ตอนที่แล้วChapter 251 - 252: ค้ามนุษย์, เพื่อนเก่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 255 - 256: ความสนุกสนานในการจับจ่าย, การแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ

Chapter 253 - 254: เกาอี้และเฉียวหยา, ทานข้าวกับนายท่านถาง


Chapter 253: เกาอี้และเฉียวหยา

กู้หนิงกล่าวด้วยความจริงใจและคลายความกังวลของพวกเขาได้มาก

อินทรีบินไม่มีแรงเหลือแล้วในตอนนี้ มันเสี่ยงเกินไปที่เขาจะเป็นคนเอากระสุนออกจากวิหคสยายปีก ดังนั้นวิหคสยายปีกจึงยอมให้กู้หนิงช่วยเอากระสุนออกให้

กู้หนิงหยิบกรรไกรออกมาเพื่อตัดผ้าพันแผลที่พันรอบแผลของวิหคสยายปีกออก ด้วยความช่วยเหลือของตาทิพย์ กู้หนิงจึงใช้มีดผ่าตัดเพื่อเอากระสุนออกได้อย่างเชี่ยวชาญ ในขณะเดียวกันเธอก็แอบถ่ายทอดพลังเข้าไปในร่างกายของวิหคสยายปีกเพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมา

เห็นทักษะที่เชี่ยวชาญของกู้หนิงแล้ว พากเขาทั้งสองต่างประทับใจ

นี่ต้องไม่ใช่การผ่าเอากระสุนออกครั้งแรกของเธอแน่นอน!

คำถามคือเธอเป็นใคร? ทำไมถึงต่อสู้เก่งและยังมีทักษะการปฐมพยาบาลอีกด้วย?

ไม่กี่นาทีต่อมากระสุนก็ถูกนำออกมาเรียบร้อย กู้หนิงให้ยาแก้ปวดและยาห้ามเลือดกับวิหคสยายปีก จากนั้นก็พันแผลให้เธอ

เพื่อไม่ให้พวกเขาสงสัยจนเกินไป กู้หนิงไม่ได้รักษาแผลให้หายสนิท บาดแผลภายในถูกรักษาเรียบร้อยแล้ว แต่บาดแผลภายนอกยังคงลักษณะเดิม ยังมีความปวดระบมที่ปากแผลอยู่ เพียงแต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก

ตอนนี้วิหคสยายปีกหน้าเริ่มมีสีเลือดมากขึ้น กำลังวังชาเริ่มกลับมา

จากนั้นกู้หนิงก็รักษาแผลที่ขาของอินทรีบิน เธอผ่าเอาลูกกระสุนออกอย่างรวดเร็วและให้ยาแก้ปวดกับยาห้ามเลือดกับเขา

“ขอบคุณมากจริงๆ” ทั้งสองกล่าวขอบคุณกู้หนิงด้วยความจริงใจ

ขอบคุณด้วยปากเปล่าย่อมไม่เพียงพอ แต่พวกเขาไม่รู้จะตอบแทนเธออย่างไรให้สมกับสิ่งที่เธอช่วยชีวิตพวกเขา

“ถ้าพวกเราหายดีแล้ว หากเธอมีเรื่องอะไรให้พวกเราช่วยก็บอกมาได้ ตราบใดที่พวกเราช่วยได้ พวกเรายินดี” วิหคสยายปีกเป็นฝ่ายพูด

พวกเขายินดีตอบแทนความช่วยเหลือครั้งนี้

“ถ้าหากฉันอยากให้พวกคุณเป็นผู้ช่วยคนสนิทของฉันล่ะคะ?” กู้หนิงถามสีหน้าจริงจัง

ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ประหลาดใจอย่างมาก กู้หนิงหมายความว่าเธอต้องการให้พวกเขาเป็นผู้ช่วยที่น่าไว้วางใจของเธอ แต่พวกเขาเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกทำไมเธอถึงเชื่อใจพวกเขา? เธอไม่กลัวหรือว่าพวกเขาจะเป็นคนเลวหรือ?

ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่คนเลวและเต็มใจติดตามกู้หนิง แต่ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดี  “พวกเราก็อยาก แต่ตอนนี้พวกเราไม่ปลอดภัย ไม่อยากให้เธอต้องเดือดร้อนไปด้วย”

พวกเขาไม่ต้องการให้กู้หนิงต้องซวยติดร่างแหไปด้วย

กู้หนิงเข้าใจ แต่เธอสามารถแก้ปัญหาให้พวกเขาได้ ตราบใดที่เธอขอให้ K ลบชื่อของพวกเขาออกจากนักล่าค่าหัวออกจากอินทราเน็ตภายในองค์กรนักฆ่า พวกเขาก็จะไม่ถูกไล่ล่าอีกต่อไป หากไม่มีรางวัลสูงก็ไม่มีใครสนใจที่จะไล่ตามพวกเขา

“ฉันไม่สน ถ้าพวกคุณซื่อสัตย์กับฉัน ฉันจะปกป้องพวกคุณทั้งคู่เอง” ถึงแม้กู้หนิงจะยังเด็ก แต่ความมั่นใจเต็มเปี่ยมที่ดูโตเกินวัยค่อนข้างโน้มน้าวใจได้เป็นอย่างดี กระนั้นพวกเขาก็ยังลังเลเพราะสถานะพิเศษของพวกเขา

“เอ่อ....” พวกเขาดูลำบากใจ

“ขอทราบเหตุผลที่พวกคุณลังเลได้ไหมคะ?” กู้หนิงถาม

“บอกตามตรง มีคนต้องการหัวของพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงตกอยู่ในอันตราย” อินทรีบินเป็นฝ่ายตอบ

“ถ้าไม่ถูกตามล่า พวกคุณจะตกลงไหม?” กู้หนิงถามอีกครั้ง

“พูดง่ายกว่าทำ!” อินทรีบินฝืนยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้

“งั้นคุณเชื่อว่าฉันจะสามารถปกป้องคุณได้รึเปล่า?

“แน่นอน” อินทรีบินและวิหคสยายปีกตอบพร้อมกัน ก็เมื่อสักครู่กู้หนิงเพิ่งแสดงความสามารถของเธอต่อหน้าพวกเขา

กู้หนิงไม่พูดอะไรอีก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา K

“เฮ้ บอส ว่าไง?” K รับสาย ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดี

หลังจากที่เขาเดินได้อีกครั้งเขาก็มีกำลังใจขึ้นมาก ตอนนี้เขาสามารถปีนภูเขา วิ่ง ขับรถและอื่น ๆได้ ชีวิตของเขาดีขึ้นเรื่อย ๆ

“K ช่วยฉันล้างชื่อวิหคสยายปีกกับอินทรีบินออกจากรายกายล่าหัวจากอินทราเน็ตขององค์กรนักฆ่า” กู้หนิงสั่ง

“ไม่มีปัญหา มีแอคเคาท์กับรหัสไหม? ถ้ามีจะเร็วขึ้นมาก” ถึง K จะสงสัยว่ากู้หนิงสั่งให้เขาทำแบบนั้นทำไมแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม

“เดี๋ยวฉันส่งข้อความไปให้” กู้หนิงพูดก่อนวางสาย

อินทรีบินและวิหคสยายปีกเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอรู้ตัวตนของพวกเขาได้อย่างไร?

ถึงจะรู้ว่ากู้หนิงไม่มีความตั้งใจจะทำร้ายพวกเขา แต่ก็อดระแวงไม่ได้ “เธอรู้ตัวตนของพวกเราได้ยังไง?” อินทรีบินถามเสียงเครียด

“ถ้าพวกคุณเชื่อใจฉันจริงๆโปรดอย่าถามคำถามที่ไร้ความหมายนี้ หากเต็มใจที่จะติดตามฉันก็อย่าทรยศฉัน ฉันจะปฏิบัติต่อพวกคุณอย่างยุติธรรม แต่ถ้าพวกคุณรู้สึกฝืนใจ ฉันก็ไม่บังคับ”

เธอไม่บังคับ เพราะพวกเขาต้องตอบตกลงแน่

“ดี จากนี้พวกเราขอติดตามเธอแล้ว” วิหคสยายปีกตอบตกลง

เธอเคยได้ยินชื่อ K มาก่อน Kเป็นแฮ็กเกอร์ชื่อดังก้องโลก ถ้าเขาเป็นคงลงมือทำเองเป็นไปได้ว่าชื่อของพวกเธออาจถูกลบออกไป ในกรณีนี้ทั้งเธอและอินทรีบินจะปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้นกู้หนิงเพิ่งช่วยชีวิตพวกเธอและไม่มีเหตุผลที่เธอจะปฏิเสธข้อเสนอของกู้หนิง กู้หนิงไม่สนใจว่าพวกเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ควรกังวล

อินทรีบินก็คิดแบบเดียวกัน และทั้งสองจะไม่มีวันปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียว

อินทรีบินบอกแอคเคาท์และรหัสผ่าน กู้หนิงส่งต่อให้ K ทันที ห้านาทีต่อมา K โทรกลับมาและบอกว่าดำเนินการลบชื่อออกให้เรียบร้อยแล้ว

ขณะนี้วิหคสยายปีกและอินทรีบินได้หายไปจากโลกนี้แล้ว ชื่อจริงของอินทรีบินคือ ‘เกาอี้’ ในขณะที่ชื่อของวิหคสยายปีกคือ ‘เฉียวหยา’

หลังจากนั้นเกาอี้และเฉียวหยาก็กลับไปพร้อมกู้หนิง

แม้จะยังบาดเจ็บอยู่ พวกเขาก็สามารถเดินได้ปกติไม่ได้รู้สึกไม่สะดวกแต่อย่างใด เกาอี้และเฉียวหยาประหลาดใจแต่ไม่แสดงออกมา พวกเขารู้ว่าเมื่อใดควรเงียบ

ก่อนที่จะออกจากโกดังร้าง กู้หนิงใช้โทรศัพท์ของพวกแก๊งค้ามนุษย์โทรหาตำรวจ

กู้หนิงขับรถแท็กซี่ออกไป เธอขับมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าให้เกาอี้และเฉียวหยา

หลังจากที่เกาอี้และเฉียวหยาเปลี่ยนเสื้อผ้า พวกเขาก็ทิ้งรถแท็กซี่ไว้ที่ห้างสรรพสินค้า ขึ้นแท็กซี่อีกคันไปยังโรงแรมเถิงเฟย

ในระหว่างที่กู้หนิงเดินทางไปยังโรงแรม ตำรวจก็มาถึงโกดังร้าง กลุ่มค้ามนุษย์ถูกจับ ตำรวจไม่รู้จะขอบคุณคนที่โทรมาแจ้งอย่างไร เพราะคนที่โทรมาแจ้งไม่ได้บอกว่าเป็นใคร

กู้หนิง เกาอี้ เฉียนหยา มาถึงโรงแรมตอนหนึ่งทุ่ม

 

Chapter 254: ทานข้าวกับนายท่านถาง

 

เพื่อความสะดวกกู้หนิงจองห้องสูทที่มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้องและห้องครัว กู้หนิงนอนคนเดียว ส่วนเกาอี้และเฉียวหยานอนห้องเดียวกัน

ไม่นานโรงแรมก็ส่งวัตถุดิบทำอาหารมาที่ห้องของกู้หนิง กู้หนิงจะทำอาหารกินเองในห้อง เนื่องจากพวกเธอพักอยู่ห้องสูท ค่าอาหารจึงฟรี

กู้หนิงเป็นคนทำอาหาร เกาอี้รู้สึกละอายใจที่ปล่อยให้เจ้านายของตัวเองทำกับข้าวให้กิน “บอส ให้ผมทำดีกว่า”

ตอนนี้เกาอี้เกือบหายดีแล้ว

“ไม่เป็นไร ฉันทำได้ นายไปพักเถอะ” กู้หนิงปฏิเสธ

เกาอี้ทำตามที่กู้หนิงบอก

ประมาณสี่ทุ่ม เลิ่งเชาถิงโทรหากู้หนิง

“ทำอะไรอยู่?” เลิ่งเชาถิงถาม

“คิดถึงคุณอยู่” กู้หนิงตอบ แม้ว่าน้ำเสียงเธอจึงฟังดูล้อเลียนกึ่งสัพยอก แต่เธอคิดถึงเขาจริงๆนะ

ทุกคำพูดของกู้หนิงส่งผลต่อเลิ่งเชาถิงได้ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะคำว่า ‘คิดถึง’

“ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน ผมจะยังไม่ได้ไปเมืองเถิงจนกว่าจะพรุ่งนี้บ่าย” เสียงของเขาแหบและไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาอยากเจอเธอแล้ว

“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันมีผู้ช่วยฝีมือดีสองคนอยู่กับฉันด้วย ฉันปลอดภัยดีค่ะ”

“ไหนคุณบอกว่าอยู่คนเดียว?”

“ฉันพบพวกเขาตอนมาที่เมืองเถิงค่ะ พวกเขาไว้ใจได้”

“อืม ผมว่างแล้วจะไปหาคุณทันที” เลิ่งเชาถิงกล่าว อันที่จริงเขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้เจอกู้หนิงที่เมืองเถิง

งานที่เมืองเถิงเขาไม่ต้องไปก็ได้ แต่เมื่อกู้หนิงอยู่เมืองเถิง ดังนั้นเขาจึงรับงานที่เมืองเถิง

เช้าวันรุ่งขึ้นขาของเกาอี้กลับมาเป็นปกติ ตอนนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย หากไม่มีรอยแผลเป็นที่ชัดเจนเหลืออยู่ที่ขา เขาคงเชื่อว่าขาของเขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน

เฉียวหยาเจ็บหนักกว่า เธอจึงยังไม่หายดีแต่รู้สึกดีขึ้นมากแล้วเช่นกัน และไม่รู้สึกปวดแผลแล้วถ้าไม่มีอะไรไปกดทับแผล

ทั้งเกาอี้และเฉียวหยาประหลาดใจที่พวกเขาสามารถฟื้นตัวได้เร็ว และยิ่งนับถือกู้หนิงมากยิ่งขึ้นไปอีก ถึงจะดูแปลกประหลาด พวกเขาก็ไม่ตั้งข้อสงสัย กลับกันพวกเขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก

ประมาณเก้าโมงเช้า กู้หนิงไปธนาคารเปิดบัญชีสองบัญชีด้วยเงินห้าล้านหยวนฝากเข้าแต่ละบัญชี จากนั้นซื้อโทรศัพท์มือถือสองเครื่องและบัตรเติมเงิน

เมื่อเธอกลับมาที่โรงแรม เธอยื่นบัญชีธนาคาร โทรศัพท์และบัตรเติมเงินให้เกาอี้และเฉียวหยา

เธอสั่งงานพวกเขาให้ไปเช่าร้านที่ถนนพนันหิน และเช่าเครื่องตัดหิน 2 เครื่องและรถเข็นนำกลับมาที่ร้าน โดยสั่งให้แยกกันไปทำงาน

กู้หนิงไม่ได้ปิดบังความจริงที่ว่าเธอวางแผนที่จะรวบรวมเงินจำนวนมากโดยการพนันหิน

“พนันหิน?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เกาอี้และเฉียวหยาก็ตกใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้วิธีการพนันหิน แต่พวกเขาก็เคยได้ยินมาก่อน มันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง แต่ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายสำหรับกู้หนิง

กู้หนิงอธิบายว่า “ฉันมีทักษะพิเศษ ค่อนข้างแม่นยำทีเดียว”

ทักษะพิเศษ?

เกาอี้และเฉียวหยาไม่อยากเชื่อหูตัวเอง แต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือเชื่อมั่นในตัวกู้หนิงและฟังคำสั่งเธออย่างเคร่งครัด หลังจากผ่านเรื่องเมื่อวาน พวกเขาไม่คิดว่ากู้หนิงเป็นแค่เด็กสาว ม.ปลาย ธรรมดาทั่วๆไป

จากนั้นพวกเขาก็ออกไปทำงานตามคำสั่ง

ส่วนกู้หนิงเตรียมตัวออกไปพบนายท่านถาง

เธอมาถึงยังห้องอาหารส่วนตัวตอนสิบโมงห้าสิบ คาดไม่ถึงว่านายท่านถางมาถึงเร็วกว่าเธอ

นายท่านถางนั่งอยู่คนเดียวในห้อง บอดี้การ์ดสองคนของเขายืนอยู่ด้านนอก

เมื่อเห็นกู้หนิง ความรู้สึกคุ้นเคยก็กระทบใจนายท่านถางอีกครั้ง เขาลุกขึ้นต้อนรับกู้หนิง “หนูกู้ มาๆๆ นั่งลงๆ”

“ยินดีที่ได้พบค่ะ” กู้หนิงกล่าวทักทายก่อนนั่งเก้าอี้

“อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ เอาที่ชอบ” นายท่านถางชี้ที่เมนูอาหารข้างกู้หนิง จากนั้นก็กระปุ่มเรียกบริกร

ไม่นานบริกรก็เข้ามาข้างใน

กู้หนิงลงมือสั่งอาหารที่ตัวเองชอบสองอย่าง นายท่านถางก็สั่งอาหารที่ตัวเองชอบเหมือนกัน

มีเพียงพวกเขาสองคน ดังนั้นจึงไม่ได้สั่งอะไรมาก

หลังจากบริกรรับรายการอาหารแล้วเขาก็ออกจากห้องไป “หนูกู้ ขอบคุณมากที่วันนั้นช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าไม่มีหนู ฉันอาจไม่รอดแล้ว”

“ฉันยินดีที่ได้ช่วยท่านค่ะ” กู้หนิงตอบ

“หนูนี่ถ่อมตัวดี ฉันขอชื่นชม!”

กู้หนิงคลี่ยิ้มเล็กน้อย เพราะเธอได้ยินหลายคนพูดแบบนั้น แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดขอให้คนอื่นตอบแทนเธอ เพราะเธอเต็มใจที่จะช่วยเหลือพวกเขาด้วยตัวเธอเอง เธอไม่ใช่คนหน้าซื่อใจคด

ทันใดนั้นนายท่านถางก็ทำหน้าจริงจังและพูดว่า “ฉันมีเรื่องรบกวนหนูอีกสักเรื่องได้ไหม?”

“อะไรหรอคะ?” อันที่จริงกู่หนิงรู้คำตอบอยู่แล้วโดยไม่ต้องถาม แต่เธอไม่ต้องการด่วนสรุป

“หนูกู้ ฉันอยากรู้ว่าโรคของฉันรักษาให้หายได้ไหม?” นายท่านถางถามด้วยความกังวลและคาดหวัง

จริงๆแล้วโรคของนายท่านถางหายขาดแล้ว อย่างไรก็ตามกู้หนิงไม่สามารถบอกความจริงกับเขาได้ เพราะเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะยอมรับว่าเธอรักษาโรคของเขาได้เพียงแค่กดหน้าอกของเขา ดังนั้นเธอจึงให้คำตอบที่คลุมเครือกับเขา “นายท่านถาง พูดตามตรง ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ดังนั้นฉันจึงไม่แน่ใจว่าท่านจะสามารถรักษาหายได้หรือไม่”

“อย่างไรก็ตามฉันรู้จักวิธีการนวดที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถบรรเทาโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดดำและกระดูกได้ หากไม่ใช่โรคร้ายแรงก็จะไม่มีอาการเกิดขึ้นอีก ตอนที่ฉันนวดท่านเมื่อวานนี้ ฉันใช้วิธีการนวดที่เป็นเอกลักษณ์ของฉัน ฉันไม่แน่ใจว่าท่านจะกลับมาเป็นซ้ำหรือไม่ แต่ฉันมั่นใจว่าท่านจะมีสุขภาพดีตราบเท่าที่ท่านดูแลตัวเองเป็นอย่างดี”

"จริงหรือ?" แม้ว่าจะไม่ใช่คำตอบยืนยัน แต่นายท่านถางก็รู้สึกดีใจที่ได้ทราบว่าเขาจะมีสุขภาพแข็งแรง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด