราชันย์สวรรค์อาทิตย์ม่วงนับร้อยครั้งร่างกายของเขากระจัดกระจายไปทั่ว แม้แต่ศีรษะยังถูกแบ่งออกเป็นชิ้นชิ้น

สนามรบเงียบสงัดไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ด้านข้างของเก้าสวรรค์สิบพิภพก็เงียบเช่นกัน สายตาของพวกเขามีเปลวไฟราวกับจะพุ่งออกมา อย่างไรก็ตามพวกเขาจะทำอะไรได้? พวกเขายังคงพ่ายแพ้อัจฉริยะผู้แข็งแกร่งที่สุดในวัยเยาว์คนหนึ่งได้ล้มลงไปแล้ว