บทที่ 217 ศพพยาบาท
อย่างไรก็ตามหลังจากปีกปีศาจถูกหักโดยโกวต้าน และสูญเสียความสามารถในการบิน มันก็พยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อฝ่าวงล้อมของผู้เล่น แต่ก็ต้องล้มเหลวเมื่อมีผู้เล่นฟื้นคืนชีพขึ้นมามากขึ้น และกลับเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อตรึงมันไว้ที่เดิม
มันแตกต่างจากผู้เล่นที่มีระบบ ที่จะยังคงมีพลังเต็มเปี่ยมตราบเท่าที่แถบ HP ของพวกเขายังไม่ว่างเปล่า ความจริงความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อพวกเขาได้รับบาดเจ็บ และไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ จะเหมือนผู้เล่นเบอร์เซิกเกอร์ที่จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อพวกเขาได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าคนเถื่อนในที่ราบสูงอันหนาวเหน็บจะมีขวัญกำลังใจในการต่อสู้สูง แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเสียเลือดมากเกินไป แขนขาของพวกเขาก็จะไร้เรี่ยวแรง จากนั้นเมื่อชีวิตของพวกเขากลายเป็นเหมือนแสงเทียนในสายลม พวกเขาก็ล้มลงบนพื้นและหลับตารอความตาย หากพวกเขาไม่มีทักษะที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้
และเนื่องจากคลื่นพลังโจมตี 4 ระลอกก่อนหน้านี้ได้ทำลาย HP ของปีศาจไปมาก จนถึงจุดที่ความแข็งแกร่งของมันลดลงเร็วกว่ากว่าบอสตัวอื่น ๆ ที่พวกเขาเคยสู้ด้วย
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะปีศาจไม่มีร่างสอง
ไม่นานร่างอันใหญ่โตของปีศาจก็กระแทกลงพื้นอย่างหนักหน่วง ผู้เล่นทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี
“ตอนนี้มนุษย์ทรงพลังขนาดนี้แล้วหรือ?”
ขณะเดียวกันเซลีนเด็กสาวชาวเอลฟ์ก็ได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมดมาตั้งแต่ต้นจนจบ เดิมเธอต้องการเข้าไปแทรกและช่วยเหลือหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สบโอกาส เธอได้แต่มองมนุษย์ที่อธิบายไม่ได้กลุ่มนี้มีความสุขราวกับว่าพวกเขากำลังมีงานรื่นเริงหลังจากฆ่าปีศาจในตำนานได้สำเร็จ
เซลีนรู้สึกหนาวสั่น…หากมนุษย์เหล่านี้ที่สามารถเข้าและออกทริเนียได้อย่างอิสระ มีเจตนาแอบแฝง แม้ว่าเอลฟ์ตนอื่น ๆ จะกำจัดพวกเขาได้ แต่พวกเขาก็จะสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับทริเนีย!
เดิมเธอเคยสงสัยว่าเหตุใดเทพธิดาแห่งจันทร์สีเงินถึงส่งวิวรณ์ให้เราเป็นพันธมิตรกับมนุษย์ ตอนนี้เธอเข้าใจเจตนาของเทพธิดาแล้ว
ระดับเฉลี่ยของมนุษย์ทั่วไปนอกทริเนียนั้นวัดได้จากกลุ่มนักล่าทาสที่ถูกเอลฟ์ฆ่าได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเทียบกันแล้ว มนุษย์เหล่านี้ที่เรียกตัวเองว่าผู้เล่นนั้นทรงพลังกว่ามาก!
ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่เหมือนผู้ถูกเลือก ที่ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากความโปรดปรานของเทพเจ้า พวกเขาได้รับพรจากเทพเจ้าทุกคน และเกือบทั้งหมดเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ที่ผ่านสนามรบมาแล้วมากมาย แม้จะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอย่างปีศาจ พวกเขาก็ไม่ลนลาน พวกเขารุกคืบและล่าถอยอย่างมีระบบ
พวกเขาน่าเกรงขามจริง ๆ!
อันที่จริงเซลีนอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกองทหารลาดตระเวนของเอลฟ์ป่ากับมนุษย์ที่กำลังมีความสุขกับชัยชนะเหล่านี้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาปะทะกัน
ไม่ว่าเธอจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร เธอก็อดจะรู้สึกไม่ได้ว่ากองทหารลาดตระเวนจะต้องพ่ายแพ้...อย่างไรก็ตามทักษะที่ผู้เล่นปลดปล่อยออกมานั้นแปลกประหลาด และหลายคนมีพลังในระดับที่น่าหวาดกลัว
แถมสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือพวกเขาสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้!
หากไม่ใช่เพราะเอลฟ์ยังมีตัวตนที่ยอดเยี่ยมอย่างกลุ่มผู้พิทักษ์ดวงจันทร์ ที่คอยปกป้องศักดิ์ศรีของเอลฟ์ในฐานะเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่ามนุษย์ เซลีนคงรู้สึกว่าเธออาจจะบ้าไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่าเสียงโห่ร้องของมนุษย์ได้เงียบลง และผู้เล่นทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่ศพของปีศาจด้วยความประหลาดใจ
"เกิดอะไรขึ้น?" เธอรู้สึกอึดอัดนิด ๆ เลยกระซิบถามชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีแดงแซมทอง
“ศพของเจ้านั่นค่อนข้างแปลก” มาร์นี่ที่ฟื้นขึ้นมาขมวดคิ้วแน่นขณะมองไปที่ศพของปีศาจ
"จริงรึ?" เซลีนถึงกับผงะ เธอตรวจสอบศพปีศาจที่เต็มไปด้วยรูพรุนอีกรอบ “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นศพของปีศาจ…แต่ข้าไม่เห็นรู้สึกถึงความผิดปกติเลย”
“นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นด้วย” มาร์นี่ตอบแบบสบาย ๆ
เมื่อเซลีนกำลังจะถามเธอว่าทำไมเขาถึงบอกว่าศพนั้นแปลกแม้ว่าเขาจะเห็นมันครั้งแรก มาร์นี่ก็พูดอย่างจริงจังว่า “ตอนนี้มันยังไม่หายไป…นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงแปลก!”
“ไม่ ๆ นั่นไม่ใช่เรื่องปกติเหรอ” เอลฟ์สาวหน้าแดงอย่างหงุดหงิด “มันเป็นเพียงศพของปีศาจ ไม่ใช่ก้อนน้ำแข็ง แน่นอนว่ามันต้องไม่ระเหิดหายไป!”
“จะว่าไปแล้ว ทำไมมันถึงหนีออกจากอาคานัมที่เจ้าบอกว่าถูกปิดผนึกได้นะ” มาร์นี่ถาม
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร…แต่ดูเหมือนเราจะเป็นคนปล่อยมันออกมา” เอลฟ์สาวตอบกลับอย่างว่างเปล่า
"…เจ้านั่นทำแบบนี้ทั้ง ๆ ที่มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น” มาร์นี่ขมวดคิ้ว
"แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับศพที่ไม่หายไป?” เซลีนถาม แต่ครั้งนี้มาร์นี่ไม่ตอบ
มันผิดปกติแน่นอน
ตามทฤษฎีแล้วสัตว์ประหลาดทุกตัวที่ผู้เล่นฆ่าจะถูกสังเวยให้เทพเจ้าแห่งเกม ปีศาจตายไปแล้วแน่นอน HP ของมันว่างเปล่า และไม่มีสัญญาณของชีวิต
แล้วทำไมมันถึงยังไม่หายไป?
ในขณะที่ผู้เล่นกำลังสับสนกับสถานการณ์ปัจจุบัน เอ็ดเวิร์ดก็สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าชื่อของปีศาจเปลี่ยนไป
ในตอนแรกเจ้านั่นมีชื่อว่า 'ปีศาจที่หลุดออกมาจากผนึก' เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และดูจะไม่ใช่ชื่อจริง
แต่ตอนนี้จู่ ๆ ชื่อนั้นก็เปลี่ยนเป็น ‘ไนท์คราย ศพพยาบาท’!
จากนั้นแถบ HP ที่ผู้เล่นล้างออกก็เต็มไปด้วยพลังชีวิตสีเขียวอีกครั้ง
และนั่นไม่ใช่ทั้งหมด ไนท์ครายมีไอคอนบัฟใต้แถบ HP ที่เรียกว่าเชื้อซอมบี้!
“ระวัง! เจ้านั้นฟื้นขึ้นมาแล้ว!” เอ็ดเวิร์ดร้องเสียงหลงทันที!
ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องเตือนผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นทั้งหมดสังเกตเห็นแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ และเตรียมลงแส้ปีศาจอีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้นศพของปีศาจก็ยังทนรับการโจมตีของผู้เล่นได้ แม้ว่ามันจะเซไปหลายก้าว
หลังจากนั้นมันก็โจมตีผู้เล่นรอบ ๆ ตัวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า การโจมตีของมันแรงพอ ๆ กับตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่!
คนแรกที่โดนคือวอร์ริเออร์ที่อยู่แนวหน้า เขาตายในฐานะโล่เนื้อจากการต่อสู้ครั้งก่อนและพึ่งถูกดึงกลับมาโดยเครลิค
การโจมตีครั้งนี้ ผู้เล่นวอร์ริเออร์ที่ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาหายไป 30% ในพริบตา!
ส่วนวอร์ริเออร์ที่เหลือก็มี HP อยู่ในเกณฑ์อันตราย
“เดี๋ยวก่อน เลือดเจ้าเป็นสีแดง!” ทันใดนั้นวอร์ริเออร์คนหนึ่งก็ทักสหายร่วมรบข้าง ๆ เขา
“ไร้สาระ เลือดข้าก็เป็นสีแดงมาตลอด” สหายของเขาตอบ “มันจะเป็นสีอะไรล่ะ สีเขียวรึ!”
“ไม่ ข้าหมายถึงแถบ HP ของเจ้าเป็นสีแดง!”
ผู้เล่นคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าแถบ HP สีเขียวของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจริง ๆ
และระดับ HP ของเขาก็ยังลดลงเรื่อย ๆ ไม่หยุด
“เกิดอะไรขึ้น? ข้าติดสถานะเลือดไหลรึ? ไม่สิ ดีบัฟนั่นมันคืออะไร…เชื้อซอมบี้!”
"ถ้าได้รับบาดเจ็บจากเจ้านั้นจะติดเชื้อและเลือดจะลดลงเรื่อย ๆ ระวังนะทุกคน!”
คำเตือนมาสายเกินไป
ผู้เล่นคลาสนักดาบวิญญาณค่อนเปราะบางกว่าวอร์ริเออร์มาตั้งแต่แรก (เนื่องจาก 25% ของ HP จะถูกโอนให้กับวิญญาณคู่หู) หลังจากถูกไนท์ครายข่วนและเหลือ HP เพียงเศษเสี้ยว ผู้เล่นก็จะเสียชีวิตทันทีหลังจากเลือดออกไม่กี่วิ
แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น
ศพของผู้เล่นที่เสียชีวิตขณะติดดีบัฟเชื้อซอมบี้จะไม่หายไปอย่างที่เคย มันยังคงอยู่ และไม่ช้าซากศพก็จะกลายเป็นซอมบี้ที่น่ากลัวและเริ่มโจมตีผู้เล่นคนอื่น ๆ
และชื่อผู้เล่นที่ลอยอยู่เหนือหัวของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็น 'ศพพยาบาทหวนคืน'
ทันใดนั้น ฉากทั้งหมดก็ปะทุขึ้นเหมือนนรก…
--------------------------------------------
เพจ FC-Translate