ตอนที่แล้วEp.753 - ความน่ากลัวของเกาะนรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.755 - ผลักดัน

Ep.754 - ไป๋หลีลงมือ


2/4

Ep.754 - ไป๋หลีลงมือ

นี่คือจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B เป็นจักรพรรดิสายพันธุ์เสือที่ตรงเข้ามาเพียงตัวเดียว

“เกาะนรกเป็นสถานที่น่าหวาดกลัวจริงๆ แต่ขณะเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยโอกาส บนโลกมนุษย์หรือมิติอื่นๆ การวิวัฒนาการขึ้นมาจนเหนือกว่าระดับราชันย์ มีอยู่ไม่ค่อยมากนัก”

ฉินเฟิงไม่ได้รับบาดเจ็บจากมดซวนเหลียว ดังนั้นตรงเข้าหาจักรพรรดิเสือทันที

ไม่นาน จักรพรรดิเสือก็ถูกกำจัด กลายเป็นสินสงครามของฉินเฟิง

สำหรับคนอื่นๆ เกาะนรกแห่งนี้คือฝันร้าย แต่สำหรับฉินเฟิง ที่นี่เต็มไปด้วยความมั่งคั่ง!

เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตกดึก ฉินเฟิงตัดสินใจหยุดต่อสู้

การเก็บเกี่ยวในวันนี้เพียงวันเดียวของเขา หากบอกไปคงทำให้คนอื่นๆอ้าปากค้าง

แต่เขาคร้านที่จะตรวจสอบมันด้วยตัวเอง สินสงครามทั้งหมดถูกยัดลงในอุปกรณ์รูนมิติ  แล้วส่งไปยังสุสานเทพสงคราม ให้ซูซิงฝูสั่งคนอื่นๆไปตรวจสอบมันแทน

ฉินเฟิงมองหาสถานที่เหมาะๆจนพบถ้ำ เขาหยิบอาหารกินและเริ่มนั่งขัดสมาธิ นำสมุนไพรวิญญาณออกมา เพื่อฟื้นฟูกำลังภายใน

รอจนกระทั่งดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางฟ้า ฉินเฟิงถึงลืมตาขึ้น

ไป๋หลียังคงหลับใหล ฉินเฟิงคิดเรื่องนี้อยู่สักพัก ก่อนหยิบเครื่องมือมิติออกมา

เครื่องมือชิ้นนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับเข็มทิศ เกาะนรกเปิดให้คนนอกเข้าร่วมเพียงเดือนเดียว และด้วยผลจากเทคโนโลยีเชิงมิติ ทำให้สถานที่แห่งนี้ สามารถแก้ไขพิกัดมิติไปกลับได้

อย่างไรก็ตาม ระบบป้องกันที่กล่าวมา มันไม่มีผลกับไป๋หลี

แต่ฉินเฟิงยังคงตัดสินใจมุ่งหน้าไปดูสถานที่ตั้งของเทคโนโลยีนั่นอยู่ดี เพราะเหตุผลที่คลับมังกรดำเลือกติดตั้งตัวเชื่อมมิติที่นี่ ก็เนื่องมาจากจะได้ครอบครองพืชกลายพันธุ์ที่ทรงพลัง และชื่อของพืชกลายพันธุ์ที่ว่าคือ--

--ต้นไม้ปัญญานิรันดร์!

เจ้าสิ่งนี้ถูกใช้เป็นพื้นฐานการวิจัยของสิ่งมีชีวิตโบราณที่เติบโตมาแล้วอย่างน้อยกว่า 100,000 ปีมันสามารถก้าวขึ้นสู่เลเวล S ได้โดยอาศัยเพียงกำลังของตัวเอง ทั้งยังไม่โจมตีมนุษย์ ในทางตรงกันข้าม ผู้คนที่ฝึกยุทธใต้ต้นไม้ปัญญานิรันดร์ ยังมีโอกาสที่จะได้รับของขวัญเป็นผลแห่งปัญญาจากต้นไม้อีกด้วย!

เจ้าสิ่งนี้ สามารถช่วยเพิ่มพูนศักยภาพของพลังสมาธิได้

แม้พรสวรรค์ในด้านพลังสมาธิของฉินเฟิงมาถึงระดับ SS แล้ว แต่ในเมื่อเขาทราบว่ามีบางสิ่งที่สามารถใช้พัฒนาตนเองได้ เขาย่อมไม่คิดพลาดโอกาส

อันที่จริง ไม่ใช่แค่ฉินเฟิง แต่หลายคนที่เลือกมาที่นี่ ก็เพื่อต้นไม้ปัญญานิรันดร์โดยเฉพาะ!

“ดูจากเครื่องมือมิติ เหมือนว่าระยะทางของมันจะค่อนข้างไกล ถ้าไม่ติดขัดปัญหาอะไร อย่างน้อยน่าจะใช้เวลาเดินทางราวๆครึ่งเดือน สำหรับฉันยังถือว่าค่อนข้างดี แต่ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่าต่อให้ใช้เวลาทั้งเดือนคงไปไม่ถึงป้อมปราการของคลับมังกรดำ”

แน่นอน ถ้าไป๋หลีตื่นขึ้นมา เรื่องการเดินทางไม่ถือเป็นอุปสรรค แต่ต่อให้ไป๋หลียังคงหลับใหล ฉินเฟิงก็ไม่กังวลว่าเขาจะเดินทางไปไม่ถึงอยู่ดี หลังจากต่อสู้มาตลอดทั้งวัน ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา เกือบจะตัดผ่านไปยังเลเวล B3 เช่นเดียวกับพลังสมาธิแล้ว

“ถึงเรื่องศิลาซวนเหลียวจะน่าเสียดาย แต่คงต้องตัดใจไป” ฉินเฟิงขมวดคิ้ว

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ข้างกายฉินเฟิงพลันปรากฏรูนสีเงินลอยล่อง ตามด้วยร่างๆหนึ่งเดินออกมาจากช่องว่างมิติ ร่างนี้เปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมหาศาล และแฝงไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์อันยากจะหยั่งถึง

แสงสีเงินกระจายออกไป ในที่สุดเงาร่างนี้ก็เผยโฉมให้เห็นถึงรูปลักษณ์อันงามล่มเมืองของเธอ

“ไป๋หลี!” ฉินเฟิงร้องคำหนึ่ง การปรากฏตัวของไป๋หลีในครั้งนี้ มันทำให้ฉินเฟิงรู้สึกเหมือนเธอเป็นกระเรียนในม่านเมฆ ที่สามารถกางปีกและโผบิน ให้ความรู้สึกราวกับห่างไกลจากตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพียงพริบตา ไป๋หลีรวบรวมกลิ่นอายของเธอกลับมาทันที เผยให้เห็นถึงท่าทีขี้เล่นของเด็กสาวอีกครั้ง

“จ้องกันถึงขนาดนี้ เพราะสวยใช่ไหม!”

ฉินเฟิงกลั้นหัวเราะและกล่าว “อืม สวยๆ!”

แต่พอได้ฟัง ไป๋หลีกลับขมวดคิ้วและกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “คุณกำลังโกหก! คุณยังไม่ได้เห็นมันด้วยซ้ำ ลองดูดีๆสิ!”

ไป๋หลีหมุนตัวไปรอบๆ ฉินเฟิงถึงค่อยสังเกตเห็น ว่าเวลานี้อีกฝ่ายกำลังสวมใส่ชุดบางอย่าง

ชุดนี้ค่อนข้างโบราณ แต่ยามไป๋หลีสวมใส่ ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากนางฟ้า บนชุดมีสีขาวตลอดทั้งตัว ตรงลวดลายถักทอด้วยสีเงินเข้ม ดูลึกลับยากจะหยั่งถึง และหากเพ่งมองดีๆ จะให้สัมผัสอันแปลกประหลาด เหมือนกับว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่ใช่เสื้อผ้าจากในมิติไหนเลย

ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ “เธอเอามันมาจากที่ไหน?”

ไป๋หลีกล่าว “เป็นมรดกทางสายเลือดของฉันที่ถูกทิ้งไว้ หลังจากผู้สืบสายเลือดสามารถก้าวไปถึงระดับเทวะ จะได้รับมรดกตกทอดจากในมิติอื่น”

สัตว์ยักษ์มิติ มีเทคนิคที่น่าสนใจมากมาย แม่ของไป๋หลีเองก็ใช้วิธีนี้ในการปกป้องเธอ กระนั้น แม่ของไป๋หลียังไม่แกร่งพอ สุดท้ายเลยจบชีวิตลง

และในรุ่นแม่ของไป๋หลี ยังไม่สามารถตัดผ่านเงื่อนไขระดับสัตว์เทวะ แม้สัตว์ยักษ์มิติจะทรงพลัง แต่การเดินทางผ่านมิติ ยังต้องเผชิญกับทุกประเภทของความอันตราย ดังนั้นสำหรับสัตว์ร้ายสายพันธุ์นี้ เรื่องที่ขาดแคลนประชากรจึงสมเหตุสมผล

“เป็นสมบัติระดับไหน?” ฉินเฟิงถาม

“ถ้าอิงตามมาตรฐานมนุษย์อย่างพวกคุณ เจ้าสิ่งนี้ควรเป็นเกราะเทวะเลเวล S !” ไป๋หลีกล่าว

ก็ในเมื่อมันถูกเตรียมไว้สำหรับลูกหลานในระดับเทวะ ฉะนั้นเกราะสมบัติชิ้นนี้ย่อมเป็นระดับเทวะ อีกทั้งมันฝังเทคนิคเปลี่ยนรูปเอาไว้ภายใน สามารถเปลี่ยนแปลงรูปทรงได้โดยอัตโนมัติ เจ้าของต้องการให้มีรูปทรงแบบไหน มันก็สามารถเป็นให้ได้ เทียบกับฟังก์ชันการทำงานของเกราะศักดิ์สิทธิ์แล้ว ถือว่าดีกว่ามาก

“ร้ายกาจ! สุดยอดไปเลย” ฉินอุทานด้วยความชื่นชม

ส่วนในเรื่องที่ว่ามันจะสวยงาม ดูดีหรือไม่นั้น เมื่อเทียบกับการใช้งานแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉินเฟิงเลย

ไป๋หลีพอพบว่ารูปทรงชุดของเธอไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากฉินเฟิงได้ ก็สั่งการเปลี่ยนทรง จากชุดโปร่งที่พริ้วไหวเหมือนอาภรณ์นางฟ้า กลายมาเป็นชุดรบสีขาวที่มีลวดลายสีเงินเข้ม และหากสังเกตดีๆ จะพบว่ามันคล้ายเกราะศักดิ์สิทธิ์ของฉินเฟิงมาก

จากนั้น ไป๋หลีก็ยื่นมือออกไป ปรากฏบอลทรงกลมสีขาวดั่งพระจันทร์ และกำลังเรืองแสงสีเงินขึ้นในมือเธอ

เห็นได้ชัดว่าในมรดกของสัตว์เทวะ ได้มอบอาวุธเทวะให้กับเธอเช่นกัน

ทั้งยังอยู่ในระดับเดียวกับมรดกชุดรบ เป็นอาวุธเทวะเลเวล S !

“เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าลูกโลกมิติซันเชียนหนิง (ลูกโลกผสานสามพันมิติ) มันเกิดจากการรวมตัวกันของศิลามิติจำนวนนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ยังสามารถดูดซับศิลามิติได้อย่างไม่จำกัด กล่าวคือเป็นลูกโลกที่เต็มไปด้วยอักษรรูนมิติ และหากสะสมศิลามิติได้มากพอ บางทีลูกโลกมิติซันเชียนหนิงของฉันอาจยกระดับขึ้นเป็น SS  หรือกระทั่งระดับ SSS เลยก็ยังได้!”

ฉินเฟิงมองไปยังท่าทีรักใคร่ที่มีต่ออาวุธเทวะของไป๋หลี ก็อดยื่นมือไปลูบหัวอีกฝ่ายไม่ได้ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา!”

ตราบใดที่แข็งแกร่ง ตราบใดที่ทรงพลังขึ้น หากไป๋หลีต้องการ ฉินเฟิงจะเป็นคนไปนำมันมามอบให้เธอเอง

แน่นอน ในเมื่อไป๋หลีปรากฏตัวแล้ว ก็ถึงเวลาทดสอบความแข็งแกร่งของเธอ!

“เธอมาได้จังหวะพอดี พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปทดสอบอาวุธใหม่!”

“ทำไมต้องรอพรุ่งนี้ด้วย? ฉันจะแสดงมันให้คุณเห็นเดี๋ยวนี้เลย! ไหนบอกมา ว่าคุณอยากฆ่าใคร? ตอนนี้แค่ฉันสะบัดเล็บ ก็สามารถฆ่ามันให้คุณได้!”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ฉินเฟิงหัวเราะเสียงดัง มองไปยังไป๋หลีที่คิดอวดโอ้พลังกับเขา คุณสามารถจินตนาถึงจิ้งจอกตัวน้อยที่คิดแยกเขี้ยวและโชว์กรงเล็บของตน มันอดคิดถึงภาพที่ดูน่ารักไม่ได้เลย

กระนั้น สำหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หากได้ยินสัตว์เทวะเปล่งวาจานี้ออกมา พวกมันคงกลัวจนหัวหด!

“เอาล่ะๆ งั้นก็ไปกันเลย เพราะวันนี้ ฉันถูกพวกมันไล่มาตั้งนานแล้ว!”

ฉินเฟิงดับกองไฟเบื้องหน้าเขา พาไป๋หลีกลับไปยังตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาศิลาซวนเหลียว

เวลานี้ โอกาสแก้แค้นได้มาถึงแล้ว!

“เอาศิลาซวนเหลียวออกมาให้หมด” ฉินเฟิงกล่าว

“เรื่องง่ายๆ!”

ไป๋หลีเหยียดแขน ลูกโลกสีเงินปรากฏขึ้นในมือ มันลอยออกไป ก่อตัวเป็นส่วนโค้งครึ่งวงกลมเบื้องหน้าเธอ

และวงโค้งนี้ยืดขยายออกไปเรื่อยๆคล้ายไม่มีที่สิ้นสุด เสมือนดั่งคลื่นแสง และเมื่อคลื่นแสงกวาดถึงภูเขา ภูเขาศิลาซวนเหลียวก็ถูกสะบั้นในพริบตาเดียว!

ยอดเขาถูกตัดออกอย่างง่ายดาย ไป๋หลีวาดมืออีกครั้ง บริเวณภูเขาเกิดเสียงหวีดหวิว ก่อนหายวับไปทั้งลูก!

ความแข็งแกร่งของไป๋หลีในเวลานี้ หากคิดย้ายขุนเขาถมทะเล เป็นเพียงเรื่องง่ายดาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด