Ep.762 - ความสะเพร่าของกวนจินฮ่าว
1/4
Ep.762 - ความสะเพร่าของกวนจินฮ่าว
“ก๊าซซซ!”
มังกรไฟโม่ลี่ร้องคำราม เงยหน้าไปข้างหลัง ก่อนสะบัดกลับมา พ่นไฟไปข้างหน้าอย่างเดือดดาล
เสาเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงปะทุเดือดดาล ผืนป่าเบื้องล่าง ทั้งหมดจมลงใต้ทะเลเพลิง ถูกกลืนหายไปอย่างสิ้นเชิง
ภายใต้สถานการณ์นี้ เงาร่างจำนวนนับไม่ถ้วนจมอยู่ใต้น้ำ แต่กวนจินฮ่าวดูเหมือนจะใช้กลยุทธพิเศษบางอย่าง ทำให้สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีจากมังกรไฟโม่ลี่ไปได้
ทั้งสองเริ่มตรงเข้ามายังป้อมปราการ ใกล้เข้ามามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
กวนจินฮ่าวเองก็กำลังคลั่งเช่นกัน ปัจจุบันเขาไม่สามารถสลัดหลุดจากการโจมตีถึงตายของโม่ลี่ได้ ถูกกดดันจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ตัดสินใจวิ่งมายังทิศทางนี้
ซึ่งการกระทำดังกล่าว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือการคิดลากทุกคนลงเหวไปด้วยกัน และนั่นรวมไปถึงคลับมังกรดำด้วย อาศัยช่วงชุลมุน เขาจะปลอดภัย
สำหรับเรื่องที่ว่าการกระทำนี้จะเป็นการเพาะความแค้นแก่คนเหล่านั้น และกลายเป็นปัญหาในอนาคตหรือไม่--
--กวนจินฮ่าวจำเป็นต้องใส่ใจด้วยหรือ?
จริงอยู่ว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีศีลธรรมในจิตใจ แต่ในฐานะนักฆ่าผู้แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง กวนจินฮ่าวไม่เคยหยิบยกเรื่องนี้มีกวนใจ!
ณ ขณะนี้ ฟีนิกซ์เพลิงเองก็เริ่มพบแล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เริ่มใช้งานโล่พลังงานเต็มกำลังทันที
มังกรไฟโม่ลี่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ปีกที่กระพืออยู่บนท้องฟ้า หอบคลื่นกระแสไอร้อนขนาดใหญ่พัดตรงเข้ามา แม้ถูกสกัดไว้ด้วยโล่พลังงาน แต่กลิ่นอายแผดเผายังสามารถแทรกซึม ขณะเดียวกันโล่ก็เริ่มสูญเสียพลังงาน
“โม่ลี่ นั่นคุณกำลังคิดทำอะไร? ลืมสัญญาระหว่างพวกเราไปแล้วหรือ?” ฟีนิกซ์เพลิงใช้พลังสมาธิ ถ่ายทอดเสียงออกไป
โม่ลี่พอได้ฟังร้องคำรามกราดเกรี้ยว จากนั้นส่งน้ำเสียงอันดุร้ายผ่านพลังสมาธิกลับมา “น่าชังนัก! กล้าบอกว่าข้าลืมสัญญาได้อย่างไร มนุษย์ฝั่งเจ้าต่างหากที่เป็นหัวขโมย มาปล้นสมบัติของข้าไป!”
ฟีนิกซ์เพลิงเข้าใจเรื่องราวในทันที พร้อมทั้งรู้ว่าโม่ลี่กำลังพูดถึงใคร
เพราะขณะนี้ คนที่ตระหนักถึงกวนจินฮ่าว ไม่ใช่แค่ฉินเฟิงคนเดียว
ยังมีอีกลายคน ที่รู้จักอีกฝ่าย
“นั่นเขาบ้าไปแล้วหรือ!”
“กล้าดียังไง!”
“ไอ้กวนจินฮ่าว มันวางแผนจะใช้พวกเราเป็นเกราะกำบัง!”
ไฟสุมอยู่ในอกของฟีนิกซ์เพลิง แต่เธอทำได้แค่เพียงกระจายพลังสมาธิส่งข้อความเสียงออกไป ลดทอนความโกรธของโม่ลี่
“มนุษย์คนนั้นไม่ใช่พรรคพวกของเรา เพราะแบบนี้เขาเลยขโมยของคุณ พวกเราจะออกล่าเขาให้เอง ขอให้คุณวางใจ!”
ไล่จับกวนจินฮ่าว พูดน่ะมันง่าย แต่ยากที่จะทำ แต่ช่างประไร สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการถ่วงเวลา ไม่แน่อาจผ่อนผันออกไปจนกระทั่งผู้ใช้พลังเลเวล S มาถึง แล้วค่อยให้เขาจัดการกับเรื่องนี้
แต่มังกรไฟโม่ลี่เป็นสิ่งมีชีวิตใด? มันคือการดำรงอยู่ระดับสัตว์เทวะ แข็งกร้าวและทรงอำนาจ ดังนั้นมันจะสงบเสงี่ยมกับอีแค่วาจาปลอบประโลมสองสามคำของฟีนิกซ์เพลิงได้อย่างไร?
“เป็นพวกเจ้าที่ยั่วโมโหข้า!”
มังกรไฟโม่ลี่คำรามก้อง คราครั้งนี้มันไม่ยั้งยั้งมือ หรือฟังคำฟีนิกซ์เพลิงอีกต่อไป พ่นลมหายใจมังกรออกมาโดยตรง
เพลิงหนืดอันน่าสะพรึงปะทุออก กระแทกเข้าใส่โล่พลังงานของป้อมปราการมังกรดำทันที
เปลวเพลิงลุกฮือ พุ่งทะยานปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า!
เปลวเพลิงพวกนี้ แน่นอนว่าไม่สามารถทำร้ายต้นไม้ปัญญานิรันดร์ได้ แต่ขณะเดียวกัน ต้นไม้แห่งปัญญาก็ไม่สามารถช่วยปกป้องคนอื่นๆได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้พลังทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในป้อม จึงพากันหลบหนี!
มังกรไฟโม่ลี่ค่อยๆร่อนลง ปีกที่เหมือนพายุเฮอริเคน เป่าพวกเลเวล B ที่อ่อนแอไปคนละทิศทาง มีคนหนึ่งปลิวไปชนกับโขดหิน ซี่โครงหัก ไร้ซึ่งกำลังใดๆที่จะต่อต้าน
มังกรไฟโม่ลี่เป็นสัตว์เทวะ ดังนั้นไม่มีมนุษย์คนใดบนเกาะนี้สามารถรับมือกับมันได้
ฉินเฟิงไม่คิดยั่วยุการดำรงอยู่เช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่คิดเปิดเผยความแข็งแกร่งของไป๋หลีต่อหน้าผู้คนมากมาย
เพียงแต่ว่า แม้ฉินเฟิงต้องการจากไปเงียบๆ แต่สุดท้ายก็มีบางคนไม่ยอมปล่อยให้จากไปง่ายๆ!
โล่พลังงานถูกทำลาย พลังสมาธิของโม่ลี่สามารถตรึงร่างของกวนจินฮ่าวได้อีกครั้ง ภายใต้เสียงคำรามกราดเกรี้ยว และการโจมตีจากอักษรรูนที่ทรงพลัง ส่งผลให้ร่างที่แท้จริงของกวนจินฮ่าวปรากฏออกมา และผลปรากฏว่าเขาอยู่ข้างๆฉินเฟิงอย่างกะทันหัน
มังกรไฟโม่ลี่ไม่เสียเวลาคิดว่าอาจมีคนโดนลูกหลงด้วยซ้ำ พ่นไฟออกไปทันที
เปลวเพลิงนี้ชักนำหายนะมาอย่างแท้จริง กว่าฉินเฟิงจะรู้ตัวมันก็สายเกินไปที่จะหลบซ่อน
“เทคนิคกำแพงวารี!”
ฉินเฟิงวาดมือ ทันใดนั้นคลื่นมวลน้ำมหาศาลก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ลุกฮือเป็นแนวตั้ง ปกป้องฉินเฟิงเอาไว้อย่างแน่นหนา หลังเสาเพลิงที่บ้าคลั่งพ่นเข้ามา มันก็ถูกสกัดไว้โดยกำแพงวารี หักล้างกันและกัน ก่อตัวขึ้นเป็นหมอกหนา
ตลอดทั้งป้อมปราการ ฟุ้งไปด้วยหมอกหนา
ภายใต้หมอกหนา ฉินเฟิงปลดปล่อยทักษะหมื่นภูติ และเริ่มวิ่งหนีทันที
แต่ไม่คาดคิดเลย ว่ากวนจินฮ่าวจะเลือกวิ่งตามฉินเฟิงมา
ขณะเดียวกัน แม้โม่ลี่จะถูกหมอกหนาบดบังสายตา หากแต่พลังสมาธิยังคงอยู่ มันติดตรึงอยู่บนร่างกวนจินฮ่าว ดังนั้นต่อให้อีกฝ่ายหนี มันย่อมสามารถไล่ตามได้
ช่วงเวลานี้ ในแววตาของฉินเฟิงบังเกิดเจตนาสังหาร
“ถ้ายังตามมาอีก คราวนี้ผมจะฆ่าคุณจริงๆแล้ว!” ฉินเฟิงส่งพลังสมาธิข่มขู่
แต่ก็ป่วยการ กวนจินฮ่าวยังคงไล่ตาม ภายในน้ำเสียงที่ส่งผ่านพลังสมาธิ แฝงรสชาติของการอ้อนวอนขอความเมตตา
“ประธานฉิน ไม่สิลูกพี่ฉิน ได้โปรดช่วยฉันสักครั้ง แล้วสิ่งที่ฉันได้ขโมยมา แบ่งกับคุณคนละครึ่ง แบบนี้ฟังดูเป็นอย่างไร?” กวนจินฮ่าวหยั่งเชิงถาม
ในความเป็นจริงแล้ว กวนจินฮ่าวเป็นคนฉลาด เขาทราบดีว่าอาศัยเพียงฉินเฟิง ย่อมไม่มีทางช่วยเหลือตนเองได้ ทว่ากวนจินฮ่าวตระหนักถึงความแข็งแกร่งของไป๋หลี
การต่อสู้ในครั้งนี้ ถ้าไม่ให้ไป๋หลีลงมือ เขาไม่มีทางรอดชีวิตไปได้ อีกอย่างกวนจินฮ่าวเคยสัมผัสอำนาจอบิลิตี้ของไป๋หลีมาแล้วด้วยตัวเอง!
มันคืออบิลิตี้มิติ!
ถ้าเขายังวิ่งพร้อมไป๋หลีไปเรื่อยๆ ถึงเวลานั้นสุดท้ายเธอลงมือ การหลบหนีจากมังกรไฟโม่ลี่ ใช่ไม่กลายเป็นเรื่องง่ายดายหรอกหรือ?
แต่ตอนนี้ กวนจินฮ่าวได้แต่อธิษฐาน ขอให้ฉินเฟิงเคลิ้มตามด้วยเถอะ!
เมื่อนึกถึงสมบัติของมังกรไฟโม่ลี่ ฉินเฟิงเริ่มเกิดความสนใจขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณขโมยอะไรมาจากมัน?” ฉินเฟิงถาม
“ก็จะอะไรซะอีกล่ะ โม่ลี่ออกล่าทุกวัน แต่สัตว์ร้ายที่มันกิน มีทั้งกระดูก , เขี้ยว , เขา , ขน , เกล็ด และแก่นสัตว์ร้าย มากขนาดนี้โม่ลี่ไม่มีทางกินหมด! ฉันเลยใช้เทคนิคบางอย่าง ลอบเข้าไปในอาณาเขตของโม่ลี่ และพบว่าของที่พูดมามันกองรวมกันเป็นภูเขา ถูกทิ้งส่งเดชไม่ต่างจากขยะ! แต่ใครจะไปคิดกัน ว่าหลังจากได้มัน จะเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้!”
นั่นถือเป็นสมบัติก้อนใหญ่อย่างแท้จริง แต่ต้องรู้นะว่า แค่มนุษย์ย่างกรายเข้าไปในภูเขามัน หรือมันเห็นว่ามนุษย์ล่าสัตว์ร้ายในเขตตน แค่นั้นก็ตัดสินใจสังหารแล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่ากวนจินฮ่าวบุกไปถึงรังของมัน แล้วกระทำการดั่งงัดฟันจากปากเสือ
“คุณได้มาเท่าไหร่?”
“ไม่มากนักหรอก อา ก็แค่ … 30 แก่นสัตว์ร้ายเท่านั้น!” แต่โม่ลี่น่ะเป็นสัตว์เทวะ ดังนั้นอาหารของมันย่อมไม่ต่ำช้า แม้ปากกล่าวว่า 30 แก่นสัตว์ร้าย แต่พวกมันทั้งหมดคงไม่พ้นเป็นแก่นสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิหรือราชันย์เป็นอย่างต่ำ ทั้งยังอยู่ในเลเวล A B และนั่นถือเป็นเม็ดเงินมูลค่ามหาศาล
อาจกล่าวได้ว่า หากกวนจินฮ่าวทำสำเร็จในครั้งนี้ มูลค่าของ 30 แก่นสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิเลเวล A จะมีมูลค่ารวมๆมากถึง 150,000 ล้านเหรียญพลังงาน ไม่ต้องกล่าวถึงเงินที่ใช้ซื้อกริซเทวะในมือเขา แต่ยังเหลือส่วนต่างอีกเหลือเฟือ!
ฉินเฟิงยิ้มหยัน เอ่ยปากว่า “เกรงว่าคุณจะพูดไม่หมด ผมขอเดาว่าจำนวนของมันน่าจะมากกว่านี้ถึง 2 เท่า!”
“ไม่ซะหน่อย ที่พูดมาคือทั้งหมดแล้ว!” กวนจินฮ่าวตอบกลับร้อนรน
“งั้นเจ้า 30 แก่นสัตว์ร้ายพวกนี้ ผมต้องการมันทั้งหมด!”
กวนจินฮ่าวเบิกตากว้างจ้องมองฉินเฟิง บังเกิดความรู้สึกว่าฉินเฟิงนี่มันสิงโตปากใหญ่ อ้าได้อ้าเอาจริงๆ
ณ เวลานี้ มังกรไฟโม่ลี่สามารถไล่ประชิดมาถึงเบื้องหลังแล้ว มันยื่นกรงเล็บออกไป หมายจะคว้าทั้งสามคนเอาไว้
แม้สนทนาผ่านพลังสมาธิไปพลาง แต่พวกเขาวิ่งเร็วมาก พริบตาเดียวมาได้ไกลถึง 1,000 เมตร! อย่างไรก็ตาม โม่ลี่ยังคงตามทัน!
เปรี้ยง!
บังเกิดเสียงยอดเขาถล่มขึ้นเหนือหัว กวนจินฮ่าวที่กำลังหลบหนีตื่นตกใจ
“อ๊า! เอาก็เอา ฉันตกลง!” กวนจินฮ่าวพูดทันควัน
ฉินเฟิงหลบเลี่ยงเศษดินเศษหินได้อย่างง่ายดาย ปากเอ่ยว่า
“งั้นเอาของมา!”
กวนจินฮ่าวหยิบอุปกรณ์รูนมิติชิ้นหนึ่งออกมา สับเปลี่ยนวัตถุภายใน แล้วโยนมันให้ฉินเฟิง