ตอนที่ 18 - ท้าทายผู้ไม่ดับสูญ
ตอนที่ 18 - ท้าทายผู้ไม่ดับสูญ
(ผู้ไม่ดับสูญคือผู้ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดของฝั่งดินแดนแห่งความโกลาหล ส่วนผู้อมตะคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพ ทั้งสองมีขั้นพลังเดียวกัน ต้นฉบับใช้คำว่า ผู้ที่ไม่มีวันตายในดินแดนแห่งความโกลาหลกับผู้ที่เป็นอมตะของฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพ ผู้แปลเลยสับสนเล็กน้อยขออภัยมาณที่นี้ด้วยครับ)
“ผู้อาวุโสใหญ่!”
หลายคนกรีดออกมา
สิ่งที่เขาทำตอนนี้มันอันตรายเกินไปเหมือนกับเอาชีวิตไปทิ้ง!
ในตอนนี้ใครก็ตามที่มีดวงตาสามารถมองเห็นได้ว่าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ดุร้ายแข็งแกร่งยิ่งไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านมันเพียงลำพังมีเพียงใช้ผู้คนจำนวนมากเข้าต่อต้านถึงจะมีโอกาสชนะได้ นี่มันน่ากลัวขนาดไหน? เป็นพลังโจมตีที่ไม่เคยมีใครจินตนาการถึง!
ทุกคนรู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่แข็งแกร่งมาก แต่เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะแล้วเขาก็ยังด้อยอยู่บ้าง เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายนี่เป็นเพียงการล้อเล่นกับชีวิตดีๆนี่เอง
“ผู้อาวุโสใหญ่หยุดก่อน!”สือฮ่าวตะโกน จิตใจของเขาท่วมท้นไปด้วยความกังวล เขากำหมัดแน่นอยากจะรีบพุ่งตัวออกไปห้าม
ใบหน้าของทุกคนจากสำนักเทพสวรรค์เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดทันที เพราะกลัวว่าผู้อาวุโสใหญ่จะล้มลง นั่นเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่พวกเขาไม่สามารถรับได้
ในขณะนี้มือสีดำขนาดใหญ่เอื้อมออกมาจากเหวด้านล่างซากปรักหักพัง มันเหมือนเมฆมืดปกคลุมสวรรค์และโลกบดขยี้ทุกอย่างไปข้างหน้า ทุกสิ่งที่อยู่ในเส้นทางของมันถูกทำลาย
เกิดรอยแยกมิติขนาดใหญ่ขยายออกไป ดวงดาวที่กำลังโคจรได้ตกลงมาบนพื้นแม่น้ำหลายสายแห้งเหือดลงทันที
เป็นฉากที่น่าหวาดหวั่นที่สุด ไม่มีอะไรสามารถขัดขวางการพุ่งไปข้างหน้าของมันได้!
เดิมมีดวงจันทร์สีเลือดสิบแปดดวงบนท้องฟ้า แต่ตอนนี้เหลือเพียงสองดวงส่วนที่เหลือถูกทำลายด้วยคลื่นกระแทกจากมือขนาดยักษ์นั้น
นี่คือการทำลายโลกเป็นการพลิกฟ้าคว่ำดิน ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่านี้อีกแล้ว
ภายใต้ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ทุกสิ่งถูกทำลายล้างพลังแห่งความโกลาหลพลุ่งพล่านเหมือนทะเลคลั่งกำลังจะกวาดล้างร่องรอยในอดีตทั้งหมด
มันน่ากลัวถึงขีดสุดดวงตาของทุกคนเบิกค้าง
ผู้อาวุโสใหญ่เป็นเหมือนแมลงเม่าที่บินเข้าไปในเปลวไฟ ดูไม่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
แม้ว่าร่างกายของเขาจะปลดปล่อยแสงที่สุกใส กฎธรรมชาติที่สอดประสานสร้างการปกป้องที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับมือขนาดใหญ่นั้นเขาก็เหมือนหิ่งห้อยไม่มีความสำคัญอย่างสิ้นเชิง
“เจ้าคนต่ำต้อยน่าสมเพช การฆ่าเจ้าเป็นเรื่องที่ไร้ความหมายเช่นเดียวกับการปัดเศษฝุ่นออกจากร่างกาย” น้ำเสียงนั้นเฉยเมยไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งใดๆในโลกนี้มีลักษณะ 'ข้าเป็นใหญ่ แต่เพียงผู้เดียว'
มือยักษ์ส่องประกายคลื่นสีดำปกคลุมผู้อาวุโสใหญ่ทันที จากนั้นด้วยการคว้าจับที่ดุร้ายมันบีบมือข้างนั้นเพื่อฆ่าผู้อาวุโสใหญ่ในครั้งเดียว
“ผู้อาวุโสใหญ่!” สือฮ่าวกรีดร้องดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงรู้สึกเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด ความสามารถของคนรุ่นปัจจุบันอ่อนแอจริงๆหรือ?
อูววววว ...
ทันใดนั้นเสียงแตรดังขึ้นสะท้านทั่วทั้งสวรรค์สีชาด มันสั่นสะเทือนโลกทั้งใบเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
“แตรมังกรบรรพบุรุษ!” ใครบางคนกล่าวอย่างตื่นเต้น
มันเป็นแตรที่ดูเรียบง่ายและดูธรรมดาโดยไม่มีความมันวาวมากนักเหมือนมันจะถูกขัดมาจากหินสีเทา ทันใดก็ปรากฏขึ้นระหว่างมือสีดำขนาดใหญ่ข้างนั้นปลดปล่อยเสียงที่สั่นสะเทือนสวรรค์
ปลายของเขานั้นแหลมคมมากมาพร้อมกับแสงสีทองริบหรี่ สามารถบอกได้จากการมองเพียงครั้งเดียวว่ามันสามารถฉีกจักรวาลออกจากกันได้อย่างง่ายดาย
ตัง?
ในขณะที่มือสีดำขนาดใหญ่คลายออกเจ้าของของมันก็ส่งเสียงฮึดฮัด
แตรมังกรบรรพบุรุษเปล่งประกายจากนั้นมันก็กลายเป็นแสงโปร่งใสเจิดจ้าสุดขีดไอสังหารเอ่อล้นออกมาทันที ระเบิดผ่านมือสีดำขนาดใหญ่นั้น
ปู.
เลือดที่กระเซ็นออกมานั้นเป็นสีดำไม่ใช่สีแดงยิ่งไปกว่านั้นยังมีปราณแห่งความชั่วร้ายรุนแรง
"เจ้าแมลงที่น่ารังเกียจเจ้ากล้าทำร้ายข้า!” สิ่งมีชีวิตตัวนั้นคำรามออกมา มันเผชิญกับการโต้กลับโดยไม่คาดคิด เผยให้เห็นความโกรธเกี้ยวรุนแรงคลื่นเสียงของมันทำให้ท้องฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ฮ่อง!
เขามังกรขยายขนาดขึ้นมาใหญ่โตมโหฬาร เสื้อคลุมยาวของผู้อาวุโสใหญ่ปลิวไสวศีรษะที่มีผมสีขาวของเขาพลิ้วไปตามสาายลม เขายืนอยู่ที่ส่วนปลายของเขามังกรบรรพบุรุษ ด้วยพลังทำลายล้างมากมายมหาศาลของเขามังกรบรรพบุรุษผู้อาวุโสใหญ่ใหญ่ต้องใช้แก่นโลหิตของเขาสังเวยเพื่อให้มันทำงาน!
ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของมังกรที่แท้จริงถูกเปลี่ยนมาเป็นอาวุธสุดทรงพลัง มันเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นมังกรตัวใหญ่สีขุ่นมัวมีเขาวิเศษสีทองอยู่บนหัว มันเคลื่อนที่ผ่านท้องฟ้าพุ่งตรงเข้าหามือสีดำข้างนั้น
“มันเป็นอาวุธชิ้นนี้เอง…สมบัติล้ำค่าอาวุธของบรรพบุรุษเผ่ามังกร!” ในที่สุดสิ่งมีชีวิตนี้ก็แสดงความจริงจังออกมาเป็นครั้งแรก
เปง!
สวรรค์และโลกแยกออกจากกันพลังแห่งความโกลาหลปะทุขึ้น เขามังกรที่แท้จริงและมือสีดำที่ยิ่งใหญ่ปะทะกันบนท้องฟ้าทำให้เกิดพายุโหมกระหน่ำทั่วทั้งสวรรค์สีชาด
ฮือ!
ลมแรงขึ้น พัดเข้าทำลายดวงดาวขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้นสองสามดวง
ยังมีดวงดาวเล็กๆบางดวงที่ระเบิดกลางอากาศกลายเป็นแสงพราว!
นี่เป็นฉากงดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ คลื่นกระแทกที่พุ่งเข้าสู่จักรวาล พลังอันยิ่งใหญ่ระเบิดออกมาไม่มีผู้ใดสามารถหยุดหยั้ง
“จ้าวมังกรนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราสู้กัน ตอนนี้เจ้าตายไปแล้วจะมีความสามารถมากแค่ไหนเชียว!” สิ่งมีชีวิตต่างมิติคำราม มือขนาดใหญ่เปลี่ยนเป็นกำปั้นทุบไปที่แตรมังกรบรรพบุรุษ
อัง…
เสียงคร่ำครวญดังก้องไปทั่วทั้งเก้าสวรรค์ วิญญาณดั้งเดิมของทุกคนตกใจหวาดกลัวจากวัจนะแห่งเต๋าที่แตรมังกรบรรพบุรุษปลดปล่อยออกมา
ร่างมังกรขนาดยักษ์ที่ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้ามันขยับร่างใช้เขาพุ่งเข้ากระแทกกับมือสีดำข้างนั้น
แรงกระแทกจากการปะทะครั้งยิ่งใหญ่นี้ราวกับเป็นการเขย่าโลกให้สั่นสะเทือน!
ในที่สุดหมอกสีเทาที่ฟุ้งกระจายในอากาศก็ถูกคลื่นจากเสียงคำรามจนกระจายออก ทุกคนในเหตุการณ์ตกตะลึงเพราะเห็นว่ามีเลือดสีดำกระจายเต็มท้องฟ้าเหมือนกับฝนห่าใหญ่ เมื่อตกลงสู่พื้นมันมีฤทธิ์กัดกร่อนทำลายทุกอย่างที่สัมผัส
มือสีดำขนาดยักษ์ข้างนั้นเลือดเนื้อถูกทำลายออกถึง 3 นิ้ว เผยให้เห็นกระดูกสีขาวโผล่ออกมา
“เจ้ากล้าทำร้ายข้า! เจ้ามดที่น่ารังเกียจข้าจะฆ่าเจ้าก่อน!” น้ำเสียงแสดงออกถึงความโมโหแล้ว มือขนาดใหญ่เอื้อมไปบนท้องฟ้าหลีกเลี่ยงเขามังกรบรรพบุรุษพุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสใหญ่โดยตรง
ด้วยการพลิกมือของมันชั้นบรรยากาศที่ปกคลุมบนท้องฟ้าถูกทำลายลงในคราวเดียว
น่ากลัวเกินไปแล้ว สิ่งมีชีวิตระดับนี้ทรงพลังเพียงใด? แม้จะมองจากระยะไกลทุกคนก็ยังหนาวสั่นด้วยความหวาดหวั่นรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบทุกคนเป็นห่วงผู้อาวุโสใหญ่ ตอนเห็นเขาใช้เขามังกรบรรพบุรุษต่อสู้กับมือยักษ์ข้างนั้น ความหวังในใจของพวกเขาลุกโชน
นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกไม่มีฝ่ายใดต้องการเสียท่าก่อน หากพวกเขาสามารถหยุดยั้งศัตรูในระลอกแรกได้จะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของทุกคนอย่างมหาศาล หากเป็นตรงกันข้ามพวกเขาจะไม่เหลือความหวังแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ถือว่าได้รวบรวมกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนฝั่งนี้มาแล้ว
ฮั้ว!
ม้วนภาพปริศนาถูกกางออกเพื่อปกปิดท้องฟ้า มันปลดปล่อยปราณเซียนที่น่ากลัวออกมา ราวกับว่าราชาอมตะเดินทางกลับมาจากความตาย
แผนภาพสิบพิภพ!
ผู้อาวุโสใหญ่ใช้สมบัติสูงสุดนี้ มันคลี่ออกอย่างรวดเร็วบดบังร่างทุกสัดส่วนของผู้อาวุโสใหญ่
เปง!
มือสีดำขนาดยักษ์ทุบเข้าใส่แผนภาพสิบพิภพ ทันใดนั้นมันก็ถูกชักกลับอย่างรวดเร็ว ราวกับที่มันสัมผัสนั้นคือกองไฟ
โลกสั่นสะเทือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ร่วงลง
อ๋าว…
เขามังกรบรรพบุรุษบินวกกลับมากลายเป็นลำแสงสีรุ้งที่น่าตกตะลึงพุ่งเสียบทะลุหลังมือสีดำขนาดใหญ่ข้างนั้นทำให้เลือดกระจายไปทั่วท้องฟ้าอีกครั้ง
"ยอดเยี่ยม!"
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักปราชญ์คำราม
“การโจมตีที่ยอดเยี่ยม!” ผู้อาวุโสสองสามคนจากสำนักเซียนก็ตะโกนเช่นกัน
จากนั้นกลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมดก็เริ่มให้กำลังใจเช่นกัน
ตอนแรกทุกคนมีความรู้สึกเศร้าหมองรู้สึกสลดใจอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาเห็นสิ่งที่เรียกว่าผู้ไม่ดับสูญที่แท้จริงได้รับบาดเจ็บพวกเขาทุกคนก็ตื่นเต้นยินดี
ความไม่พอใจที่ผ่านมาได้ระบายออกเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสใหญ่จัดการมัน!”
“ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสใหญ่ไม่มีใครเทียบได้!”
เด็กหนุ่ม2-3 คนตะโกนด้วยความตื่นเต้น
จิ!
แสงหลากสีจากปราณเซียนกระจายไปทั่ว แผนภาพสิบพิภพที่ปกป้องผู้อาวุโสใหญ่ม้วนกลับมาอยู่ในมือเขา
ในเวลาเดียวกันแตรมังกรบรรพบุรุษก็ปลดปล่อยเสียงหวู่หวู่ และเคลื่อนกลับเข้ามาหาผู้อาวุโสใหญ่และพร้อมโจมตีอีกครั้ง
“เจ้าแมลงที่ไร้ค่า! เจ้าอาศัยเพียงแค่เขามังกรกับแผนภาพสิบพิภพเท่านั้น ถึงทำให้ข้าบาดเจ็บได้ตัวเจ้ามันก็แค่มดแมลงข้าจะดูว่าของวิเศษพวกนี้จะช่วยเจ้าให้รอดได้นานแค่ไหน?” เสียงนั้นยังคงสงบแต่เต็มไปด้วยความตั้งใจในการฆ่า
จิตใจของทุกคนจมดิ่งลงลง อันที่จริงหากพวกเขาอาศัยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาก็ไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถเผชิญหน้ากับผู้ไม่ดับสูญได้!
เป็นเพราะไม่มีอมตะเหลืออยู่ในโลกนี้ ในแง่ของอาณาจักรการบ่มเพาะเขาอยู่ในระดับเดียวกัน!
“มีอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาบ้างแล้วเหรอ?ตอนนี้เจ้าอยากฆ่าข้า? น่าเสียดายที่เจ้าทำไม่ได้!” ผู้อาวุโสใหญ่ท้าทาย หลังจากใช้สมบัติล้ำค่าสองชิ้นเขาไม่ได้รับบาดเจ็บและยังสามารถต่อสู้ต่อไปได้
“ในฐานะที่เป็นผู้ไม่ดับสูญเป็นตัวตนที่ทรงพลังตั้งแต่สงครามครั้งสุดท้าย ตัวเจ้ากลับมาตำหนิคนตัวเล็กๆอย่างข้าว่าใช้อาวุธวิเศษ” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวช้าๆ
“ถ้าไม่ใช่เพราะโลกตอนนี้เกิดความการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันทำให้พวกเราไม่สามารถฝ่าขั้นตอนสุดท้ายเพื่อก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ? ถ้าข้าได้รับสภาพแวดล้อมที่อนุญาตให้บรรลุเป็นผู้อมตะได้ข้าต้องการแค่ร้อยปีไม่สิแค่สิบปีและนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าเจ้า!” ผู้อาวุโสใหญ่คำรามออกมาด้วยความเสียใจ
ทุกคนตื่นตระหนกอย่างมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ทรงพลังเพียงใด? หากโลกนี้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน?
"ฆ่าข้า?" สิ่งมีชีวิตนั้นหัวเราะมีเพียงปราณของเขาเท่านั้นที่เย็นลงราวกับว่ามันสามารถซึมเข้าสู่จิตวิญญาณได้โดยตรง
“ถูกหากสภาพของโลกนี้เหมาะสมข้าสามารถบรรลุเป็นผู้อมตะได้ภายใน 10 ปีและเมื่อถึงตอนนั้นข้าจะข้ามไปจัดการเจ้าอย่างง่ายดายเพียงแค่ยกมือขึ้นเท่านั้น!” ดวงตาของผู้อาวุโสใหญ่ราวกับมีเปลวไฟอันทรงพลังลุกโชนอยู่ภายในเป็นเปลวไฟที่เกิดจากความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ไม่ใช่ว่าความรู้แจ้งของผู้อาวุโสใหญ่ไม่เพียงพอเขาบรรลุถึงครึ่งเก้าผู้อมตะมาหลายหมื่นปีแล้ว แต่สภาพแวดล้อมของโลกนี้ผิดปกติอย่างมากมันไม่อนุญาตให้ใครบรรลุความเป็นอมตะ
ถ้านี่คือยุคเซียนโบราณเขาคงเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของท้องฟ้า!
“มีปากอยากจะพูดอะไรก็ได้ ไม่เคยมีใครทำตัวหยิ่งผยองต่อหน้าข้าถึงขนาดนี้มาก่อน!” เสียงของผู้ไม่ดับสูญดังก้องไปทั่วสถานที่แห่งนี้ราวกับฟ้าคำราม
“ข้าใช้อาวุธเซียนทั้งสองก็เพื่อพิสูจน์ว่าพลังระดับนี้เพียงพอแล้วที่จะฆ่าเจ้า ถ้าข้าเป็นผู้อมตะเจ้าจะไม่มีอะไรเลยในสายตาข้า!” ผมของผู้อาวุโสใหญ่ปลิวสะบัดอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขากระพริบดวงตาจะเห็นประกายสายฟ้าอยู่ในนั้น
ขณะนี้ผู้อาวุโสใหญ่คุ้มคลั่งแล้ว เป็นเพราะโลกนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงทำให้เขาจมอยู่กับความเสียใจที่ไม่สามารถบรรลุเป็นผู้อมตะได้
มิฉะนั้นด้วยพรสวรรค์ของเขาจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันหลายๆคนก็มีความรู้สึกเช่นนี้ทั้งผู้อาวุโสสำนักเซียนผู้อาวุโสสำนักปราชญ์และเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลอมตะ เมื่อขั้นพลังมาถึงจุดสูงสุดมาและพบเจอกับสภาพโลกในปัจจุบันพวกเขาทำได้เพียงขมขื่นในใจเท่านั้น เพื่อเป็นการปลอบประโลมตัวเอง พวกเขาเรียกนามขั้นบ่มเพาะสูงสุดของโลกนี้ว่าเซียนอมตะ ทั้งที่ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นแค่ครึ่งเซียนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในฐานะผู้แข็งแกร่งความเชื่อมั่นของพวกเขายังคงอยู่!
“ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถเป็นเซียนได้พวกเจ้าก็เป็นเพียงมดปลวก! ไร้ความหมายที่จะกล่าวสืบไป” เจ้าของมือสีดำข้างนั้นกล่าวอย่างเย็นชา
“ไม่ใช่ในตอนนี้แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะเป็นไปไม่ได้” ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นหันกลับมาเผชิญหน้ากับทุกคนส่งเสียงคำรามออกมา“พวกเจ้าเห็นไหม? สิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญจากต่างมิติก็มีเพียงเท่านี้ แม้การบ่มเพาะของข้าจะเป็นเพียงครึ่งก้าวผู้อมตะแต่ก็สามารถต่อสู้กับเขาได้ บางทีคนรุ่นนี้อาจไม่สามารถบรรลุเป็นเซียนอย่างแท้จริง แต่เชื่อเถอะสภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อถึงเวลานั้นจะมีพวกเจ้าขึ้นไปถึงระดับผู้อมตะอย่างแน่นอน!”
“เราจะไม่ปล่อยให้ศัตรูมีชีวิตรอดไปอย่างแน่นอน!” หลายคนตะโกนออกมา
“ช่างเป็นเรื่องน่าขันแม้ว่านี่จะเป็นยุคเซียนโบราณ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถบรรลุความเป็นอมตะได้? ต่อให้สภาพแวดล้อมกลับมาเป็นอย่างเดิมจะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จ?บรรพบุรุษของพวกเจ้าคนใดบ้างที่ไม่เป็นเซียนถึงกระนั้นพวกเขาก็ตายกันไปหมดแล้วนับประสาอะไรแค่พวกเจ้า! ยิ่งไปกว่านั้นพวกเจ้าคิดจริงๆหรอว่าเราจะให้โอกาสพวกเจ้า? กล้าที่จะขัดขืนเช่นนี้พวกเจ้าทุกคนจะถูกสังหารสายเลือดของพวกเจ้าจะต้องสูญสิ้น!” สิ่งมีชีวิตต่างมิติพูดอย่างโหดเหี้ยม
“เจ้ากำลังข่มขู่พวกเรา? แล้วเจ้ามีความสามารถในการข้ามมาหรือไม่? แน่นอนว่าการโจมตีสวรรค์สีชาดของพวกเจ้าย่อมมีแผนการตามหลังแต่จนถึงตอนนี้ตัวเจ้ากลับไม่สามารถข้ามมาได้ทั้งที่กำแพงถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆแล้ว เมื่อการเชื่อมต่อของโลกทั้ง 2 เกิดขึ้นสภาพแวดล้อมของโลกก็จะเปลี่ยนไปอีกครั้งนี่เป็นโอกาสของพวกเราแล้ว!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว