บทที่ 218 Resident Evil: เวอร์ชั่นต่างโลก
ซีเว่ยให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าทริเนีย
เดิมเขาคิดว่าผู้เล่นขุดพบสัตว์ประหลาดแปลก ๆ อีกครั้งในที่ป่า และไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แม้ว่าปีศาจจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ธรรมดา แต่พลังของมันก็ลดลงอย่างมากหลังจากถูกผนึกมานานนับพันปี มันเทียบเท่าได้กับยักษ์แห้งแล้งและมาร์ชเดรคแห่งบึงเซร่าที่ผู้เล่นเคยพบมาก่อนหน้านี้เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ผู้เล่นก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีผู้เล่นที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญพบกับยักษ์แห้งแล้งอีกต่อไป พวกเขาผ่านการต่อสู้มาแล้วมากมาย มีเลเวลเพิ่มขึ้น และอุปกรณ์ก็ได้รับการปรับปรุงอย่างมากผ่านการตีบวก ตอนนี้พวกเขาต้องการคนเพียง 50 คนเท่านั้นในการล้มยักษ์แห้งแล้ง
ดังนั้นจากมุมมองของซีเว่ย แม้ว่าจะมีผู้เล่นน้อยกว่าร้อยคนที่วิ่งมาที่ทริเนียเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้กับปีศาจ แต่ชัยชนะของพวกเขาก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ตราบใดที่พวกเขาไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้
แต่ถึงอย่างนั้นใครจะรู้ว่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น
“นั่นมันคืออะไร Resident Evil เวอร์ชั่นต่างโลก?”
ร่างบอลแสงของซีเว่ยขมวดคิ้ว ขณะที่เขาเปิดใช้งานดวงตาศักดิ์สิทธิ์มองลงไปยังดินแดนมรรตัยเมื่อเขารู้สึกว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป
ความจริงเขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติทันทีที่ปีศาจถูกสังหาร แต่ไม่ได้ถูกส่งมายังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อเป็นเครื่องสังเวยตามกฎที่เขากำหนดไว้
หลังจากค้นหาผ่านความทรงจำเทพเจ้าของเขา เขาก็ได้รู้ว่าศพปีศาจถูกกระตุ้นให้สังเวยแล้ว แต่มันก็ถูกหยุดไว้โดยกฏที่ยิ่งใหญ่กว่า
และกฎนั้นก็คือ 'ไม่สามารถสังเวยลูกหรืออัครสาวกของเทพเจ้าที่ยังมีชีวิตหรือวิญญาณอยู่ได้'
กฎนี้ถูกกำหนดโดยเทพเจ้าหลายองค์ก่อนสงครามเทพเจ้าครั้งสุดท้าย และกฏนั้นก็มีลำดับสูงกว่ากฏของระบบที่ซีเว่ยใช้
มันได้รับการยอมรับร่วมกันโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ตามความทรงจำที่คลุมเครือที่เขาดึงมาจากชิ้นส่วนความเป็นพระเจ้าที่แตกหักของเจ้าแห่งน้ำบอกว่า มันเป็นกฎที่ถูกสร้างขึ้นก่อนที่เทพเจ้าจะไม่สามารถข้ามบาเรียโลกได้ มีมาก่อนที่จะเกิดสงครามเทพเจ้าครั้งที่ 3 ด้วยเหตุนี้ในช่วงเวลานั้นจึงมีพวกลูกหลานของเทพเจ้า ครึ่งเทพที่ทรงพลัง และอัครสาวกอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ดังนั้นสาวกธรรมดาที่ไม่มีพลังเหนือธรรมชาติ ก็ไม่สามารถต้านทานตัวตนที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นได้เลย ในขณะที่สิ่งมีชีวิตระดับเทพอาละวาดไปทั่วโดยไม่มีการยับยั้งชั่งใจ และทำลายบ้านของพวกเขาไปมากมาย
นั่นคือตอนที่นักเทววิทยาผู้ชาญฉลาดได้คิดหาวิธีแก้ปัญหา
เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงพิธีกรรมเซ่นไหว้ต่อเทพเจ้าตามความความต้องการของเขา โดยเปลี่ยนเงื่อนไขส่วนใหญ่ของพิธีกรรม
ด้วยวิธีนี้พิธีกรรมการเซ่นไหว้ที่ครั้งหนึ่งเคยแสดงถึงความจงรักภักดีและความกตัญญูต่อเทพเจ้า ก็ได้กลายเป็นกับดักที่ผลาญกำลังคนและทรัพยากรอย่างรุนแรง!
หลังจากเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้น ตราบใดที่ศัตรูถูกล่อลวงไปยังพื้นที่พิธีกรรม พวกมันก็จะถูกเซ่นสังเวยให้กับเทพเจ้าได้โดยตรง!
นักเทววิทยาคนนั้นไม่ได้ตระหนี่ เขาสอนความรู้และวิธีการเปลี่ยนพิธีกรรมให้กับเหล่าลูกศิษย์ของเขาก่อนจะส่งพวกเขาไปทั่วทวีป เพื่อสอนพิธีกรรมเหล่านั้นให้กับมนุษย์ในภูมิภาคอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้มนุษย์ธรรมดาจึงกำจัดลูกหลานของเทพเจ้า และอัครสาวก ของเทพศัตรูไปมากมายในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 100 ปี พวกเขาก็คืนความสงบสุขให้กับโลกทั้งใบ
แต่สำหรับเทพเจ้า มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะยังมีสาวกของเทพเจ้าในอดีตบางตนได้สังเวยลูกหลานของครอบครัวเทพระดับสูง ซึ่งเทียบได้กับเทพบิดรในปัจจุบันมายังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
เป็นผลให้เทพเจ้าที่อยู่เบื้องบนแทบจะไม่สามารถจัดการกับลูกหลานเทพตนนั้นได้ เพราะพวกเขาพบว่าสาวกของเขาได้ส่งผู้ที่มีพลังมากกว่าตนมาเป็นเครื่องสังเวย...
ชิ ข้าเลิกเป็นเทพแล้ว! เจ้าจะไปศรัทธาในเทพเจ้าตนไหนก็ตามใจพวกเจ้า!
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จะเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือศักดิ์ศรีของเทพเจ้าอันดับต้น ๆ ในยุคนั้น เทพเจ้าหลายองค์จึงร่วมมือกันสร้างกฎที่ว่า 'ไม่สามารถสังเวยลูกหลานและอัครสาวกของเทพเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ได้'
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การที่ศพของปีศาจไม่ถูกส่งมายังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ย เป็นเพราะร่างกายของมันยังมีพลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างเหลืออยู่ ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกตัดสินว่ายังไม่ตาย และทำให้การสังเวยล้มเหลว
“พลังในการปลุกศพ…อาจเป็นราชาแห่งความตาย? แต่ไม่น่าจะใช่”
ซีเว่ยตรวจสอบสภาพของไนท์ครายอย่างระมัดระวังผ่านผู้เล่นที่ต่อสู้กับมัน
“ราชาแห่งความตายเป็นผู้คุมอำนาจแห่งความตาย และเขาก็ใกล้เคียงกับกฎของโลกมาก กลับกันเจ้านี่เหมือนแกะเสียบไม้ที่ไม่มียี่หร่า เป็นเพียงร่างไร้วิญญาณ ซอมบี้ธรรมดาเท่านั้น”
หากซีเว่ยสามารถรับรู้ถึงสภาพของไนท์ครายได้อย่างคร่าว ๆ ผู้เล่นก็สามารถสังเกตสิ่งมีชีวิตตนนี้ได้ชัดเจนกว่าซีเว่ย
ผู้เล่นที่ติดเชื้อซอมบี้หลังจากเสียชีวิตจะกลายเป็นซอมบี้ พวกเขากลายพันธุ์เพียงร่างกายเท่านั้น ส่วนวิญญาณของพวกเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และถูกส่งไปยังกระท่อมมืดของซีเว่ยตามเดิม
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือผู้เล่นที่กลายเป็นซอมบี้ไม่สามารถชุบชีวิตขึ้นมาได้ เพราะศพของพวกเขากลายพันธุ์แล้ว
แม้ว่าเครลิคจะพยายามใช่ทักษะชุบชีวิตกับซอมบี้ ทักษะก็ไม่ทำงาน แต่ไอเทมอย่างองค์แห่งการฟื้นคืนชีพยังมีผลตามปกติและส่งผู้เล่นไปเกิดที่ไลฟ์สโตน
“ตอนนี้ผู้เล่นสับสนเพราะเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเท่านั้น”
เมื่อเขาให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับสถานการณ์ในแดนมรรตัย ซีเว่ยก็รู้สึกยินดีที่ผู้เล่นตั้งสติได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่ต้องเจอสถานการณ์นี้เป็นครั้งแรก
“ถึงผู้เล่นที่ติดเชื้อจะยังมีความแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดอย่างการฟื้นคืนชีพก็หายไป ตอนนี้พวกซอมบี้อ่อนแอกว่าผู้เล่นในระดับเดียวกันมาก”
และนั่นก็เป็นความจริง หลังจากเกิดภัยพิบัติก่อนหน้านี้ ไม่ช้าผู้เล่นก็ค้นพบว่าสหายของพวกเขาไม่ได้กลายเป็นซอมบี้ไปจริง ๆ แต่ถูกผนึกอยู่ในกระท่อมมืดรอการฟื้นคืนชีพในอีก 3 วันต่อมาผ่านฟอรัมเกม
“แม้ว่ามันจะไม่เพียงพอที่จะเริ่มกิจกรรม แต่เรามาส่งเควสให้ผู้เล่นที่เข้าร่วมการต่อสู้กันเถอะ”
หลังจากรู้ว่ากลไกการคืนชีพยังคงมีผลอยู่ผู้เล่นที่เหลือก็สามารถต่อสู้ได้ตามปกติ และเควสจากระบบก็ทำให้พวกเขากระตือรือร้นมากขึ้น เหล่าผู้เล่นต่างบ้าคลั่ง และบ้าคลั่งยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาพบว่าซอมบี้นั้นอ่อนแอ
จากรายละเอียดเควสที่แสดงในระบบ ทุกอย่างจะดีขึ้นหากพวกเขากำจัดศพไนท์ครายซึ่งเป็นพาหะเชื้อซอมบี้ได้ และพวกเขาสามารถจัดงานเลี้ยงเนื้อย่างได้ในตอนกลางคืน
อันที่จริงเชื้อซอมบี้นั้นเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง สิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อและถูกฆ่าโดยมัน จะถูกควบคุมโดยพลังศักดิ์สิทธิ์นั้น และเมื่อผู้ติดเชื้อถูกกำจัด พลังศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงอยู่ในร่างศพก็จะหายไป โดยไม่ได้รับผลการฟื้นคืนชีพอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของผู้เล่น
เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่มองโลกในแง่ดี ซีเว่ยกำลังคิดไกลกว่านั้น
“พลังศักดิ์สิทธิ์นั่น…แม้ว่ามันจะไม่ใช่พลังของราชาแห่งความตาย แต่ก็ต้องเป็นเทพเจ้าตระกูลอันเดธแน่นอน พลังศักดิ์สิทธิ์นี้ได้กลายพันธุ์ไปมาก จนเป้าหมายของมันกลายเป็นการแพร่กระจายเชื้อซอมบี้อย่างรวดเร็ว เพื่อเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดกลายให้กลายเป็นพวกเดียวกัน…แต่จริง ๆ แล้วผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังต้องการอะไรกันแน่?”
ร่างกลม ๆ ของซีเว่ยขมวดคิ้ว ขณะตรวจสอบศพซอมบี้ของผู้เล่น “ซอมบี้แบบนี้ไม่ให้พลังบริสุทธิ์เหมือนที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปมี มันแค่ต้องการเพิ่มพวกเดียวกันเท่านั้นเหรอ จงใจเลือกปีศาจที่ถูกผนึกไว้ในป่าทริเนียโดยเฉพาะ…มันทำแบบนั้นไปทำไม?”
ทันใดนั้นซีเว่ยก็สั่นสะท้าน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันทำไปโดยไร้เหตุผล?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าปีศาจเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งที่ผู้ร้ายเลือก?
หากเป็นแบบนั้นจริง โลกนี้จะเป็นยังไง?
-------------------------------------
เพจ FC-Translate