Ep.768 - โม่ลี่ทำลายเมือง
3/5
Ep.768 - โม่ลี่ทำลายเมือง
หัวมังกรที่แสนดุร้ายโผล่ออกมา กลิ่นอายระดับสัตว์เทวะแผดเผาไปทั่ว!
ภายในเกาะนรก ผู้ใช้พลังเลเวล A คนอื่นๆล้วนคุ้นชินกับกลิ่นอายของมันแล้ว แต่สำหรับคนอื่นๆในเมืองหลวงแห่งความมืด คนที่ไม่เคยพบเจอ ล้วนได้รับผลกระทบครั้งใหญ่
เมืองหลวงแห่งความมืด คือเมืองใหญ่อันดับต้นๆ เต็มไปด้วยพลเมืองหนาแน่น มีตั้งแต่คนธรรมดาที่คอยรับใช้ ไปจนถึงผู้ใช้พลังอัจฉริยะ
แต่ถึงกระนั้น ผู้ใช้พลังเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ในเลเวล A ทั้งหมด
ในเมืองหลวงมีผู้ใช้พลังมากมายอยู่ในเลเวล D C ซึ่งเทียบได้กับเมืองหลวงมังกร ในขณะที่ตระกูลผู้ใช้พลังระดับสูงอย่างเลเวล A ขึ้นไป มีไม่ถึง 1,000 คน
ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อสัตว์เทวะรุกรานเข้ามา มันจะชักนำมาซึ่งภัยคุกคามประเภทใดน่ะหรือ?
กลิ่นอายของมังกรยักษ์กวาดกระจายปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ!
【หวออออ หวอออ หวออออ】
เสียงไซเรนแจ้งเตือนดังขึ้น คนธรรมดาไม่สามารถต้านทานแรงกดดังเช่นนี้ได้ ตัวระเบิดแตกจากภายใน กลายเป็นหมอกเลือด
ผู้ใช้พลังที่เพิ่งสามารถปลุกพลังของตนให้ตื่นขึ้นมาได้หมาดๆในเลเวล G F ต่างทรุดลงกับพื้น อาเจียนเป็นเลือด
ผู้ใช้พลังที่เลเวลต่ำกว่า C มิอาจฝืนยืนขึ้นหลบหนี
ตลอดทั้งเมือง ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด
แม้สถานการณ์จะเลวร้ายลงถึงเพียงนี้ แต่โม่ลี่ก็ยังไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด มันแหงนคอเสยขึ้นฟ้า ก่อนสะบัดลงพ่นไฟออกจากปาก เปลวเพลิงลุกลาม กินรัศมีหลายกิโลเมตร เปลี่ยนพื้นดินให้กลายเป็นทะเลเพลิง
เปลวไฟลุกไหม้ทุ่งข้าว ท่วมทับอาคารและถนน เปลี่ยนทั้งเกาะให้จมลงสู่ทะเลเพลิงอย่างสิ้นเชิง
ผู้คนมากมายต้องจบชีวิตลง
“โม่ลี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ฟีนิกซ์เพลิงคำรามด้วยความโกรธ เฝ้ามองเมืองหลวงแห่งความมืดตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังด้วยความตื่นตระหนก
เธอใช้วิธีพิเศษติดต่อเลเวล S ไปแล้ว แต่ใครจะรู้ ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่?
ช่วงเวลานี้ ผู้ใช้พลังที่ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงแห่งความมืด ต่างกระเจิดกระเจิง หลบหนีกันไปคนละทิศทาง
โม่ลี่ล็อคกลิ่นอายของคนเหล่านั้น ก่อนโฉบกายเข้าฉีกกัดอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งเมามัน ส่วนบางคนที่ไม่ได้หนีจากเมืองหลวงแห่งความมืด พวกเขาตัดสินใจวิ่งเข้าไปยังโซนเมืองด้านใน
โม่ลี่พ่นลมหายใจมังกรออกมา
ตูม ตูม ตูมมม!
อาคารหลายหลังถูกแรงระเบิด พังครืนดังโครม! ลงมาหลายหลัง ร่างของโม่ลี่ร่อนลงยอดอาคาร แหงนคอกู่ก้องคำรามถึงชั้นฟ้า คล้ายอวดศักดาในความแข็งแกร่งของมัน
“โม่ลี่ ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป อย่าหาว่าพวกเราไม่สุภาพ!” ฟีนิกซ์เพลิงตะโกนขึ้น
ณ ขณะนี้ โม่ลี่มองไปยังเปลวเพลิงที่ลุกโชน เฝ้าดูเผ่ามนุษย์กำลังดิ้นรนใกล้ตาย ถึงจุดนี้คล้ายกับว่าความโกรธแค้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ค่อยได้ระบายออกอย่างสิ้นเชิง พริบตานั้นระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
ภายใต้การถ่ายทอดเสียงผ่านพลังสมาธิ น้ำเสียงฟังดูบ้าคลั่งยิ่งกว่า
“มนุษย์ พวกเจ้ามันอ่อนแอและเล็กจ้อย แต่กลับกล้าท้าทายอำนาจมังกรยักษ์ วันนี้ ข้าจักให้พวกเจ้าได้รู้แจ้ง ว่าราคาของการกระทำ ต้องจ่ายออกด้วยสิ่งใด!”
สิ้นเสียง ร่างอันใหญ่โตของมันก็ทิ้งน้ำหนักลงกับพื้น อาคารหลายหลังที่ใช้หยั่งเท้าถล่มลงมาทันที ผู้คนที่อยู่ข้างในตึก บ้างโชคดีกระเด็นออกมา แต่ที่โชคร้าย ถูกขังอยู่ภายใน โดนบดขยี้เป็นพายเนื้อ
ทั่วทั้งเมือง ตกลงสู่หายนะ
ราวกับว่าจุดจบได้มาถึงแล้ว
ฟีนิกซ์เพลิงรู้สึกโกรธเกรี้ยวไม่แพ้กัน ผู้คนจากคลับมังกรดำตามมาสมทบแล้วตอนนี้ กำลังเสริมล้วนเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A นอกจากนี้ในระยะไกลยังมีผู้ใช้พลังเลเวล B ที่ในมือถือปืนใหญ่นับไม่ถ้วน
“โจมตีได้!”
พวกเขาจะไม่อนุญาตให้โม่ลี่ทำลายล้างเช่นนี้อีกต่อไป
พลปืนนับไม่ถ้วนเริ่มบรรจุกระสุนและยิงเข้าใส่โม่ลี่
ทว่ายามลูกกระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นกระทบกับร่างของโม่ลี่ พวกมันไม่แม้จะสามารถสะกิดโม่ลี่ได้เลย บนผืนฟ้าปรากฏฉากดั่งดอกไม้ไฟลูกใหญ่ระเบิดอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับโม่ลี่ ไม่ว่าจะหัวกระสุนที่ทิ่มลงมา หรือแรงระเบิดจากดินปืนภายใน ล้วนไม่มีผลใดๆต่อมันทั้งสิ้น
ผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล A คนอื่นๆ ต่างเร่งรีบก้าวออกมา คนเหล่านี้ล้วนเป็นชาวเมืองหลวงแห่งความมืด พวกเขาสร้างครอบครัวที่นี่ อุตสาหกรรมที่นี่ เป็นธรรมดาที่ไม่ต้องการให้เมืองหลวงแห่งความมืดถูกทำลาย
“ทุกคนร่วมมือกัน!”
“จัดไป!”
“ท่านเจ้าเมืองจะกลับมาเร็วๆนี้ ช่วยกันยื้อเอาไว้ก่อน!”
แม้คนพวกนี้จะมาจากองค์กรมืด แต่ในช่วงเวลาวิกฤต พวกเขายังเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ตรงเข้าจัดการโม่ลี่
ตรงกันข้ามกับผู้มาเยือนเพื่อเข้าร่วมงานประมูลและเพิ่งเดินทางกลับจากเกาะนรก ที่คิดแต่ว่าจะหลบหนีเท่านั้น
ทั้งๆที่เหตุการณ์ในปัจจุบันนี้ มันเกิดขึ้นเพราะพวกเขาทั้งนั้น แล้วแบบนี้ฟีนิกซ์เพลิงจะไม่โกรธได้อย่างไร?
“ถ้าพวกคุณกล้าหนี ทางคลับมังกรดำจะไม่ปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน ตอนนี้จงร่วมกันต่อต้านโม่ลี่กับพวกเราเสีย มิฉะนั้นแล้ว เมื่อไหร่ที่ท่านเจ้าเมืองจัดการปัญหาเสร็จสิ้น ชะตากรรมของพวกคุณจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!” ฟีนิกซ์เพลิงกล่าววาจาโหดเหี้ยม
แต่หลังจากคำว่า ‘เจ้าเมือง’ สองคำนี้ปรากฏขึ้น ผู้คนที่ได้ฟังล้วนสั่นสะท้าน
ไม่มีใครรู้ว่าความสามารถของเลเวล S น่ะแข็งแกร่งขนาดไหน
แต่ที่พวกเขารู้แน่ๆ ก็คือ ไม่ต้องการโยนตัวเองเข้าไปยุ่งกับสัตว์เทวะที่อยู่เบื้องหน้านี้!
“ฟีนิกซ์เพลิง เมื่อไหร่เจ้าเมืองแห่งความมืดจะมาถึง? คุณอย่าพยายามคิดหลอกใช้พวกเราเป็นโล่คอยรับหน้าแทน!”
“นั่นสิ เรื่องนี้ไม่เห็นเกี่ยวกับฉันตรงไหน งั้นฉันยังจะอยู่ที่นี่ไปอีกทำไม!”
“ถูกต้อง ถ้าคุณอยากแก้สถานการณ์ ก็ไปตามหาต้นตอคนที่ทำให้เกิดเรื่องซี่ ไปถามหากวนจินฮ่าวโน่น เขาคือคนที่ลากโม่ลี่มาที่นี่!”
แต่ละคนต่างปัดความรับผิดชอบ โยนกันไปกันมา ไม่มีใครคิดเดินหน้าต่อสู้
ฟีนิกซ์ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกหงุดหงิด หนึ่งแขนเหยียดออกไป กรงเล็บเพลิงอันน่าหวาดกลัวผุดลอยขึ้นในอากาศ ประทับวางลงบนแขนเธอ
บนแขน แก่นอบิลิตี้ขนาดใหญ่สาดแสงเรืองรอง ระเบิดอำนาจทำลายล้างออกมา
ทั้งคนทั้งร่างของฟีนิกซ์เพลิงดั่งระเบิดปรมาณู
“ด้วยอบิลิตี้ของฉัน ถึงจะทำอะไรโม่ลี่ไม่ได้ แต่ถ้าให้ใช้ฆ่าพวกคุณ มันง่ายมาก ตอนนี้ รีบยกตูดขึ้นมาช่วยกันซักที ไม่อย่างนั้นฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่าพวกคุณเอง!”
ณ จุดนี้ ไม่เพียงฟีนิกซ์เพลิง แต่ยังมีอีกหลายสิบคนปรากฏตัวขึ้น แปปเดียวรอบกายฟีนิกซ์เพลิงพลุกพล่านไปด้วยผู้ใช้พลังนับหลายร้อยคน
คนเหล่านี้มีความแข็งแกร่งเฉลี่ยอยู่ที่เลเวล B พวกเขาเริ่มกระจายกันปิดล้อมผู้ใช้พลังเลเวล A ที่คิดหลบหนี สถานการณ์นี้เปรียบดั่งมดคิดกัดช้าง แต่เมื่อมีมดเยอะเกินไป ผู้ใช้พลังเลเวล A ก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา
ไม่ต้องกล่าวถึงช่วงเวลานี้ที่อุปกรณ์รักษาเสถียรภาพเชิงมิติกำลังปลดปล่อยรังสีแสงสีขาวเป็นชั้นๆออกมา ปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ บ่งบอกชัดว่าอย่าหวังว่าจะมีใครใช้ตัวเชื่อมมิติหลบหนีไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เว้นแต่คุณจะหลบหนีไปทางบกผ่านสะพาน
ฉินเฟิงกับไป๋หลีไม่ทันมีเวลาได้ออกไป พวกเขาก็ถูกปิดล้อมด้วยเลเวล B จำนวนนับไม่ถ้วน
ฉินเฟิงสามารถเปิดทางโดยการชโลมเลือดให้เจิ่งนองไปทั่วพื้นได้ก็จริง แต่เมื่อได้ยินว่าเจ้าเมืองของเมืองหลวงแห่งความมืดกำลังจะมา นั่นหมายความว่าถ้าเขาลงมือ จะไม่เท่ากับเป็นการล่วงเกินเลเวล S อีกครั้งหรือ?
แค่แซดคนเดียวก็น่าปวดหัวมากพออยู่แล้ว ไหนจะมีตาปีศาจอีกคนหนึ่งอีก ตอนนี้เขายังต้องยั่วโมโหอีกคนหนึ่งหรือ?
ฉินเฟิงไม่ต้องการทำเช่นนั้นอีกต่อไป!
‘ลงมือช่วยสักหน่อยก็แล้วกัน’
ฉินเฟิงคิด เอ่ยปากกล่าวว่า “ไป๋หลี เอาปืนใหญ่เกราะคริสตัลออกมา”
“รับทราบ!”
ไป๋หลีวาดมือ เริ่มปลดปล่อยพลัง เดิมผู้ใช้พลังทั้งหมดที่ปิดล้อมอยู่รอบตัวฉินเฟิงถูกกดดันด้วยกลิ่นอายของโม่ลี่ ทำให้ตกอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดรุนแรง เมื่อสังเกตว่ามีใครบางคนคิดลงมือทำอะไร ทั้งหมดก็แทบอดใจไม่ไหวที่จะกระโจนเข้าสู้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นสิ่งที่ไป๋หลีเรียกมันออกมา ก็ไม่มีใครกล้าปริปากอีกต่อไป
เพราะจากรูปลักษณ์ของมัน ช่างเป็นจักรกลที่น่าสยดสยองอย่างแท้จริง มันมีฐานเหมือนกับหอคอยขนาดเล็ก ยามตั้งอยู่บนพื้นดิน คุณสามารถได้ยินถึงเสียงการหมุนของกลไก ว่ามันกำลังฝังตัวลึกลงไปในพื้นดิน
เจ้าสิ่งนี้มีความสูงมากกว่าสิบเมตร เทียบเท่ากับอาคารสามชั้น ปากกระบอกปืนมือเส้นผ่านศูนย์กลางยาวห้าเมตร ส่องแสงระยิบระยับไปด้วยสีอ่อนของเพชร แต่ตลอดทั้งชิ้นของมันโปร่งใส
--ปืนใหญ่เกราะคริสตัล!
นี่คืออุปกรณ์ปืนใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดของกลุ่มเฟิงหลี!!
ฉินเฟิงผสานรวมเข้าไปอยู่ข้างในทันที ราวกับว่าทั้งคนทั้งป้อมปราการเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่อรวมเข้าด้วยกัน พลังสมาธิของฉินเฟิง สามารถขยับขยายได้กว้างไกลขึ้นเป็นสิบเท่าทันที ปากกระบอกปืนใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวภายใต้การขับเคลื่อนผ่านพลังสมาธิของฉินเฟิง เล็งเป้าไปทางโม่ลี่!