Ep.774 - ปรมาจารย์หลง
4/5
Ep.774 - ปรมาจารย์หลง
“อะไรนะ? ลูกรักของพระเจ้า? งั้นหมายความว่าเขาเพิ่งอายุครบ 20 ปีน่ะสิ? อายุแค่ 20 ปีก็สามารถมาถึงเลเวล B ได้แล้ว นี่มันเรื่องจริงงั้นหรือ?”
“แสดงว่านายยังไม่รู้จักเขาจริงๆ นั่นคือฉินเฟิง ปีนี้เขาน่าจะมีอายุ 18 ปี ในงานประมูลของเมืองหลวงแห่งความมืด ได้ยินมาว่าเขาสังหารผู้ใช้พลังเลเวล A ไปมากกว่า 30 คน! และยังเพิ่งกลับมาจากเกาะนรก!”
“หาาาา!? เกาะนรก!! สถานที่แบบนั้นเขากล้าเข้าไปได้อย่างไร!!”
ทุกคนต่างตกตะลึง เกือบทั้งหมดถอนหายใจด้วยความชื่นชม แต่ยังมีบางคนแสดงออกถึงความอิจฉาตาร้อน ไม่ใช่ทุกคนจะคิดแบบเดียวกันหมด
ฉินเฟิงไม่ทราบถึงเรื่องราวเหล่านี้ เขารออยู่ในห้องส่วนตัว หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาและเป็นผู้ใหญ่ก็เดินเข้ามา
ผู้ชายคนนี้ มีกลิ่นอายที่ดูพิเศษมาก มองจากรูปลักษณ์ของเขา ดูเหมือนคนอายุประมาณ 35 - 36 ปี ทว่าความมันวาวของผิว ทำให้เขายิ่งดูเด็กลงเหมือนในวัย 20 ปี กระทั่งให้ความรู้สึกถึงความทรนง
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นลักษณะของผู้มีตำแหน่งสูงและเป็นที่เคารพ
ฉินเฟิงสบตาอีกฝ่าย ครู่หนึ่งความคิดบางอย่างวาบผ่านเข้ามา เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้เรียบง่ายเช่นนั้น
แม้ดวงตาของอีกฝ่ายเวลานี้กำลังยิ้มแย้ม หากแต่มองลึกเข้าไป จะพบกับระลอกคลื่นความผันผวน คล้ายดั่งคนที่ผ่านพ้นประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชนแล้ว
แบบเดียวกันแซด!
คนๆนี้มีอายุมากแล้วแน่นอน!
“สวัสดี คุณคงเป็นอันดับหนึ่งลูกรักของพระเจ้า ยินดีที่ได้พบกัน” ชายคนนั้นเอ่ยทักทายขึ้นมา ยื่นมือให้ฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ฉินเฟิงเชคแฮนด์ กระทั่งคำพูดยังแฝงน้ำเสียงให้เกียรติ แบบไม่รู้ตัว
ชายคนนั้นหยุดเล็กน้อย เลิกคิ้วมองฉินเฟิง สำรวจใบหน้าของฉินเฟิง สุดท้ายกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พนักงานคนเดิมกล่าวว่า “นี่คือผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินระดับ S ปรมาจารย์หลง เขาจะเป็นคนประเมินสินค้าให้คุณ”
“เข้าใจแล้ว” ฉินเฟิงพยักหน้า
“ตอนนี้เธอไปก่อนเถอะ” ปรมาจารย์หลงหันไปบอกให้พนักงานออกไป อีกฝ่ายเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล D จริงอยู่ว่าหญิงชายนั้นเท่าเทียม แต่เธอคือคนที่เลือกฝึกยุทธในที่ปลอดภัย ไม่ยินยอมออกไปสู้ภายนอก ฉะนั้นหากสินค้าชิ้นนี้เป็นอาวุธเทวะเลเวล S จริงๆ เกรงว่าเธอจะไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากมันได้
“เจ้าค่ะ ท่านผู้ใหญ่” หญิงสาวแสดงความเคารพแล้วจากไป
ภายในห้องส่วนตัว เหลือเพียงสามคน
“มาเถอะ ลูกรักของพระเจ้าฉินเฟิง ขอให้ฉันดูหน่อย ว่าคุณได้รับสมบัติใดมาจากเกาะนรก” ปรมาจารย์หลงเห็นได้ชัดว่าอยากรู้อยากเห็น
ฉินเฟิงกล่าว “เจ้าสิ่งนี้ผมได้รับมาจากในเมืองหลวงแห่งความมืด เกราะนรกน่ะเป็นแค่ทุ่งล่า มันไม่มีอาวุธเทวะอยู่ที่นั่น”
อีกฝ่ายผงกหัวเห็นด้วยกับคำพูดของฉินเฟิง
“ไป๋หลี อันดับแรกช่วยปิดกั้นมิติที่นี่ก่อน”
ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องพูดคำเหล่านี้ก็ได้ แต่แค่เกรงว่าผู้ประเมินตรงหน้าจะเข้าใจผิด ดังนั้นเอ่ยปากไว้ล่วงหน้า
ปรมาจารย์หลงไม่ขัดข้อง ไป๋หลีเริ่มลงมือ ปิดกั้นมิติแห่งนี้
ในพริบตา ห้องส่วนตัวก็กลายเป็นโลกอีกใบ ไม่เพียงแค่นั้น มันยังให้ความรู้สึกราวกับกำลังอยู่ในพื้นที่มิติของไป๋หลี แบบนี้ต่อให้เป็นเจ้าของอย่างเหอเทียนสิง ก็ยังไม่ตระหนักถึงการปรากฏตัวของดาบ
จากนั้น ไป๋หลีก็เรียกดาบออกมาจากพื้นที่มิติ วางมันลงบนโต๊ะแสดงสินค้า
นี่คือดาบยาวประมาณ 1.80 เมตร หลังปรากฏตัว มันคล้ายตระหนักว่าตนสูญเสียการเชื่อมต่อกับเจ้าของ ส่งเสียงหึ่งหึ่ง ชวนให้ผู้คนขนลุกไปทั่วร่าง
ปรมาจารย์หลงยังคงสงสัยเล็กน้อย เดินเข้าสำรวจมันอย่างสบายๆ แต่เมื่อเห็นชัดๆ ตอนนี้ดวงตาของเขาต้องเบิกกว้างด้วยความตะลึง
หลายปีมาแล้ว ที่ไม่ได้เกิดเรื่องน่าประหลาดใจเช่นนี้ สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความประหลาดใจที่ไม่ได้ปรากฏขึ้นมานานแล้ว
“ดาบอสูรฟ้า?”
นี่ไม่ใช่อาวุธของเหอเทียนสิงหรอกหรือ?
ปรมาจารย์หลงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทันที กวาดสำรวจขึ้นๆลงๆ และพบว่ามันคือดาบอสูรฟ้าแน่นอน ไม่มีร่องรอยของการปลอมแปลงใดๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น ปรมาจารย์หลงก็เงยหน้าขึ้น มองมายังฉินเฟิง ด้วยสีหน้าแปลกๆ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะได้รับเจ้าสิ่งนี้มา แบบนี้เจ้าเหอเทียนสิงไม่กลายเป็นบ้าไปเลยหรือ?
ทว่า สำหรับบางเรื่อง เมื่ออยู่ในฐานะผู้ประเมิน มันไม่สามารถถามได้!
แต่เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกคันในหัวใจ ยากจะเกา ยังไงก็ตาม เจ้าตัวสามารถเรียกคืนทัศนคติความเป็นมืออาชีพได้อย่างรวดเร็ว
เขากระแอมไอเล็กน้อย และกล่าวว่า “อาวุธเทวะชิ้นนี้ เป็นอาวุธเทวะเลเวล S จริงๆ คุณสมบัติเองก็ทรงพลังมาก แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ อาวุธเทวะชิ้นนี้มีเจ้าของแล้ว เจ้าของของมันคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S”
“ในกรณีนี้ จำเป็นต้องใช้พลังสมาธิอานุภาพมหาศาล เพื่อทำลายการเชื่อมต่อนี้ อย่างน้อยต้องเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ที่เหนือกว่าเลเวล SS และราคาที่ให้บุคคลที่ว่าลงมือ เกรงว่ามันจะแพงกว่าอาวุธเทวะชิ้นนี้ของคุณ”
ฉินเฟิงย่อมทราบเป็นธรรมดา แต่ปัญหาข้อนี้เขาเตรียมการแก้ไขมาเป็นอย่างดี
“ปรมาจารย์หลงกล่าวถ้าถูกต้อง แต่ตอนนี้คุณก็เห็นแล้วว่าผมสามารถสร้างพื้นที่มิติแยกการเชื่อมต่อได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นสามารถผนึกอาวุธเทวะชิ้นนี้ไว้ได้ชั่วคราว และอีกอย่าง ...”
ฉินเฟิงหยิบรูบิควิเศษออกมา และอธิบายเกี่ยวกับคุณสมบัติของมัน ดวงตาของปรมาจารย์หลงเปล่งประกาย เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลย ว่าฉินเฟิงจะครอบครองของชั้นยอดมากมาย เขาถึงขั้นคิดด้วยซ้ำ ว่ารูบิควิเศษนี้ เมื่อเทียบกับดาบอสูรฟ้าแล้ว มันเป็นสมบัติที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่าซะอีก
ฉินเฟิงแนะนำคุณสมบัติของมันจนจบ และกล่าวต่อว่า “ถ้าคุณไม่รับมัน ผมสามารถประกาศเรื่องเกี่ยวกับดาบอสูรฟ้าบนเครือข่ายนักสู้ไว้ชั่วคราว รอจนกว่าจะมีคนมาขอแลก แล้วมอบแต้มสงครามให้กับผม”
นี่ถือเป็นวิธีประนีประนอม และส่วนสำคัญที่สุดก็คือ วิธีนี้จะช่วยให้ฉินเฟิงสามารถเปิดสิทธิ์ในเมืองหลวงมังกรได้
เดิมการแลกเปลี่ยนสมบัติกับแต้มสงคราม มันมีข้อจำกัด แม้ถูกดำเนินการโดยพันธมิตรมนุษย์เหมือนกัน แต่แต้มสงครามได้จากที่ใด ก็สามารถแลกเปลี่ยนได้แค่ที่นั่น นำมาใช้จ่ายที่อื่นไม่ได้ ยกเว้นแต้มที่ได้รับการแปลง
ตัวอย่างเช่นฉินเฟิงเคยได้รับมอบหมายสองภารกิจใหญ่จากทางพันธมิตรมนุษย์ ครั้งแรกไปยังลุ่มน้ำตู่ซาน อีกครั้งเป็นทะเลตะวันออก สองภารกิจนี้สามารถทำแต้มสงครามได้มากมาย และช่วยให้สามารถสะสมแต้มสงครามของพันธมิตรมนุษย์ (แต้มของเมืองหลวงมังกร) ได้เช่นกัน
เพียงแต่ว่า แต้มดังกล่าวจะเป็นแต้มเพิ่มเติมหลังหักส่วนแปลง อย่างลุ่มน้ำตู่ซานฉินเฟิงได้มาแค่ 3,400 แต้ม ฝั่งทะเลตะวันออกได้มาแค่ 5,200 แต้ม รวมๆแล้ว แต้มสงครามของเมืองหลวงมังกรเลยมีอยู่เพียง 8,000 แต้มเท่านั้น
ในขณะที่สมบัติเลเวล S ต้องใช้แต้มสงครามนับล้านของเมืองหลวงมังกรในการแลกเปลี่ยน ฉินเฟิงไม่สามารถหาแต้มมหาศาลขนาดนั้นมาได้ในตอนนี้ แต่ตราบใดที่เขามีเป้าหมาย การต่อสู้เพื่อได้รับแต้มสงครามถือเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับ
อย่างไรก็ตาม ปรมาจารย์หลงไม่เห็นด้วยกับวิธีของฉินเฟิง กล่าวขัดโดยตรงว่า “ไม่จำเป็น เรื่องนั้นไม่จำเป็นเลย! ฉันจะเรียกคนมารับเอาดาบเล่มนี้ไปเดี๋ยวนี้!”
ว่าจบเขาก็เปิดอุปกรณ์สื่อสาร และติดต่อหาใครบางคนทันที
ครั้งนี้ ใช้เวลารอถึงครึ่งชั่วโมง ในที่สุดอีกฝ่ายก็มาถึงอย่างเร่งรีบ
เมื่ออีกฝ่ายมาถึงประตู ไป๋หลียังไม่ทันได้ถอนมิติปิดกั้น เขาก็เปิดเข้ามาแล้ว
ชายคนนี้ สูงประมาณสองเมตร ร่างกายและจิตวิญญาณเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง แทบจะเหมือนกับหอคอยเหล็กกล้า ปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมาจากตลอดทั้งตัว
คู่ดวงตาของฉินเฟิงหดวูบลงทันใด
เลเวล S !
นี่คือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S อย่างแน่นอน!
“ลุงสิบสาม คุณเรียกผมหรอ!” ชายคนนั้นกล่าวเสียงทุ้ม
ปรมาจารย์หลงเห็นได้ชัดว่ามีความสุขมาก กวักมือเรียกอีกฝ่ายเข้ามา “เสี่ยวเยว่เยว่(เยว่เยว่น้อย) รีบมาดูนี่เร็ว!”
แม้จะเรียกอย่างเป็นกันเองว่าเสี่ยวเยว่เยว่ แต่เพียงได้ยิน ฉินเฟิงก็สามารถคาดเดาสถานะของอีกฝ่ายได้ทันที
‘ถ้าทั้งสองคนเป็นลุงกับหลานชาย แล้วทั้งคู่มีสกุลว่าหลง เขาคนนี้ไม่ใช่ว่าคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่น 25 ของตระกูลหลง --หลงเยว่หรอกหรือ?’
ตระกูลหลงมีประวัติมาอย่างยาวนานและยิ่งใหญ่ตั้งแต่ก่อนยุครอยแยกมิติ เรื่องที่ว่าพวกเขาเป็นตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณตกทอดกันมากี่ปีแล้ว มีแต่คนภายในเท่านั้นที่รู้!
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เมืองหลวงมังกรก่อตั้งขึ้น หลงถิงยังคงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองตลอดมา เธอมีอายุ 200 กว่าปีแล้ว แต่ยังเรียกตัวเองว่าผู้แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหลงรุ่นที่ 28 !
นั่นหมายความว่าเธอต้องเรียกหลงเยว่ว่าคุณปู่!!
แม้เป็นตระกูลใหญ่ ทว่าแต่ละรุ่นแต่ละช่วงอายุ บางครั้งก็แตกต่างกันมาก ยังไงก็ตาม สิ่งที่ฉินเฟิงให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ ปรมาจารย์หลงผู้นี้ หลงเยว่เพิ่งเรียกเขาว่าลุงสิบสามอย่างไม่คาดฝัน!
‘ในเมืองหลวงมังกร ย่อมเป็นสถานที่ดั่งเสือหมอบมังกรซ่อน เกรงว่าผู้ประเมินเบื้องหน้าฉัน บางทีเขาอาจจะเป็นเลเวล S เหมือนกัน!’