ตอนที่ 12 การอ่าน
ตอนที่ 12 การอ่าน
“นี่…เจ้านี่…ฉลาดกว่าอิมพ์ทั่วไปถึงสี่เท่างั้นรึ? เจ้าพูดจริงใช่ไหม?” โทมัสถามด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว แล้วเอวาลินก็พยักหน้าอย่างพอใจด้วยเหตุผลบางอย่างในขณะที่อิมพ์ยืนอยู่ตรงนั้นข้างๆเธอและดึงนิ้วออกมาจากจมูกของเขา
และมันก็คือสิ่งที่สวยงามที่สุด ที่เขาเคยสร้างมา! รูปแบบของมันและสีของมันนั้น… ช่างสมบูรณ์แบบ ! ลึกลงไปอิมพ์รู้ว่าเขานั้นไม่อยากจะเห็นมันด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขากำลังอยู่ในภารกิจ
เขาเคยเห็นมันถูกสร้างขึ้นมาก่อนแล้วโดยหนึ่งในอสูรที่แข็งแกร่งกว่าตอนที่อิมพ์ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอยู๋ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือจำลองเทคนิตขั้นเทพนั้น ! เขาวางสมบัติลงบนนิ้วหัวแม่มือของเขาอย่างช้าๆและดันนิ้วกลางของเขาลงบนผิวหนังด้านหลังเป็นเส้นตรง ก่อนที่จะกดลงและกดนิ้วกลางไว้แน่นเพื่อที่จะได้ปล่อยมันออกไปด้วยความเร็วสูงสุด !
จากการเฝ้าดูเอวาลินยิงไม้ออกไปด้วยธนูของเธอ อิมพ์จึงรู้ว่าความเร็วนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด มันจำเป็นต้องแม่นยำด้วย !
อิมพ์จับแขนที่กำลังจะยิงสมบัติล้ำค่าออกไปด้วยแขนอีกข้างเพื่อทำให้มันมั่นคงยิ่งขึ้น จากนั้นก็หลับตาข้างหนึ่งและรูดนิ้วของเขาเพื่อส่งของน่าขยะแขยงไปแปะตรงหน้าของหนึ่งในเจ้าตัวประหลาดทั้งสอง ! และนั่นก็คือเจมส์!
แล้วก็ถึงเวลาที่เข่ต้องบอกลาสมบัติที่เกิดจากจมูกของเขา เมื่อนึกถึงความสูญเสียและความเสียใจที่ต้องส่งมันออกไป เขาก็ได้แต่คิดว่า นี่คือสิ่งที่ต้องทำ !
“เวรเอ้ย…เจ้าบ้านั่น ! -” เจมส์พูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันก็สายเกินไปสำหรับเขาแล้ว
ด้วยความเร็วที่อิมพ์เองไม่สามารถหยั่งรู้ได้ เมื่อนิ้วกลางของเขาได้ดันสมบัติไปข้างหน้ามันก็ราวกับว่าโลกรอบตัวเขาหมุนช้าลงเพื่อให้เขาได้ชมผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา อิมพ์สามารถมองเห็นสมบัติบินผ่านอากาศเป็นเส้นตรงได้อย่างชัดเจนและก่อนที่ใครในห้องจะรู้ตัวสมบัติก็ได้บินไปแปะที่ลำคอของเจมส์ซึ่งเป็นสถานที่ที่อิมพ์จะได้รับคะแนนสูงสุดแล้ว
ถึงแม้สุดท้ายแล้วอิมพ์ต้องเสียสละทุกอย่าง แต่สุดท้ายมันก็คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออิมพ์ได้เห็นเจมส์สั่นและวิ่งไปยังถังที่อยู่มุมห้องเพื่อพ่นสิ่งที่กินเข้าไปวันนี้ออกมา
“เคะเคะะะะะะะะะะะะะะะะ!” อิมพ์หัวเราะเสียงดังแม้ว่าในไม่ช้าเขาจะรู้สึกปวดตรงท้องขึ้นมาในขณะที่เขาไม่สามารถหยุดหัวเราะได้
ถูกพิษรึ? หรือคำสาปกัน? ไอ่สิ่งที่น่าสยดสยองนั่นทำอะไรกับเขากันนะ?! แต่ตอนนี้เองผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสามก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าอิมพ์ขณะที่เขาทิ้งตัวลงกับพื้นเพื่อจ้องมองดูอีกฝ่ายทรมาน
[ท่านยิงโดนเป้าหมายด้วยความแม่นยำสมบูรณ์แบบ!]
[ความคล่องแคล่ว +1] [การรับรู้ +1]
"กิ-กิกิกิกิกี!" อิมพ์พยายามร้องออกมาและมองไปรอบ ๆพร้อมกับยกมือขึ้นในอากาศ อย่างน้อยเขาก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับศัตรูตัวฉกาจของเขาได้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถรอดไปจากชะตากรรมที่น่าสยดสยองหลังจากนี้….
“…เออ…เอิ่มลองตรวจดูอีกทีไหม?” โทมัสถามด้วยรอยยิ้มเบี้ยวขณะมองไปที่เอวาลิน ซึ่งเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองตัวเองอย่างไร เธอควรความลำบากใจหรือเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่อิมพ์ทำดี แต่อย่างน้อยที่สุดเธอก็รั้งเจมส์ไว้ไม่ให้ไปทำร้ายอิมพ์ ไม่งั้นเขาอาจจะทำร้ายมันตายเลยก็เป็นได้!
"เอาเถอะ ให้ข้าหักนิ้วมันสักนิ้ว! ถ้ามันอ่อนแอขนาดนั้นมันก็สมควรตายไปๆซะ!" เจมส์อุทานด้วยความโกรธ แต่เอวาลินยังคงรั้งเขาไว้ด้วยพละกำลังมากที่สุดเท่าที่เธอจะมี
---
เมื่อกลับเข้าไปในห้องเดียวกับที่เอวาลินและอิมพ์อยู่ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวสีแดงก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอกครั้งและเข้านอน ดูเหมือนเธอจะเตรียมจุดเล็กๆไว้ให้อิมพ์นอนเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่คิดว่าจะนอนจริงๆไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
และถึงแม้ว่าเขาจะเหนื่อยเขาก็ยังสามารถทนได้อีกเล็ก้นอยแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นได้ก็ตาม บางทีมันอาจจะเป็นเพียสัญชาตฐานของเขาที่ทำเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกโจมตีโดยการแจ้งเตือนจนถึงแก่ชีวิต?
แต่ไม่ว่ายังไงอิมพ์ก็ยังรู้สึกเบื่อเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงคิดว่าควรหาอะไรอย่างอื่นทำเพื่อฆ่าเวลา เขาจึงลงเอยด้วยการหยิบหนังสือเล่มเล็กอีกเล่มหนึ่งที่อยู่กับเอวาลินมา
มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง! มันมีคำและตัวอักษรมากมายอยู่แล้วซึ่งแตกต่างกับหนังสือที่เขากับเอวาลินด้วยกันอย่างลิบลับ เขากำลังจะโยนมันไปด้านข้างแต่เมื่อสังเกตเห็นคำต่างๆที่เหมือนกับในแจ้งเตือนเขาจึงหยุด
หากการแจ้งเตือนและหนังสือไร้ประโยชน์เล่มนี้เกี่ยวข้องกัน เขาก็จำเป็นต้องลองตรวจสอบและรู้ให้ได้ว่าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายนี้คืออะไร! ท้ายที่สุดถ้ามันอันตรายเขาก็ไม่อยากให้มันอยู่ใกล้เอวาลิน!
อิมพ์พยายามคิดอย่างต่อเนื่องว่าสิ่งเหล่านั้นกำลังพูดถึงอะไร แต่แม้ถึงเขาจะสามารถรู้ได้ว่ามันพูดอะไรแต่ก็ไม่อาจเข้าใจความหมายของมัน
ท้ายที่สุดแล้ว 'หิน' คืออะไรและอะไรคือ 'ปลา' และที่เลวร้ายที่สุด 'Antidisestablishmentarianism' มันคืออะไร? สิ่งเหล่านี้ทำให้อิมพ์โกรธจริงๆ! ทั้งรำคาญ ... และเหนื่อย ... แต่สุดท้ายเขาจะได้รับการแจ้งเตือนใหม่ที่ปรากฏขึ้นรอบๆตัวหลงจากที่เผชิญหน้ากับพวกมัน !
แต่เขาก็มักรู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งเมื่อใดก็ตามที่พวกมันปรากฏมาจากไหนไม่รู้…
[ระดับทักษะการเข้าใจภาษาทั่วไประดับเริ่มต้น เพิ่มขึ้น!]
“สตา!” อิมพ์ตะโกนออกมาด้วยความโกรธและตอนนี้เขาก็ยิ่งสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเอวาลินเริ่มคร่ำครวญอยู่ข้างหลังเขา แต่ดูเหมือนเธอจะหลับไปทันทีอีกครั้งหลังจากนั้น
แต่แทนที่จะหยุดเพื่อไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีก อิมพ์กลับหันไปอ่านหนังสืออย่างรวดเร็วต่อหรืออย่างน้อยเขาก็จ้องไปที่หน้าต่างๆเพื่อพยายามอ่านมัน แต่มันก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร …
และก่อนที่เขาจะรู้ตัวเอวาลินก็ลุกขึ้นจากเตียงก่อนที่มันจะสว่างอีกครั้งและเธอก็กระโดดขึ้นทันทีเมื่อเธอเห็นว่าอิมพ์ถือหนังสืออยู่ในมือ
"อ๊ะ! ระวังด้วย นั่นไม่ใช่ของที่เจ้าจะเอาไปเล่นได้นะ!" อวาลินร้องอุทาน แต่อิมพ์เพียงแค่เอียงศีรษะไปด้านข้างอย่างสับสนและมองดูขณะเอวาลินรีบหยิบหนังสือไปจากเขาและใส่ลงในกระเป๋าของเธอ
“อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่ขาดนะ…ขอเดาว่าเจ้าคงจะเล่นมันได้ไม่นาน ?” เจ้าตัวสีแดงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจโล่งอก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันกลับทำให้อิมพ์รู้สึกรำคาญเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าที่เอวาลินพูดนั้นหมายความว่าไง แต่จริงๆแล้วทุกๆเรื่องที่เธอพูดนั้นมักจะสำคัญ
“…ไม่ได้…เล่น…” อิมพ์บ่นออกมา แล้วเอวาลินก็ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจในขณะที่มองอิมพ์ด้วยความสับสน จากนั้นก็หยิบหนังสือเปล่าออกมาอีกครั้ง
"เจ้าช่วยทำให้กล่องนั่นปรากฏออกมาอีกครั้งโดยการพูดว่า " สถานะ " ได้ไหม ?" เอวาลินถาม แต่อิมพ์กลับสวมสีหน้ารังเกียจเพราะเขาไม่อยากจะเรียกหัวหน้าของศัตรูออกมาเลย
“กี้ !! … สถานะ …” อิมพ์พึมพำอย่างน่ารำคาญและการแจ้งเตือนอันใหญ่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้าใจเอวาลินดี แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไรแม้ว่าเขาจะจำมันบางส่วนได้แล้วก็ตาม
อย่างช้าๆเอวินก็ถือหนังสือไว้พร้อมกับวาดกล่องตรงหน้าอิมพ์อีกครั้งและแตะไปยังพื้นที่ด้านล่างตรงหนึ่งของมัน "คัดลอก" เธอบอกเขาและอิมพ์ก็เอียงศีรษะไปด้านข้างอย่างสับสน
เขาทำแบบนั้นมาแล้วสองสามครั้งเมื่อวานนี้! แต่มันก็มีสองสามอย่างเท่านั้นที่เปลี่ยน ! ดังนั้นตอนนี้ก็คงเหมือนกัน
อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่อิมพ์คิดในตอนแรก แต่ดูเหมือนความผิดพลาดอย่างหนึ่งจะปรากฏขึ้นในกล่องการแจ้งเตือนขนาดใหญ่และตัวเลขที่เคยเหมือนเดิมก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไปจากเดิม
แต่ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเอวาลินก็ดึงหนังสือออกไปอีกครั้งแล้วมองไปที่อิมพ์ด้วความประหลาดใจอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน…นี่มันอะไรกัน?” เธอถามตัวเองอย่างสับสนและด้วยสีหน้าเรียบเฉยอิมพ์ก็เพียงแค่ยิ้มยิงฟันอันคดเคี้ยวออกมาและพยักหน้า
"ใช่!" เขาตอบ แต่เอวาลินก็ยังมีสีหน้าสับสน "นี่เจ้าเปลี่ยนจากระดับ 73 เป็น 96 ในคืนเดียวได้ยังไงกัน .. ?" และเพื่อตอบคำถามนั้น อิมพ์เพียงแค่ยักไหล่และมองกลับมาที่เธอ
"ฮะฮะ .. " เอวาลินถอนหายใจเฮือกใหญ่และเริ่มขมวดคิ้วก่อนจะหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นให้อิมพ์อีกครั้ง "ถ้าเจ้าทำมันขาดข้าจะเอาเอามันคืนทันที เข้าใจไหม ?" เจ้าตัวสีแดงก็บอกกับอิมพ์และอิมพ์ก็พยักหน้าอีกครั้งและนั่งลงเพื่ออ่านมันอีกรอบ เขาทำเพียงแต่มองไปที่ตัวอักษรและพยายามพูดคำที่เหมือนกันออกมา
หลังจากนั้นไม่นานเอวาลินก็แตะไหล่ของอิมพ์และบอกเขาว่าพวกเขากำลังจะออกเดินทางแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบตรวจสอบทุกอย่างที่มีให้เรียบร้อย
เนื้ออร่อยอยู่เต็มกระเป๋า เรียบร้อย ! กริชไม้ที่สามารถสังหารเทพเจ้าได้ เรียบร้อย! หนังสือที่เกี่ยวข้องกับศัครูที่ร้ายกายที่สุดของเขา เรียบร้อย ! !
ดังนั้นอิมพ์จึงพ่นลมออกมาจากจมูกของเขาในขณะที่ถุงเนื้อถูกพาดไปที่หลังของเขา กริชเองก็ติดอยู่ในสายรัดที่พ่ดตามแนวทแยงมุมทั่วร่างกายของเขาและเขาถือหนังสือโดยให้แขนทั้งสองข้างแนบกับหน้าอกเพื่อให้ มันไม่สามารถหนีไปได้
"ออกไป!" จากนั้นอิมพ์ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่ประตู เมื่อเห็นเขาพูดเช่นนั้นด้วยเหตุผลบางอย่างเอวาลินก็หัวเราะออกมาและมองเขาใกล้ๆ แต่อิมพ์ก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไม
จากนั้นเอวาลินก็เปิดประตูขึ้นและทั้งสองก็เดินลงไปชั้นล่างสุดของอาคารและรอให้โทมัสและเจมส์ออกมาข้างนอก มีสิ่งที่คล้ายกับตัวประหลาดทั้งสามกำลังเดินออกไปจากที่นี่เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่พวกมันก็มักจะมองอิมพ์ด้วยความโกรธหรือความรังเกียจ แม้ว่าบางตัวจะดูหวาดกลัวแต่พวกมันก็ไม่ได้ทำอะไร ...
อิมพ์ชอบเป็นพิเศษเมื่อเห็นว่าเจ้าพวกนั้นแสดงออกต่อเขาเช่นนี้! นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกมันจะดูงี่เง่าเพียงใดและอย่างน้อยมันทุกตัวก็ยังฉลาดพอที่จะรู้ว่าอิมพ์นั้นแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวขนาดไหน
จมูกของอิมพ์เริ่มยืดยาวออกมาขณะที่ยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจ แต่ไม่นานก็ดูเหมือนว่าเอวาลินจะลากเขาไปข้างๆแล้วจบลงด้วยการดึงถุงเนื้อไปด้านข้างของอิมพ์ในขณะที่หยิบของชิ้นใหญ่แปลกๆออกมาและเอาผ้าสีน้ำตาลมาพันไว้รอบคอเขาจากนั้นก็ดึงบางส่วนมาคลุมหัวของเขาไว้! ทั้งหมดนี้ทำให้อิมพ์รู้สึกแปลกๆและเขาก็ต้องการสะบัดมันออกจากร่างกายของตัวเอง แต่เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเขาเห็นการแสดงออกของเอวาลิน
"เอาล่ะ อย่างที่ข้าคิดเลย ใส่เสื้อคลุมแล้วเจ้าดูดีขึ้นจริงๆ " เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มที่สดใสและถูฝ่ามือของเธอบนศีรษะของอิมพ์