บทที่ 214 พลังของเทพทรู! ไอเทมทั้งตัว +7
ปีกคล้ายค้างคาวคู่หนึ่งยื่นออกมาจากแผ่นหลังของปีศาจ มันกระพือเบา ๆ หนึ่งครั้งก่อนที่ฝุ่นควันทั้งหมดในอากาศก็ถูกพัดออกไป
สิ่งมีชีวิตตนนี้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสูง 5 เมตรมีลักษณะคล้ายกอริลลาไร้ขน และบนหัวมีเขาคู่หนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายเขาของวัวกระทิงซึ่งมีความยาวประมาณหนึ่งเมตร
นอกจากนี้หางของมันก็ยังดูคล้ายหางจระเข้ แม้ว่าจะมีปลายหางเล็ก ๆ รูปสามเหลี่ยมซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเผ่าปีศาจ
ไม่ว่าจะมองมุมใด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้เป็นปีศาจแน่นอน แถมยังเป็นสายพันธุ์ปีศาจชั้นสูงด้วย
ก่อนอื่นปีศาจสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงหยาบ ๆ ว่า “อ่า อากาศบริสุทธิ์ที่หายไปนาน มันสดชื่นมาก…จนข้าเกือบจะคิดว่าตัวเองยังไม่ตื่นจากฝัน!”
หลายคนคาดเดาว่าปีศาจชอบอากาศที่มีกลิ่นกำมะถันในนรก เพราะพวกมันอาศัยอยู่ที่นั่น แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย แม้ว่าพวกมันจะสามารถอยู่รอดได้นานในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนเป็นศูนย์ แต่พวกมันก็ยังต้องการอากาศที่บริสุทธิ์และออกซิเจนเช่นกัน
แต่อากาศที่มีกลิ่นกำมะถันก็ทำให้พวกมันรู้สึกคิดถึงและทำให้นึกถึงกลิ่นของบ้าน แต่พวกมันก็ไม่ได้ชอบกลิ่นกำมะถันขนาดนั้น
ความจริงดินแดนมรรตัยที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่เหมาะสม เป็นดินแดนที่เหมาะที่สุดสำหรับสร้างอาณานิคมในอุดมคติของปีศาจ
ดังนั้นปีศาจจึงหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่การหายใจ มันทำเพื่อระบุกลิ่นในอากาศ
“โฮ? เอลฟ์เลือดผสม...และมนุษย์เมื่อกี้ พวกเขาเป็นคนที่ปลดปล่อยข้าออกมาจริงรึ?”
มันเลียฝ่ามือที่มันใช้บดขยี้มาร์นี่ เพียงเพื่อจะพบว่าฝ่ามือของมันไม่มีรสชาติของเลือดหลงเหลืออยู่
นั่นทำให้ปีศาจมองฝ่ามือตัวเองโดยไม่รู้ตัว มือที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยเศษเนื้อและเลือดในเวลานี้กลับสะอาด ราวกับว่าศพของมนุษย์นั้นได้อันตธานหายไป เหลือเพียงแต่น้ำลายที่มันพึ่งจะเลียไปเมื้อกี้
แม้ว่ามันจะแปลกแต่ปีศาจไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากเกินไป แทนที่จะสนใจเรื่องศพมนุษย์ เทียบกันแล้วเอลฟ์ที่กำลังหลบหนีคืออาหารเย็นที่แท้จริง!
“หืม?”
แต่พอก้าวไปได้ 2 ก้าว ปีศาจก็สังเกตเห็นเถาวัลย์ที่งอกออกมาจากพื้นพยายามจะพันเข้าที่ขาของมัน
“ผ่านมาหลายปีแล้ว ลูกไม้เดิม ๆ ของเอลฟ์ก็ยังไม่พัฒนาเลยหรือ” ปีศาจเยาะเย้ยเวทมนตร์พันธนาการที่อ่อนแอนี้
มันกางปีกโดยไม่สนใจเถาวัลย์ และบินตรงเข้าหาเอลฟ์ที่กำลังหลบหนี
แม้ว่าเอลฟ์ป่าจะมีบัฟความเร็วเคลื่อนที่ในป่า แต่มันก็เทียบไม่ได้กับความเร็วในการบินของปีศาจ…
เกือบจะในทันที ร่างของปีศาจก็หล่นลงมาพร้อมเสียงสั่นสะเทือนของพื้นดินต่อหน้าเซลีน!
ปีศาจก้มตัวลงมองเด็กสาวชาวเอลฟ์ที่ถูกคลื่นกระแทกจากการลงจอดของมันพัด
“ไง แม่แมวน้อย…” มันยิ้ม "เจ้าจะหนีไปไหน?"
เซลีนไม่ได้พูดอะไรกับศัตรูตรงหน้าเธอ และยกมือขึ้นยิงเวทมนตร์สีเขียวมรกตไปที่หัวของปีศาจทันที ย้อมหัวของมันด้วยแสงสีเขียว
มันเป็นเวทย์มนตร์ที่มีพลังเทียบเท่ากับพลังทำลายล้างของเวทบอลไฟ ที่นักเวทมนุษย์สามารถปล่อยออกมาได้หลังจากใช้เวลารวบรวมพลัง 30 วินาที
แต่ถึงกระนั้นปีศาจก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่อาบแมกมาราวกับว่ามันเป็นน้ำพุร้อน พวกมันมีภูมิคุ้มกันต่อเวทมนตร์ นับประสาอะไรกับการโจมตีระดับนี้ มันไม่สนใจแสงเขียวบนหัวมันเลย มันยิ้มขณะดูเซลีนที่พยายามต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
“จิ๊ ๆ ๆ ต่างจากมนุษย์ที่โง่เขลา เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าปีศาจมีพลังอะไร…เอลฟ์เลือดผสมตัวเดียวไม่มีวันชนะข้าได้หรอก” ปีศาจเบิกจากว้างอย่างเยาะเย้ย และอดไม่ได้ที่จะสนใจการกระทำไร้ประโยชน์ของเอลฟ์สาว “อะไรที่ทำให้เจ้าโจมตีข้าโดยไม่ลังเล คิดว่ามีโอกาศชนะ? หรือเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเจ้า”
อย่างไรก็ตามเซลีนไม่ตอบ ความจริงเธอหวังว่าปีศาจจะคุยกับตัวเองต่อไป เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่นกกระเรียนกระดาษที่เธอปล่อยออกไป จะมีเวลากลับไปยังทริเนีย และแจ้งข่าวให้ราชินีเอลฟ์ทราบเกี่ยวกับปีศาจที่หลบหนีออกมา
"ไม่ตอบ? ไม่แปลกใจเลย เอลฟ์เป็นศัตรูกับข้ามาหลายชั่วอายุคนนี่นะ”
ปีศาจไม่ได้มีท่าทีสงสัยเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ไม่ให้ความร่วมมือของเอลฟ์สาว และยังคงคุยกับตัวเองต่อไป “ถ้าอย่างนั้นให้ข้าเดา”
พูดจบ มันก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้เอลฟ์สาว
เซลีนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่เห็นปากขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนกินเธอเข้าไปได้ทั้งตัว
ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิดจะฉวยโอกาสโจมตีดวงตาหรือปากของมัน แต่จิตใจด้านที่มีเหตุผลของเธอบอกว่าไม่เพียงแต่การโจมตีของเธอจะไร้ผลเท่านั้น แต่ยังยั่วยุปีศาจให้โกรธยิ่งกว่าเดิม
และถ้าเธอถูกฆ่า นกกระเรียนกระดาษของเธอจะปรากฏให้เห็นเด่ดชัดในป่า!
นั่นคือเหตุผลที่เธอต้องทน…
ตราบใดที่นกกระเรียนกระดาษของเธอบินไปถึงเอลฟ์คนอื่น ๆ ก็ไม่สำคัญว่าเธอจะตายที่นี่
“เป็นไปได้ไหมว่าเป็นเพราะ…เจ้าสิ่งนี้รึเปล่า”
ปีศาจแสยะยิ้มกว้างขณะที่มันให้เธอดูของที่อยู่ในปากมัน
นั่นคือนกกระเรียนกระดาษตัวเดียวกับที่เธอพับไป และใช้มันแจ้งข่าวต่อทริเนีย!
เซลีนรู้สึกว่าสมองของเธอว่างเปล่าในเสี้ยววินาทีนั้น เฉกเช่นเดียวกับที่หัวใจของเธอถูกบีบด้วยมือขนาดมหึมาที่เรียกว่าความสิ้นหวัง เรี่ยวแรงที่จะค้ำยันร่างกายทั้งหมดหายไปในทันที เธอทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นอย่างอ่อนแรง
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ! แค่นั้นแหละ! นั่นคือสิ่งที่ข้าอยากจะเห็น!“ในที่สุดปีศาจก็หัวเราะออกมาดัง ๆ”ดีจริง ๆ การได้เจ้าสิ่งนี้มาไม่เสียเปล่า! มันคุ้ม!”
ในตอนนั้นใบหน้าของมันก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว “ไม่ต้องห่วง เจ้าจะเป็นคนแรก! ด้วยความเกลียดชังที่ข้าถูกผนึกมานาน ข้าจะไม่มีทางพอใจ จนกว่าข้าจะฆ่าเอลฟ์ทุกตนในป่านี้!”
ด้วยคำพูดนั้น มันก็เหวี่ยงฝ่ามือลงที่หัวของเซลีนอย่างโหดเหี้ยม!
ทันใดนั้นเอง ร่างสีแดงแซมทองก็ปรากฏขึ้น มันเข้ามาขั้นกลางระหว่างปีศาจและเอลฟ์
ร่างนั้นส่วมเกราะเหล็กทั้งตัว แม้ว่าเซลีนจะได้เห็นชุดเกราะของทุกเผ่าพันธุ์ผ่านตามาแล้วในชีวิตเอลฟ์อันยาวนานของเธอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นชุดเกราะที่ดูฉูดฉาดและไร้ประโยชน์ขนาดนี้
แต่ร่างในชุดเกราะนั้นกลับเข้ามาขวางฝ่ามือของปีศาจไว้อย่างกะทันหัน!
"เจ้าเป็นใคร!?" ปีศาจคำรามใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
แต่ชายในชุดเกราะไม่ตอบ เขาหันไปมองเด็กสาวชาวเอลฟ์ ทันใดนั้นหน้ากากประหลาดก็ถูกยกขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าของมนุษย์ที่เธอไม่มีวันลืม
“อย่างที่ข้าเคยพูดไป มันจะไม่เป็นไรตราบใดที่เจ้าไม่เป็นไร” มาร์นี่ยิ้ม “ปล่อยที่เหลือให้ข้าจัดการ”
จากนั้นหน้ากากไอรอนแมนก็ปิดลงอีกครั้ง และทุกข้อต่อของชุดเกราะก็ส่องสว่างด้วยแสงสีฟ้า ขณะที่ผสานพลังกับวิญญาณคู่หู
“ตอนนี้เจ้าจะได้เป็นสักขีพยานถึงพลังของเทพทรู ที่มีไอเทมทั้งตัว +7!”
จบคำ เขาถูกปีศาจตบลงไปจมดิน
------------------------------------------------
เพจ FC-Translate