อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ ตอนที่ 27 ใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาหาร [อ่านฟรี]
เมื่อหยวนและเสี่ยวฮัวออกจากโรงประมูล พวกเขาก็เดินไปรอบๆ เมืองอย่างไร้จุดหมาย
“ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงต่อดีเสี่ยวฮัว ตอนนี้เรามีเงินพอสมควรแล้ว บางทีเราควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับอนาคตให้ดีกว่านี้นะ”
เสี่ยวฮัวเพียงแค่เอียงศีรษะด้วยท่าทางงงงวย และพูดว่า
“แต่เสี่ยวฮัวมีสมบัติมากมายที่พี่สามารถใช้ได้นะ”
หยวนแสดงรอยยิ้มหวานอมขมกลืน และพูดว่า
“มันก็ใช่ แต่ว่าพี่ไม่สามารถพึ่งเธอได้ทุกอย่างหรอกนะ พี่ต้องการออกไปหาทรัพยากร และหาอุปกรณ์ด้วยตัวเองด้วยนะ”
เสี่ยวฮัวยังคง งงงวย และถามว่า
“เสี่ยวฮัวสังเกตมานานแล้ว ทำไมพี่หยวนถึงอยากทำอะไรด้วยตัวเองไปหมดขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาคงใช้ประโยชน์ในสถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน พวกเขาจะต้องไม่อยากเหนื่อยออกไปหาทรัพยากร หรือของอื่นๆด้วยตัวเองแน่ๆ”
หยวนหัวเราะเบาๆ หลังได้ยินคำพูดของเธอ และพูดว่า
“ถึงพี่จะดูเหมือนคนที่แข็งแรงสามารถทำอะไรก็ได้ในตอนนี้ แต่จริงๆแล้วพี่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในฐานะคนพิการ พี่ไม่สามารถไปเข้าห้องน้ำได้เอง ต้องคอยให้คนอื่นช่วยเหลืออยู่ตลอด พี่เกลียดความรู้สึกแบบนั้น ไร้พลัง ไร้ประโยชน์ แม้จะหายใจได้ แต่ก็ไม่เคยอยากมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้พี่กลับสามารถใช้ร่างกายที่ไร้ประโยชน์นั้นได้อีกครั้ง พี่ต้องการมีความสุขกับชีวิตให้เต็มที และพี่ต้องการสัมผัสกับความหมายของการมีชิวิต ว่าจริงๆแล้วมันรู้สึกยังไง”
“พี่หยวน พี่คงเคยใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบากเลยสินะ”
“เคยงั้นหรอ?”
หยวนหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“แม้ว่าตอนนี้พี่อาจจะดูสบายดี แต่จริงๆแล้วพี่ก็ยังมีชีวิตที่ไร้จุดหมายแบบนั้นอยู่”
“…”
“แต่พี่หยวนไม่ใช่คนพิการอีกต่อไปแล้ว พี่เป็นอัจฉริยะและเป็นอัจฉริยะในการฝึกพลังด้วย!”
แม้ว่าเสี่ยวฮัวจะไม่รู้สถานการณ์ของเขา แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความเหงา และความสิ้นหวังในน้ำเสียงของเขา
“นั่นอาจจะเป็นเรื่องจริงในโลกนี้ แต่เมื่อพี่ออกจากระบบ พี่ก็กลับไปเป็นคนพิการในโลกที่มืดมิด และบังคงอยู่อย่างไร้จุดหมายเหมือนเดิม ยังไงก็ตามพี่ขอทิ้งความหดหู่ไว้ตรงนั้น และกลับมามีความสุขกับความร่ำรวยที่เพิ่งได้มาดีกว่า”
หยวนกล่าวขณะเดินไปรอบๆ เมือง
ในขณะเดียวกันเสี่ยวฮัวจ้องมองเขาอย่างเงียบๆ ด้วยสายตาที่ครุ่นคิดเหมือนว่าเธอกำลังคิดที่จะทำอะไรบางอย่างอยู่
‘อาจจะมีบางอย่างที่เสี่ยวฮัวสามารถทำได้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของพี่หยวน’
เสี่ยวฮัวคิดกับตัวเอง
ในเวลาต่อมาพวกเขาก็มาถึงร้านขายอุปกรณ์
“ยินดีต้อนรับสู่คลังแสงมังกร!”
ชายวัยกลางคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์กล่าวกับพวกเขา หลังจากสังเกตเห็นการปรากฎตัวของพวกเขา
“เรามีอาวุธและชุดเกราะระดับวิญญาณทุกประเภท! หากเจ้ากำลังมองหาบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงโปรดบอกข้ามา”
“ขอบคุณที่แนะนำข้า ถ้าข้าต้องการอะไรจะบอกท่านนะ” หยวนพูดขณะที่เขาเริ่มมองไปรอบๆ
<ดาบกระดูก>
<ระดับ: วิญญาณ>
<คุณภาพ: ปานกลาง>
<ความแข็งแกรงทางกายภาพที่ต้องการ: 300>
<ความแข็งแกร่งทางจิตใจที่ต้องการ: 600>
<ความคม: 300>
<รายละเอียด: ดาบที่สร้างจากโครงกระดูกแห่งจิตวิญญาณ>
<ราคา: 30,000 เหรียญทอง>
<ชุดเกราะเกล็ดกิ้งก่าเพลิง>
<ระดับ: วิญญาณ>
<คุณภาพ: สูง>
<ความแข็งแกรงทางกายภาพที่ต้องการ: 500>
<ความแข็งแกร่งทางจิตใจที่ต้องการ: 250>
<พลังป้องกัน: 5,000>
<รายละเอียด: สร้างด้วยเกล็ดที่ทนทางสูงจากกิ้งก่าเพลิง>
<ราคา: 80,000 เหรียญทอง>
‘อุปกรณ์ที่นี่แพงมาก!’
ดวงตาของหยวนเบิกกว้างเมื่อเห็นราคาของอาวุธระดับวิญญาณเหล่านี้ มันทำให้ 540 เหรียญทองของเขานั้นไม่มีความสำคัญเลย!
“มันแพงใช่ไหม”
เสี่ยวฮัวสามารถอ่านสีหน้าของเขา และพูดด้วยรอยยิ้ม
“เว้นแต่พี่จะมาจากตระกูลขุนนาง หรือได้รับการสนับสนุนจากนิกายที่มีอำนาจ คนธรรมดาไม่มีใครจะมาที่สถานที่เหล่านี้เพื่อหาอุปกรณ์”
“ทำไมเธอไม่บอกพี่ก่อนที่เราจะเดินเข้ามาละ พี่รู้สึกเหมือนขอทานเดินเข้าไปในร้านเครื่องประดับเลย...”
หยวนถอนหายใจ
“ออกไปหาอะไรกินกันเถอะ”
เมื่อชายกลางคนเห็นว่าพวกเขากำลังจะออกไป หลังจากดูสิ่งของเพียงสองชิ้น เขาก็ดูดฟันอย่างเหยียดหยาม
“เชอะ! ไม่น่าเสียลมหายใจทักทายไอ้พวกน่าสงสารพวกนี้เลย”
“…”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น หยวนก็หยุดเดิน และหันกลับไปมองชายวัยกลางคน พร้อมทั้งขมวดคิ้ว
“อะไรกัน เจ้าจะตีกับข้า เพราะพูดความจริงงั้นหรอ?”
ชายวัยกลางคนพูดอย่างไม่ไยดี และยังคงดูถูกเขา
“ร้านนี้เป็นของนิกายมังกรดิน ถ้ากล้าทำร้ายข้าก็ลองดูสิ”
“…”
คิ้วของหยวนกระตุกขึ้น เมื่อได้ยินน้ำเสียงหงุดหงิดที่มาจากชายวัยกลางคน แต่เขาไม่มีอะไรจะพูดเพราะเขาเป็นคนยากจนจริงๆ นอกจากนี้เขาไม่ต้องการสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็นในร้านค้าที่ NPC เป็นเจ้าของ เพราะใครจะรู้ว่า NPC จะทำอะไรได้บ้าง
อย่างไรก็ตามเสี่ยวฮัวไม่ใจดีเหมือนหยวน และเธอเกลียดคนที่ดูถูกพี่หยวนที่รักของเธอ ครู่ต่อมาเธอได้หยิบแหวนมิติของเธอขึ้นมา และดึงสมบัติระดับสวรรค์คุณภาพเยี่ยมออกมาสองชิ้นและเลือกหนึ่งชิ้นถือไว้ในในมือของเธอ
เมื่อชายกลางคนตระหนักว่าเธอมีอาวุธระดับสวรรค์สองชิ้น และชายกลางคนปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับเป็นเพียงของเล่น ดวงตาของเขาก็กลอกไปมาจากความตกใจ และทรุดลงในวินาทีถัดไป
‘นั่นคือสิ่งที่เจ้าควรได้รับจากการกลั่นแกล้งพี่หยวน’
เสี่ยวฮัวยิ้มเยาะข้างในใจ ก่อนจะเก็บอาวุธระดับสวรรค์ และออกจากร้านด้วยสีหน้าพึงพอใจบนใบหน้าที่น่ารักของเธอ
เมื่อพวกเขาออกจากร้าน หยวนและเสี่ยวฮัวก็ไปร้านอาหารใกล้ๆ เพื่อเติมกระเพาะของเขาด้วยของอร่อยๆ
‘โอ้พระเจ้า! อาหารร้านนี้อร่อยมากเลย! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารสชาติแบบนี้มันจะเป็นรสชาติอาหารแค่ในเกม!’
ราวกับว่าเขากลายเป็นสัตว์ที่หิวโหย หยวนยัดอาหารเข้าปากและลงคอ มือทั้งสองข้างของเขามีอาหารอยู่ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกันเสี่ยวฮัวก็เฝ้าดูเขากินราวกับสัตว์ที่ขากรรไกรของเธออ้าค้างอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นใครกินอาหารอย่างเมามัน เหมือนกับว่าเขาไม่เคยกินอะไรมาก่อนเลย
“อาหารไม่ไปไหนหรอกพี่หยวน ถ้าพี่รีบกินแบบนั้น อาจจะสำลักอาหารได้นะ”
เสี่ยวฮัวพูดกับหยวน
“ช่วยไม่ได้! มือของพี่มันขยับไปเองนี่ พี่ไม่ค่อยได้กินอะไรเลย นอกจากซุปไก่ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา!”
หยวนพูดด้วยยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก ขณะที่เขายังยัดอาหารเข้าปากอย่างไม่พัก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเขา
เสี่ยวฮัวส่ายหัวก่อนที่เธอจะเริ่มกินอาหารของตัวเองอย่างสง่างาม