Ep.755 - ผลักดัน

3/4

Ep.755 - ผลักดัน

ศิลาซวนเหลียวกองเท่าภูเขาที่เคยตั้งตระหง่าน บัดนี้หายไปไม่มีหลงเหลือ บนพื้นดินเรียบเนียนราวกับถูกมีดคมกริบปาดผ่าน

ปรากฏหลุมใหญ่ที่ดูเหมือนเป็นถ้ำลึกลงไปสู่สายตา ช่วงเวลานี้ หน้าปากทางเข้าถ้ำ เต็มไปด้วยมดซวนเหลียวนับไม่ถ้วนกำลังกรูกันออกมา!

ฉากนี้ไม่ต่างจากน้ำพุสีดำพวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน

พวกมันจดจำกลิ่นของฉินเฟิงได้ อีกอย่างสภาพแวดล้อมรอบๆมีแค่สองคนยืนอยู่ ฉะนั้นไม่ต้องเสียเวลาคิด ฝูงมดซวนเหลียวพุ่งเข้าหาฉินเฟิงกับไป๋หลีอย่างบ้าคลั่ง ฉากนี้ดั่งกระแสคลื่นสีดำ กำลังโถมทับทั้งสองคน

ทั้งเนื้อตัวของฉินเฟิงเขม็งเกร็ง ตั้งท่าเตรียมเข้าสู่สภาวะต่อสู้ ครั้งนี้เขาไม่กลัว เพราะอย่างไรเสียมีไป๋หลีอยู่เคียงข้าง ตราบใดที่เธอปลดปล่อยเทคนิคเขตแดนมิติ จับแยกฝูงมดออกจากกัน เขามั่นใจว่าสามารถสู้ได้

เพียงแต่ว่า ไม่ทันให้ฉินเฟิงได้ลงมือ ลูกโลกในมือไป๋หลี ก็ถูกเหวี่ยงออกไปเสียก่อน

ฉินเฟิงสัมผัสได้เพียงมิติเบื้องหน้าเขาเกิดการล่มสลาย

ฝูงมดซวนเหลียวที่กรูกันออกมา ทั้งหมดคล้ายถูกบีบอัดด้วยพลังงานบางอย่าง พริบตาเดียวแหลกเละเป็นพายเหลว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า มันน่าทึ่งเกินไป

อย่างไรก็ตาม สภาวะนี้เกิดขึ้นเพียงครู่ ไป๋หลีถอนอบิลิตี้ของเธอกลับมา พลังงานจากศพฝูงมดซวนเหลียวถูกปลดปล่อย พลังพิเศษดูดกลืนของฉินเฟิงเริ่มหมุนวนทันใด

วินาทีต่อมา พลังงานนับไม่ถ้วน ฃจากศพของฝูงมดถูกดูดซับเข้ามาในร่างกายของฉินเฟิง

ร่างของมดซวนเหลียวน่ะครอบทับไว้ด้วยกระดองซึ่งเป็นเกราะป้องกันอันทรงพลัง พละกำลังของพวกมันเองก็มหาศาล ตามหลักวิทยาศาสตร์ สัตว์สายพันธุ์จำพวกมด โดยปกติแล้วจะครอบครองพละกำลังที่สามารถแบกยกวัตถุที่หนักกว่าตนเองได้นับร้อยเท่า!

ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้เอง ทำให้เมื่อมันถูกแปลงเป็นพลังงานบริสุทธิ์ และซึมซับเข้าสู่ฉินเฟิง ร่างกายของเขาก็เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง

ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ในที่สุดก็สามารถตัดผ่านอุปสรรคไปได้อีกครั้ง

ยกระดับขึ้นสู่เลเวล B3!

กลิ่นอายของฉินเฟิงทะยานขึ้นไปอีกขั้น

แต่ในระหว่างนั้นเอง จากปากถ้ำก่อนหน้านี้ ฝูงมดซวนเหลียวเริ่มกรูกันออกมาอีกครั้ง

ยังไม่ใช่แค่นั้น แต่ฝูงมดที่ออกมาในครั้งนี้ กลับปรากฏคู่ปีกอยู่บนแผ่นหลังอย่างไม่คาดฝัน และกลิ่นอายของพวกมันอยู่ในระดับราชันย์!

ครืน ครืน ครืนนน

บังเกิดเสียงอึกทึก เศษดินรอบหลุมใหญ่เริ่มพังทลาย ร่างที่ใหญ่โตกว่าตัวอื่นๆปีนขึ้นมาจากปากถ้ำ

มดซวนเหลียวตัวนี้มีสีแดงเข้ม แตกต่างจากมดในฝูงตัวอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด บนแผ่นหลังครอบครองคู่ปีกถึง 8 ข้าง ปีกเหล่านั้นเปล่งแสงสีสันงดงาม

เป็นมดซวนเหลียวระดับจักรพรรดิในเลเวล A3!

เจ้าตัวนี้คือศัตรูที่ทรงพลังอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะไม่น่ากลัวเท่าเขมือบฟ้าในท้องทะเล แต่ก็ถือเป็นสัตว์ร้ายที่ครอบครองพละกำลังสูงสุดนับแต่ฉินเฟิงกลับมาเกิดใหม่

ยามเผชิญหน้ากับเขมือบฟ้าในครั้งแรก ฉินเฟิงโชคดีสามารถโค่นมันด้วยปัญญา แต่คราวนี้คงทำแบบเดิมไม่ได้!

กลิ่นอายระดับจักรพรรดิ กระพือเข้าใส่หน้าเขา เพียงลมหายใจของมันก็ชวนให้จิตใจของผู้คนหนักอึ้ง

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ไป๋หลีเริ่มเคลื่อนไหว

หวือออ!

ไป๋หลีหายวับไปจากจุดเดิม ทิ้งตัวลงจอดเหนือร่างของจักรพรรดิมดซวนเหลียว

แคว่ก แคว่ก แคว่ก!

รังสีแสงสีเงินปรากฏขึ้น แปดคู่ปีกของจักรพรรดิมดถูกตัดขาดในฉับพลัน ฉากนี้ไม่ต่างจากผ้าโปร่งสีอ่อนกำลังร่วงหล่นลงมา

ไป๋หลีวาดมือ ปีกเหล่านั้นหายวับไปทันที

“กี๊!!!”

ทันทีที่ไป๋หลีลงมือ จักรพรรดิมดก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเธอ ว่ามันอยู่ในระดับสัตว์เทวะ!

ในจิตสำนึกของพวกสัตว์ร้าย ลำดับชั้นถือเป็นเรื่องที่เข้มงวดยิ่ง หากไม่ใช่เพราะความขัดแย้งทางด้านเผ่าพันธุ์ หรือเพื่อแย่งชิงอาหาร พวกสัตว์ร้าย จะไม่กล้าท้าทายการดำรงอยู่ที่ทรงพลังกว่าพวกมันอย่างแน่นอน!

จักรพรรดิสัตว์ร้าย จะไปสู้กับสัตว์เทวะได้อย่างไร?

จักรพรรดิมดซวนเหลียว ตัดสินใจวิ่งหนีทันที!

เพียงแต่ว่า มันจะวิ่งหนีได้หรือ? มันจะว่องไวกว่าไป๋หลีที่ครอบครองอบิลิตี้มิติได้อย่างไร?

ไป๋หลีเหยียดมือออกไป กดลงเหนือหัวของจักรพรรดิมด ลูกโลกสีเงินเคลื่อนตามการขยับของไป๋หลี ลอยมาอยู่ในมือของเธออย่างเป็นธรรมชาติ  ตกลงบนศีรษะของจักรพรรดิมดซวนเหลียว

ในเสี้ยวพริบตาเดียว หัวมดดั่งถูกปรมาณูระเบิดลงใส่ ร่องรอยปริร้าวลุกลามไปทั่ว!

รูนมิติแตกตัวออก ผ่าเปิดกะโหลกซึ่งเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของจักรพรรดิมดซวนเหลียว เผยให้เห็นถึงเนื้อสีขาวและเลือดสดๆข้างใน!

“กี๊ กี๊---”

จักรพรรดิมดซวนเหลียวส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันพยายามเหวี่ยงไป๋หลี แต่ไม่ได้ผลเลย ศึกในครั้งนี้ ผลลัพธ์มันได้ถูกตัดสินไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!

ฉินเฟิงเฝ้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขา ตอนนี้เขาลดท่าป้องกัน ผ่อนคลายลงหลายส่วน หมดความปรารถนาที่จะต่อสู้อีกต่อไป  ในที่สุดเขาก็ได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของไป๋หลีแล้ว!

“ว่าแต่ทำไมฉากนี้มันถึงได้ดูคุ้นๆจัง?”

ฉินเฟิงหัวเราะเบาๆ ย้อนนึกไปถึงสัตว์เลี้ยงเสี่ยวหวงที่โจวฮ่าวดูแล อีกฝ่ายก็เป็นนางพญามดเช่นกัน ในตอนแรกก่อนกลายเป็นสัตว์พันธสัญญา มันก็ถูกไป๋หลีทุบตีจนเกือบตายเหมือนกัน!

ทว่าในครั้งนี้ จักรพรรดิมดตัวนี้ฉินเฟิงไม่มีแผนจะเก็บมันไว้ ดังนั้นไม่คิดเปล่งเสียงร้องห้าม ปล่อยให้ไป๋หลีบดขยี้สมองอีกฝ่ายโดยตรง

โครม!!

ร่างขนาดยักษ์ของจักรพรรดิมดซวนเหลียวล้มดังโครมใหญ่ ในช่วงเวลานั้นเอง พวกนายพลและราชันย์มดซวนเหลียว ต่างสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมหวานเป็นพิเศษ จับกลุ่มรวมกันเคลื่อนมายังทิศทางศพของจักรพรรดิมด!

กระดองแข็งบนร่างของจักรพรรดิมดซวนเหลียว ตราบใดที่ลงสู่กระเพาะของพวกมัน จะช่วยหนุนเสริมให้พวกมันสามารถพัฒนาขึ้นเป็นระดับจักรพรรดิได้ ดังนั้นพวกมันไม่มีวันยอมปล่อยไป

เพียงแต่ว่า พยุหะกองทัพมดเหล่านี้ สุดท้ายทั้งหมดถูกพลังมิติของไป๋หลีบดขยี้เป็นพายเหลว!

การต่อสู้จบลงอย่างไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

“ที่รัก เป็นยังไงบ้าง อาวุธของฉันร้ายกาจไหม?” ไป๋หลีถาม

“อืม มันร้ายกาจมาก จิ้งจอกน้อยของฉันทรงพลังสุดๆ!” ฉินเฟิงตอบกลับ

คู่ดวงตาของไป๋หลีเปล่งประกายสว่างไสว หันมาเอ่ยปากถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้น … คุณคิดว่าฉันในตอนนี้ จะสามารถเอาชนะแซดได้ไหม?”

ฉินเฟิงตกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยนึกมาก่อน ว่าไป๋หลีมีความคิดที่จะเอาชนะแซด!

“ตามหลักเหตุผลแล้ว มันมีโอกาสเป็นไปได้ แต่จิตวิญญาณนักรบของแซดน่ะแปลกประหลาดมาก ไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้ ถ้าให้ปลอดภัย แบบไม่เสี่ยงจนเกินไป เอาไว้รอจนฉันขึ้นเป็นเลเวล A จากนั้นพวกเราค่อยร่วมมือกันสู้กับเขา!” ฉินเฟิงกล่าว

ไป๋หลีพอได้ยินก็บุ้ยปากเล็กน้อยด้วยความผิดหวัง ในความเป็นจริงไป๋หลีก็แค้นอีกฝ่ายมากเช่นกัน ครั้งแรกก็ถูกแซดไล่ล่าจนเกือบตาย ครั้งที่สองก็ถูกแซดฉกหัวใจต้นไม้เพลิงไปต่อหน้าต่อตา ครั้งที่สามถูกบังคับให้ทดแทนบุญคุณ

อาจกล่าวได้ว่า ที่ไป๋หลีพยายามแข็งแกร่งมาจนถึงตอนนี้ ก็เพื่อเอาชนะแซด!

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอกาสยังมี ตอนนี้ไม่ถือว่าสายเกินไป รีบเก็บรวบรวมสินสงคราม แล้วเดินทางต่อกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว

สำหรับฉินเฟิง เดินทางกลางดึกท่ามกลางความมืดมิดไม่ใช่ปัญหา เขาไม่ง่วงนอนเลย ถ้างั้นทำไมไม่รีบเดินทางไปพร้อมกับไป๋หลีเล่า? มุ่งหน้าไปยังทิศทางของต้นไม้ปัญญานิรันดร์ บางทีเขาอาจได้รับผลประโยชน์ก่อนคนอื่นๆก็ได้!

ไป๋หลีเลิกคิดเรื่องแซด หันมาเก็บสินสงคราม

แต่ในระหว่างกำลังวุ่น เธอคงไม่รู้ตัวเลย ว่าสายตาของฉินเฟิงที่กำลังมองมาในเวลานี้ มันเป็นแววตาที่สะท้อนรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น

ฉินเฟิงทราบดี ว่าที่ไป๋หลีต้องการสู้กับแซด เกรงว่าคงเป็นเพราะต้องการระบายความโกรธให้กับตัวเขา

ในเมื่อนี่คือความคิดของจิ้งจอกน้อย ฉะนั้นฉินเฟิงก็ต้องตอบสนอง เขาตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ว่าจะเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น ไม่ปล่อยให้จิ้งจอกน้อยของเขารอนานเกินไป ถึงเวลานั้น … แซดจะได้ลิ้มรสชาติของความเจ็บปวด!