ตอนที่แล้วตอนที่ 14 ดาบพันเล่ม (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 การต่อสู้ที่บ้าคลั่ง (อ่านฟรี)

ตอนที่ 15 ศิลาจารึก (อ่านฟรี)


ตอนที่ 15 ศิลาจารึก

“ตึกตรงนั้นเป็นห้องอาหารสำหรับศิษย์ชั้นนอกอย่างข้า ส่วนศิษย์ชั้นในจะมีอีกตึกหนึ่ง” โมโจวอธิบายขณะที่กำลังเดินไปรอบๆนิกาย

“อื้อ อื้อ” หยวนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น

“ท่านเห็นลานกว้างตรงนั้นไหมนั่นเป็นที่ๆเหล่าสาวกนิกายจะต้องมาฟังบรรยายจากผู้อาวุโสกันสัปดาห์ละครั้ง”

“ส่วนอาคารตรงนั้นมีไว้เพื่อให้เหล่าสาวกฝึกฝนและลับคมดาบ” เขาชี้ไปที่สิ่งปลูกสร้างลักษณะคล้ายเจดีอยู่ไกลๆ

“ตึกนั่นรูปร่างประหลาดดีนะ” หยวนชื่นชมหอคอยรูปร่างสง่างาม

“อยากเข้าไปดูใกล้ๆพอจะเป็นไปได้ไหม”

โมโจวรีบส่ายหัวอย่างเร็ว “ขอโทษที ท่านหยวน แต่ผู้เยี่ยมชมไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่ปิดได้”

“ที่แบบไหนกันอยากจะดึงดูดคนใหม่ๆเข้ามา แต่กลับปิดกั้นมันซะทุกอย่าง” หยวนส่ายหัว

“เอ่อ…” โมโจวไม่รู้จะหักล้างคำพูดของเขาอย่างไร ทำได้เพียงยิ้มตอบ โดยปกติแล้วไม่มีใครเข้ามาเยี่ยมชมนิกายก่อนจะตัดสินใจเข้าร่วม

“ช่างเถอะ” หยวนพูดขึ้น

“พาฉันไปดูต่อสิ”

โมโจวถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อหยวนพูดขึ้น

“งั้นข้าจะพาท่านไปดูว่าศิษย์คนไหนสำคัญที่สุดในนิกายแห่งนี้”

“เอ่อ” เมื่อได้ยินเขาพูดหยวนก็เริ่มสงสัยขึ้นมา หลังจากเดินไปไม่กี่นาทีพวกเขาก็หยุดตรงหน้า ศิลาจารึกสูงใหญ่ สามแผ่นข้างๆกัน

แผ่นศิลาทั้งสามมีรูปร่างสี่เหลี่ยม มีชื่อสิบชื่อสลักอยู่คล้ายอนุสรณ์สำหรับคนตาย อย่างไรก็ตามศิลาอันกลางแตกต่างจากสองแผ่นอื่น แผ่นนี้มีเพียงไม่กี่ชื่อและขนาดใหญ่กว่าและรูปร่างคมกว่า

“นี่คืออะไร เอาไว้ระลึกถึงคนตายงั้นรึ” หยวนถามโดยไม่ทันคิด

“ไอหย๋า” โมโจวมองด้วยท่าทีหวาดกลัว จากนั้นก็มองไปรอบๆว่ามีใครได้ยินหรือเปล่า

“ท่านหยวน แม้ว่าท่านไม่มีความรู้เกี่ยวกับนิกายสิ่งที่ท่านพูดไปเมื่อกี้ไม่เพียงทำให้ข้าขุ่นเคืองแต่รวมไปถึงทุกคนในนิกายแห่งนี้ด้วย”

“อะไรงั้นหรอ?” หยวนทำหน้าสงสัย

“นี่ไม่ใช่การระลึกถึงคนตายแต่เป็นการจัดอันดับต่างหาก พวกที่มีชื่อ ในนี้ล้วนเป็นพวกหัวกระทิ คนนับพันในนี้นิกายนับถือพวกนี้กันทุกคน ถ้าไม่ใช่ข้าที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ แต่เป็นพวกนั้นพวกเขาคงยกดาบใส่ท่านไปแล้ว เหมือนเป็นการดูหมิ่นพวกคนที่ยอมหลั่งเลือดให้มีชื่อในศิลาทั้งสามนี้”

“เป็นแบบนี้เองหรือ ขอโทษสำหรับถ้อยคำหยาบคายเมื่อครู่” หยวนกล่าว

“ไม่เป็นไรข้ารู้ ว่าท่านไม่ได้ตั้งใจ”

จากนั้นเขาก็หันไปทางศิลาทั้งสามและพูดขึ้นอีกว่า “ศิลาทั้งสองยกเว้นแผ่นกลางจะมีแผ่นละ 45 ชื่อโดยแผ่นกลางจะมี 10 ชื่อรวมทั้งหมดเป็น 100 ชื่อพอดี”

“ร้อยนักรบเหล่านี้เป็นยอดฝีมือของสำนักดาบบินแห่งนี้ ไม่นับรวมท่านผู้อาวุโสเมื่อครู่ โดยทุกคนในนั้นจะได้รับการสนับสนุนจากนิกายอย่างเต็มที่ แล้วก็… พวกที่มีชื่ออยู่ในแผ่นกลางนั่นคือพวกศิษย์หลัก” ดวงตาของโมโจวเป็นประกายเมื่อมองไปที่แผ่นศิลาแผ่นนั้น

“สาวกในนิกายแห่งนี้รวมถึงตัวข้าเองนั้นก็อยากจะมีชื่อสลักไว้ในแผ่นหินนี่” เมื่อโมโจวพูดจบ ทันใดนั้นเองชื่อบนศิลาทั้งสามก็เลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยชื่อใหม่ในไม่กี่วินาทีต่อมา

“ดูสิ!! มีคนมาแทนชื่อที่ 100 ด้วยหล่ะ” ดวงตาของโมโจวกระพริบด้วยความตื่นเต้น

“เอ๋ ชื่อบนศิลานี่เปลี่ยนเองได้ด้วยงั้นหรอ???” หยวนอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา

หลังจากจ้องไปที่แผ่นศิลาก็เห็นว่าชื่อที่ปรากฏอีกชื่อคือ เหรินฟู่เฉิน

เขาชี้ที่ชื่อและถามโมด้วยความสงสัย “เฮ้เหรินฟู่เฉิน…… ใช่เหรินคนนั้นหรือเปล่าที่ทำกับเจ้าหน่ะ”

เมื่อหยวนพูดจบสีหน้าของโมโจวซีดลงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความไม่พอใจ

“ชื่อของเขาอยู่อันดับที่ 14 เขาเก่งเป็นคนที่ 14 ของที่นี่งั้นหรือ” หยวนถามด้วยท่าทางไม่พอใจ

โมโจวพยักหน้าอีกครั้งแต่คราวนี้ช้าลง

“ซิงอวี่หนิง……อันดับที่ 10” จากนั้นหยวนก็หันไปมองเขาด้วยท่าทางประหลาดใจ “ผู้หญิงที่เจ้าชอบอยู่ในแผ่นศิลาแผ่นกลาง เจ้านี่ก็ทะเยอทะยานไม่น้อยนะ”

“………”

โมโจวทำได้เพียงยิ้มด้วยความขมขื่น กับคำพูดของหยวนที่ดูจะเต็มไปด้วยกย่อง

“ช่างเถอะเรื่องนี้คนนอกอย่างท่านไม่ต้องไปสนใจเป็นดี” เขากล่าว “ตอนนี้ข้าต้องเอาแกนกิ้งก่าเพลิงไปให้

พี่เหรินโดยเร็ว” พร้อมถอนหายใจด้วยความหดหู่

“เรื่องนี้ไร้สาระมากไม่เห็นมีเหตุผลที่นายจะต้องเอามันไปให้เจ้านั่นเลย”หยวนกล่าว

โมโจวส่ายหัวและพูดว่า “ท่านไม่เข้าใจท่านหยวน โลกนี้ต้องทำกฏของผู้แข็งแกร่งผู้อ่อนแอต้องปฏิบัติตามอย่างไม่มีข้อกังขา”

“และฉันก็กำลังบอกว่า มีแต่คนงี่เง่าเท่านั้นที่ยอมทำตาม”

“งี่เง่างั้นหรอ?” เขาหันไปมองชายที่กำลังพูดว่าทุกคนในโลกนี้งี่เง่า

“จริงๆแล้วที่มานี่ก็มาเพื่อพบเหริญคนนี้หล่ะ” จู่ๆหยวนก็พูดขึ้น

“ไม่เป็นไร” โมพูดด้วยความขมขื่น “นี่เป็นปัญหาของข้า ข้าไม่สามารถลากท่านเข้ามาเกี่ยวได้”

หยวนเงียบและมองด้วยสีหน้าสงบ “อย่างนั้นหรอกหรือ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงก้องดังมาแต่ไกล

“เฮ้ไอ้เด็กนั่นไม่ใช่หรอ ที่พยายามจะก้าวก่ายศิษย์พี่ซิง เลยต้องจบไม่สวยกับศิษย์พี่เหรินไม่ใช่รึไงกัน” ทั้งหยวนและโมโจวหันไปทิศทางที่เสียงนั้นดังขึ้น

“ศิษย์พี่เหริน!! ศิษย์พี่เซิน!!”

เมื่อหยวนเห็นโมโจวกำลังขาสั่นอย่างกับเยลลี่ หยวนรับรู้ทันทีว่าเขากำลังกลัวสองคนนี้มากแค่ไหน

“โมโจว เจ้าชั่ว เจ้ากล้าให้ข้าเดินไปหาที่ห้องของเจ้าเพื่อตามหาเจ้าได้ยังไงกัน!” ชายรูปหล่อทางขวาเดินเข้ามาหาโมโจวด้วยใบหน้าโกรธ และกำหมัดแน่น

“เจ้ามัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา ไหนหล่ะที่บอกว่าจะเอาแกนกิ้งก่าเพลิงมาให้ข้า!”

“ข้าได้มาแล้ว มันอยู่กับข้า ข้าได้ไปเอามาแล้ว” โมโจวแสดงคริสตัลสีแดงขนาดเล็กให้เหรินดู

“เจ้าเด็กนี่มันเอาแกนกิ้งก่าเพลิงมาได้จริงหรือนี่!!” เหรินฟู่เฉินถึงกับตาโตเมื่อเห็นคริสตัลนั่น เขาไม่คิดว่าคนอ่อนแออย่างโมโจวจะสู้มอนสเตอร์ระดับสูงแบบนั้นได้

“เอามาได้ยังไง! อย่าบอกนะว่าเจ้าใช้เงินเพื่อซื้อมันมา”

“ไม่สำคัญหรอกว่าข้าจะได้มาอย่างไร รับไปแล้วอย่ามายุ่งกับข้าอีก”

“ฮ่าๆๆ” เมื่อได้ยินที่โมโจวพูด เหรินฟู่เฉินก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “เจ้านี่โง่ซะจริงนะคิดหรือว่าแค่เอาของแค่นี้มาให้แล้วข้าจะเลิกยุ่งกับเจ้า ข้าแค่ใช้เรื่องนี้เพื่อกำจัดเจ้าเท่านั้นแหล่ะ”

“อะไรนะ” ในตอนนี้หัวใจของโมโจวเต็มไปด้วยความขมขื่นเต็มที “ก็ไหนเจ้าว่าถ้าเอามาได้แล้วจะลืมเรื่องข้ากับพี่ซิงไงหล่ะเจ้าสัญญาเอาไว้แล้ว นี่แกนกิ้งก่าเพลิงไงหล่ะ!”

“แน่นอนว่าข้าจะลืมข้ารักษาคำพูด ข้าไม่ลดตัวไปแข่งกับขยะอย่างเจ้าหรอก แต่เจ้าดันมาแหยมกับความรู้สึกของคนอย่างข้า แค่นี้ก็มีเหตุผลเพียงพอจะขยี้คนอย่างเจ้าแล้ว”

โมโจวยืนตัวสั่นเขาควบคุมสติไม่อยู่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น แต่ความรักที่เขามีให้พี่ซิงนั้นมากพอที่จะยอมโดนทำร้าย ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน โลกช่างใจร้ายกับเขาเสียเหลือเกิน เขากับเหรินผู้ถูกเลือกนั้นความสามารถต่างกันเกินไป

“ว้าว นั่นไงหล่ะ!” จู่ๆหยวนก็ทำเสียงดังทำให้โมโจวสะดุ้งและหยุดสั่น “นายหน่ะกำลังจะขยี้คนๆนึง เพียงเพราะเห็นพวกเขารักกันงั้นหรอเป็นคนที่แปลกพิลึก” หยวนหัวเราะเสียงดังราวกับกำลังดูหนังตลก

“แล้วเจ้าเป็นใครกันไม่ใช่ศิษย์ในนิกาย เขามาที่นี่ได้ยังไง” เหรินหันไม่มองหยวนขณะที่เสี่ยวฮัวยืนอยู่ข้างๆ

“ฉันเป็นคนกำจัดกิ้งก่าเพลิงตัวนั้น” หยวนพูด

“ท่านหยวน!” โมโจวตาโต

“ด้วยตัวคนเดียวงั้นรึ…” เหรินฟู่เฉินหรี่ตามองเขา

“แล้วเจ้าให้แกนกลางแก่เจ้านั่นทำไม มันให้อะไรตอบแทนงั้นรึ”

“เปล่า ฉันให้เพราะอยากให้” หยวนตอบอย่างไม่สนใจ

“……”

แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าหยวนผู้นี้คือใคร แต่บุคคลทั่วไปไม่มอบแกนกิ้งก่าเพลิงให้ใครง่ายๆแน่

“แล้วเจ้าต้องการอะไร”

“ฉันอยากให้นายหยุดตอแยเขา” หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“แล้วถ้าข้าตอบว่าไม่หล่ะ”

“งั้นก็…… ฉันเคยช่วยเขาไว้แล้วคงไม่แปลกถ้าจะช่วยชีวิตเขาอีกสักครั้ง”

“เจ้า……” เหริญขมวดคิ้วเพราะคำพูดของหยวน

“ท่านหยวน” สำหรับโมโจวการกระทำของหยวนนั้นมีความหมายมาก ดวงตาเปี่ยมไปด้วยน้ำตา และหัวใจเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณ

…………

0 0 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด