บทที่ 43 งานฉลอง II
เห็นได้ชัดว่าการบุกรุกอย่างกะทันหันของกิเดี้ยนทำให้ลิเลียรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ
"แน่นอนแล้วเจอกันใหม่นะอาร์ต!” เธอโบกมือให้ฉันโค้งคำนับไปทางกิเดี้ยนก่อนจะวิ่งไปที่ใจกลางงานปาร์ตี้
“นายรู้ว่าเธอชอบนายใช่ไหม?” กิเดี้ยนเกาแก้มอย่างเชื่องช้าขณะที่เขาจ้องมองตามร่างของลิเลีย
“ฉันรู้” ฉันตอบอย่างเรียบง่าย
“นายสองคนดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี นายจะไม่ทำอะไรหน่อยหรือ?” เขากดดันฉันต่อ
“ฉันเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป มันมากกว่าความรู้สึกชอบหรือความรักเธอแค่รู้สึกขอบคุณฉันมากกว่า เธอยังไม่รู้ตัวในตอนนี้ แต่ในอนาคตฉันแน่ใจว่าเธอจะแยกแยะทั้งสองอย่างได้ด้วยตัวเอง”ฉันตอบพร้อมยักไหล่พลางจิบเครื่องดื่มของฉันอีกครั้ง
“นายรู้ไหมแม้ว่านายจะพูดอะไรที่น่ารังเกียจแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ฟังดูไร้สาระเลย” กิเดี้ยนยิ้มเยาะพลางจิบไวน์เล็กน้อย
“เพราะฉันไม่ได้ต้องการที่จะปิดบัง สำหรับเธอฉันเป็นเหมือนฮีโร่ที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เธออาจมีความเพ้อฝันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเราเหมือนกับเด็กสาวคนอื่นๆ เหมือนกับไอดอลของเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอกำลังรักคนๆ นั้น มันเป็นความหลงใหลมากกว่า” ฉันอธิบาย “อย่างไรก็ตามฉันแน่ใจว่าคุณไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้คำปรึกษาด้านความรักกับฉันหรอก คุณต้องการอะไร?”
“ทำไมฉันรู้สึกเหมือนกำลังคุยกับคนที่อายุเท่าฉันเลย แต่ใช่นายพูดถูก น้องสาวของนายชอบของขวัญที่นายปล้นไปจากฉันไหม?” เขาเปลี่ยนเรื่องและนั่งลงบนพื้นพร้อมกับพิงกำแพง
"ฉันได้แลกเปลียนอย่างยุติธรรมไม่ได้ " ปล้นไป "" ฉันแก้ไขแล้วกระดิกนิ้ว “และฉันก็ยังไม่ได้ให้เธอ ฉันจะให้เธอหลังจากนี้”
"ใช่แล้วละ หลังจากปรับแต่งพิมพ์เขียวและทำแผนในการสร้างเรือแล้วฉันก็ส่งมันไปที่สภาของไดคาเธน พวกเขาอนุมัติและอยู่ระหว่างแผนการก่อสร้างทันที” เขาประกาศโดยไม่มีการล้อเล่นตามปกติของเขา
หลังจากการก่อตั้งเหล่าหกแลนซ์ ราชาของทั้งสามและราชินีแห่งไดคาเธนได้รวมตัวกันและประกาศต่อสาธารณชนว่าสถาบันกษัตริย์ในปัจจุบันของแต่ละอาณาจักรทั้งสามจะเปลี่ยนและร่วมเป็นสภาเดียวสำหรับไดคาเธน การตัดสินใจนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับการถกเถียงแต่มันก็ทำให้มีบางกลุ่มที่ต่อต้าน สำหรับตอนนี้สถานที่ตั้งของสภาแห่งไดคาเธนยังไม่ถูกเปิดเผย แหล่งการติดต่อเดียวมีให้เฉพาะบุคคลที่เชื่อถือได้บางคนในขณะที่การกระจายข่าวได้รับการเผยแพร่ผ่านผู้ว่าการเมืองแต่ละแห่ง
“ยินดีด้วยฉันแน่ใจว่าพวกเขาคงให้รางวัลคุณเป็นอย่างดีสำหรับสิ่งนั้น” ฉันพูดด้วยความจริงใจพร้อมกับชูแก้วขึ้น
“เชอะ...เงินเป็นเพียงเครื่องมือในการใช้สร้างสิ่งของสำหรับฉันเท่านั้น ทองคำพวกนั้นเป็นเพียงสินค้าไร้ประโยชน์ที่มีไว้ใช้ในการซื้อของที่มีประโยชน์กับฉันจริงๆ แต่นาย - นายเป็นสินทรัพย์ที่ฉันไม่อยากปล่อยไป นายต้องการอะไรว่ามาเลย? เงิน? อำนาจ? ความรู้? ฉันสามารถให้ทุกอย่างกับนายถ้านายยอมเปิดใจกับฉันมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่นายรู้” เขาลุกขึ้นดวงตาที่สดใสของเขาเปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของโลกเพื่อผลประโยชน์ของตัวฉันเอง ทวีปนี้ทำได้ดีอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีมันเลย” ฉันโต้กลับทำให้ความตั้งใจของฉันชัดเจน
“นายกำลังบอกว่าคุณมีไอเดียสำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของโลกนี้ได้อยู่อีกหรือ น่าทึ่งมาก…” หูของเขาคงต้องได้ยินแต่สิ่งที่เขาอยากได้ยินเท่านั้นเพราะเขาไม่เข้าใจฉันเลย
ฉันเติมมานาในเสียงของฉันและคำรามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำเพื่อให้เขาได้ยินเพียงคนเดียวเท่านั้น "คุณกิเดี้ยน ขอบอกให้ชัดเจนว่าฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มด่ำกับความอยากรู้อยากเห็นที่เห็นแก่ตัวของคุณ”
น้ำเสียงของฉันดูเหมือนจะทำให้เขาสั่นขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขาเกือบจะกระโดดเพราะความตกใจ
“นายทำให้ฉันสร่างเมาได้เร็วจริงๆ ใช่ฉันเดาว่านายพูดถูก แล้วถ้าเกิดเป็นข้อแลกเปลียนละ? ฉันจะไม่ขอสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกเช่นเครื่องจักรไอน้ำที่นายมอบให้ฉัน ฉันแค่อยากจะรู้ว่านายคิดยังไงบ้างจริงๆยะ ฉันจะเป็นผู้ช่วยในทุกๆสิ่งที่นายต้องการ จริงๆฉันหมดหนทางจริงๆนะเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์ อย่าทำให้ชายแก่คนนี้อ้อนวอนอีกเลย” น่าแปลกที่ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจมากๆ
นี่คือสิ่งที่ฉันวางแผนไว้ตั้งแต่แรก ฉันไม่ต้องการมอบความรู้ให้เขาง่ายเกินไปดังนั้นฉันจึงยืนกราน “คุณรับปากได้ใช่มั้ย?”
"แน่นอน! นายคิดว่าฉันเป็นคนยังไงละ? ฉันเป็นคนรักษาคำพูด นายค่อนข้างเป็นคนที่รักครอบครัวดังนั้นฉันเข้าใจว่าทำไมนายถึงสนใจสร้อยคอนกฟีนิกซ์ขนาดนั้น ฉันอาจไม่ใช่นักเวทย์ที่เก่งกาจแต่ฉันรู้เกี่ยวกับทฤษฎีของศิลปะและการใช้เวทมนตร์ อีกอย่างนายต้องใช้เงินสำหรับค่าเล่าเรียนใช่ไหม? แบบนี้ถือว่าชนะกันทั้งสองฝ่าย? ใช่มั้ย?" ดวงตาที่นิ่งและผมที่ดูเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตยิ่งทำให้เขาดูน่าสงสารยิ่งขึ้นไปอีก
ฉันยื่นมือออกไปฉันและส่งมอบรอยยิ้มเชิงหวานหมูเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะคิดทบทวนถึงสิ่งที่เขาเพิ่งได้ขอมา
ในที่สุดงานเลี้ยงก็สิ้นสุดลงหลังจากเสียงระฆังดังในเวลาเที่ยงคืนซึ่งเป็นวันเกิดของน้องสาวของฉันอย่างเป็นทางการ หลังจากเต้นรำกินดื่มและให้ของขวัญกัน แขกก็เริ่มจากไปอย่างช้าๆและในที่สุดสาวใช้ก็เริ่มทำความสะอาดห้องบอลรูม
พ่อแม่ของฉันมอบผ้าผูกผมสวยๆ ให้กับน้องสาวของฉันกับระฆังประดับที่เป็นสีเงินและมันสะท้อนให้เห็นถึงสีที่ระยิบระยับใต้แสง น้องสาวของฉันตื่นเต้นและขอให้แม่มัดผมให้เธอเป็นหางม้าแฝด
แม้งานปาร์ตี้จะประสบความสำเร็จน้องสาวของฉันก็ค่อนข้างผิดหวังที่เหล่าทวินฮอนไม่สามารถมาร่วมงานของเธอได้เนื่องจากตอนนี้พวกเขาอยู่ในดันเจี้ยนใต้ดิน อย่างไรก็ตามเธอก็ยอมรับมันได้อย่างรวดเร็วหลังจากเห็นกล่องที่ห่ออยู่ในมือฉัน
“สุขสันต์วันเกิดนะน้องสาว” ฉันมอบของขวัญให้เธอและยื่นกล่องอีกใบซึ่งไม่ได้ตกแต่งให้สวยเท่าของน้องให้กับแม่ของฉัน
"ว้าว! มันสวยมาก!” น้องสาวของฉันมีความสุขกับสร้อยคอล้ำค่าแม้ว่าเธออาจจะไม่รู้ว่ามันมีค่าเท่าไร
“นี้มันสวยมากเลย…” ปฏิกิริยาของแม่ของฉันรุนแรงกว่าน้องสาวฉันอีก จริงๆแล้วดวงตาของเธอจับจ้องไปที่อัญมณีสีชมพูอ่อนที่ฝังอยู่บนโซ่ทองคำขาว
“ใส่มันไว้ตลอดเวลาโอเคไหม?” ฉันพูดกับน้องสาวของฉันตรงๆ แต่ฉันก็มองไปที่แม่ของฉันด้วยเพื่อที่เธอจะได้รับรู้เช่นกัน
“ลูกไปหาอะไรแบบนี้ที่ไหนในโลก?” พ่อของฉันยังคงงัวเงียเล็กน้อยแต่เขาก็ยังได้สติอยู่เต็มที่
“ผมแน่ใจว่าพ่อคงเคยได้พบกับมิสเตอร์กิเดี้ยนใช่ไหม? ผมจะเริ่มทำงานให้กับเขาในขณะที่เขาสอนผมหลายอย่างเกี่ยวกับเวทมนตร์ เขาให้สิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ในการเป็นลูกมือเค้า” มันไม่ใช่เรื่องโกหกแต่ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดเช่นกัน
“อืม...พ่อคงต้องหาเวลาไปทักทายเขาอีกครั้งและขอบคุณเขาที่ดูแลลูก พ่อไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกกำลังจะเข้าเรียนที่สถาบันไซรัสแล้วในเร็ว ๆ นี้! ลูกจะไล่เตะก้นเด็กๆที่นั้นใช่มั้ย? โอ๊ย!” แม่ของฉันตีเขาคว่ำหัวกับประโยคสุดท้ายและกอดฉันใหญ่ น้องสาวของฉันก็กอดตาม
“ขอบคุณสำหรับของขวัญพวกนี้ เราทั้งคู่จะใส่มันตลอดใช่มั้ยเอลลี?” เธอกอดน้องสาวฉันด้วย
"ใช่! เราทั้งคู่ดูเข้ากันทันที!” เธอร้องออกมาพร้อมกับแสงบนใบหน้าของเธอ ฉันดีใจที่เธอชอบมัน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือรู้สึกโล่งใจที่เธอจะปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับประเด็นนี้
_________________________________________________________________
หลังจากวันเกิดของน้องสาวชีวิตประจำวันของฉันก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่องซ้ำซาก วันเกิดของฉันผ่านไปเช่นกันและแม้ว่าเหล่าทวินฮอนจะไม่ได้มา แต่การสำรวจดันเจี้ยนของพวกเขานำพวกเขาไปสู่ส่วนลึกของทวีป เราได้รับการตอบกลับจากพวกเขาที่กิลด์ฮอลล์ซึ่งระบุว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดี วันเกิดของฉันไม่ได้จัดให้ยิ่งใหญ่เท่าของเอลลีแต่ฉันก็ไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องนั้นเลย
มีเพียงไม่กี่คนนอกเหนือจากครอบครัวของฉันและลิเลียเท่านั้นที่มา กิเดี้ยนก็มาด้วย เขาให้สิ่งที่ฉันขอซึ่งเป็นตราปิดผนึกสำหรับมานาคุณลักษณะของฉันสำหรับไฟและน้ำ
“แม้ว่ามันจะดูฉูดฉาดเล็กน้อย นายก็แค่สวมสร้อยข้อมือนี้ไว้ตลอดเวลาเมื่อนายต้องการที่จะซ่อนคุณสมบัติมานาของนาย ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังทดลองใช้งานอยู่ดังนั้นโปรดใช้อย่างระมัดระวัง เครื่องรางสองอย่างบนสร้อยข้อมือแต่ละอันสามารถซ่อนและปิดผนึกมานาของนายไม่ให้ผู้อื่นรับรู้และวัดได้ พระเจ้าฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่านายเป็นควอดราออกเมนเตอร์แต่…”
ฉันใกล้ชิดกับกิเดี้ยนมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาและในขณะที่เขาค่อนข้างแปลกประหลาดแต่เขาก็เป็นคนที่จริงใจและน่าไว้วางใจมาก อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้บอกเขามากนักนอกจากความสามารถของฉันในฐานะนักเวทย์ซึ่งมันทำให้เขาตกใจมาก
วันเกิดของฉันคือช่วงเวลาที่เงียบสงบใช้เวลากับครอบครัว อาไลจาห์กับฉันรีบกลับเข้าสู่การฝึกฝนอย่างรวดเร็วและในขณะที่ความสามารถของเขามีพลังน้อยลงมาก แต่เขาก็มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมการร่ายเวทมนตร์ของดินและโลหะได้ดีมากขึ้น ถึงกระนั้นเขายังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากถ้าหากเขาจะไล่ให้ทันฉัน แต่เราทั้งคู่ยังมีเวลา
สำหรับฉันการฝึกซ้อมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ฉันวางแผนที่จะใช้เฉพาะมานาของธาตุดินและลมซึ่งมันเป็นพลังเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นของพลังที่แท้จริงของฉัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันวางแผนที่จะซ่อนพลังของตัวเองที่โรงเรียน ทำไมฉันจะไม่เพลิดเพลินไปกับประโยชน์ของการเป็นออกเมนเตอร์ธาตุคู่ที่หล่อเหลาและอัจฉริยะละ? ฉันมีครอบครัวที่ต้องทำให้ภูมิใจใช่ไหม?
อาไลจาห์กระตือรือร้นที่จะไปโรงเรียนมากกว่าที่ฉันเป็นอยู่หลายครั้ง โดยแสดงออกในหลายๆ ครั้งว่าเขาจะพบเพื่อนผู้หญิงที่ “ร้อนแรง” แบบไหนบ้าง ฉันบอกเขาตลอดว่าเราอายุแค่สิบสองและเด็กผู้หญิงก็ไม่ได้ “ดูฮอต” ในวัยของเรา แต่เขากรองสิ่งนั้นออกมาและบอกว่าเขาจะพยายามจีบสาวที่มีอายุมากกว่าเราต่างหาก
การฝึกฝนของพ่อของฉันกลับมาอีกครั้งแม้ว่าจะช้าลงเล็กน้อยหลังจากที่เขาใช้ประโยชน์ทั้งหมดจากแกนสัตว์มานาที่ฉันมอบให้ แต่เขาก็สามารถเพิ่มระดับการเสริมไฟของเขาได้และทักษะและความสามารถของเขาก็กลายเป็นสีส้มอ่อนแทนที่จะเป็นสีแดงเหมือนกับออกเมนเตอร์ธาตุไฟทั่วไป
อย่างที่ฉันคาดไว้สัตว์ร้ายจะไม่ตอบสนองต่ออาไลจาห์เมื่อฉันให้มันแก่เขา เขาไม่สามารถรู้สึกอะไรได้เลยเริ่มสับสนว่าทำไมฉันถึงยังมีมันอยู่
เมื่อเอลลีสนุกกับโรงเรียนและพากลุ่มเพื่อนๆที่ใกล้ชิดมาที่บ้านบ่อยขึ้น แม่ของฉันและคุณน้าทาบิธาก็มีเวลาว่างในการเป็นแม่บ้านทำให้ชีวิตไม่ว่างอีกแล้ว เมื่อเห็นว่าพวกเขาสงบและมีความสุขฉันจะยอมสละชีวิตเพื่อให้มันคงอยู่ได้นานที่สุด
มีงานสำคัญไดคาเธนซึ่งเป็นวันที่เรือจักรไอน้ำลำแรกที่เรียกว่าไดคาธีออสจะออกเดินทางไปยังทวีปอื่น และมันยังเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งด้วย
ไดคาธีออสมีกำหนดออกเรือในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่ทั้งอาไลจาห์และฉันจะเริ่มวันแรกในการเรียนที่สถาบันไซรัส
จบเล่มที่สอง