Ep.757 - คิดตลบหลังแต่ดันพลาดซะเอง
1/5
Ep.757 - คิดตลบหลังแต่ดันพลาดซะเอง
มีนักฆ่าทั้งสิ้นสี่คน แต่ละคนล้วนมีที่มาต่างกัน บ้างเป็นหมาป่าเดียวดาย บ้างมาจากกลุ่มองค์กร มีกระทั่งคนหนึ่งมาจากพันธมิตรมนุษย์
กระนั้น เมื่อถึงช่วงเวลานี้ของปี พวกเขาจะจับมือกัน ร่วมงานเลี้ยงฉลองในการล่าครั้งใหญ่
ภายในเกาะนรก นอกเหนือจากป้อมปราการของคลับมังกรดำ ทุกที่ล้วนเป็นพื้นที่ล่า การเผชิญหน้ากับมนุษย์ด้วยกันเองถือเป็นเรื่องอันตรายมาก อาจทำให้เกิดการต่อสู้จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
และคนพวกนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดี เมื่อเกาะนี้เป็นอาณาเขตขององค์กรมืด ฉะนั้นหากคิดสังหารก็ทำได้อย่างสะดวกใจ!
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาทั้งสี่คน มีเพียงคนสุดท้าย ที่ยังไม่ยอมเอ่ยคำใด
แววตาของเขาทอประกายลึกล้ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จากนั้น ก็แสร้งเผยรอยยิ้มไม่แยแสออกมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ลืมไปเลย จู่ๆฉันก็นึกขึ้นได้ว่าเจออะไรบางอย่าง ขอตัวก่อนนะ!”
อีกสามคนพอได้ฟังผงะไป มีโอกาสดีๆอยู่ตรงหน้าแท้ๆ รอสักหน่อยก็ไม่ได้เลยหรือ?
เพียงแต่ว่าวิชาตัวเบาและเทคนิคซ่อนตัวของคนๆนี้แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ช่วงจังหวะคนอื่นๆกำลังอึ้ง ตัวตนของคนๆก็มลายหายไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆกวนจินฮ่าวถึงจากไป?”
“นี่น่าสงสัยมาก เจ้าหมอนั่น จู่ๆก็ยกข้ออ้างขึ้นมา คงคิดลงมือตัดหน้าพวกเราแน่ๆเลย!”
“กวนจินฮ่าว ไอ้คนกลับกลอก!”
คนที่เหลือเริ่มกระวนกระวาย ใช้ออกด้วยเทคนิคซ่อนตัวของตน และรีบวิ่งเข้าไปใจกลางสนามรบทันที
ต้องรู้นะว่า พวกเขาสู้แมมมอธไม่ได้ แต่อย่างน้อยยังมีความสามารถพอที่จะเอาชีวิตรอดท่ามกลางพวกมัน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องทำให้แมมมอธตัวอื่นๆ ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา
เมื่อเข้าสู่สนามรบ กวนจินฮ่าวที่ฉวยโอกาสจากไปก่อนเวลา ก็กลายเป็นตะลึงงัน
“เจ้าพวกนั้นมันบ้าไปแล้วรึไง?” กวนจินฮ่าวไม่นึกเลย ว่าระหว่างที่เขาพยายามหลบหนี คนอื่นๆกลับเลือกกระโจนหาที่ตาย!
ท่ามกลางสนามรบ เวลานี้ เบื้องล่างบนผืนดินผุดพรายไปด้วยหนามแหลมน่าสะพรึง ขณะที่เบื้องบนเสมือนดั่งพายุดาวตกร่วงหล่นลงมา ไม่มีที่ว่างให้มนุษย์ขึ้นไปลอยตัวกลางอากาศได้เลย
อบิลิตี้เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคกักขังไม่ให้ศัตรูหลบหนีไปได้ อย่างไรก็ตาม หากไป๋หลีกับฉินเฟิงต้องการหลบหนี สิ่งมีชีวิตใดก็ไม่อาจขัดขวางพวกเขา ประเด็นก็คือ ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องหลบหนีเลย ที่เขาต้องทำ--
--ก็แค่ฆ่า!
รังสีใบมีดและเปลวเพลิงทมิฬของมีดกษัตริย์คราม ตวัดวูบไหวกลางดงแมมมอธ
ช่วงเวลานี้ สามนักฆ่าได้มาถึงแล้ว เดิมพวกเขาคิดว่าฉินเฟิงกำลังดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่ไม่นึกฝันเลย ว่าจะได้เห็นฉากนี้กับตาตัวเอง
บุคคลคนหนึ่ง … กำลังต่อสู้กับฝูงสัตว์ร้ายเพียงลำพัง ใต้เท้าเขาราวกับมีสายลมรองรับ อีกทั้งรอบกายยังรายล้อมไปด้วยเงาร่างเสมือนนับร้อยพัน
เหล่านักฆ่าเมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนล้วนตะลึงงัน
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? ทำไมเขาถึงมีทักษะหมื่นภูติ!”
“เขาไม่ใช่กวนจินฮ่าวแน่นอน!”
“ไม่เข้าท่าแล้ว กวนจินฮ่าวไม่ได้มาที่นี่ อันที่จริงเขาคงไม่มีความคิดจะมาอยู่แล้ว ข้ออ้างเมื่อกี้ไม่ใช่การตัดหน้า แต่เป็นการหลบหนีเจ้าของความแข็งแกร่งนี้!”
ทว่าเหล่านักฆ่านึกเสียใจในเวลานี้ มันก็สายไปเสียแล้ว
ในตอนแรก เนื่องจากมีฝุ่นควันตลบบดบังสายตา ทำให้พวกเขาไม่ทราบถึงสถานการณ์ภายใน แต่เมื่อเข้ามา ถึงค่อยรู้ว่าสิ่งที่เห็นมันน่ากลัวขนาดไหน ณ จุดนี้มันไม่มีทางเลยที่จะหลบหนีออกไปได้
ครืนนนน
ผืนดินปริร้าว หนามแหลมทะลวงขึ้นมา พุ่งเป้าทิ่มแทงพวกเขา มีกระทั่งรอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ปรากฏการณ์นี้ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับถูกกระชากโดยแรงดึงดูดของโลก กลิ้งล้มทั้งยืน
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าเวลานี้ ฉินเฟิงได้ค้นพบการดำรงอยู่ของพวกเขาแล้ว
“โอ๊ะโอ นี่คงเป็นพวกหัวขโมยน้อยล่ะสิท่า!” ฉินเฟิงล็อคเป้ามายังคนเหล่านี้ทันที จากนั้นกวาดพลังสมาธิเข้าตรวจสอบ
และพบว่าเป็นคนรู้จักทั้งหมด!
ทุกคนล้วนเป็นนักฆ่าที่มีชื่อเสียง!
เมื่อสามารถระบุตัวได้ ฉินเฟิงก็แสยะยิ้มเย็นทันที
“คงคิดว่าฉันเป็นแกะอ้วนล่ะสิ? ในเมื่อคิดไม่ซื่อกันแบบนี้ งั้นพวกแกทั้งหมดจงรับโทษ กลายเป็นสารอาหารแก่ฉันเสีย!” ฉินเฟิงต่อสู้เป็นเวลานานแล้ว ในขณะที่มีดกษัตริย์ครามเป็นอาวุธเทวะเลเวล A แม้ทรงอำนาจแต่สิ้นเปลืองกำลังภายในมหาศาล แม้ที่เหลือยังมากพอจะใช้สังหารแมมมอธได้ทั้งฝูง แต่เมื่อมีกำลังภายในมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน ฉินเฟิงก็พร้อมรับด้วยความยินดี
“ทักษะหมื่นภูติ!”
ในพริบตา ฉินเฟิงแยกเงาร่างกระจายออกไปนับร้อยตัว พวกมันกรูกันเข้าหาหนึ่งในนักฆ่าทันที
รอบกายนักฆ่าในเวลานี้ถูกรุมล้อมไปด้วยแมมมอธ เนื่องจากฝูงแมมมอธเป็นศัตรูของฉินเฟิง ดังนั้นเมื่อพวกมันเห็นฉินเฟิงวิ่งไปยังทิศทางนั้น หลายตัวก็ระเบิดอบิลิตี้ดินอันน่าสะพรึงตามเข้าโจมตี
รอบกายฉินเฟิงน่ะห่อหุ้มไปด้วยโล่ปราณกำลังภายในอยู่แล้ว ดังนั้นสามารถต้านทานอำนาจทำลายจากอบิลิตี้เหล่านี้ได้ อาศัยเพียงกำลังภายในของเขา สามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง
ทว่านักฆ่าคนอื่นๆน่ะตรงกันข้าม พวกเขาไม่แกร่งพอที่จะป้องกันมัน!
“อั๊กกก!”
แม้นักฆ่าคนนี้จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาไม่สามารถอยู่รอดท่ามกลางการทำลายล้างเช่นนี้ได้ ถูกอบิลิตี้หนามบนพื้นทิ่มแทงอย่างไม่ทันตั้งตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงใช้ทักษะหมื่นภูติตรงเข้ามา ผลุบกายขึ้นเบื้องหลังคู่ต่อสู้ทันที
รังสีความมืดโถมเข้าปกคลุมนักฆ่าที่บาดเจ็บ แทรกซึมร่างกายให้เขารู้สึกอ่อนแอ
และในจังหวะนั้นเอง ฝ่ามือหนึ่งก็ประทับลงจากเบื้องหลังเขา
“ทักษะลับกลืนดารา!”
แทบจะในทันที นักฆ่าคนนี้รู้สึกเพียงตันเถียนของเขาราวกับมีรูรั่ว กำลังภายในไหลทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว
กำลังภายในเหล่านี้ ทั้งหมดถูกฉินเฟิงดูดซับมาไม่มีหลงเหลือ
นักฆ่าคนนั้นเลเวล A3 เท่ากับครอบครอง 3 มหาสมุทรกำลังภายใน หรือ 30 ทะเลสาบกำลังภายใน พวกมันไหลเข้ามาเติมเต็มในตันเถียนของฉินเฟิง
ขณะเดียวกัน นักฆ่าที่ถูกดูดกำลังภายในออกไป เดิมทีก็แทบเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว เวลานี้ย่อมไม่ต้องกล่าวถึง!
ผลจากการไหลย้อนกลับของเส้นลมปราณ ทำให้เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายไป ในจังหวะนั้นเอง หนามจากพื้นดิน ก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
“อ๊ากกกก”
นักฆ่าคนนั้นกรีดร้องน่าสังเวช
พรวด!
หนามแหลมแหวกร่างเขา วินาทีนั้นศพนักฆ่าถูกฉีกออกจากกัน--
--หนึ่งในนักฆ่าทรงพลังเลเวล A จบชีวิตลงที่นี่!
และในเวลานั้นเอง หนึ่งคนที่ไม่เคยเคลื่อนไหวเลย ไป๋หลีที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติ จู่ๆก็ลงมืออย่างกะทันหัน
เพียงเอ่ยปากอย่างแผ่วเบา บังเกิดหลายสิบจุดแสงสีเงินปรากฏขึ้นบนร่างของนักฆ่าคนนั้น สายตาของคนอื่นๆเมื่อมองไปยังฉากนี้ ก็ตระหนักได้ทันทีว่ามันคืออะไร
--เป็นอุปกรณ์รูนมิติ!
อุปกรณ์รูนมิติเหล่านี้มิใช่แค่ของนักฆ่า แต่ยังเป็นของเหยื่อคนอื่นๆที่ถูกพวกเขาดักทำร้ายตั้งแต่เข้ามายังเกาะ
รวบรวมความมั่งคั่งมาตั้งนาน แต่สุดท้ายดันกลายเป็นการถักชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นเสียอย่างนั้น
เมื่อถึงจุดนี้ สองนักฆ่าที่เหลือ บังเกิดความหนาวสะท้านในหัวใจ
เนื่องจากในเมื่อฉินเฟิงสามารถสังหารสหายคนนั้นได้ ย่อมหมายความว่าฉินเฟิงสามารถสังหารนักฆ่าที่เหลือได้เช่นกัน
พลังสมาธิของฉินเฟิง กวาดไปยังร่างของพวกเขา
แผ่นหลังของทั้งสองกลายเป็นเย็นเยียบ ตะโกนเพียงหนึ่งคำ
“วิ่ง!”
“ทักษะก้าวอำพราง!”
นักฆ่าคนหนึ่ง ระเบิดกำลังภายในทั้งหมดที่มี เปิดใช้งานทักษะลับทันที
ช่วงเวลานี้ พลังสมาธิของฉินเฟิงไม่สามารถล็อคเป้าอีกฝ่ายได้อีกต่อไป อีกทั้งความเร็วของคนๆนั้นยังพุ่งสูงขึ้นชนิดน่าสะพรึงกลัว
เวลานี้เกรงว่าต่อให้เป็นวิชาตัวเบาเลเวล S ที่เร็วที่สุด ก็ยังไม่สามารถไล่ตามได้ทัน
แต่ในจังหวะนั้นเอง รังสีแสงสีเงินพลันสว่างวาบขึ้นเบื้องหน้าเขา
นักฆ่าคนนั้นหยุดฝีเท้าไม่ทัน พุ่งเข้ากระแทกกับรังสีสีเงิน!
วินาทีถัดมา นักฆ่าคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ทิศทางที่เขากำลังพุ่งไป ดันเป็นตำแหน่งที่ฉินเฟิงยืนอยู่!
สมองของเขากลายเป็นว่างเปล่า เห็นอยู่ชัดๆว่าตนกำลังวิ่งหนี แล้วไหงจู่ๆกลายเป็นพุ่งเข้าหาฉินเฟิงไปได้?
และคงจะมีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่รู้ว่าทำไม!
--เป็นฝีมืออบิลิตี้มิติของไป๋หลี!
เขากับไป๋หลีอยู่เคียงข้างกันมาเกือบสามปี ดังนั้นรู้ใจกันเป็นอย่างดี เมื่อเธอทำแบบนี้ ฉินเฟิงก็ไม่มัวเสียเวลาคิด ยกมีดกษัตริย์ครามกวาดตัดสวนออกไป!