ตอนที่ 20 - จู้ซานเหอ
ตอนที่ 20 - จู้ซานเหอ
เสียงสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน กึกก้องพรมแดนของสวรรค์สีชาด
เมื่อสิ่งมีชีวิตตัวนั้นเดินข้ามจากเหวสีดำพื้นดินก็สั่นสะเทือนเล็กน้อยร่างของมันหดตัวลงจนมีขนาดเท่าคนปกติถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ แต่มีชั้นของแสงสีเลือดจางๆกลายเป็นวงแหวน
นี่คือแหวนโลหิตศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ามันเคยสังหารสิ่งมีชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วน!
ในขณะเดียวกันทางฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพหลายคนมองไปยังสถานที่ที่เสียงนั้นถูกปล่อยออกมา มันเป็นเรือโบราณทองแดงเด็กรุ่นหลังต่างอยู่ที่นั่น
ทุกคนมองไปที่สือฮ่าวแต่เจ้าของเสียงนั้นไม่ใช่เขา
อีกด้านหนึ่งมีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนเทพปีศาจมากมายกำลังจ้องมองไปที่สถานที่แห่งนี้
“พวกเจ้ากำลังดูอะไรอยู่? ตาของเจ้าคดเคี้ยวไปหมดหรือยังไง? ราชาคนนี้อยู่ที่นี่แล้ว!” เสียงดังเหมือนฟ้าร้องที่มาจากไหล่ของสือฮ่าไม่ใช่ปากของเขา
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ มีคนอื่นอยู่ด้านหลังของเขา!
หลายคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดดวงตาสวรรค์มองไปยังทิศทางนั้นอย่างระมัดระวัง เป็นเพราะสิ่งมีชีวิตที่อ้าปากพูดได้นั้นตัวเล็กเกินไป
มดเขาสวรรค์นี่คือผู้ที่คำรามออกมาโดยต้องการต่อสู้กับผู้บ่มเพาะต่างมิติ
มันมีความเกลียดชังต่อสิ่งมีชีวิตอีกฝั่ง พ่อแม่พี่น้องของมันถูกเฮ่ออู๋ซวงฆ่าตายอาจกล่าวได้ว่าในสายเลือดของมันนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อสิ่งมีชีวิตต่างมิติ
สิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่ข้างเหวลึกสีดำต่างมองมาอย่างเย็นชา หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างไร้อารมณ์ขึ้นว่า“ มดเขาสวรรค์ยังไม่ถูกกำจัดหมดไป?
“เผ่าพันธุ์มดเขาสวรรค์ของข้ามีมาตลอดทุกยุคทุกสมัย แล้วพวกเราจะสูญพันธุ์ไปได้ยังไง? รอให้ข้าโตขึ้นก็จะข้ามไปตัดคอพวกเจ้าทุกคน!” มดน้อยสีทองร้องเสียงดัง
“ไม่มีใครจากฝั่งนั้นอีกแล้วหรือแม้กระทั่งปล่อยให้แมลงที่ยังไม่โตเต็มที่ออกมาต่อสู้” มีคนพูดอย่างเย็นชาจากข้างเหวสีดำ
บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นคนใจแข็งมีคำพูดไม่กี่คำ แต่เมื่อใดก็ตามพี่พวกเขาเอ่ยปากมักจะจี้เข้าใจดำของผู้ฟัง จากความพ่ายแพ้ในรอบแรกมันเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจากเก้าสวรรค์สิบพิภพจะตอบกลับไป
“ไร้สาระ ราชาคนนี้นี้ได้รับการบ่มเพาะมายี่สิบปีอย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต่ำกว่า 17 18 ปี…ใครจะกล้าสู้กับข้า?” มดเขาสวรรค์ยังร้องเสียงดัง
ทุกคนพูดไม่ออก แม้ว่าเวลาการบ่มเพาะของมันจะลดลง แต่ทายาทของสิบอสูรตัวนี้จะเชื่อถือได้จริงหรือ?
“อย่าสร้างปัญหา!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวเสียงเย็น ไม่ปล่อยให้มันพูดต่อไป
แรงจูงใจของมดตัวน้อยอาจจะดี มันอยากจะต่อสู้และเอาชนะศัตรู แต่มันก็ยังไม่โตเต็มที่ยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรุ่นหลัง ยังไม่ถึงคราวที่จะขึ้นไป
“ข้าแค่อยากจะสู้!” มดตัวน้อยดื้อมาก
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของเจ้ารอให้ผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสออกไปจนหมดสิ้นเสียก่อนจะถึงเวลาของเจ้าอย่างแน่นอน” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว
บนเรือรบสิ่งมีชีวิตหนุ่มสาวทุกคนต่างสั่นสะท้าน พวกเขากำหมัดแน่นมองไปยังพื้นที่สีดำมีหมอกปกคลุมภายในซากปรักหักพัง
“มีใครกล้าต่อกรกับข้าไหม” สิ่งมีชีวิตในความมืดนั้นพูดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อศัตรูจากอีกด้านหนึ่งท้าทายออกมาไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยมดตัวน้อยออกไปต่อสู้
“ข้าจะสู้กับเขาเอง!”
ในเวลานี้ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินออกมาจากเรือของสำนักเซียนผิวของเขาเหลืองซีดผมขาวอมเทาร่างกายเหี่ยวแห้ง เขาเดินเข้าไปทีละก้าว
ไม่จำเป็นต้องวิ่งพวกเขาไม่มีทางหลีกเลี่ยงการต่อสู้นี้ได้ ฝั่งตรงข้ามออกมาแล้วหากไม่มีผู้คนจากเก้าสวรรค์สิบพิภพออกไปมันจะเป็นการทำลายขวัญกำลังใจฝั่งของตัวเอง!
คนๆนี้เป็นใคร? หลายคนมองไปในทิศทางนั้น
เขาไม่ได้มีปราณที่ดุดันแต่เป็นเหมือนกับนักบวชที่มีอาการป่วยเล็กน้อย ผิวของเขาเป็นสีเหลืองซีดเซียวร่างกายดูไม่แข็งแรง
หลายคนเดาตัวตนของเขา รู้สึกว่าเขาไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนมิฉะนั้นเขาคงไม่กล้าเป็นตัวแทนของคนรุ่นนี้ออกไปต่อสู้
“จู้ซานเหอ!”
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครจำเขาได้เลย มีบางคนที่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาโดยตระหนักถึงตัวตนของผู้อาวุโสผิวเหลืองซีดคนนี้และพูดชื่อของเขา
“จู้ซานเหอเขาเป็นใคร? ทำไมข้ารู้สึกว่าชื่อนี้ค่อนข้างคุ้นเคย แต่ก็จำไม่ได้” ใครบางคนกล่าวอย่างเงียบ ๆ
บุคคลนี้มีความพิเศษอย่างแน่นอน แต่ชื่อเสียงของเขาดูเหมือนจะไม่โดดเด่นขนาดนั้นหลายคนจำไม่ได้ว่าเขาประสบความสำเร็จแบบไหน
“จู้ซานเหอที่ปราณของเขาสามารถดูดกลืนพลังของขุนเขาและทะเล!”
“ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผู้กล้าหาญรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นเหมือนดวงอาทิตย์ เพียงแต่มันสั้นมากเหมือนดาวหางที่บินผ่านท้องฟ้าและหายไปอย่างรวดเร็ว”
หลังจากได้รับการเตือนความทรงจำหลายๆคนก็จำได้ว่าจู้ซานเหอคือใคร
เขาเป็นผู้กล้าหาญที่น่าทึ่งที่ได้รับการเลี้ยงดูจากสำนักเซียนสติปัญญาของเขาเป็นที่เลื่องลือมากที่สุด ต่อมามีบางสิ่งเกิดขึ้นซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ
ในความเป็นจริงเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนหลายคนไม่เพียงแต่จู้ซานเหอ แต่ยังรวมถึงราชาแห่งยุคอีกสองสามคนด้วย
ในปีนั้นจูซานเหอและคนอื่นๆ อีกแปดคนเข้าสู่พื้นที่ต่างมิติสุดแสนอันตรายในเก้าสวรรค์ด้านบนเพื่อค้นหาอาวุธที่ราชาอมตะทิ้งไว้ข้างหลังก่อนเข้าร่วมสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้ายรวมทั้งสำรวจตำนานบางอย่าง คนเหล่านี้อาจกล่าวได้ว่าไร้เดียงสาเกินไปเฉกเช่นโคถึกไม่กลัวพยัคฆ์
เมื่อพวกเขาเข้าไปในพื้นที่ต่างมิตินั้นก็เท่ากับเดินเข้าสู่ความตาย
ในท้ายที่สุดมีเพียงจู้ซานเหอคนเดียวเท่านั้นที่รอดกลับมา อีก 7 คนที่เหลือต่างตายหมดสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นจู้ซานเหอยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยากที่จะรักษา จากนั้นชื่อเสียงของเขาก็ค่อยๆหายไป
มีบางคนบอกว่าเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมากเกินไปทำให้จิตใจของเขาแตกร้าวไม่สามารถต่อสู้ในฐานะผู้เข้มแข็งได้อีก มีบางคนบอกว่าการตายของสหายทำให้เขาเสียสติไป
ต้องเข้าใจว่าทั้งเจ็ดคนนั้นไม่เคยกลับออกมาพวกเขาทั้งหมดเป็นดาวจรัสฟ้าในยุคนั้น หนึ่งในนั้นถึงกับเป็นคู่ต่อสู้ที่ยืนเคียงข้างจู้ซานเหอมาโดยตลอด
จู้ซานเหอที่ถูกคนลืมมาตลอดห้าแสนปีกำลังเดินเข้าหาศัตรูด้วยความกล้าหาญ
“ซานเหอร่างกายของเจ้ามีปัญหามาโดยตลอดมันไม่เคยได้รับการรักษา!” ผู้อาวุโสของสำนักเซียนรู้สึกกังวล
“ข้าสู้ได้!” จู้ซานเหอกล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยปราณสีแดง ที่มุมปากของเขาก็มีโลหิตไหลออกมา
จิตใจของทุกคนจมดิ่งลงทันที เขายังไม่ได้ลงมือแต่อาการบาดเจ็บของเขาก็ปรากฏขึ้นแล้ว เขาจะสู้ศึกครั้งใหญ่นี้ได้อย่างไร?
“ซานเหอพอได้แล้ว!อาการบาดเจ็บของเจ้าจะทำให้เจ้าตายออกไปสู้” ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเซียนหยุดเขาโดยตรง
นี่มันอาการบาดเจ็บแบบไหนกันนะที่ใช้เวลาห้าแสนปียังรักษาไม่ได้? แม้แต่ผู้อาวุโสที่ทรงพลังของสำนักเซียนก็ไม่มีวิธีการรักษา?
“ไม่เป็นไรข้าสู้ได้ แม้ว่าความเจ็บป่วยนี้จะอยู่กับข้าตลอดเวลา แต่มันก็เป็นหินลับคมที่ดีที่สุด มันจะไม่ส่งผลต่อการต่อสู้ครั้งนี้”จู้ซานเหอยืนยันที่จะไปต่อ
"ข้าเข้าใจแล้ว. นี่เป็นความเจ็บป่วยที่ถูกทิ้งไว้จากแดนลับของเก้าสวรรค์ชั้นบนข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยถูกโจมตีจากเพลิงแห่งความตายมีเพียงเขาเท่านั้นที่รอดกลับมาได้” ใครบางคนกล่าวเบาๆ
ในขณะเดียวกันทุกคนก็ถอนหายใจ เหตุผลที่จู้ซานเหอต้องต่อสู้ไม่ใช่เพราะเขาดื้อรั้นจนถึงขีดสุด แต่เป็นเพราะถ้าคนอื่นออกไปพวกเขาก็น่าจะประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่แน่นอน
อย่างไรก็ตามเขาเคยเป็นอันดับหนึ่งของคนรุ่นนั้นและแม้ว่าร่างกายของเขาจะมีปัญหามานานหลายปี แต่การฝึกฝนของเขาก็ไม่เคยหยุดนิ่งดังนั้นโอกาสที่จะได้รับชัยชนะจะมีมากขึ้นเล็กน้อย
เขามุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพียงเพราะไม่มีทางอื่นให้เดิน เขาต้องการต่อสู้ในครั้งนี้!
อีกด้านหนึ่งในส่วนลึกของหุบเหวสีดำสิ่งมีชีวิตตัวนั้นเดินออกมา เสียงฝีเท้าหนักหน่วงราวกับว่ามันกำลังเดินอยู่ในหัวใจของทุกคน
อา...
มีใครบางคนไม่สามารถต่อต้านมันได้อีกต่อไปแล้ว ปล่อยเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด เสียงฝีเท้าเหล่านี้น่ากลัวเกินไปทำให้หัวใจของทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังจะแหลกสลายราวกับว่ามันเป็นหน้าอกของพวกเขาที่กำลังถูกเหยียบลง ความเจ็บปวดที่ได้รับยากจะทนได้
เลือดไหลออกมาจากปากของคนจำนวนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากเสียงฝีเท้า!
ฮือ!
จู้ซานเหอเดินออกไป ด้วยการสะบัดแขนเสื้อกว้างใหญ่ของเขาลมพายุโหมกระหน่ำไปตามแรงแขนเสื้อทำให้เกิดมิติบิดเบี้ยวตัดเสียงฝีเท้าไปในทันที
“แหวนโลหิตศักดิ์สิทธิ์” จู้ซานเหอมองไปที่สิ่งมีชีวิตอีกด้านหนึ่งที่มีหมอกสีดำล้อมรอบตัวของมันยิ่งมีวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อตัวขึ้นจากปราณโลหิตสีแดงเข้มราวกับว่ามันถูกควบแน่นจากเลือดของเทพเจ้า
นี่เป็นผลมาจากการเข่นฆ่า แหวนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ถูกสร้างจากแก่นโลหิตของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนหลังจากที่ถูกฆ่าโดยบุคคลนี้
"มา!" สิ่งมีชีวิตต่างมิติพูดขึ้น มันมีร่างกายคล้ายมนุษย์ปราณโลหิตที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
ฮ่อง!
การต่อสู้ปะทุขึ้นเช่นเดียวกับที่สวรรค์และโลกถูกถล่ม
ภูติเทพต่างร่ำไห้คร่ำครวญทันทีที่พวกเขาปะทะกัน
การเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วเกินไปหลายคนมองไม่เห็นว่าพวกเขาโจมตีกันอย่างไร เห็นเพียงรอยแยกของมิติขยายออกไปทีละแห่งบนท้องฟ้าเหมือนดาวตกบินผ่านพร่างพราวสุกใส
การโจมตีครั้งนี้ของ 2 ผู้แข็งแกร่งรุนแรงเกินไปจนแม้กระทั่งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ต้องหม่นประกายแสง
คชา!
สายฟ้าสีดำสอดประสานมวลเมฆปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ฝนโลหิตจำนวนมากเทลงมาปกคลุมโลกใบนี้เป็นจนสีแดงสด
มันเป็นฝนโลหิตที่แท้จริง เป็นโลหิตที่เกิดจากสวรรค์ร้องไห้!
ทั้งหมดเป็นเพราะการปะทะกันของบุคคลทั้งสองรุนแรงเกินไปทำให้วิญญาณโบราณ วิญญาณวีรชนที่เสียชีวิตที่ชายแดน ทำให้วิญญาณของผู้แข็งแกร่งที่เสียชีวิตไปอย่างไร้ประโยชน์ปรากฏขึ้นอีกครั้งร้องไห้และโหยหวนไปพร้อมกับพวกเขา
มีไม่กี่คนที่สามารถสัมผัสได้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีเพียงวีรบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่ทำได้
เห็นได้ชัดว่าจู้ซานเหอและคู่ต่อสู้ของเขามีความพิเศษทำให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์นี้
การต่อสู้ดำเนินมาถึงหนึ่งร้อยร้อยห้าสิบกระบวนท่า...
ทั้งสองปะทะกันทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกำลังจะถึงสองร้อยกระบวนท่าในพริบตา ญาณวิเศษทุกประเภทถูกใช้ออกมาปะทะกันทั้งสองต่อสู้เพื่อชีวิตและความตาย
“แค่ก” จู้ซานเหอไอออกมาเป็นเลือดใบหน้าของเขากลายเป็นสีเหลืองขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ยังห่างไกลจากคำว่าดี
“จบกันเถอะ!” สิ่งมีชีวิตประหลาดตะโกน วงแหวนสีเลือดรอบๆตัวมันกลายเป็นอาวุธพุ่งขึ้นไปยังจู้ซานเหอ
เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยง ด้วยเสียงไอทำให้จู้ซานเหอพัวพันกับร่างแยกของสิ่งมีชีวิตต่างมิติ
“ทำไมไม่สามารถหลบหลีกแหวนศักดิ์สิทธิ์สีเลือดนี้ได้?” คนด้านหลังส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก จากนั้นจิตใจของพวกเขาก็เศร้าสลดทันที นี่เป็นอีกคนที่กำลังจะตายที่นี่?
เซียงเฟิงเสียชีวิตในสนามรบส่งผลให้พวกเขาสูญเสียความมั่นใจ ถ้า จู้ซานเหอเสียชีวิตด้วยจะเป็นปัญหาร้ายแรงยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แม้กระทั่งอันดับหนึ่งจากห้าแสนปีก่อนก็ยังไม่อาจเอาชนะผลลัพธ์นั้นจะทำให้พวกเขารู้สึกขมขื่นเกินไป
วงแหวนโลหิตได้จำกัดความเคลื่อนไหวของจู้ซานเหอไว้อย่างมาก มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ในอีกด้านหนึ่งสัตว์ตัวนั้นส่งเสียงคำราม ร่างกายของมันกระโจนขึ้นฟ้า กรงเล็บพุ่งตรงไปที่กระหม่อมของจู้ซานเหอหากการโจมตีครั้งนี้ประสบผลมันจะทำลายวิญญาณดั้งเดิมของเขาโดยตรง
จิ!
ในเวลานี้ร่างกายสีเหลืองซีดของจู้ซานเหอก็เปลี่ยนไปโดยไม่คาดคิดเขาปลดปล่อยปราณสีดำและสีขาวออกมา แหวนศักดิ์สิทธิ์สีเลือดก็ถูกทำลายโดยง่ายดาย จากนั้นเขาก็เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ของเขาโดยไม่มีสิ่งรบกวน
ปู!
เลือดสาดกระจายออกไปด้านนอก สิ่งมีชีวิตตัวนั้นส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวและหวาดกลัวต้องการที่จะหลบหนีให้เร็วที่สุด
แต่มันสายเกินไป ปราณสีดำและสีขาวฉีกร่างของมันโดยตรงเริ่มจากช่องว่างระหว่างคิ้วและขยายลงไปจนสุด ร่างของมันแหลกเป็นชิ้น ๆ
"นั่นมันอะไร?" หลายคนส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก
ไม่มีใครคาดคิดว่าจู้ซานเหอ จะพลิกสถานการณ์ได้สำเร็จนี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง
จากนั้นผู้คนของเก้าสวรรค์สิบพิภพก็ส่งเสียงเชียร์ทันทีชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้มาง่ายๆ
ปู!
จู้ซานเหอพ่นเลือดออกมาจากปากร่างกายของเขาขาดความสดใส ผิวของเขาเหมือนกระดาษสีเหลืองห่อหุ้มกระดูกของไว้ มันแห้งเหี่ยวและขาดพลังแก่นแท้ร่างกายของเขาล้มไปด้านหลัง
เสียงเชียร์หยุดลงทันทีหลายคนจากสำนักเซียนรีบไปช่วยเหลืออย่างไม่รอช้า
“น่าสนใจจริงๆร่างกายของเขากลับมีทั้งพลังชีวิตและพลังความตายพวกมันไม่ได้ทำลายซึ่งกันและกันแต่กับอาศัยอยู่ในร่างของชายคนนี้แทน นับเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน”
เสียงนี้ดังมาจากก้นเหวสีดำเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ก็เหมือนกับว่าเขากำลังถอนหายใจ
แม้แต่คนๆ นั้นก็ยังบอกว่ามันเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนแสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของจู้ซานเหอ
“ ซานเหอเลี้ยงดูและปรับแต่งพลังแห่งชีวิตและความตายไว้ในร่างของตัวเองหวังใช้เป็นอาวุธนี้ความเหน็ดเหนื่อยตลอดห้าแสนปีของเขาออกดอกออกผลแล้ว
“ไม่คาดคิดเลยว่าผู้ฝึกฝนห้าแสนปีในดินแดนของข้า ทั้งเคยอยู่ในอันดับที่สิบเอ็ดเมื่อตอนที่เขายังเด็กจะถูกฆ่าเช่นนี้” มีใครบางคนก่อนหน้าเหวสีดำถอนหายใจ
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ใบหน้าของผู้ฝึกฝนจากสำนักเซียนสำนักปราชญ์และผู้อาวุโสจากตระกูลอมตะก็มืดครึ้มลง
จู้ซานเหอนี่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกเมื่อห้าแสนปีก่อน แต่เขาชนะได้แค่คนที่อยู่ในอันดับที่สิบเอ็ดในอีกด้านหนึ่งเท่านั้น?
แม้ว่าเขาจะได้รับชัยชนะ แต่ทุกคนก็รู้สึกเหมือนจิตใจของพวกเขาหนักขึ้นเรื่อยๆมีความกดดันมากเกินไป
ในเวลานี้ที่ด้านข้างของหุบเหวสีดำปราณที่ทรงพลังพลันพุ่งสูงขึ้น สิ่งมีชีวิตสามตัวเดินโผล่ออกมาจากความมืดและมาถึงสนามรบทันที
มีชายชราคนหนึ่งชายวัยกลางคนและชายหนุ่มอีกคนปรากฏตัวขึ้น
“การต่อสู้ตัวต่อตัวยังไม่น่าตื่นเต้นพอทำไมเราไม่ดำเนินการต่อสู้แบบ 3 ต่อ 3? การต่อสู้ขั้นแตกหักสามารถดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น!” ชายชราคนนั้นบอก.
นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นการดูถูกผู้บ่มเพาะจากเก้าสวรรค์สิบพิภพ แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งพ่ายแพ้แต่พวกเขาก็ยังไม่สนใจมันมากนัก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสามนี้เป็นตัวแทนของสามชั่วอายุคนที่แตกต่างกัน อันดับของพวกเขาต้องสูงมากอย่างน้อยก็ติด 1 ใน 10 ของรุ่น!
“ได้เลยราชาผู้นี้เริ่มอดทนรอไม่ไหวแล้ว!” มดตัวน้อยสีทองเป็นคนแรกที่ร้องออกมาและกำลังจะกระโดดออกไป แต่สือฮ่าวหยุดมันไว้