Ep.769 - เจ้าเมืองแห่งความมืดเลเวล S
4/5
Ep.769 - เจ้าเมืองแห่งความมืดเลเวล S
ขณะนี้ โม่ลี่เองก็ถูกคนของคลับมังกรดำยิงถล่มเช่นกัน!
ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมัน ทำให้ตกเป็นเป้าอย่างดี บนกำแพงของเมืองหลวงแห่งความมืด กระสุนทำลายล้างในระดับ A นับสิบลูกถูกยิงออกมาในคราวเดียว ปืนใหญ่พลังงานแก่นสัตว์ร้ายที่สามารถต้านทานสัตว์ร้ายเลเวล A ล้วนหันปากกระบอกปืนเข้าหาโม่ลี่
ปืนใหญ่เหล่านี้ ระดมยิงออกมาอย่างพร้อมเพรียง ส่วนตึกรามบริเวณนั้นจะมีผู้รอดชีวิตติดอยู่อีกหรือไม่ คลับมังกรดำไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย!
เพราะเวลานี้ เรื่องการกำจัดโม่ลี่ต้องมาก่อน
กระนั้น ปืนใหญ่พลังงานแก่นสัตว์ร้ายเหล่านี้ แม้สามารถใช้สังหารสัตว์ร้ายเลเวล A ได้ แต่มันไม่มากพอที่จะใช้ปลิดชีพสัตว์เทวะ
โม่ลี่ทรงพลังเกินไป การระดมยิงของปืนใหญ่เหล่านี้ไม่ระคายเกล็ดมันเลย
ยามกระสุนปืนใหญ่ตกกระทบกับร่างของโม่ลี่ บังเกิดระเบิดคลื่นพลังงานผันผวน แม้สุดท้ายจะดูเหมือนว่าความแวววาวของเกล็ดโม่ลี่จะจืดจางลง และเกิดเสียง ซี่ ซี่ ซี่ ซี่! แต่มันไม่ได้ผลใดๆเลย
ตรงกันข้าม เจ้าสิ่งนี้ยิ่งทำให้โม่ลี่รู้สึกโกรธเกรี้ยว!
มันเชิดร่างอันมหึมาของตน แหงนคอขึ้นฟ้า สะบัดพ่นลมหายใจมังกรออกไป ณ ตำแหน่งที่ตั้งปืนใหญ่ จมอยู่ภายใต้ทะเลเพลิง
ผู้ใช้พลังรอบๆที่เข้ามาปิดล้อม ในเวลานี้พวกเขาไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า
ยามเผชิญกับสัตว์เทวะ พวกเขารู้สึกเพียงว่าตนเองอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ
ณ เวลานี้ ห่างออกไปจากสนามรบเพียงเล็กน้อย บริเวณขอบสะพานฝั่งเมืองหลวงแห่งความมืด ผู้ใช้พลังเลเวล A ที่กำลังคิดหลบหนี ต่างเฝ้ามองฉินเฟิงตระเตรียมปืนใหญ่เกราะคริสตัล
“นั่นมันอะไรกัน? เป็นปืนใหญ่พลังงานชนิดพิเศษรึเปล่า?”
“ใช้จักรกลต่อกรกับสัตว์เทวะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่ทนโท่!”
“ดูนั่น ขนาดปืนใหญ่พลังงานระดับเมือง พอยิงใส่โม่ลี่ ยังไม่ได้ผลเลย!”
ฝูงชนไม่มีใครเลยที่ไว้ใจฉินเฟิง
แต่ฉินเฟิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เขายืนหยัดอยู่ในป้อมปราการ ปืนใหญ่เกราะคริสตัลถูกชาร์จพลังงานเต็มที่แล้ว บริเวณปากกระบอกปืนคุกรุ่นไปด้วยรังสีทมิฬ
ฉินเฟิงอัดฉีดรูนมืดมหาศาลลงไป ส่งผลให้อำนาจทำลายของปืนใหญ่นี้ น่าหวาดกลัวมาก โดยหลักการทำงานของปืนใหญ่นี้ก็คือ ช่วยขยายอำนาจกระสุนที่ใช้ยิงให้เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า
และกระสุนที่ว่า สามารถใช้อักษรรูนหรือกำลังภายในก็ยังได้
เจ้าสิ่งนี้คล้ายกับชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ของฉินเฟิง มีฟังก์ชันที่เหมือนกัน
ต่างตรงที่ยิ่งควบคุมจักรกลได้มีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ อำนาจลายของปืนใหญ่ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น
อักษรรูนมืดของฉินเฟิงถูกฉีดเข้าไป ในไม่ช้าก็เริ่มก่อตัวขึ้นบริเวณปลายกระบอกปืนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางห้าเมตร จับตัวเป็นก้อนทรงกลมสีทะมึน คล้ายสามารถกลืนกินได้ทุกสรรพสิ่ง ผู้ใดมองก็บังเกิดความรู้สึกตื่นตระหนกหวาดกลัว
ผู้ใช้พลังเลเวล A ที่คอยวิจารณ์ หุบปากเงียบไม่มีใครกล้าพูดอีกต่อไป คล้ายบังเกิดความรู้สึกว่า กลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวนี้ จะพรากลมหายใจของพวกเขาไป
ช่วงเวลานี้ หากมีเสียงตกกระทบของเข็มก็ยังได้ยิน บอกได้เลยว่าปืนใหญ่ในมือฉินเฟิง คงไม่มีอาวุธปืนใดเทียมเทียบได้อีกแล้ว!
หึ่ง หึ่ง!
บอลรังสีแสงสีดำ ผละออกจากปากกระบอกปืนใหญ่ทันที แหวกผ่านอากาศ ทิ้งหางเป็นทางยาว ฉากนี้ไม่ต่างจากดาวตกถูกยิงออกไป
ด้วยพลังสมาธิของฉินเฟิง กระสุนลูกนี้อย่างไรต้องเข้าเป้า ยิงถูกโม่ลี่ได้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน โม่ลี่เองก็ตระหนักได้ถึงกลิ่นอายนี้ มันหันศีรษะเข้ามาและพบบอลแสงสีทมิฬ
ยามอยู่ต่อหน้าโม่ลี่ซึ่งมีขนาดตัวใหญ่ยักษ์ บอลแสงเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดแค่ห้าเมตร ไม่ต่างจากการดำรงอยู่ที่แสนเล็กจ้อย ทว่าอำนาจของบอลทมิฬลูกนี้ กลับทำให้ถึงขั้นทำให้มันต้องตั้งท่าเตรียมป้องกันตัว
ในพริบตา โม่ลี่พลันอ้าปากใหญ่ พ่นลูกไฟออกไป
สองบอลพลังงานปะทะกันในลมหายใจเดียว
บรึ้มมมม!
บอลไฟเกิดการระเบิดดุร้ายรุนแรง
อย่างไรก็ตาม หลังจากบอลไฟระเบิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบอลทมิฬยังคงพุ่งตรงเข้ามาอีกครั้ง และขนาดของมันยังคงรัศมีเส้นผ่านศูนย์กลางห้าเมตรดังเดิม ราวกับว่าไม่ได้สูญเสียพลังงานจากการต้านทานบอลไฟเมื่อครู่เลย ยังคงพุ่งตรงเข้าหาโม่ลี่ต่อไป
บอลไฟของโม่ลี่ ไม่อาจกลืนกินบอลทมิฬลูกนี้ มิอาจทำลายมันได้อย่างกะทันหัน
เมื่อเผชิญกับฉากนี้ แม้โม่ลี่ตัวยักษ์คิดตัดสินใจที่จะหลบเลี่ยงมัน ก็สายเกินไปแล้ว!
บอลพลังงานปะทะเข้ากับลำคอของโม่ลี่
ในพริบตาเดียว กระทั่งคนทั่วไปก็ยังสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่าความมืดมิดนั้นสามารถผลุบลึกเข้าไปในคอของโม่ลี่ได้อย่างกะทันหัน!
“กี๊ซซซซซ----”
ศีรษะของโม่ลี่เสยไปด้านหลัง สะบัดหัวดุร้ายรุนแรง เสียงคำรามแห่งความเจ็บปวดกรีดลึกเข้ามาในใจของผู้คน
จากนั้น บอลทมิฬก็เริ่มหดขนาดเล็กลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงค่อยๆจุ่มลึกลงไปในลำคอของโม่ลี่ สุดท้ายเมื่อสามารถพุ่งผ่านลำคอของโม่ลี่ได้สำเร็จ มันยังคงเหลือขนาดทิ้งไว้อีกราวๆครึ่งเมตร ลอยไปร่วงตกลงในอาคารห่างไกลหลังหนึ่งและ--
--บรึ้มมม!
ในที่สุดบอลแสงแห่งความมืดมิดก็ระเบิดออกมา จากนั้นฝนสีดำหมึกก็เริ่มโปรยปราย คนธรรมดาที่ไม่มีเวลาทันได้หลบหนีถูกเม็ดฝนกัดกร่อนโดยตรง แปรสภาพกลายเป็นซากศพเน่าเปื่อยทันที!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครมัวเสียเวลาสนใจเรื่องนั้น ทุกสายตาต่างเพ่งมองไปยังโม่ลี่อย่างรอบคอบ
เวลานี้ บนต้นคอของโม่ลี่ ปรากฏหลุมเน่าเปื่อยสีดำขึ้นอย่างกะทันหัน
การโจมตีนี้สร้างอาการบาดเจ็บสาหัสจริงๆ!
ฉินเฟิงถอนหายใจด้วยความเสียดาย
นึกไม่ถึงเลยว่ากระสุนนี้จะยิงไม่ถูกกระดูกของโม่ลี่ เขาได้สูญเสียโอกาสที่ดีที่สุดไปแล้ว!
โม่ลี่จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวมันเองโดนกระสุนนัดนี้อีกเป็นครั้งที่สอง!
เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ โม่ลี่บังเกิดแผลฉกรรจ์หลายขุด
อันเกิดจากเทคนิคเสี้ยวมิติแหลกสลายของไป๋หลี ที่กัดกินปีกของโม่ลี่จนสะบักสะบอม มาตอนนี้ ฉินเฟิงเกือบจะเก็บเกี่ยวชีวิตของมันได้อีกครั้ง ส่งผลให้โม่ลี่รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
มันคือสัตว์ร้ายเผ่ามังกร! แต่เมื่อพ่ายแพ้แล้วก็จักยอมรับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง หลังจากนั้นก็จะมีสองตัวเลือก หนึ่งคือไว้กลับมาแก้แค้นในภายหลัง หรืออีกหนึ่ง หลบลี้หนีหน้าไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย!
แต่เมื่อศัตรูที่ต้องการแก้แค้นคือสัตว์ยักษ์มิติอย่างไป๋หลี โม่ลี่บังเกิดความรู้สึกว่า หากมันลงมือแก้แค้นด้วยตัวเอง คงไม่มีทางเป็นไปได้!
ณ เวลานี้ โม่ลี่จึงได้ข้อสรุปในใจ มันตัดสินใจที่จะจากไปก่อน
ศึกในครั้งนี้ ได้ยุติลงแล้ว!
แต่ในตอนนั้นเอง บนท้องฟ้า รอยแยกมิติพลันปรากฏขึ้น พร้อมกลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวโถมทับลงมา
“นี่มันกลิ่นอายของเลเวล S!”
“ท่านเจ้าเมือง! ต้องเป็นท่านเจ้าเมืองแห่งความมืดแน่ๆ!”
“ท่านเจ้าเมืองกลับมาแล้ว พวกเรารอดแล้ว!”
แต่ระหว่างที่คนส่วนใหญ่กำลังดีใจ สีหน้าของบางคนในฝูงชน ตอนนี้เริ่มหม่นหมองลง เริ่มแตกฮือวิ่งหนีกระจัดกระจายไป
คนพวกหลังที่กล่าวมา คือกลุ่มหัวขโมยที่ได้ลอบเข้าไปฉกชิงสมบัติจากถ้ำมังกร เป็นฝีมือของพวกเขาที่ทำให้โม่ลี่โกรธแค้น
ส่วนคนจำพวกแรกที่โห่ร้อง ย่อมเป็นคนของคลับมังกรดำ
ผืนฟ้าเริ่มบิดเบี้ยว การปรากฏตัวของชายคนนั้น มาพร้อมกับกลิ่นอายที่สามารถใช้รังสรรค์สวรรค์และปฐพี เสมือนทุกสรรพสิ่งจักต้องเชื่อฟังในเจตจำนงของเขา
นี่แหละคือโคตรพยัคฆ์! (สุดยอดปรมาจารย์)
ตำแหน่งของผู้เป็นราชันย์ของโลกใบนี้!
เป็นพระเจ้าผู้สามารถบงการทุกสิ่ง
ฉินเฟิงมองไปยังกลิ่นอายที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจ ในหัวใจอดไม่ได้ที่จะสั่นไหว
“เจ้าเมืองแห่งความมืด เหอเทียนสิง!”
ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S สำหรับขั้นย่อยของเลเวล S ไม่สามารถประเมินได้ เพราะความแข็งแกร่งของบุคคลที่สามารถไปถึงขั้นนั้น ล้วนเป็นระดับเดียวกัน อย่างในชีวิตก่อนของฉินเฟิง หากคิดก้าวย่างสู่เลเวล S ยังต้องใช้ระยะเวลา
เมื่อได้เห็นเลเวล S ยามระเบิดพลังกับตา รู้สึกได้แค่เพียงอำนาจความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย
ณ เวลานี้ ดวงตาของอีกฝ่ายจับจ้องไปยังโม่ลี่ แต่เมื่อเขาเห็นสภาพน่าสังเวชของโม่ลี่ ก็อดแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้ แต่พักหนึ่ง เขาก็แหงนหน้าขึ้นฟ้า อ้าปากหัวเราะออกมาดังๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า โม่ลี่ จู่ๆก็มาหาที่ตายงั้นหรือ? ในเมื่อเลือกหนทางเช่นนั้น ก็อย่ามาตำหนิกันว่าฉันรังแก!”
สิ้นเสียง เหอเทียนสิงชักดาบใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลังออกมา
ดาบเล่มนี้กว้างกว่าครึ่งเมตร ยาวประมาณ 1.8 เมตร เอาจริงๆยามสะพายอยู่เบื้องหลังเหอเทียนสิง มันดูยาวกว่าตัวเขาด้วยซ้ำ
ทันทีที่เหอเทียนสิงยกมือขึ้น ดาบใหญ่ก็ร่วงตกลงมาจากท้องฟ้า ทว่ายิ่งตก ขนาดของมันกลับยิ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
3 เมตร!
5 เมตร!!
10 เมตร!!!
เพียงชั่วพริบตาเดียว ดาบใหญ่เล่มนี้กลายเป็นตึกสูงเกือบ 20 เมตร มันดิ่งตามแรงโน้มถ่วงตรงเข้าสังหารโม่ลี่
โม่ลี่พยุงร่างกายตน เอี้ยวตัวเหวี่ยงหางตน หวดเข้าใส่ดาบใหญ่อย่างโหดเหี้ยม
แรงปะทะระหว่างทั้งสอง บังเกิดเป็นเสียงสะท้อนก้อง ส่งผลให้ผู้ใช้พลังที่อยู่ในรัศมี เกิดอาการหูวิ้ง มีเลือดไหลซึมออกมา
ทั้งสองเข้าห้ำหั่นกัน!
อย่างไรก็ตาม ผลปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว โม่ลี่ถูกกดดันจนต้องถอยร่นก้าวแล้วก้าวเล่า มันไม่แม้จักส่งเสียงคำรามอีกต่อไป แต่จำใจหดร่างกายให้เล็กลง จากนั้นฉีกอากาศที่ว่างเปล่า หลบหนีจากไป
--หนี!
โม่ลี่หนีไปแล้ว!!