บทที่ 213 ปีศาจ
เกิดอะไรขึ้น? ปีศาจไม่ควรถูกผนึกอยู่ภายในถ้ำโดยเอลฟ์โบราณและถูกทรมานไปชั่วนิรันด์หรือ?
เมื่อก่อนเธอมาเล่นที่นี่และไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทำไมวันนี้กรงเล็บของปีศาจถึงทะลวงผนึกออกมาได้!
เลือดของมาร์นี่เหมือนสายฝนหยดลงมาที่ตัวเธอ ย้อมเธอให้เป็นสีแดงฉานจนทำให้เธอตกตะลึง
เธอได้สติขึ้นมาเมื่อกรงเล็บปีศาจขนาดมหึมาพยายามคลำหาตัวเธอ เธอคลานหนีอออกมาจากปากถ้ำ
อยู่ไม่ได้แล้ว เธอต้องวิ่ง!
แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่ามาร์นี่ทางร่างกายจนกระทั่งเป็นยายของเขาได้ แต่การเติบโตทางจิตใจของเอลฟ์ก็ช้ามาก ความจริงอายุจิตของเซลีนใกล้เคียงกับเจสสิก้าหรือไม่ก็โกวต้านมากกว่า แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่า 100 ปีแล้วก็ตาม
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเล่นตลกกับมนุษย์อย่างไร้เหตุผล เพียงเพราะความไม่ชอบใจของเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไร เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินเฉกเช่นในตอนนี้
ดังนั้นโชคดีที่คำพูดก่อนตายของมาร์นี่ทำให้เธอมีเป้าหมายที่ชัดเจน เธอก็ทำตามสัญชาตญาณ หนีไปทางทริเนียเพื่อขอกำลังเสริม!
เมื่อเธอคลานออกมาจากพุ่มไม้หน้าถ้ำ เซลีนก็วิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้กลับไปยังทริเนีย
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ มิติอวกาศของป่าทริเนียนั้นเปราะบางมาก และเมืองหลวงของเอลฟ์เองก็ไม่มีอยู่จริงในอาณาจักรหลัก มันคล้ายกับอาร์คานัมมากกว่า ซึ่งเป็นเพียงพื้นที่ย่อยที่ซ้อนทับกับอาณาจักรหลัก
แต่ถึงอย่างนั้นเอลฟ์ป่าก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่นี้มานานกว่าพันปี และมีการบันทึกข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับตัวแปรเกือบทุกอย่าง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเอลฟ์ถึงยังคงอยู่ในป่าทริเนียได้ แม้ว่าการวิจัยของพวกเขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเชิงพื้นที่จะไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้น และผูกขาดทางเข้า-ออกของทริเนียไว้ได้อย่างเงียบ ๆ
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมนักล่าทาสจำนวนมากจึงวิ่งวนเป็นวงกลมในป่าทริเนีย โดยไม่พบเมืองเอลฟ์ที่ลือกันว่าอยู่ส่วนลึกของป่าและกลายเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดไปแทน...
หลังจากที่เซลีนหนีออกไปได้ราว ๆ 30 นาที เธอก็ได้ยินเสียงดังกึกก้อง
ถ้ำได้พังทลายลงแล้ว
ท่ามกลางก้อนหินที่พังทลาย เศษฝุ่นและดินปลิวขึ้นไปบนอากาศกลายเป็นเมฆรูปเห็ดที่ปกคลุมท้องฟ้า
เซลีนอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง จากนั้นเธอก็พบเงาดำขนาดมหึมาท่ามกลางฝุ่นค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า เพื่อสลัดหินและสิ่งสกปรกออกจากร่าง
แม้ว่าการมองเห็นของเธอจะพร่ามัวจากฝุ่นควัน แต่เธอก็สามารถมองเห็นเขาและปลายหางรูปสามเหลี่ยมขนาดมหึมาของมันได้อย่างชัดเจน
ปีศาจตัวนั้นออกมาแล้วจริง ๆ!
เซลีนตกใจมาก
แม้ว่าเอลฟ์วัยผู้ใหญ่ทุกตนจะมีพลังที่น่าเกรงขาม และครั้งหนึ่งเคยถูกมนุษย์จัดประเภทไว้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง แต่นั่นก็เป็นเพียงมุมมองของเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอกว่าเฉกเช่นมนุษย์เท่านั้น
แต่ความจริงคือพวกเขาไม่ได้ดีไปกว่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอื่น ๆ และปีศาจก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่พบได้บ่อยที่สุด
ซึ่งแตกต่างจากปีศาจซึ่งฟักออกมาจากไข่ปีศาจ ที่แฝงตัวตัวอยู่ภายในร่างสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา โดยทำให้ร่างโฮสต์ติดเชื้อหลังจากที่พวกมันฟักตัว แล้วค่อย ๆ ทำให้ร่างนั้นแปรสภาพเป็นปีศาจนรก
แต่ปีศาจดั้งเดิมนั้นเป็นผู้อยู่อาศัยในนรก พวกมันแปลกประหลาดและทรงพลังมาก
ปีศาจส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมความสามารถเหนือธรรมชาติ และมีรูปลักษณ์ที่หลากหลายและระบบนิเวศของพวกมันก็ยังคงเป็นปริศนา แม้ว่าพวกมันส่วนใหญ่จะมีเขาที่เป็นสัญลักษณ์ของลำดับชั้น และปลายหางรูปสามเลี่ยมที่แสดงถึงตำแหน่งขุนนางในนรก
หลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่าปีศาจก็บูชาเทพเจ้าชั่วร้ายเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วผู้ศรัทธาเหล่านั้นเป็นโฮสต์ของไข่ปีศาจ พวกปีศาจได้แพร่กระจายไข่ปีศาจลงไปในดินแดนที่ต่ำกว่า และเลือกผู้ศรัทธาด้วยตนเอง (มองจากมุมนี้มันค่อนข้างคล้ายระบบของซีเว่ย)
ในทางกลับกัน ก็ไม่มีใครรู้ว่าเทพเจ้าที่พวกปีศาจศรัทธานั้นแท้จริงแล้วเป็นใคร หรือมีศรัทธาในรูปแบบใด
อาจเป็นไปได้ว่าปีศาจเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งข้ามผ่านมิติในระดับหนึ่ง แม้ว่ามันจะไม่เพียงพอสำหรับใช้ข้ามบาเรียโลกเพื่อไปยังดินแดนมรรตัย (อาณาจักรหลัก) แต่พวกมันก็สามารถจุติลงมาผ่านเส้นทางบางอย่างได้ เฉกเช่นที่เทพเจ้าลงมายังดินแดนมรรตัย เพื่อโต้ตอบกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา
นอกจากนี้ปีศาจทุกตัวยังมีอำนาจในการล่อลวงมนุษย์ และมันก็ชอบทำสัญญากับเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญา และเล่นกับพวกเขาผ่านสัญญาดังกล่าว
เป้าหมายของพวกมันค่อนข้างชัดเจน พวกมันจะให้ของเล่นที่โชคร้ายของพวกมัน พยายามทำพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่ออัญเชิญร่างจริงของพวกมันที่อยู่ในนรกมาสู่ดินแดนมรรตัยผ่านทางพิธีกรรมต่าง ๆ!
แม้ว่าปีศาจจะมีชื่อเสียงและถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่อต้านเทพเจ้า ที่เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมและคุณธรรมในตำนานและนวนิยาย (ที่ผู้ศรัทธามักจะประดับประดาเรื่องราวเหล่านั้นด้วยความชื่นชมอย่างลำเอียง) แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ และการต่อสู้กับเหล่าเทพที่บังคัญใช้กฎได้ก็ฟังดูมากเกินไป
ดังนั้นปีศาจจึงไม่ถูกผูกมัดโดยกฎที่ตรีเอกานุภาพได้วางเอาไว้ และมนุษย์ (หรือสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาอื่น ๆ) สามารถอัญเชิญร่างที่แท้จริงของพวกมันมายังดินแดนมรรตัยผ่านทางพิธีกรรมได้!
และปีศาจที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ก็มีชีวิตอยู่มาเป็นพัน ๆ ปีแล้ว (นรกไม่ได้เข้าร่วมสงครามเทพเจ้าครั้งที่ 3 และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตยืนยาวกว่าหนึ่งพันปีก็มีอยู่มากมายที่นั่น) และพวกมันแต่ละตัวก็สนิทกับมังกรหน้าบูดในแดนมรรตัย ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากปีศาจส่วนใหญ่เพียงแค่อยากดูโลกมอดไหม้ พวกมันจึงเหมือนเด็กโข่งซน ๆ ที่กล้าเล่นตลกเพื่อดึงดูดความสนใจของมังกร ในขณะที่ส่งร่างโคลนไปขโมยไข่มังกร..."
“มันกำลังเข้ามาใกล้ มันต้องสังเกตเห็นข้าแล้วแน่ ๆ ไม่มีทางที่ข้าจะหนีไปได้ด้วยความสามารถในปัจจุบัน”
อย่างไรก็ตามเซลีนก็สงบลงแม้เธอจะเผชิญกับสถานการณ์สิ้นหวัง “ถึงอย่างนั้นข้าก็ต้องทำตามที่ชายคนนั้นบอก พยายามแจ้งข่าวเกี่ยวกับปีศาจที่หลุดออกมาจากผนึก!”
เธอเด็ดใบไม้ขนาดใหญ่พอให้เขียนข้อความจากต้นไม้ที่อยู่ใกล้ตัว และเขียนอักษรเอลฟ์สั้น ๆ ง่าย ๆ ก่อนจะพับมันเป็นรูปนกกระเรียนกระดาษ และร่ายมนต์ด้วยเวทมนตร์ของเอลฟ์ให้มันเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เอลฟ์สาวก็ค่อย ๆ ปล่อยให้มันบินออกไป "ไป ข้าฝากเจ้าด้วย”
เมื่อเห็นกระเรียนกระดาษบินหายไปท่ามกลางป่ารกทึบ เซลีนก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และหันไปทางปีศาจ
ร่างนั้นค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นอย่างช้า ๆ ท่ามกลางฝุ่นควัน
“หลังจากนี้ต้องดูว่าข้าสามารถซื้อเวลาได้นานแค่ไหน” เธอพูดเบา ๆ
------------------------------------------------------
เพจ FC-Translate