Ep.764 - การต่อสู้อันดุเดือด
3/4
Ep.764 - การต่อสู้อันดุเดือด
บรึ้ม!
โม่ลี่ที่อยู่ในน้ำ ตอกเท้าของมัน ทั้งตนทั้งร่างดั่งกระสุนปืนใหญ่ พุ่งทะลวงออกจากเขตแดนวารีอย่างรวดเร็ว
“ก๊าซซซ”
“มนุษย์! เดรัจฉานสัตว์ยักษ์มิติ! พวกเจ้าต้องตาย!” โม่ลี่ส่งเสียงตวาดคลั่งผ่านพลังสมาธิ
ในฐานะเผ่ามังกร จึงครอบครองร่างกายที่แข็งแกร่ง ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง พลังป้องกันทนทานแข็งกร้าว หลังจากใช้ทักษะเปลี่ยนรูป พละกำลังของมันก็ยิ่งบีบอัดจนถึงขีดสุด!
พละกำลังของโม่ลี่น่าหวาดกลัวมาก แทบจะไม่ต่างจากระเบิดนิวเคลียร์
โม่ลี่ย่อตัว ก่อนดีดผึง! แทงเข่าเข้าใส่ฉินเฟิง
ตูม!
โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงผลุบออกมา แต่ก็ถูกทำลายเป็นเสี่ยงๆทันที การโจมตีของโม่ลี่สามารถเข้าประชิดสู่กายเนื้อของฉินเฟิง
ฉินเฟิงตอบสนองทันควัน
หลังเกิดใหม่ กำลังภายในของฉินเฟิงเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณทักษะลับกลืนดาราและพลังพิเศษดูดกลืน ผสานไปกับผลึกชีพจรธรณี ทำให้ปัจจุบัน ตันเถียนของเขามีขนาดใหญ่กว่าคนอื่นๆ ขยายกว้างไปมากกว่าสิบเท่า!
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเกิดใหม่ ฉินเฟิงเคยมีประสบการณ์ถูกขังอยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์ร้าย และเพื่อเป็นการกักเก็บกำลังภายในไม่ให้สูญเสียไปโดยง่าย เขาเลยมักจะเลือกสลายโล่ปราณกำลังภายในและเข้าต่อสู้โดยตรง
เพราะตราบใดที่สังหารสัตว์ร้าย ฉินเฟิงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นตอนนี้ เขาเลยไม่คิดใช้โล่ปราณกำลังภายในอีกต่อไป นี่แทบกลายเป็นสัญชาตญาณของฉินเฟิง เขาเริ่มระดมกำลังภายในจากร่างกายตนทันที
“ทักษะลับกลืนดารา!”
ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงท่วมท้นไปด้วยกำลังภายใน ช่วยเติมเต็มพละกำลังให้แก่ตัวเขา พลังป้องกันทางกายภาพเพิ่มขึ้น ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตูม ตูม!
เสมือนดั่งกระสุนปืนใหญ่สองลูกปะทะกัน
ร่างกายของฉินเฟิง ได้รับการฝึกฝนมาโดยตลอดจนไปถึงจุดสูงสุด อาจกล่าวได้ว่าเขาสามารถรู้แจ้งการฝึกยุทธ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเทคนิคคู่ขนานเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงครอบครองพละกำลังไม่ต่างจากสัตว์ร้าย
ปัจจุบัน ความแข็งแกร่งนี้ ในที่สุดก็สำแดงออกมา
กายเนื้อของฉินเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหนน่ะหรือ?
ด้วยการปกป้องจากเกราะศักดิ์สิทธิ์ อาศัยแรงผลักดันจากทักษะลับกลืนดารา ส่งผลให้การปะทะกันระหว่างฉินเฟิงกับโม่ลี่ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครสามารถกดดันอีกฝ่ายได้!
ผลลัพธ์คือเสมอกัน!
อีกทั้งยังเหมือนเป็นฝ่ายฉินเฟิง ที่ยิ่งมายิ่งระเบิดพละกำลัง กดดันมากขึ้นเรื่อยๆ!
“ก๊าซซซ” โม่ลี่คำรามด้วยความโกรธ มันไม่อยากจะเชื่อสายตา ว่ามนุษย์ตัวเล็กๆ จะสามารถสะกดการโจมตีของตนเองได้ อีกทั้งต่อมายังกดดันมันจนถอยร่น
ฉินเฟิงเองก็กลายเป็นดุร้ายโกรธเกรี้ยวเช่นกัน เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่มีโอกาสได้ต่อสู้อย่างหนักเช่นนี้ แม้ร่างกายจะด้านชาเล็กน้อย แต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนไปถึงสรวงสวรรค์
ตูมมม!
โครมม!
ตึง ตึง ตึง!
หมัดแล้วหมัดเล่าซัดเข้าใส่กัน เสียงหนักทึบของมันชวนให้หูผู้ฟังรู้สึกด้านชา ทั้งร่างสั่นเทิ้ม แต่ยิ่งแลกหมัด ฉินเฟิงก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด
แน่นอน แม้ร่างกายของฉินเฟิงจะแข็งแกร่ง แต่มันยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโม่ลี่
หลังปะทะไม่กี่ครั้ง มุมปากของฉินเฟิงก็เริ่มมีเลือดไหลออกมา โชคยังดีที่เขามีกำลังภายในคอยปกป้องร่างกาย ไม่อย่างนั้นคงได้รับบาดเจ็บภายในไปแล้วจริงๆ
กระนั้น การต่อสู้ในครั้งนี้ ฉินเฟิงมิได้อยู่เพียงลำพัง
เขายังมีไป๋หลี!
ช่วงเวลานี้ ไป๋หลีตระหนักว่าฉินเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโม่ลี่ ลูกโลกสีเงินในมือเธอเปล่งแสงไสว สกัดโม่ลี่ กักขังร่างกายอีกฝ่ายเอาไว้
“เทคนิคมิติบีบอัด!”
กับดักมิติที่เพิ่งกักขังโม่ลี่เอาไว้ เริ่มหดตัวลงอย่างรวดเร็ว หากโม่ลี่ไม่สามารถหลุดพ้น ชะตากรรมคงไม่พ้นถูกบดบี้เป็นพายเนื้อ!
โม่ลี่แหงนหน้าขึ้นมองฟ้า ปากอ้าคำรามลั่น อบิลิตี้ไฟถูกปลดปล่อยออกมา ระเบิดกับดักมิติแห่งนี้
ทว่าหลังจากมันหลุดออกมาได้ ฉินเฟิงพลันปลดปล่อยอบิลิตี้น้ำอีกครั้ง
กระบวนการต่อสู้คล้ายวกย้อนไปเหมือนดั่งในช่วงแรกของที่เพิ่งผ่านมา
การต่อสู้ระหว่างฉินเฟิง โม่ลี่ และไป๋หลี น่าหวาดกลัวอย่างหาที่ใดเปรียบ ที่นี่ ปรากฏ ธาตุมืด , ธาตุไฟ , ธาตุน้ำ และธาตุมิติกระจายไปทุกหนแห่ง ทำลายล้างสภาพแวดล้อมทั้งแถบที่พวกเขาอยู่ จนกลายเป็นขี้เถ้า
เปลวเพลิงแผดเผาต้นไม้ลุกเป็นไฟ
น้ำทะเลซัดสาดฝุ่นผงจากไป
ความมืดกลืนกินทุกสรรพสิ่ง
อำนาจมิติที่กระจายไปรอบๆ ยังทำให้สิ่งมีชีวิตที่เหลือโดนลูกหลง ตัดเฉือนตกตายหมดสิ้น
แรงกดดันจากการต่อสู้ครั้งนี้ ลุกลามออกไป กระทบกระเทือนจิตใจ ผู้คนล้วนหวาดกลัว
การต่อสู้ในครั้งนี้ กินเวลากว่าสามชั่วโมงเต็ม จนปลายขอบฟ้าเริ่มปรากฏรังสีแสงนวล การห้ำหั่นนี้ก็ยังไม่จบลง
ช่วงเวลานี้ กวนจินฮ่าวที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล บังเกิดความรู้สึกว่าตนสูญเสียพลังงานไปมหาศาล เพียงเพื่อปัดป้องกลิ่นอายเหล่านี้
แต่ในสนามรบ ฉินเฟิง ไป๋หลี และโม่ลี่ หนึ่งมนุษย์สองสัตว์ยักษ์ ยังคงระเบิดการโจมตีออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าพวกเขาครอบครองพลังงานอันไร้ขีดจำกัด
แต่ในความเป็นจริง เวลานี้ทั้งสามสูญเสียพลังงานไปเป็นจำนวนมาก
โม่ลี่รู้สึกเหนื่อยล้ากับการต่อสู้เล็กน้อย
ขณะเดียวกัน เสื้อผ้าบนตัวไป๋หลีแม้ยังไม่ขาด แต่รองเท้าส้นสูงคู่ใจของเธอไม่ทราบหายไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ส่วนฉินเฟิง เกราะศักดิ์สิทธิ์ของเขาเต็มไปด้วยรอยบุบไม่สม่ำเสมอ เสียหายอย่างรุนแรง ไม่เพียงแค่นั้น ระหว่างต่อสู้ ฉินเฟิงยังหยิบเอาเนื้อจำนวนมากออกมาจากอุปกรณ์รูนมิติ เพื่อใช้ฟื้นฟูบาดแผลของตนเอง
เพราะเหตุนี้เอง เขาเลยยังสามารถยืนหยัดต่อสู้มาถึงจุดนี้ได้
ความโกรธในดวงตาของโม่ลี่ค่อยๆจางหายไป บังเกิดความรู้สึกลังเลและไม่ยินยอมแทรกเข้ามา
ด้วยความภาคภูมิใจในฐานะมังกรยักษ์ โม่ลี่มิอาจผละจากไปเช่นนี้ได้ มันจะต้องมอบบทเรียนให้แก่ทั้งสองคนนี้
เมื่อฉุกคิดถึงเรื่องนี้ พลังสมาธิของโม่ลี่ก็ล็อคไปยังไป๋หลีทันที
ก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้ง โม่ลี่มีโอกาสฆ่าฉินเฟิงได้ แต่ดันถูกไป๋หลีขัดคอเสียทุกครั้ง หากยังมีสัตว์ยักษ์มิติคอยปกป้อง แล้วแบบนี้มันจะสังหารฉินเฟิงได้อย่างไร ดีไม่ดีต่อให้แพ้ ศัตรูพวกนี้ก็จะใช้อบิลิตี้มิติหนีไปอีก!
ไป๋หลีอย่างไรย่อมสามารถหลบหนีได้ โม่ลี่รู้สึกเช่นนั้น แต่มันก็ยังอยากลองเสี่ยงดู!
เมื่อคิดได้แบบนี้ โม่ลี่ก็ระเบิดการโจมตีรุนแรงออกไปอีกครั้งหนึ่ง
ฉินเฟิงสูญเสียกำลังภายในไปเป็นอย่างมาก แม้เขาจะใช้สมุนไพรวิญญาณช่วยฟื้นฟูมัน แต่เนื่องจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องของโม่ลี่ ฉินเฟิงยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง
ไป๋หลีเข้าปกป้องฉินเฟิงอีกครั้งเหมือนทุกที แต่ในจังหวะนั้นเอง โม่ลี่พลันหันกลับมา และโจมตีเข้าใส่ไป๋หลี
เป็นการโจมตีที่ระเบิดความเร็วถึงขีดสุด
ในความเป็นจริงไป๋หลีสามารถใช้เทเลพอร์ตหลบหนีไปได้ แต่ถ้าเธอใช้มัน แล้วจู่ๆโม่ลี่วกกลับมาจู่โจมฉินเฟิงอย่างกะทันหัน ผลลัพธ์คงไม่อาจคาดเดา เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฉินเฟิงมิใช่คู่ต่อสู้ของโม่ลี่
ดังนั้นเพื่อปกป้องฉินเฟิง ไป๋หลีไม่มีทางเลือกอื่น
“เทคนิคกำแพงมิติ!”
ไป๋หลีวาดมือ ปลดปล่อยกำแพงโปร่งใสขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าเธอ
ยังไงก็ตาม คราวนี้โม่ลี่ทุ่มสุดตัวอย่างเห็นได้ชัด แม้เห็นกำแพงอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังเลือกใช้กรงเล็บอันแหลมคมกรีดผ่านอากาศที่ว่างเปล่า ทะลวงมันโดยตรง!
รูนไฟขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ฉีกทำลายกำแพงมิติของไป๋หลี และด้วยความสูงของโม่ลี่ ทำให้กรงเล็บแหลมข้างนั้น กรีดลงไปยังตำแหน่งศีรษะของไป๋หลีพอดิบพอดี!
“ไป๋หลี รีบหลบเร็วเข้า!”
ฉินเฟิงร้องตะโกน แต่ในเวลานี้ ต่อให้ไป่หลีคิดหลบหนี เกรงว่ามันจะสายเกินไป!
ท่ามกลางความขัดแย้งของรูนที่กำลังทำลายกันและกัน จึงเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ทำให้ไป๋หลีในตอนนี้หากคิดใช้ท่าเทเลพอร์ต มันจะช้ากว่าเดิมมาก เวลาไม่เพียงพอ เธอเลยทำได้แค่ถีบตัวถอยและเอี้ยวตัวหลบไป
เปลวเพลิงลุกโชนโถมเข้าปกคลุมร่างของไป๋หลี จุดประกายไฟลุกพรึ่บบนผมสีเงินของเธอ กรงเล็บอันแหลมคมของโม่ลี่ คว้าหมับเข้าที่แก้มอันบอบบางของเธอทันใด
เมื่อเห็นฉากนี้ ดั่งฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง ฉินเฟิงระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา
บนหน้าผากเขา ปรากฏวังวนสีดำขึ้นทันใด และภายใน ปรากฏศิลาสีฟ้ากำลังลอยออกมา
--ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งวารี!
ซ่าาาา!
เกิดเสียงคลื่นซัดสาด อักษรรูนน้ำมหาศาลทะลักออกมา พุ่งเข้าชนร่างของโม่ลี่ทันใด
โม่ลี่ไม่ทันได้ทำร้ายไป๋หลี ก็ถูกศิลาศักดิ์สิทธิ์กระแทกเข้าใส่ ครั้งนี้การใช้งานมันง่ายกว่าเขตแดนวารีของฉินเฟิงก่อนหน้านี้มาก!
เพราะรูนน้ำ ระเบิดออกมาจากแหล่งกำเนิดของมันโดยตรง!
โม่ลี่บังเกิดความรู้สึกเพียงว่า มันถูกคลื่นยักษ์ซัดจนต้องล่าถอย ปลิวออกไปไกลนับ 100 เมตร ยิ่งไปกว่านั้น ภายในจักรวาลแห่งจิตสำนึกของมัน ยังปรากฏรูนน้ำนับไม่ถ้วนทะลักเข้ามา ดับรูนไฟบนดาวเคราะห์ใหญ่ของมัน
และการแตกดับนี้ มิใช่การปะทะกันระหว่างอำนาจ แต่มันคือการแตกดับที่หมายถึงสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง!
อักษรรูนไฟที่เฝ้าสั่งสมมานานปี หายวับไปทันทีถึงหนึ่งในยี่สิบส่วน ซึ่งแม้ฟังดูน้อยแต่นั่นคาดว่าต้องใช้เวลาสะสมนับร้อยปี ถึงจะกลับคืนมาได้
โม่ลี่ตะลึงลาน ขณะเดียวกันบังเกิดความโกรธแค้น