ตอนที่ 10 ป้องกัน
ตอนที่ 10 ป้องกัน
อิมพ์เดินตามหลังเอวาลินและโทมัสไปอย่างรวดเร็วขณะที่ทั้งสองกำลังเดินผ่านสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ตอนนี้อิมพ์ยังคงถูกเอวาลินจูงมืออยู๋ด้วยเหตุผลบางประการ
เขาไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมเธอถึงคว้ามือเขาไว้อย่างกะทันหัน แต่อิมพ์ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร อีกทั้งมันยังช่วยให้เขาสงบลงเล็กน้อยอีกทั้งโดยรวมแล้วยังรู้สึกดีอีกด้วย แต่ 'ความรู้สึกที่ดี' นั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะไม่ช้าเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ด้านข้างร่างกายในขณะที่อิมพ์กระเด็นกระแทกเข้ากับกำแพง
[-213 พลังชีวิต]
[คำเตือนท่านมีพลังชีวิตต่ำ]
ด้วยความสับสน อิมพ์ก็พยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่โลกรอบตัวเขากลับเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาจึงหลับตาลงอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะตั้งสติ อย่างช้าๆเขาก็เริ่มได้ยินเสียงของเอวาลิน
“เจมส์นี่เจ้าทำบ้าอะไรน่ะ?!” เธอร้องอุทานออกมาทันที เมื่อเอวาลิน โทมัสและอิมพ์ผ่านเข้ามาประตูด้านหลังก็ปิดลง เจ้าตัวสีแดงก็วิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับเสียงเท้าที่ดัง แต่ไม่นานเธอก็ถูกหยุดไว้
"หยุดซะ ข้าขอถามหน่อยว่าว่าเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ?" โทมัสถามด้วยเสียงที่ดังและอิมพ์เองก็พยายามฟังบทสนทนาเพื่อเข้าใจให้ได้มากที่สุด
“ข้ากำลังพยายามช่วยเขาไงหละ!” เอวาลินตอบทันทีและพยายามเดินต่อไปที่อิมพ์ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะถูกใครบางคนรั้งไว้ซึ่งอิมพ์เห็น่วานั่นคือโทมัส
"ไอ่เขาที่พูดถึงนั้นเป็นใครกัน !" เจมส์กับข้าไม่คิดจะช่วยมันหรอกนะและอิมพ์ก็คือ 'มัน' จำไว้ให้ดี"
“เปล่านะ …. เขา -”
"เอวาลินหยุดแค่นี้เเถอะ มันเป็นอิมพ์นะมันอาจจะฆ่าเจ้าได้ทันทีถ้ามันมีโอกาส มันเป็นคืออสูร อสูรที่โหดเหี้ยม ตอนนี้มันจะต้องแสร้งทำเป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่องอยู่แน่ๆ" โทมัสอธิบายด้วยความโกรธ แต่เอวาลินดูเหมือนจะเงียบลงขณะที่เธอมองไปที่อิมพ์ซึ่งยังคงพยายามฟังทุกอย่างและด้วยเหตุนี้เธอจึงแค่หลับตาลงและพูดอย่างสงบ
"เอาล่ะ งั้นเราก็มาทดสอบกัน " เอวาลินพูดและแยกตัวออกจากโทมัสก่อนจะเดินไปหาอิมพ์และช่วยเขาขึ้นมา
"เราจะมาดูกันว่าเขาทำอะไรไหมหากข้าปิดการทำงานของปลอกคอชั่วขณะ มาดูกันให้ชัดเลยว่าเขาจะโจมตีข้าหรือไม่ หากเขาโจมตีข้าเราก็จะปฏิบัติต่อเขาอย่างที่เจ้าต้องการกันให้เหมือนกับเขาเป็นเพียงก้อนหินไม่มีหัวใจ แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำร้ายข้าเจ้าจะต้องปล่อยเขาไปและให้ข้าปฏิบัติกับเขาตามที่ต้องการจนกว่าเราจะขายเขาให้กับซาราก๊อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดเจ้าก็ห้ามเข้ามายุ่งเด็ดขาด " เอวาลินพูดพร้อมกับกอดอกด้วยความโกรธขณะที่เธอจ้องไปข้างหน้า จากนั้นตัวประหลาดอีกสองตัวก็มองหน้ากัน
“เจ้ารู้ตัวดีใช่ไหมว่ากำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อที่อิมพ์ที่จะอยู่อีกแค่สองสามวันหน่ะ?” เจ้าตัวสีน้ำเงินก็ถามด้วยความประหลาดใจ
"อื้ม มันเป็นเรื่องของข้า" เธอตอบและนำอิมพ์ไปที่กลางห้องก่อนจะนั่งลงบนพื้น เธอย่อตัวลงและแตะปลอกคอด้วยปลายนิ้วของเธอก่อนจะมองไปที่อีกสองคน "พร้อมหรือยัง ? หึ ขอให้โชคดี ข้ากำลังจะปิดการใช้งานของมันแล้ว" เอวาลินพูดค่อนข้างชัดเจนก่อนที่อิมพ์จะรู้สึกปวดร้อนเล็กน้อยที่คอของเขา
[ผลของปลอกคอเจ้านายลดลงอย่างมาก ท่านหลุดจากพันธนาการเป็นระยะเวลา 10 นาที 14 วินาที]
ทันใดนั้นอิมพ์ก็ถูกปกคลุมด้วยความคิดและอารมณ์ที่สับสนมากมายในขณะที่เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเอวาลินอีกต่อไปและเขาก็สับสนอย่างสมบูรณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเขาควรจะทำอะไรในตอนนี้ เขาควรจะหนีไปเลยไหม? สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีอะไรพิเศษสำหรับพวกมันหรือเปล่า? พวกมันกำลังให้บางสิ่งเกิดขึ้นงั้นรึ?
อิมพ์เอียงศีรษะไปด้านข้างด้วยความสับสน เมื่อเขามองเอวาลินเขาก็สังเกตเห็นว่าเธอมักจะทำแบบนี้เมื่อพยายามถามคำถามและเขาก็คิดว่าตอนนี้ก็คงเป็นเช่นนั้น
“อาไน?” เขาถามโดยพยายามใช้คำที่เขาได้ยินเมื่อไม่นานมานี้และเมื่อเขาค่อนข้างมั่นใจในความหมายของมันเขาก็พูดออกมา ไม่นานเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที แต่อย่างน้อยีท่สุดเขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเวียนหัวอีกต่อไปแล้ว นั่นถือว่าดีมากๆ !
ทันใดนั้นอิมพ์ก็พยายามคว้าที่ด้านหลังของเขาเพื่อดึงกระเป๋ามาไว้ตรงหน้าตัวเอง จากนั้นเขาก็ส่งมือเข้าไปในกองเนื้อที่อยู่ข้างในก่อนจะหยิบมันขึ้นมาใส่ปากเพื่อให้อาหารตัวเอง แต่ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงของเจมส์และโทมัสดังมาจากข้างหลัง
"มัน ... "โทมัสเริ่มสับสนและทันทีที่เจมส์พูดก็พูดจบประโยค" ... กินงั้นรึ .. ? "ทั้งสองคนถามออกมาในขณะอิมพ์ยังคงยุ่งอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่
อย่างช้าๆเขาก็หันมา รอบ ๆ และจ้องมองพวกเขาสองคนในขณะที่บดเนื้อในปาก ในขณะเดียวกันเขาก็ค่อยๆสังเกตเห็นว่าตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเขามีกลิ่นหอมเพียงใด ตอนแรกอิมพ์คิดว่าเป็นเพราะเนื้อในถึงเท่านั้น แต่หลังจากได้กินมันเข้าไปจริงๆเขาก็สังเกตเห็นว่ามันมาจากที่อื่นตรงหน้าเขา มันเป็นกลิ่นที่ดีเป็นอย่างมากและมันก็ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความสบายจากก้นบึ้งหัวใจ
และตอนนี้เองก็มีสิ่งหนึ่งที่โผล่เข้ามาในหัวของเขา อิมพ์สามารถบอกได้ว่าตัวของเขาน้นถูกเรียกว่าอะไรไม่นานนี้ เขาคือ 'อิมพ์' เขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเพิ่งสามารถเชื่อมโยงความรู้นี้กับคำพูดจริงๆได้
อิมพ์ยังรู้ว่าเจ้าตัวประหลาดทั้งสามนั้นเรียกว่าอะไรแต่เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกมันคืออะไรก็ตาม
และในที่สุดอิมพ์ก็รู้ว่าอารมณ์ที่เขารู้สึกต่อทั้งสองคนนี้เรียกว่าอะไรและความรู้สึกที่เขารู้สึกต่อเอวาลินนั้นเรียกว่าอะไร ในทันใด ตอนนี้อิมพ์ก็ได้รับอนุญาตให้คิดและทำทุกอย่างได้อิสระ เขาดูเหมือนว่าจะได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนและดูเหมือนจะพูดออกมาได้เป็นส่วนใหญ่อีกด้วย
อิมพ์กลืนเนื้อเข้าปากอย่างช้าๆและจ้องมองไปที่เจ้าสองตัวตรงหน้าด้วยความโกรธที่ประกายอยู๋ในดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็พูดอย่างช้าๆ "อิมพ์ ... เกลียด ... เจมส์ ... " เขาพึมพำขณะที่เขามองไปยังเจ้าตัวสีดำด้วยสายตาเย็นชาและสายตาของเขาก็หันไปมองเจ้าตัวสีน้ำเงิน ข้าๆ“อิมพ์ ... เกลียด ... โทมัส ...” อิมพ์พูดเสริมและนี่ก็ทำให้ทั้งเจมส์และโทมัสหันมามองด้วยความสับสน พวกเขาพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากนั้นอสูรตัวน้อยก็หันกลับไปและมองไปที่เอวาลิน
"อิมพ์ ... ไม่เกลียด ... เอวาลิน ... อิมพ์ ... ชอบ เอวาลิน ... " อิมพ์พูดขณะมองไปที่เจ้าสีแดงแล้วเขาก็ก้าวเข้าไปใกล้กับเธอมากขึ้น ครู่หนึ่งเจมส์ดูเหมือนอยากจะก้าวไปข้างหน้าและหยุดเขาไว้ แต่กลับถูกโทมัสรั้งไว้
จากนั้นเมื่ออิมพ์ยืนอยู่ตรงหน้าเอวาลินเขาก็หันกลับมาและจ้องไปที่โทมัสและเจมส์อีกครั้ง “เจมส์ ... โทมัส ... เลว ... อิมพ์ ... ปกป้องเอวาลิน ...” ผ่านไปไม่กี่อึดใจอิมพ์ก็เข้าใจสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปทั้งๆที่เขานั้นพูดออไปเองโดยไม่ทันคิด
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าตัวประหลาดเลวคนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ "เจ้าจะพูดบ้าอะไร !ไอ่เจ้าอสูรชั้นต่ำ?!" เจมส์ตะโกนออกมาในขณะที่เขาเริ่มเดินไปหาอิมพ์ด้วยความมุ่งมั่น แต่ก่อนที่เขาจะไปถึงตัวอิมพ์ เอวาลินก็ลุกขึ้นยืนและก้าวไปอยู่ข้างหน้าอิมพ์
“หยุดเลยนะเจมส์” เธอพูดกับเขาด้วยความโกรธที่ปรากฏในดวงตาของเธอ แต่เจมส์ก็ผลักเธอออกไปด้านข้าง "ไม่ ข้าไม่หยุดและเจ้าก็ควรรู้ไว้ด้วยว่านี่เป็นเพราะเจ้า เอวาลิน " เจมส์ตอบและก่อนที่อิมพ์จะได้ทำอะไรเพื่อปกป้องตัวเองเจ้าตัวสีดำก็เตะเข้าที่ท้องของอิมพ์ เขาไม่อาจหลบได้แม้ว่าจะพยายามแล้ว แต่ถุงเนื้อนั้นยังคงอยู่ตรงหน้าเขาอยู่ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนักจากการเตะ แต่ถึงกระนั้นอิมพ์ก็ยังได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกและกระเด็นไปข้างหลัง
โดยไม่ลังเลเจมส์ที่ยืนอยู่เหนืออิมพ์ก็ค่อยๆยกเท้าขึ้นเหนือใบหน้าของเขา แต่ตอนนี้เองโทมัสก็ได้หยุดเขาไว้ "เจมส์ ข้าเองก็ยอมรับว่าเอวาลินนั้นบ้าไปแล้วที่ปฏิบัติต่อเจ้าอิมพ์แบบนั้น แต่เรายังสามารถทำเงินจากการขายมันได้อยู่และเราก็จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากไม่ใช่รึ ?" เจ้าตัวสีน้ำเงินอธิบายให้เจมส์ฟัง แต่เมื่อมันมองมาที่อิมพ์มันก็เดาะลิ้นและหันกลับไปด้วยความโกรธ จากนั้นก็ทำเพียงเดินออกประตูไปโดยไม่ลังเล
"และนี่ก็เป็นเพราะเจ้า เจ้าชนะแล้ว เจ้าทำตามที่ต้องการได้เลย เจมส์กับข้าจะไม่ยุ่งกับมันอีกต่อไป แต่ถ้าเจ้าเกิดมีความคิดลังเลที่จะขายมันหละก็ เจ้าก็ออกไปได้เลย !" โทมัสบอกเธอแล้วก้าวเข้าไปที่กลางห้องจากนั้นก็หันมาพูดกับเอวาลินอีกครั้ง
"ออกไปจากที่นี่ซะ เราจะเดินทางกันอีกทีตอนพระอาทิตย์ขึ้น เราต้องข้ามทะเลสาบไปให้ได้ก่อนค่ำ " โทมัสพูดเหมือนออกคำสั่งและเอวาลินก็ยืนขึ้นพร้อมกับพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องโดยดึงอิมพ์ที่อยู่ข้างหลังเธอไปด้วย ส่วนอิมพ์นั้นกำลังจ้องมองการแจ้งเตือนที่ปรากฏขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลาอยู่ สิ่งที่ปรากฏอยู่ในการแจ้งเตือนนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่ตัวอักษรดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับเจ้าพวกนี้ดี
แม้ว่าในตอนแรกมันจะดูต่างออกไป แต่ 'พวกมัน' ส่วนใหญ่ใหญ่ยังคงเหมือนเดิม มีเพียงสิ่งหนึ่งเท่านั้นที่ไม่เหมือนเดิมและเปลี่ยนไป
แต่ไม่นานนักเขาก็ถูกเอวาลินขัดหวังวะ เธอย่อตัวลงตรงหน้าเขาและพึมพำบางอย่างออกมาก่อนที่จะแตะมายังปลอกคอของอิมพ์
[ผลของปลอกคอเจ้านายฟื้นคืนแล้ว ท่านสามารทถำลายผลของมันได้เร็วขึ้น ตอนนี้เป็นไปได้ที่ท่านจะหลุดออกจากการควบคุมภายใน 12 ชั่วโมง 23 นาที 11 วินาที]
ทันใดนั้นการแจ้งเตือนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ซึ่งมันต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก ! นี่ทำให้อิมพ์ตกใจเล็กน้อย และอย่างน้อยที่สุดตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่ามันคืออะไรและทำไมพวกมันถึงเปลี่ยนไป
แต่สำหรับตอนนี้อิมพ์ยังคงเดินตามหลังเอวาลินอีกครั้งและยัดเนื้อเข้าไปในปากของเขาอีกต่อเพราะตอนนี้เขารู้สึกหิวอีกแล้ว เอวาลินกับอิมพ์เดินขึ้นบันไดภายในอาคารนี้และเข้าไปยังห้องเล็กๆ จากนั้นเอวาลินก็ปิดประตูด้านหลังพวกเขาลงและทรุดตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อล้า เธอกดแขนเข้ากับดวงตาโดยไม่สนอะไรรอบตัวเธออีก
และในตอนนี้เองดูเหมือนว่ามันจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับอิมพ์ไม่น้อย เขานั้นมีบางอย่างที่อยากจะทำมาสักพักแล้ว แต่โทมัสกับเจมส์นั้นมักจะมองเขาด้วยความโกรธตลอดเวลาเมื่ออิมพ์เข้าใกล้เอวาลินมากเกินไป
อิมพ์เดินผ่านห้องอย่างช้าๆและเงียบ ๆ ไปที่เอวาลินและจากนั้นเขาก็ยื่นออกไปหาเธอด้วยรอยยิ้มซุกซน