ตอนที่ 178 เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเงิน
จางซิงเฉินมองใบหน้าของชายที่ไม่ค่อยแปลกหน้าเท่าไหร่ตรงหน้าของเขา ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก เเต่เขากลับรู้สึกราวกับว่าเขารู้จักผู้ชายคนนี้มานานแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ขัดขวางกระทำของชายคนนี้แต่อย่างใด
มันคือความรู้สึกไว้วางใจเเบบเเปลกๆ ที่จางซิงเฉินก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน!
“ถ้าคุณจะไปที่บังกะโลเมือง A ก่อนใช่ไหมครับ?” หลิวอิงสอบถามอีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่ใจ ดูเหมือนเขาจะได้ยินจากปากของเธอว่าจะพาลูกชายไปหาพ่อที่แท้จริง…
เขารู้สึกงงกับประโยคนี้มาก…ก็เขาคือพ่อของเด็กชายไม่ใช่เหรอ? เเล้วทำไมยังมีพ่อคนอื่นอยู่อีก!? เรื่องนี้คาใจเขามาก
หลิวอิงก็็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ตัวปลอมที่กำลังปลอมเป็นพ่อของลูกชายเขามันจะมีความกล้าแค่ไหนกันแน่!? คิดจะล่อลวงลูกเมียเขาหรือ!? มันไม่ง่ายขนาดนั้นเเน่ๆ
“ใช่ค่ะ พอดีฉันกับลูกชายมีธุระที่นั่นนิดหน่อย” จางเสี่ยวเลือกที่จะไม่บอกความลับนี้กับหลิวอิง เพราะยังไงมันก็คือเรื่องส่วนตัวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เธอไม่สะดวกจะเปิดเผยมากนัก หลิวอิงเองก็ไม่อยากจะถามมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงรีบเร่งเครื่องออกรถและพุ่งตรงสู่ถนนสายหลักของเมืองหลวงทันที
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นเเละสะดวกสบาย เพราะรถคันนี้ยังไงก็เป็นถึงรถของนายพล เเม้จะเเกะสัญลักษณ์เเละธงออกเเต่ผู้คนก็ยังจำกันได้ ทำให้การสัญจรนั้นเป็นไปอย่างเรียบร้อย ราบรื่นและรวดเร็วที่สุด
เพียงเเค่ 2 ชั่วโมงในเมืองหลวงและหลังจากนั้นอีกชั่วโมงหนึ่งก็มาถึงบังกะโลในเมือง A
ที่นี่คือสถานที่ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อย จางเสี่ยวรู้แค่ว่าเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของร่างเดิมได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญมากที่นี่…เเละเป็นต้นเหตุของความเจ็บปวดทั้งปวง
หลิวอิงก็เหมือนกัน เขามองไปที่ชายหาดขาวสวย หากแต่ในเวลานี้มันเป็นตอนหัวค่ำเเล้ว ทำให้มองเห็นความงามของหาดทรายไม่ถนัด เเต่บรรยากาศมันก็ทำให้เขานึกหวนถึงคืนๆนั้น
จางเสี่ยวชวนจางซิงเฉินเเละหลิวอิงเข้าไปในล็อบบี้ของบังกะโลที่ดูหรูหรา จากนั้นก็ทำการจองห้องพัก 2 ห้องสำหรับเธอเเละลูกชาย ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นของหลิวอิง…ทั้งที่จริงๆหลิวอิงไม่ได้ต้องการ ‘ห้องส่วนตัว’ เลยด้วยซ้ำ!
หลังจากผ่านขั้นตอนยุ่งยากมากมาย จางเสี่ยวก็ได้พบผู้จัดการในตอนนั้นของบังกะโลเเห่งนี้เสียที
ทางด้านผู้จัดการ ทันทีที่ได้เห็นหน้าจางเสี่ยว เขาก็นึกออกทันที เขาจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน และเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจนทำให้มีคนมาสืบสวนที่นี่มากมาย เเต่เขาก็นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะลงทุนเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง
อีกทั้งเมื่อมองดูใบหน้าของหญิงสาวในตอนนี้ ผู้จัดการบังกะโลก็รู้สึกว่าเธอนั้นแลจะสวยเปล่งปลั่งและมีประกายของนางพญาจนเเสบตา จนดูไม่คล้ายกับใบหน้าของหญิงสาวโทรมๆ เมื่อหลายปีก่อนนั้นเลย ทำให้เขาเกิดความสงสัยว่าจางเสี่ยวใช่ว่าบินไปศัลยกรรมที่ต่างประเทศเพื่อเลี่ยงคำครหาหรือเปล่า!
ถ้าจางเสี่ยวได้ยินความคิดนี้เธอคงหัวเราะจนฟันร่วง จางเสี่ยวที่มีหนี้มหาศาลที่แม้ตอนนี้จะผ่อนจ่ายแล้วแต่มันก็ไม่ได้เบาลงเสียทีเดียว เเล้วเธอเอาเงินที่ไหนบินไปศัลยกรรมต่างประเทศ
ถ้ามีเงินมากถึงขั้นนั้น ไม่สู้เธอเอาไปกินอะไรอร่อยๆกับลูกชายจะดีกว่าเหรอ? ไม่ก็ชำระหนี้ไปเลยจะได้ไม่คั่งค้าง
แต่ช่างน่าเศร้า! ที่จางเสี่ยวไม่ได้ยินความคิดนั้น
“ผู้จัดการบังกะโลใช่ไหมคะ ฉันชื่อจางเสี่ยวเคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นฉันมากับครอบครัวตระกูลจาง ฉันจะมาสอบถามเรื่องในตอนนั้นค่ะ” ใบหน้าของจางเสี่ยวนั้นจริงจังมาก เพราะเธอนั้นอยากรู้เรื่องราวต่อไปนี้มากขึ้นทุกทีๆ
ผู้จัดการมองจางเสี่ยวด้วยความแปลกใจ เขาไม่นึกว่าเธอจะเปิดประเด็นได้ตรงขนาดนี้! ปกติเเล้วต่อให้เป็นนักสืบมืออาชีพก็ต้องเริ่มที่เกริ่นเรื่องก่อน จากนั้นก็ถามหลอกเเบบอ้อมๆวนๆ จากนั้นก็สืบเเบบลับๆ เเล้วตบท้ายด้วยซื้อข้อมูลไม่ใช่เหรอ? อะไรทำให้เธอคิดว่าเขาจะเผยเเพร่บอกข้อมูลให้เธอง่ายๆ
เห็นเขาเป็นหมูเรอะ!
เดี๋ยวๆ เดี๋ยวได้รู้!
ครั้งก่อนมีนักสืบคนหนึ่งมาสืบเรื่องนี้ กว่านักสืบนั่นจะเริ่มเกริ่นเรื่องนี้ได้ก็เลี้ยงข้าวเขาไปตั้ง 3 มื้อแล้ว…นี่ยังไม่รวมกับเงินใต้โต๊ะ ดังนั้นผู้จัดการจึงรู้สึกว่าการขายข้อมูลช่างคุ้มค่าอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อมองดูผู้หญิงคนนี้ เขาก็รู้สึกว่าเธอช่างไม่รู้มารยาทเอาซะเลย
ผู้จัดการกระเเอมไอนิดนึงก่อนที่จะกล่าวถึงเรื่องนี้เเบบอ้อมๆ
“เรื่องมันนานมาแล้ว ผมจะไปจำได้ยังไง ผมเองก็ค่อนข้างมีอายุแล้วเรื่องไม่สละสำคัญหรือไม่เกี่ยวข้องกับการเงินผมไม่มีทางจำได้หรอก!”
มันก็คือประโยคประดิษฐ์เเบบอ้อมๆ ที่กำลังจะบอกว่าถ้าไม่ให้เงินเขา เขาก็จะจำเกี่ยวกับเหตุการณ์วันนั้นไม่ได้เลย…เเม้ไม่ได้พูดตรงๆ เเต่ใครที่ฟังก็ต้องรู้เรื่องนี้กันทั้งนั้น
และนี่ก็เป็นคำตอบที่เขาเคยพูดกับนักสืบคนนั้น และนักสืบนั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง เขาเข้าใจเเล้วมอบเงินก้อนโตให้เขาทันที! เงินนั่นทำให้เขารำร่วยจนถึงวันนี้
ดังนั้นเมื่อพูดประโยคนั้นเสร็จ เขาก็จ้องมองจางเสี่ยวด้วยความหวัง…เเละยื่นมืออกไปเพื่อรอ ‘เงิน’
**********************************