ตอนที่ 21: เนื้อปราณกระต่ายหิมะ (ส่วนที่ 1)
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------
ในทุกๆอาชีพนั้นย่อมมีการแข่งขันระหว่างพนักงานอยู่. แม้เงินเดือนจะได้เหมือนกันแต่พนักงานก็จะชอบเปรียบเทียบกันว่าใครเก่งกว่า ใครด้อยกว่า. นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว.
และพวกพ่อครัวพวกนี้ก็ไม่ต่างกัน. พวกเขาอาจจะดูเป็นกันเองและสามัคคีกัน แต่พอเป็นเรื่องความสำเร็จของตัวเองแล้ว พวกเขาก็อดเปรียบเทียบกันไม่ได้.
หลังจากอ่านบันทึกคะแนนทั้งหมดแล้ว พ่อครัวบางคนที่ยิ้มอยู่แล้วก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก ส่วนคนอื่นก็ดูหดหู่ลง.
ทำไมกัน? เวลาเท่ากัน ของเท่ากัน ราคาเท่ากัน. แต่อาหารบางจานสามารถ ‘ขาย’ ออกไปได้ตั้ง300จานในวันเดียว ขณะที่บางคนขายได้ไม่ถึง100จานด้วยซ้ำ. นี่คงเป็นเพราะฝีมือสินะ มันเป็นตัวบอกได้เลยว่าอาหารไหนดังกว่า อันไหนด้อยกว่า.
ลองคิดดูสิ ถ้าคุณอยู่อันดับโหล่สุด จะอายมากแค่ไหนนะ?
“ผลงานวันนี้ไม่เลวเลย! วันนี้เราไม่ได้เก็บเงิน คนเลยมาลองกินเยอะน่าดู. แต่พรุ่งนี้มันจะไม่เหมือนเดิมแล้ว ชั้นคิดว่าพวกคุณไม่ควรทำตัวเฉื่อยแฉะด้วย ดังนั้นชั้นให้เวลา3วัน ถ้า3วันนี้เราขายไม่ดีเหมือนวันนี้ ชั้นคงไม่มีทางเลือกนอกจากจะจ้างคนอื่น!”
ชิยูให้ค่าจ้างพวกเขาอย่างสูงเพื่อยื้อพวกเขาไว้ เงินนี้มันก็ไม่ต่างจากถังข้าวดีๆเลย. พวกพ่อครัวไม่มีวันยอมให้ใครมาแย่งถังข้าวของตัวเองไปแน่.
“3วันหรอ….เวลามันน้อยไปมั้ย!” พ่อครัวคนนึงรู้สึกว่ามันยากไป.
“งั้นพวกคุณคิดว่ากี่วันถึงจะดีล่ะ?” ชิยูถาม.
“อย่างน้อยก็2สัปดาห์”
“ไม่มีทาง! 5วันพอ!” ถ้าชิยูต้องรอตั้ง2อาทิตย์ เธอจะให้กินฟรีทำไมล่ะตอนแรก?
พอคิดแบบนั้นชิยูก็เอากระดาษออกมาแผ่นนึงแล้วบอกพวกพ่อครัว “นี่คือข้อแนะนำที่ชั้นจดไว้ตอนดูพวกคุณทำอาหาร. ชั้นจะแปะไว้ตรงนี้นะ. ถ้าอยากดูก็ตามสบาย ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เชิญกลับบ้านได้ค่ะ”
ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ต้องทำกำไร. แต่เธอไม่ควรเป็นคนเดียวที่ทำกำไรได้. ถ้าเกิดเธอไม่อยู่ขึ้นมาล่ะ? ดังนั้นเธอต้องยกมาตรฐานขึ้นอีก. ร้านอื่นพึ่งพาอาหารจานพิเศษเพื่อทำกำไร แต่เธอก็อยากให้พวกพ่อครัวพวกนี้ช่วยเธอทำกำไรเหมือนกัน. นี่เป็นทางเดียวที่ร้านนี้จะอยู่ต่อได้จนกระทั่งเสี่ยววูโตขึ้น.
ไม่กี่วันต่อมาชิยูก็ทำงานเสร็จแต่หัววันและไปสอนงานพ่อครัวคนอื่น. ตอนนี้ฝีมือของเธอดีกว่าพวกเขานิดหน่อย แต่เรื่องทำอาหารแปลกๆแนวอื่นแล้วเธอรู้มากกว่าพวกเขานัก เธอจึงช่วยให้พวกเขาเก่งขึ้นได้.
หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว. ร้านก็เริ่มขายดีขึ้นเรื่อยๆและชิยูก็เริ่มเข้าร้านบ้างไม่เข้าบ้าง.
หลินฟ่านมาบอกเธอว่าเขาพบเมล็ดอัคคีแล้ว. มีงานประมูลในเมืองชิงฉานและเมล็ดอัคคีเองก็จะถูกนำมาประมูลด้วย. ตอนที่เธอได้ยินข่าว เธอก็รู้สึกดีใจมากๆ แต่พอเปิดกระเป่าตังแล้วเธอก็ต้องตกใจเพราะมันว่างเปล่า.
ตอนนี้มีเรื่องเร่งด่วนมาอีกแล้ว. เธอต้องรีบหาเงินให้ได้ไวๆ. พอคิดไปคิดมาชิยูจึงตัดสินใจจะเสี่ยงซักหน่อย…….
จากผู้แปล: รอบนี้คนเขียน เขียนน้อยอีกแล้วครับเลยเปิดให้อ่านฟรี