Ep.775 - ทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้น

5/5

Ep.775 - ทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้น

ปรมาจารย์หลงได้บอกคุณสมบัติของรูบิควิเศษของฉินเฟิง และเรื่องราวของดาบอสูรฟ้าแก่หลงเยว่

หลงเยว่มองสำรวจฉินเฟิง และพบว่าอีกฝ่ายยังเด็กเกินไป เขาอดทำใจเชื่อปรมาจารย์หลงไม่ได้จริงๆ

“นายได้รับดาบอสูรฟ้ามาอย่างไร? แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังขาดดาบ? รูบิควิเศษที่ว่า มันคงไม่ได้ซ่อนกลไกไม่ดีอะไรไว้ใช่ไหม!”

หลงเยว่กล่าวเสียงหม่น ทุกคำที่เปล่งออกมา ทำให้ผู้คนที่ได้ฟังรู้สึกกดดันอย่างหนัก

ฉินเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อย ตอบกลับว่า “ผมไม่ทราบเรื่องคุณกำลังขาดดาบ ส่วนดาบเล่มนี้ มันถูกชิงมาจากมือของเหอเทียนสิง!”

ดวงตาอันลึกล้ำของหลงเยว่จับจ้องไปยังฉินเฟิง “ด้วยฝีมือนาย?”

ฉินเฟิงเชิดคางขึ้น พร้อมอย่างภาคภูมิ “ด้วยฝีมือแฟนผม!”

ไป๋หลีมองไปยังหลงเยว่ด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย กล่าวว่า “คุณไม่เชื่อว่าฉันสามารถชิงมันมาได้สินะ งั้นลองหยิบอาวุธเทวะของคุณออกมาสักชิ้นสิ ฉันกล้ารับประกันเลยว่าจะทำให้มันหายไป ไม่ให้คุณได้เห็นมันอีกเลย!”

เมื่อถึงจุดนี้ สายตาของหลงเยว่เบนมาตกลงบนร่างของไป๋หลี เขาสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของอีกฝ่าย บังเกิดความสับสนอยู่ครู่หนึ่ง สักพักทำท่าทีเหมือนนึกอะไรออก ต้องเลิกคิ้วอย่างคาดไม่ถึง

เห็นได้ชัดว่าหลงเยว่สามารถระบุสถานะของไป๋หลีได้

แม้อยู่ในคราบมนุษย์ แต่อีกฝ่ายเป็นสัตว์ยักษ์มิติอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่นั้น ปัจจุบันอยู่ในระดับเทวะเลเวล A แล้ว!

ถึงตอนนี้หลงเยว่ค่อนรู้สึกเชื่อขึ้นมานิดหน่อย

ส่วนประเด็นที่ฉินเฟิงเรียกไป๋หลีว่าแฟน เขาไม่แปลกใจเลยสักนิด เพราะท่ามกลางหายนะยุคโลกาวินาศ บางครั้งสัตว์ร้ายก็มีความน่าเชื่อถือกว่ามนุษย์ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าฉินเฟิงกับไป๋หลีมีพันธสัญญาต่อกัน!

ไม่มีใครที่ฉินเฟิงให้ความไว้ใจมากกว่าไป๋หลีแล้ว

“อืม เชื่อก็เชื่อ ถ้างั้นนายต้องการแลกเปลี่ยนกับอะไร? แลกกับแต้มสงครามโดยตรงหรือแลกกับสมบัติชิ้นอื่น”

นี่แหละคือคำพูดที่ฉินเฟิงรอฟัง!

“เรื่องนั้นผมคงต้องขอดูสมบัติในคลังของเมืองหลวงมังกรก่อน” ฉินเฟิงกล่าว

“ไม่มีปัญหา!” หลงเยว่พยักหน้า เปิดอำนาจสิทธิ์การเข้าถึงแก่ฉินเฟิง

【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!】

บนอุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิง หน้าต่างแลกเปลี่ยนแต้มสงครามถูกเปิดขึ้น แต่เขามีแต้มสงครามอยู่เพียง 8,000 กว่าแต้มเท่านั้น ยิ่งมองยิ่งน่าสงสารนัก หากคิดใช้ซื้อรายการเลเวล S ที่มีราคาหลายล้าน คงเป็นไปไม่ได้

ฉินเฟิงกวาดสายตาผ่านรายการเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

เขาพบทั้งอาวุธเทวะเลเวล S  , เกราะเทวะเลเวล S มีกระทั่งศิลาศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายชิ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถซื้อหาจากภายนอกได้ทั้งหมด ฉินเฟิงในปัจจุบัน สิ่งที่ไม่ขาดแคลนมากที่สุดของเขาคือเงิน!

แต่ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่าง ที่เขาไม่สามารถหาซื้อมันได้จากภายนอกเช่นกัน

【ทักษะลับกงล้อตะวัน】 ทักษะฝึกยุทธเลเวล S

【เจตแห่งดาบไร้ขอบเขต】 กระบวนท่าวรยุทธเลเวล S

【ทลายสวรรค์ดับดารา】 วิธีผลิตจักรกลเลเวล S

ฉินเฟิงพอได้อ่านรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ก็คล้ายเริ่มถูกเสน่ห์ของพวกมันดึงดูด

เมืองหลวงมังกร แข็งแกร่งกว่าเมืองหลักในภูมิภาคเหนือมากมายนัก สมบัติคงคลังในภูมิภาคเหนือ แทบสามารถนับด้วยนิ้วมือได้ แต่เบื้องหน้าฉินเฟิงในตอนนี้ อย่างน้อยมีมากกว่าหลักร้อย

เกรงว่าสิ่งเหล่านี้คงได้รับการสั่งสมมาเป็นเวลานานมากแล้ว!

แต่ในตอนนั้นเอง สายตาของฉินเฟิงก็หยุดลงบนรายการกระบวนท่าวรยุทธหนึ่ง

【หมื่นวิญญาณสะบั้น】 กระบวนท่าวรยุทธเลเวล S

ด้านล่างของกระบวนท่านี้ มีคำแนะนำเบื้องต้นอธิบายไว้ว่า

【หมื่นวิญญาณสะบั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อร้อยปีก่อนโดยหลินว่านจง ปีศาจร้ายผู้มีชื่อเสียงแห่งกองกำลังมืด มันช่วยให้อาวุธที่ใช้สามารถเก็บรวบรวมจิตวิญญาณ ก่อให้เกิดการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนได้ ยิ่งถูกหนุนเสริมด้วยวิชาตัวเบาร่างเงาที่เหมาะสม ต่อให้เผชิญกับศัตรูนับหมื่น ก็มิใช่ปัญหา!】

【หมายเหตุพิเศษ : หมื่นวิญญาณสะบั้นจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับอาวุธที่ทำจาก ‘ศิลาตรึงวิญญาณ’ เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ขั้นสูงสุด!】

ศิลาตรึงวิญญาณ เป็นสมบัติระดับ S มันสามารถใช้กักขังวิญญาณของสัตว์ร้ายหรือมนุษย์ที่ถูกล่าได้ คุณสมบัตินี้ค่อนข้างแปลกประหลาดมาก

แถมยังมีคนมากมาย เคยอาศัยคุณสมบัติดังกล่าวของศิลา คิดหมายทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้อย่างการปลุกคนตาย

ด้วยเหตุนี้เอง ศิลาประเภทนี้จึงเป็นของที่หาได้ยากมาก

ฉินเฟิงอ่านคำอธบิายของหมื่นวิญญาณสะบั้นอย่างละเอียด ในที่สุดก็ชี้มายังกระบวนท่าวรยุทธนี้และกล่าวว่า  “ผมขอแลกเปลี่ยนกับสิ่งนี้ได้หรือไม่?”

อาวุธเทวะของเหอเทียนสิงทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้นเป็นกระบวนท่าวรยุทธ หากให้พูดเปรีนบเทียบกัน เอาจริงๆ ยังเป็นกระบวนท่าวรยุทธนี้ที่มีค่ามากกว่า

หลงเยว่กับปรมาจารย์หลง ทั้งคู่แสดงออกถึงความประหลาดใจ

“คุณต้องการสิ่งนี้?”

“ครับ!”

“จะไม่ลองพิจารณาดีๆดูก่อนหรอ? คุณรู้รึเปล่าว่ากระบวนท่าวรยุทธนี้ นอกจากหลินว่านจงแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถฝึกฝนมันได้อีกเลย แม้จะมีบางคนใช้เวลาฝึกฝนมันนานถึงหลายสิบปี แต่กลับไม่อาจบรรลุผลลัพธ์ขั้นสูงสุดได้ อีกเรื่องคือศิลาตรึงวิญญาณเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก!” ปรมาจารย์หลงพูดจาโน้มน้าวใจเขา

กระทั่งหลงเยว่ยังเอ่ยปากออกมาว่า “ทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้นจำเป็นต้องดูดซับวิญญาณจำนวนมาก เพื่อระเบิดออกเป็นการโจมตีที่ก่อให้เกิดพลังยิ่งใหญ่ที่สุด หลินว่านจงเป็นฆาตกร เขาคือปีศาจสังหาร จึงสามารถทำได้ ฉะนั้น ฉันไม่แนะนำให้นายใช้กระบวนท่าวรยุทธนี้!”

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงยังคงเอ่ยถามว่า “แล้ววิญญาณของสัตว์ร้ายเล่า? มันก็สามารถดูดซับได้ไม่ใช่หรอ?”

ปรมาจารย์หลงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ฉุกคิดได้ในทันที เขาทราบว่าฉินเฟิงเป็นอันดับหนึ่งในงานประลองลูกรักของพระเจ้า และเกรงว่าหลังจากนั้น เขาจะให้ความสนใจกับฉินเฟิงพอสมควร จึงพอทราบถึงบันทึกการต่อสู้ของฉินเฟิง!

สัตว์ร้ายที่ฉินเฟิงล่าสังหาร แท้จริงแล้วมากมายยิ่งกว่าคนปกตินับสิบนับร้อยเท่า!

วินาทีนั้น ปรมาจารย์หลงคล้ายเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า ทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้นเล่มนี้ เหมาะสมกับฉินเฟิงที่สุดแล้ว!

“แน่ใจใช่ไหมว่าคุณต้องการแลกเปลี่ยนมันจริงๆ” ปรมาจารย์หลงถาม

“ผมมั่นใจ!” ฉินเฟิงให้คำตอบยืนกราน

“ตกลง ฉันจะไปเอามันมาให้นายเดี๋ยวนี้แหละ” หลงเยว่เอ่ยปาก เดินออกจากห้องส่วนตัว เพื่อให้พ้นรัศมีมิติปิดล้อมของไป๋หลี จากนั้นเปิดใช้งานตัวเชื่อมมิติ เข้าไปยังห้องสมบัติลับของเมืองหลวงมังกร นำกระบวนท่าวรยุทธนี้ออกมา

ใช้เวลาไม่ถึงสามนาที กระบวนท่าวรยุทธนี้ก็ตกอยู่ในมือของฉินเฟิง

ฉินเฟิงตรวจสอบมัน เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็มอบดาบอสูรฟ้าของเหอเทียนสิงให้แก่หลงเยว่

หลงเยว่หยิบรูบิควิเศษออกมา หลังจากทำความเข้าใจวิธีการใช้งานแล้ว เขาไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก ก่อนนำวัสดุเลเวล S ไม่กี่ชิ้นลงไป เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ลงทุนใส่ของลงในรูบิควิเศษเลย

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม หลงเยว่ก็สามารถดัดแปลงอาวุธชิ้นนี้จนเสร็จ เขาใช้พลังสมาธิดึงดาบเล่มนี้ออกมา  พริบตานั้นรังสีดาบสาดกระจายอย่างมิอาจควบคุม!

ฉัวะ!

บนพื้นห้อง ปรากฏร่องรอยจากคมดาบ ตัดอักษรรูนสีเงินที่ปิดล้อมรอบห้อง นี่ไม่ใช่แค่การตัดพื้นธรรมดาๆ แต่รังสีของดาบเล่มนี้ สามาระทะลวงมิติปิดล้อมของไป๋หลีได้

แน่นอน เมื่อถึงจุดนี้ มิติปิดล้อมของเธอไม่มีความจำเป็นใดๆอีกต่อไป

เนื่องจากดาบอสูรฟ้าของเหอเทียนสิง เวลานี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ดาบที่ปรากฏในมือของหลงเยว่ รูปลักษณ์เปลี่ยนไปไม่เหมือนเค้าเดิม!

อาจกล่าวได้ว่า ด้วยอำนาจจากรูบิควิเศษของฉินเฟิง ทำให้ดาบเล่มนี้ยกระดับไปอีกขั้น

“รูบิควิเศษก้อนนี้ เป็นของดีจริงๆ!” ปรมาจารย์หลงกล่าว แต่สุดท้ายส่ายหัว “ลืมมันเถอะ สุภาพชนไม่คิดเอาเปรียบผู้อื่น ฉันจะไม่บังคับหรือถามคุณว่ายินดีขายเจ้าสิ่งนี้หรือไม่!”

ฉินเฟิงกล่าว “หากคุณต้องการ ผมสามารถให้หยิบยืมมันได้ทุกเมื่อ”

“ตกลง! แต่ตอนนี้ฉันคงต้องเตรียมตัวก่อน มาเถอะ พวกเรามาแลกเปลี่ยนหมายเลขสื่อสารกัน!”

ฉินเฟิงเปิดอุปกรณ์สื่อสาร และบันทึกหมายเลขของอีกฝ่าย ในที่สุดชื่อของปรมาจารย์หลงก็ถูกเปิดเผยออกมา

‘หลงหยุนอี้? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่เกรงว่าตำนานของอีกฝ่ายคงปรากฏขึ้นมาตั้งแต่นานนมแล้ว เลยถูกตำนานใหม่ๆกลบทับไปจนหมดสิ้น!’

อย่างไรก็ตาม แม้ฉินเฟิงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของหลงหยุนอี้มาก่อน แต่ในทางตรงกันข้าม เรื่องนี้กลับทำให้ฉินเฟิงยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายยากจะคาดหยั่งถึง

เพราะท้ายที่สุดแล้ว หลงเยว่เรียกอีกฝ่ายว่าลุง แม้ความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองจะไม่ต่างกันมากเท่าใด แต่นี่ยังเป็นบุคคลที่มีอายุยืนยาวถึง 200 ปี

บุคคลประเภทนี้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและไม่มีผู้ใดล่วงรู้สถานะในเมืองหลวงมังกร และคาดว่าน่าจะไม่ใช่แค่คนเดียว หากมีคนอื่นๆบุกเข้ามาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวล่ะก็ …

ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ทั้งฝั่งเจ้าภาพและแขกผู้มาเยือน ต่างเบิกบานใจกันถ้วนหน้า