ตอนที่ 25 - การต่อสู้ที่โหดร้ายและสิ้นหวัง
ตอนที่ 25 - การต่อสู้ที่โหดร้ายและสิ้นหวัง
สือฮ่าวไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องหนึ่งเพราะแม้ว่าเซียงเฟิงราชาผมสีแดงและผู้อาวุโสคนอื่นๆจะเสียชีวิตในสนามรบเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก แต่ตอนนี้สหายของเขากำลังต่อสู้เขาจะนั่งดูเฉยๆได้อย่างไร? เขาต้องการที่จะต่อสู้ในทันที!
“หากไม่มีกฎแล้วจะรักษาระเบียบได้อย่างไร!” ในอีกด้านหนึ่งเสียงตะโกนสั้น ๆ ถูกปล่อยออกมาราวกับกลองสวรรค์ดังกึกก้องกำลังจะทำให้จิตวิญญาณของสือฮ่าวถูกทำลาย
ในช่วงเวลาสำคัญแขนเสื้ออันกว้างใหญ่ของผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งขยับออกมาลบระลอกคลื่นแห่งความว่างเปล่าหยุดยั้งผลแห่งหายนะนี้
“เจ้าต้องการทำร้ายศิษย์ของข้า เจ้าต้องการให้ข้าสังขารเด็กๆพวกนี้ของเจ้าหรือไม่!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา
“ข้าแค่เตือนเขาว่ากฎถูกตั้งไว้แล้วไม่มีใครสามารถแก้ไขได้!”
ในอีกด้านหนึ่งร่างที่เหมือนซากศพที่อยู่ตรงกลางกล่าวเบาๆ
สือฮ่าวไม่ได้รับอันตราย วิญญาณดั้งเดิมของเขาทรงพลังกว่าแต่ก่อนมาก หลังจากผู้อาวุโสใหญ่ต่อต้านภัยพิบัตินี้ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายเหมือนสายฟ้า “นี่เป็นคำขอของข้า เจ้ากล้ายอมรับหรือไม่”
เขาจ้องไปที่งูยักษารวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่อยู่ข้างหลังเขา
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนพิเศษ? แต่เจ้าไม่มีเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบ แล้วทำไมข้าต้องให้โอกาสเจ้า? หลีกทาง!” งูยักษากล่าวอย่างเย็นชา
"เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ราชาอมตะ? เจ้ากำลังเพ้อฝันว่าสามารถต่อสู้กับราชาอย่างพวกเราได้!”
“เป็นเรื่องตลกจริงๆ เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับพวกเรา? หากเจ้าไม่มีเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบก็จงรีบไสหัวไป!”
ในอีกด้านหนึ่งปฏิกิริยาของสิ่งมีชีวิตพวกนั้นแตกต่างกัน บางคนหัวเราะปฏิบัติกับเขาอย่างไม่ให้ความสำคัญ บางคนก็ดุด่าอย่างเย็นชาเต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์ มีแม้แต่คนที่ไม่ต้องการเสียเวลาเงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำ
“กฎคือกฎ เว้นแต่เจ้าจะมีความสามารถในการแทรกแซงกฎให้รีบถอนตัวไม่เช่นนั้นอย่าโทษว่าข้าจะฆ่าเจ้า!” ผู้อาวุโสจากฝั่งตรงข้ามตักเตือน
ผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งถอนหายใจและส่งสัญญาณให้สือฮ่าวกลับมา กฎถูกกำหนดไว้แล้วตอนนี้สายเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ
“สวนคุน!”
ทางด้านเก้าสวรรค์สิบพิภพหลายคนร้องไห้ออกมาพร้อมกับความโศกเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เคยได้รับการฝึกฝนในสำนักเทพสวรรค์มาก่อน อัจฉริยะของรุ่นคนหนึ่งจากไปอย่างเงียบ ๆ เช่นนั้น
“น่าแค้นใจนัก!” หลายคนกัดฟันแน่นสวนคุนถูกฆ่าตายในสนามรบ แต่อีกฝ่ายยังคงแสดงความเหยียดหยามให้เขาได้ความอับอาย
เป็นที่น่าเสียดายแม้ฮวงยังถูกปฏิเสธเมื่อเขาต้องการที่จะขึ้นไปต่อสู้ พวกเขาทำได้เพียงรอให้กระดองเต่าเซียนเลือกคู่ต่อสู้เท่านั้น
สือฮ่าวรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม ความตั้งใจในการต่อสู้ของเขาพลุ่งพล่านเป็นเวลานานหวังว่าจะได้ขึ้นไปทันที เขาไม่เคยต้องการที่จะต่อสู้มากมายเท่ากับครั้งนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกผิดหวังแล้ว กระดองเต่าเซียนหมุนวนไปมา ในที่สุดก็บินมาอยู่ด้านหน้าของลู่หง
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งลู่หงก็เดินออกไป สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ร่างของนาง
“ลู่หงเจ้าต้องระวัง!”
“เจ้าสามารถเอาชนะมันได้แน่นอนฆ่างูยักษาตัวนั้น!”
จากด้านหลังกลุ่มคนตะโกน หวังอย่างยิ่งให้ลู่หงสามารถสังหารงูยักษาปีกสีเงินตัวนั้น มันเลวทรามเกินไปหลายคนต้องการแก้แค้นให้สวนคุน
ไม่ว่าสิ่งต่างๆจะเป็นอย่างไรก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งก่อนหน้านี้อย่างไร ตอนนี้ทุกคนมุ่งเป้าความแค้นไปที่ศัตรูร่วมหมายมั่นจะสังหารศัตรูต่างมิติพวกนี้ให้หมดสิ้นไป
ลู่หงมามาจากตระกูลลู่เป็นตระกูลอมตะที่ดำรงมาอย่างยาวนานเมล็ดพันธุ์โบราณที่นางได้รับคือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตมีพลังชีวิตมากมายมหาศาล ต่อให้นางเดินผ่านทะเลทรายที่แห้งแล้งที่นั่นก็จะกลายเป็นป่าอันเขียวขจี
มีผู้อาวุโสบางคนกล่าวว่าหากนางเกิดในยุคเซียนโบราณ สักวันนางจะต้องกลายเป็นราชาอมตะได้อย่างแน่นอน
“เด็กเอ๋ยเจ้าระวังให้มาก!” ผู้อาวุโสสองสามคนจากตระกูลลู่กล่าวด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
นี่ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนคำชี้แนะของผู้บ่มเพาะพลังเก้าสวรรค์สิบพิภพ แต่เป็นการต่อสู้เด็ดขาดที่มีผลเป็นตาย และมีผู้คนล้มตายจากการต่อสู้เป็นจำนวนไม่น้อยแล้ว
ลู่หงเป็นหญิงสาวที่งดงาม สีผิวขาวละเอียดอ่อนเส้นผมสีเขียวพริ้วสะบัดไปมาจากปราณต่อสู้ที่ถูกปลดปล่อย
“ข้าสัมผัสได้ถึงเมล็ดพันธุ์ที่มีค่าในตัวเจ้า!” ดวงตาของงูยักษาเปล่งประกายแวววาวหางของมันกระทบพื้นอย่างต่อเนื่องไม่สามารถระงับความปั่นป่วนภายในได้
"กลับมา." อย่างไรก็ตามในเวลานี้ร่างโบราณส่งเสียงสั่งให้งูยักษากลับไป
"ทำไม? ข้าอยากจะสู้กับนางนี่คือเหยื่อของข้า!” งูยักษาไม่เต็มใจที่จะยอมรับสิ่งนี้ มันอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญออกมา
“เจ้ากล้าตั้งคำถามกับข้า?” ร่างโบราณถามอย่างเย็นชา
“ข้าไม่กล้า!” งูยักษาตัวสั่นสะท้านเหงื่อไหลออกมา เป็นเพราะในต่างมิติมีลำดับชั้นที่แบ่งแยกชัดเจนมันย่อมไม่กล้ายั่วยุสิ่งมีชีวิตโบราณประเภทนี้อย่างแน่นอน
“เจ้าเป็นผู้ชนะมาแล้วครั้งหนึ่ง ให้คนอื่นได้ลองสัมผัสกับศัตรูบ้างเจ้ายังมีโอกาสในครั้งต่อไป” สิ่งมีชีวิตโบราณกล่าวเสียงเย็น
นี่คือการฝึกฝนคนของพวกเขาทำให้ราชาหนุ่มสาวทุกคนมีโอกาสต่อสู้ พวกเขาไม่รู้สึกถึงความกลัวใดๆ ที่เรียกงูยักษากลับก็เพียงเพราะเรื่องนี้
ในด้านของเก้าสวรรค์สิบพิภพใบหน้าของทุกคนดูน่าเกลียด แต่มันยากสำหรับพวกเขาที่จะพูดอะไร ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาค่อนข้างเลวร้ายพวกเขาประสบความสูญเสียมากเกินไป
หลังจากที่งูยักษากลับไปกระดองเต่าเซียนก็ส่องแสงอีกครั้ง ชิ้นส่วนที่ส่องประกายบินออกไปยังกลุ่มราชาหนุ่มสาวจากดินแดนแห่งความโกลาหล
“ข้าเองมันเลือกข้า! เฮ้ โชคดีอะไรอย่างนี้!” หญิงสาวผมสีทองหัวเราะคิกคักอย่างต่อเนื่อง ร่างของนางขยับไปมาขนหางสีทองด้านหลังส่องแสงราวกับนกยูงลำแพนเป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก
วิหคปีศาจทองคำ!
กระดองเต่าอมตะเลือกนาง
“ข้าโชคไม่ดีจริงๆ ทำไมไม่เป็นข้า”
“นี่เป็นเรื่องน่าเสียดายมากเกินไป เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตในตำนานไม่มีชะตากรรมกับข้าจริงๆ!”
ราชาคนอื่น ๆ บ่นอย่างไม่พอใจ
คำพูดเหล่านี้ทัศนคติแบบนี้ทำให้ผู้ฝึกฝนของเก้าสวรรค์สิบพิภพโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกเขาเลย
ลู่หงเข้าสู่สนามรบ ทุกคนจากตระกูลลู่ที่อยู่ด้านหลังรู้สึกราวกับว่าหัวใจของพวกเขาถูกบีบจนทะลักไปถึงลำคอเป็นกังวลอย่างยิ่ง พวกเขาไม่เคยคาดคาดคิดว่าคู่ต่อสู้ของนางจะเป็นวิหคปีศาจทองคำ
ต้องเข้าใจว่านี่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ทำให้ราชาอมตะโกรธแค้นโดยไม่สิ้นสุด ในตอนนั้นพวกเขาได้ทำร้ายผู้เชี่ยวชาญของเก้าสวรรค์สิบพิภพไปมากมาย
“ถ้าเจ้าเสนอเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตออกมาเองข้าสามารถละเว้นชีวิตเจ้าได้นะ!” วิหคปีศาจสีทองนั้นกล่าวออกมาตรงๆ ตอนนี้นางอยู่ในร่างมนุษย์ศีรษะของนางที่มีเส้นผมสีทองกระจัดกระจายสว่างไสวอย่างเหลือเชื่อ คำพูดของนางเต็มไปด้วยไอสังหาร
“ในตอนนั้นราชาอมตะได้กวาดล้างเผ่าพันธุ์ของเจ้า ใครจะไปคาดคิดว่ามีปลาบางตัวหลุดรอดจากอวนไปได้!” ลู่หงสวนกลับอย่างเจ็บแสบ
“เจ้าช่างกล้าหาญที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา!” วิหคปีศาจสีทองโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริงร่างสูงเพรียวของนางเคลื่อนไหวตรงไปที่ลู่หง
ในยุคสงครามเซียนโบราณเผ่าพันธุ์วิหคปีศาจสีทองถูกกวาดล้างอย่างราบคาบ ราชาอมตะรู้สึกว่าพวกมันสร้างหายนะมากเกินไปเขาจึงพกพากระดิ่งเซียนของเขาบุกเข้าไปในโลกอีกด้านหนึ่งโดยลำพังเปลี่ยนดินแดนบรรพบุรุษของวิหคปีศาจสีทองให้กลายเป็นซากปรักหักพังกวาดล้างพวกมันให้หมดสิ้น
ฮ่อง!
การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้นวิหคปีศาจสีทองเผชิญหน้ากับลู่หง เป็นการต่อสู้ที่รุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันโดยไม่สนความปลอดภัยของตัวเอง
ปราณเซียนแผ่ซ่านไปในอากาศพลังชีวิตพุ่งพล่านแม้ในช่องว่างของมิติที่ถูกทำลาย เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากหยั่งรากในช่องว่างมิตินั้น พวกมันเติบโตในท้องฟ้าเบื้องบนปลดปล่อยแสงล้ำค่าส่องสว่างทั่วสนามรบ
เถาวัลย์ขนาดยักษ์และสิ่งอื่นๆ เติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พวกมันคดเคี้ยวเข้าหาวิหคปีศาจทองคำ ทะเลสิ่งมีชีวิตสีเขียวมากมายมหาศาลที่เพิ่มขึ้นอย่างทรงพลังปิดผนึกวิหคปีศาจทองคำไว้ภายใน
กรูรรร!
จู่ๆก็มีเสียงร้องดังขึ้นทำให้พลังชีวิตทั้งหมดของลู่หงขาดหายไป ร่างกายของลู่หงสั่นอย่างรุนแรงนางกระอักเลือดออกมาจำนวนมาก วิญญาณดั้งเดิมของนางเริ่มมืดสลัว
เสียงนั้นบาดหูไม่น่าฟังอย่างยิ่ง ในที่สุดวิหคปีศาจทองคำก็แสดงความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ออกมาแล้ว มันน่ากลัวมากจริงๆ
เพียงแค่เสียงดังเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะญาณวิเศษสุดทรงพลังเกือบจะทำให้วิญญาณดั้งเดิมถูกทำลาย!
นี่คือจุดที่วิหคปีศาจสีทองน่ากลัวอย่างที่สุด ด้วยการส่งเสียงร้องเพียงครั้งเดียวมันสามารถทำร้ายศัตรูทุกคนที่อยู่รอบตัว ในสงครามขนาดใหญ่พลังทำลายล้างของสิ่งนี้จะยิ่งส่งผลมากกว่าเดิมสนามรบทั้งหมดจะอยู่ในระยะของการโจมตีนี้
“ลู่หง!”
หลายคนร่ำร้องโวยวายทางด้านหลังรู้สึกกังวลอย่างเหลือเชื่อ ตระกูลลู่ยิ่งสั่นสะท้าน ในใจหวังว่าพวกเขาจะสามารถรีบเข้าไปช่วยเหลือในทันที อย่างไรก็ตามมีสิ่งมีชีวิตโบราณที่แข็งแกร่งควบคุมการต่อสู้อยู่แล้วใครจะกล้ากระทำโดยประมาท? พวกมันย่อมต้องฆ่าทุกคนที่พยายามแทรกแซงการต่อสู้
ร่างกายของลู่หงสั่นไหววิญญาณดั้งเดิมหมดประกาย ข้อได้เปรียบที่สุดของนางคือพลังชีวิต ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงไม่ตายตั้งแต่การโจมตีครั้งแรก นอกจากนี้นางยังทำการโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง
“ช่างน่าเสียดายที่พลังชีวิตของลู่หงนั้นแข็งแกร่งมาก แต่มันไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้” ใครบางคนกล่าวเงียบ ๆ
เมื่อเทียบกันแล้วนางมีพลังเหนือกว่าสวนคุนแน่นอน อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของนางไม่เพียงพอที่จะทำให้นางไร้เทียมทานภายใต้ท้องฟ้านี้
เหล่าผู้อาวุโสทราบดีว่าเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตนั้นยอดเยี่ยมเพียงไหน แต่คุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของมันเหมาะสำหรับการช่วยเหลือผู้อื่นในการต่อสู้เป็นกลุ่ม
ลู่หงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้คนใน 9 สวรรค์ 10 พิภพนางอาจจะสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยมในอนาคต
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป เห็นได้ชัดว่าวิหคปีศาจทองคำไม่สามารถใช้เสียงประเภทนั้นได้อย่างต่อเนื่องเช่นกันเพราะมันใช้พลังมากเกินไป นั่นเป็นเหตุผลว่าหลังจากที่ใช้เสียงร้องในครั้งนั้นแล้วนางก็ได้ใช้วิธีอื่นในการต่อสู้กับลู่หง
กรูรร!
เมื่อผ่านไป 300 กระบวนท่าในที่สุดวิหคปีศาจทองคำก็ปลดปล่อยเสียงปีศาจอีกครั้ง มันกระแทกใส่ลู่หงเต็มๆทำให้นางกระอักเลือดออกมาไม่หยุดหว่างคิ้วของนางปรากฏรอยแตกที่กระดูกหน้าผาก
ลู่หงส์ได้รับบาดเจ็บสาหัสวิญญาณดั้งเดิมของนางได้รับความเสียหาย!
นางก็พยายามอดทนอย่างถึงที่สุด
ปู!
อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของลู่หงนั้นหนักหนาเกินไป ภายใต้การโจมตีที่บ้าคลั่งของวิหคปีศาจทองคำนางได้กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อผ่านไป 600 กระบวนท่า ลู่หงเริ่มค่อยๆฟื้นตัวอีกครั้งด้วยพลังชีวิตอันน่าตกใจ
กรูรรร!
เสียงปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง
แม้ว่าลู่หงจะป้องกันตัวเองด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันเข้มข้นแล้ แต่นางก็ยังไม่สามารถหยุดเสียงนี้ได้ เสียงปีศาจก่อตัวเป็นระลอกทำให้กะโหลกของนางแตกร้าวเกือบจบชีวิตลงไปทันที
“ข้าไม่เชื่อว่าจะฆ่าเจ้าไม่ได้!” ในเวลานี้แม้แต่วิหคปีศาจทองคำก็รู้สึกเคร่งเครียดไม่น้อย นางไม่เคยคิดว่าจะได้พบกับคู่ต่อสู้ประเภทนี้ พลังชีวิตของลู่หงมีมากเกินไปและมันเป็นปัญหาอย่างมากในการต่อสู้
โชคไม่ดีที่ลู่หงไม่มีญาณวิเศษประเภทโจมตีที่มีพลังมากพอ เลยไม่สามารถทำให้สถานการณ์ย้อนกลับ
กรูรร!
ในกระบวนท่าที่เก้าในร้อยวิหคปีศาจสีทองก็ปลดปล่อยแสงที่พร่างพราวที่สุดออกมามันเผยให้เห็นรูปร่างของนางที่แท้จริงโดยตรง กลายเป็นนกปีศาจทองคำยาวนับร้อยจ้างปล่อยเสียงร้องปีศาจที่อันทรงพลังกว่าเดิมนับสิบเท่า
ปู!
ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เสียงปีศาจดังทะลุช่องว่างระหว่างคิ้วของลู่หง
ยิ่งไปกว่านั้นขนนกสีทองถูกยิงออกไปรวมแล้วกว่าร้อยเส้นแทงทะลุส่วนต่างๆของร่างกายของลู่หง นางตกลงไปในสนามรบที่หนาวเหน็บและรกร้างโลหิตไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
“อา…” จากด้านหลังหลายคนร้องออกมา คนของตระกูลลู่ยิ่งคลุ้มคลั่งไปแล้ว
การต่อสู้จบลงเพียงเท่านี้
จิ!
คลื่นแสงสีเลือดพุ่งขึ้น แม้ว่าวิหคปีศาจทองคำจะเหนื่อยล้า แต่มันก็ยังรีบควักเอาเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบออกจากร่างกายของลู่หงภายในนั้นมีพลังชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เมล็ดพันธุ์นั้นต้องการที่จะหลบหนี แต่หลังจากวิหคปีศาจทองคำท่องคาถาบางอย่างมันก็ค่อยๆสงบลง
ทางด้านเก้าสวรรค์สิบพิภพทุกคนต่างพากันสั่นสะท้าน ฝ่ายตรงข้ามมีวิธีการจัดการกับพวกเขาอย่างง่ายดาย การศึกษาค้นคว้าของพวกเขาเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์โบราณที่สมบูรณ์แบบมาถึงระดับที่น่าตกใจ
ในระยะไกลกระดองเต่าเซียนส่องแสงและปลดปล่อยความงดงามที่ชัดเจน
วิหคปีศาจสีทองสะท้านใจรู้สึกถึงคลื่นแห่งความกลัว ใบหน้าของนางซีดเซียวลงทันที เป็นเพราะสีแดงที่น่าดึงดูดปรากฏขึ้นบนกระดองเต่าเซียน
“ผู้ใด...เเซ่สือ” เสียงของนางสั่นสะท้าน
“สัญญาณมรณะสัญลักษณ์แห่งความตาย!” ที่ด้านหลังแม้แต่สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสามก็ยังตกตะลึงไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นสถานการณ์แบบนี้โดยตรง หนึ่งในนั้นตะโกนว่า "รีบถอนตัวกลับมา!"
“ข้านี่แหละแซ่สือ!” ไม่ห่างออกไปสือฮ่าวส่งเสียงคำรามต่ำเหมือนสัตว์ร้ายพร้อมกับบินมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาต้องการขึ้นสู่สนามรบอย่างแท้จริง ตอนนี้ถึงคราวที่เขาจะลงมือหรือยัง?