ตอนที่ 20: ไก่กังเปา (ส่วนที่2)
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------
ที่ชิยูทำแบบนี้ก็เพราะอยากจะทิ้งกิจการไว้และหาใครซักคนมาดูแลร้านแทนเธอ. ตอนแรกเธออยากให้เสี่ยววูมาดูร้านแทนแต่เขายังเด็กเกินไปและต้องใช้เวลาซักหน่อย. ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากให้พ่อครัวพวกนี้ซักคนมาดูให้.
ขอแค่พวกเขาเชี่ยวชาญวิชาทำอาหารของตัวเองและทำอาหารให้ออกมามีรสชาติเหมือนของเธอได้ จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น. สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาต้องดูแลร้านให้จนกว่าเสี่ยววูจะเก่งขึ้น.
ทันทีที่ชิยูประกาศแบบนี้ออกไป พวกพ่อครัวก็พากันตกใจ.
ทำไมน่ะเหรอ? ไม่ใช่เพราะเงิน100ตำลึงหรอก. แต่เป็นเรื่องสูตรอาหารต่างหาก อาหารอร่อยๆแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้สูตรไปง่ายๆหรอก แต่ชิยูกลับให้ง่ายๆซะนี่…..
เธอบ้าไปแล้วหรอ?
ชิยูไม่เคยหวงความรู้ตัวเองเลย. สำหรับเธอแล้วนี่ก็เป็นแค่อาหารทั่วๆไป ใครก็ทำได้. ปัญหาคือใครจะทำได้ดีที่สุดต่างหาก.
“พวกคุณไม่ชอบเหรอ?”
“แน่นอนเราชอบสิ!” พวกพ่อครัวตอบกันอย่างพร้อมเพรียง.
“งั้นวันนี้เราจะเปิดร้านกัน. พวกคุณมีหน้าที่ทำจานพิเศษของตัวเองไป. ส่วนไก่กังเปานี้ค่อยฝึกหลังทำงานเสร็จแล้วกัน! เอาล่ะ เล่าเอ๋อช่วยจดชื่ออาหารที่พวกเขาทำและชื่อคนทำไว้ให้ทีนะ. จากนั้นเราจะเพิ่มราคาอีก50% จากราคาที่พวกเขาคิดตามปกติ”
“ส่วนอาหารจานพิเศษของเราก็ เอ่อ เงิน1ตำลึงต่อจาน!”
“...... แค่เงิน1ตำลึงต่อจานเองเหรอ?”
ทุกๆคนตะลึง.
ราคาขนาดนี้ลูกค้าอยากจะซื้ออยู่หรอ?
“อาหารที่ชั้นทำคุ้มราคานี้แน่นอน”
จริงๆแล้วชิยูแค่อยากจะถนอมแรงไว้. ถ้าราคามันถูกเกินไป ลูกค้าก็จะสั่งเยอะขึ้นแล้วเธอก็จะเหนื่อยตายแน่ “และแต่ละวัน จานนี้จะมีแค่100จานเท่านั้น”
“....”
หลังจากทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาเปิดทำการของร้าน. มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ประทัดเสียงดังไปทั่วและพวกลูกค้าก็หลั่งไหลมาเข้าร้าน.
เล่าเอ๋อจดชื่ออาหารและราคาของแต่ละจานไว้ที่กระดานไม้ตรงกำแพงแล้ว. ลูกค้าจะได้เห็นราคาง่ายๆ.
“แพงจังนะ?” พวกลูกค้าเห็นราคาแล้วคิดหนักทันที.
โชคดีที่บางคนค่อนข้างมีฐานะและรู้จักกับตระกูลหลิน พวกเขาเองก็ถูกเชิญมาด้วย แต่พอเห็นราคาแล้วก็อดคิดหนักไม่ได้ พวกเขาคิดว่าตระกูลหลินเล่นตลกพวกเขาซะแล้ว.
หลินฟ่านกับพ่อของเขา, หลินจานเองก็มาด้วย พวกเขาเหมือนจะเดาอารมณ์ของแขกออก จึงรีบเรียกแขกมารวมกันแล้วกล่าว “วันนี้เป็นวันเปิดทำการครั้งแรก, นอกจากอาหารจานพิเศษแล้วอาหารจานอื่นๆฟรีครับ”
นี่คือกลยุทธขายของที่ชิยูเสนอ.
“ทำไมจานพิเศษไม่ฟรีด้วยเล่า?” มีคนถาม.
หลินจานตอบ “เพราะมันมีจำกัด100จานต่อวัน. พอขายหมดแล้วก็หมดเลยน่ะ”
ทุกคนได้ยินแล้วก็พากันตกใจ. เพราะเรื่องราคากับการจำกัดของอาหารในแต่ละวันมันไม่เกี่ยวกันเลย.
แต่ทุกคนก็ไว้หน้าหลินจานจึงไม่ถามต่อ. แล้วหันไปสงสัยเรื่องอาหารจานพิเศษแทน.
พวกเขาคิด ถ้าอาหารอื่นๆฟรีแล้วล่ะก็ น่าจะลองสั่งอาหารจานพิเศษกินดูซักหน่อย. ยังไงก็ได้มากกว่าเสียอยู่แล้ว.
แล้วพวกเขาก็สั่งไป.
ด้านในมีห้องครัวแยกเอาไว้ทอดเต้าหู้เหม็นอยู่. ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเลี่ยงไม่ให้อาหารจานอื่นติดกลิ่นเหม็นด้วย.
อาหารหลายๆจานถูกยกออกไปจากครัวอย่างรวดเร็ว. กลิ่นหอมของอาหารทำให้พวกลูกค้าอารมณ์ดีขณะที่กินอาหารอย่างมีความสุข.
จนกระทั่งไก่กังเปาจานแรกมาถึง.
พออาหารจานนี้ถูกวางลงบนโต๊ะทุกๆคนก็ให้ความสนใจกับมันทันที. พวกเขาอยากรู้ว่าทำไมเจ้าจานนี้ถึงมีราคาตั้ง1ตำลึงเงินนัก.
พวกเขาได้คำตอบทันทีหลังจากที่เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของลูกค้าคนแรกกินมันเข้าไปแค่คำเดียว.
“โอ๊ย เผ็ด! อร่อยมาก! ขอเพิ่มอีก5จานด้วยจ้า!” ชายคนนั้นเพิ่งกินหมดไปเต็มคำก็รีบตะโกนสั่งเพิ่มอีก5จานทันที. เขากลัวว่าถ้าไม่สั่งไว้ก่อนคงไม่เหลือให้กินแน่.
พวกลูกค้าที่ได้ยินเสียงตะโกนของเขาพากันตกใจ สายตาของพวกเขาลุกโชนขณะที่มองไปทางจานไก่กังเปา…..
ชิยูทำอาหารในครัวต่อไปเรื่อยๆ. นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้อยู่ในครัวนานๆแบบนี้? ทำซาลาเปายังไม่เหนื่อยเท่าทำไก่กังเปาเลย. แรงของเธอเริ่มหมดลงทีละน้อยๆ ไม่นานเธอก็ต้องหยุดพักก่อน.
ในที่สุดเธอก็ทำไก่กังเปาครบ100จาน. จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยจนไม่มีแรงทำอะไรอีกแล้วจึงนั่งพักอยู่ที่เก้าอี้. ชิยูรู้สึกว่าตัวเองไม่มีแรงพอจะหยิบตะเกียบด้วยซ้ำ.
“เหนื่อยจริงๆ!” แต่ก็สนุกจริงๆ. เพราะเธอได้รู้สึกสนุกกับการทำงานในครัวอีกครั้ง. เธอต้องรีบแข็งแรงขึ้นแล้วไม่งั้นทำต่อไม่ไหวแน่.
“พี่ครับ!” เล่าเอ๋อรีบวิ่งเข้ามา “มีลูกค้าหลายคนด้านนอกดื้อจะสั่งไก่กังเปาเพิ่มครับ วันนี้เป็นวันเปิดร้านวันแรก ผมว่าเรา…” พอเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของชิยู เล่าเอ๋อก็หยุดพูดทันที.
พวกพ่อครัวที่อยู่รอบๆก็เข้ามาหาแล้วบอกว่า “ปล่อยพี่เขาพักเถอะ เธอยังเด็กอยู่เลยทำงานหนักแบบนี้ไม่ไหวหรอก. ถ้าเธอทำงานหนักเกินไป ร้านนี้ขาดทุนยับแน่”
“อื้อๆ ผมผิดเองครับ. เดี๋ยวจะรีบกลับไปบอกลูกค้านะครับ” เล่าเอ๋อรีบวิ่งออกไป.
พอเห็นเล่าเอ๋อวิ่งเข้าวิ่งออกอย่างกับสายลม ชิยูก็ส่ายมือ. วันนี้เธอทำหน้าที่ตัวเองเสร็จแล้วเธอจึงตัดสินใจไปดูงานของพ่อครัวคนอื่น. ราคาอาหารของพวกเขาค่อนข้างแพง ดังนั้นฝีมือทำอาหารของพวกเขาก็ต้องดีตามเช่นกัน.
วิธีทำอาหารก็เห็นได้บ่อยๆไป ใส่น้ำมันลงในกระทะ ผัดวัตถุดิบแล้วก็ใส่เกลือใส่เครื่องปรุงแล้วก็เสิร์ฟ.
ชิยูเลยไปแนะนำพวกพ่อครัวบ้างเป็นครั้งคราว อาหารจะได้ออกมาดีขึ้น. ตัวอย่างเช่นหมูนั้นควรใส่เกลือและเอาไปคลุกแป้งบางๆก่อน หมูจะได้นุ่มและกรอบขึ้น. เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อปลาเละ ให้เอาปลาไปทอดก่อน ฯลฯ.
วันแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว. ด้วยเต้าหู้เหม็นและไก่กังเปา ร้านนี้จึงเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา.
คืนนั้นเองพอร้านปิดแล้ว ชิยูก็เชิญพ่อครัวทุกคนเข้ามาในห้องครัว.
“วันนี้เป็นวันเปิดร้าน. ทุกๆคนทำงานหนักและเหนื่อยล้ากันมาก. คืนนี้เราจะทำอาหารให้ตัวเองกินกัน! ทุกๆคนกินและดื่มจนกว่าจะอิ่มเลยนะคะ”
หลังจากพวกเขากินข้าวกันเสร็จแล้วชิยูก็บอกให้เล่าเอ๋อไปเอาบันทึกคะแนนของวันนี้ออกมา “วันนี้เราได้คำนวณจำนวนจานอาหารที่ลูกค้าสั่งไว้หมดแล้ว. ชั้นขอประกาศผลล่ะนะ”
จากนั้นเล่าเอ๋อก็เริ่มอ่านคะแนนให้ฟัง.
“พ่อครัวหลี่ เหลียง ขายแกงผักกาดขาวได้131ถ้วย, ถั่วลันเตาผัด93จาน”
“พ่อครัวหวาง โช่วหมิง ขายเนื้อต้มหัวไชเท้าได้ 301ถ้วย”
“พ่อครัวเจา หมิง ขายหมูผัดเผ็ดได้280จาน”
ทันทีที่เล่าเอ๋อประกาศเสร็จ พวกพ่อครัวก็พากันนั่งตัวตรงและรอฟัง….
จากผู้แปล: หลังจากนี้ผมน่าจะอัพช่วง2ทุ่ม-เที่ยงคืนนะครับ น่าจะเวลานี้แหละ