ตอนที่ 29 ออกจากเมืองวิญญาณ อ่านฟรี
ตอนที่ 29 ออกจากเมืองวิญญาณ
“เสี่ยวฮัวฉันต้องออกจากระบบเพื่อทานอาหารเย็นก่อนแล้วจะกลับมาใหม่” หยวนพูดกับเธอขณะออกมาจากร้านคัลติเวเตอร์
“เธอจะไปไหนระหว่างที่ฉันไม่อยู่” จากนั้นเขาก็ถามเธอ
เสี่ยวฮัวชี้ไปที่สร้อยรอบคอของเขา “พี่หยวนสามารถเรียกเสี่ยวฮัวได้ทุกเมื่อที่พี่กลับมา”
หลังจากพูดร่างกายของเธอก็เปร่งประกายออกมาและค่ายๆลอยเป็น อณูวิญญาณเข้าไปในสร้อยคอ
“สร้อยคอสุดจ๊าบ” หยวนพึมพำก่อนที่จะทำการออกจากระบบ
ล็อคเอาท์……
หลังจากออกจากเกมหยวนก็อดทนรอให้ยูรุนำอาหารมาให้เขาและตอนนี้เขาก็รู้สึกราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
ต่างจากโลกที่เต็มไปด้วยสีสันในเกม โลกแห่งความจริงนั้นมืดมนดำสนิมเหมือนกับอยู่ในโลกที่ว่างเปล่า ทำเอาเขาอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองไม่มีตัวตนบนโลกใบนี้
“ฮ่าฮ่า… ถ้าฉันสามารถอยู่ในคัลติเวชั่นออนไลน์ตลอดไปได้หล่ะก็…” หยวนคิดพลางถอนหายใจ
หลังจากที่เขาเริ่มชินกับความรู้สึกภายในเกม นั่นทำให้ประสาทการรับรู้ของเขาแย่ลงและรู้สึกโดดเดียวกว่าปกติ
ภายในเกมไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าหรือเสียงธรรมชาตินั้นมันก็เติมความมีชีวิตชีวาให้เขาได้เสมอ แต่กลับกันในห้องของเขา เขาได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจที่เต้นเบาๆอยู่เสมอ นอกจากนี้เขาก็ไม่ได้ออกไปจากห้องที่อยู่นี่หลายปีแล้ว
หลังจากรออยู่สองสามนาทีที่เหมือนเป็นชั่วโมงในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังก้าวเข้ามาใกล้เตียงของเขา
อย่างไรก็ตามเขาสามารถบอกได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เสียงฝีเท้าของยูรุ
“ใครอยู่ตรงนั้นหน่ะ…” เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“นายน้อย ท่านหญิงกำลังยุ่งอยู่กับอาจารย์ ดังนั้นวันนี้ฉันจะเป็นคนดูแลนายน้องเองค่ะ” เสียงหญิงสาววัยกลางคนตอบกลับ
“……”
“สำหรับมื้อเย็นวันนี้ของเราจะเป็นซุปเนื้อนะคะ”
“ไม่เป็นไร…” หยวนชะงัก “วันนี้ฉันไม่หิว…”
“ถึงจะพูดแบบนั้นแต่… ฉันก็ยังต้องทำหน้าที่ของฉันค่ะ” เจ้าตัวถอนหายใจด้วยน้ำเสียงหนักใจ
“ฉันจะไม่พูดซ้ำ”
“……”
ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้อง ครู่ต่อมาหญิงวัยกลางคนก็พูดขึ้น “เข้าใจแล้วค่ะ เชิญพักผ่อนให้สบายนะคะนายน้อย”
ประตูปิดลงในไม่กี่วินาทีต่อมา มีเสียงรอดออกมาทางประตูเบามากจนปกติแล้วจะไม่ได้ยิน เนื่องจากเขาตาบอดทำให้ได้ยินเสียงดีกว่าปกติ
“ด้วยร่างกายไร้ประโยชน์แบบนั้นดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกโยนออกจากบ้าน”
“……”
“ฉันได้ยินมันนะรู้ไหม” หยวนยิ้มอย่างขมขื่น
บางทีการพูดและการได้ยินของฉันเดี๋ยวก็คงหายไปตามส่วนอื่นๆ
ในเวลาต่อมาหยวนก็กลับเข้า คัลติเวชั่นออนไลน์
เกมสตาร์ท!!
กระนั้นเมื่อเขาเข้าเกมมา อย่างแรกที่ทำก็ไม่ใช่การเรียกเสี่ยวฮัวออกมา เขาใช้เวลาสองสามนาทีในการจ้องมองโลกที่มีสีสันอย่างเงียบๆ
“ฉันกำลังทำอะไรนี่? ไม่มีเวลาจะมาหดหู่แล้ว ทุกวินาทีที่เสียไปอย่างสูญเปล่าในโลกที่สวยงามใบนี้ แม้ว่าในโลกอีกใบฉันจะพิการ แต่ในโลกนี้ฉันไม่ได้พิการ!” หลังจากสงบลงหยวนก็เรียกเสี่ยวฮัวโดยใช้สร้อย
“พี่กลับมาแล้วหรอพี่หยวน” เธอมองเขาด้วยสายตาครุ่นคิด แม้หยวนจะพยายามซ่อนอารมณ์เอาไว้ แต่เธอกลับสังเกตได้จากดวงตาของเขาในพริบตาเดียว
“พี่สบายดีไหมพี่หยวนดูจะเศร้าๆนิดหน่อยนะ” เธอถามเขา
“ไม่ต้องห่วงหรอกฉันจัดการได้ มันจะหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้ฆ่ามอนสเตอร์สักตัวสองตัว” เขาพูด
แม้ว่าเธอจะกังวลแต่ก็ไม่อยากไปคาดคั้นเขา “ถ้าพี่หยวนต้องการคนคุยด้วยเสี่ยวฮัวอยู่ข้างๆเสมอ”
“ขอบคุณเสี่ยวฮัวฉันจะจำไว้อย่างดี” หยวนยิ้ม
เสี่ยวฮัวพยักหน้าและกล่าวว่า “เราจะไม่ได้ประโยชน์มากนักสำหรับการล่าแกนมอนสเตอร์วิญญาณฝึกหัด แต่นั่นก็ช่วยให้ได้ฝึกวิชาดาบอยู่ดี จากนี้ค่อยๆเริ่มมองหามอนสเตอร์เขตแดนนักรบวิญญาณกันดีกว่า”
“จะรออะไรหล่ะมาเริ่มกันเลย!!”
หยวนและเสี่ยวฮัวเริ่มเดินทางออกจากเมือง
ในเวลาต่อมาหลังจากพวกเขาออกห่างจากเมืองเพียงไม่กี่ไมล์ เสี่ยวฮัวก็พูดด้วยเสียงเบาจนแทบจะเหมือนกระซิบ “พี่หยวน มีคนตามพวกเรามา…”
“อาจจะเป็นพวกพี่น้องดู ซวนหวู่ฮั่นเตือนฉันไว้แล้วก่อนหน้านี้ที่โรงประมูล”
เสี่ยวฮัวพยักหน้า “ใช่แต่เสี่ยวฮัวสัมผัสได้ว่ามีอีกคนหนึ่งที่อยู่กับพวกเขาเป็นผู้ฝึกฝนระดับมาสเตอร์วิญญาณ”
“มาสเตอร์วิญญาณงั้นหรอเจ้านั่นอยู่ระดับสูงกว่าเรา” หยวนแสดงสีหน้ากังวลจนลืมไปว่า จักรพรรดิวิญญาณเดินอยู่ข้างๆ
“ไม่ต้องห่วงพี่หยวนถ้าพวกนั้นคิดจะทำอะไรไม่สวยหล่ะก็ เดี๋ยวเสี่ยวฮัวจัดการเอง ทำทีเป็นไม่รู้เดินต่อไป”
หยวนพยักหน้าขณะที่พวกเรากำลังเดินไกลออกไปจากเมืองเรื่อยๆ
หลังจากเดินต่อไปอีกสองสามไมล์เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
“หยุดตรงนั้นนะไอ้ตัวเล็ก!!” หยวนและเสี่ยวฮัวหยุดเดินและหันมองไปรอบๆ ที่ปรากฏคือพี่น้องตระกูลดู และชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่
“ตามฉันมาต้องการอะไรกันแน่” หยวนถามพร้อมขมวดคิ้ว
“แกทำข้าขายหน้าในโรงประมูลต่อหน้าท่านหญิงซวนและคนมากมาย ข้าจะให้แกชดใช้ด้วยชีวิต!” ดูไหพูดด้วยเสียงดังใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
…………