ตอนที่แล้วตอนที่ 122 ปะทะซอมบี้สติปัญญาระดับ 5
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 124 ระเบิดลูกโปร่งสวรรค์

ตอนที่ 123 แยกทาง


ตอนที่ 123 แยกทาง

ท้องฟ้าที่แต่เดิมมืดมิดตอนนี้เปลี่ยนเป็นความสว่างจากแสงอาทิตย์ที่พึ่งขึ้นได้ไม่นาน ทางด้านของไนเรล ซึ่งคาดกับซอมบี้สติปัญญาไปสักพักแล้ว เนื่องจากพลังงานที่แผ่วลง ทำให้ความเร็วของชายหนุ่มช้าลงจึงทำได้แต่ตามร่องรอยที่ซอมบี้สติปัญญาครึ่งท่อนอย่างมูทิ้งไว้

“ถึงแกจะกลัวจนหนีอย่างสุดชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปง่าย ๆ” ชายหนุ่มมองไปตามร่องรอยของซอมบี้สติปัญญาที่หนีไป ตลอดทางเขาไล่ตามมา ถึงหลาย ๆ ช่วงร่องรอยจะเปลี่ยนทิศทางอยู่บ่อยครั้ง แต่ทิศทางหลักนั้นก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป

นั้นก็คือเมืองแลกเปลี่ยนที่ค่ายทหารปักหลักอยู่ แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ด้วยสภาพที่บาดเจ็บของมันจะหนีไปไกลแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปไนเรลฟื้นพลังกลับมาได้มันก็คงจะโดนไนเรลตามมาฆ่าได้ทันอย่างแน่นอน

ดังนั้นความหวังเดียวของมันคือฟื้นฟูสภาพของตนเองให้เร็วที่สุด ส่วนจะสู้กับไนเรลหรือหนีก็ต้องดูอีกที เพราะถึงตอนนั้นด้วยสภาพที่สมบูรณ์ของมันไนเรลก็ยากที่จะตามทัน

เมื่อชายหนุ่มล่วงรู้ความคิดของซอมบี้สติปัญญาเช่นนั้นแล้ว เขาก็รีบควานหาของที่กินได้ทั้งในเงาและรอบตัว อะไรก็ตามที่กินเพื่อเร่งความเร็วในการฟื้นพลังได้เขาลงมือเขมือบมันหมด

หลังจากที่พลังฟื้นขึ้นมาได้โดยประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์แล้วก็ออกเดินทางต่อด้วยความเร็วเท่าที่ตัวของเขาจะบินได้

ไนเรลที่บินมาด้วยความเร็วสูงไม่นานก็มาถึงเมืองแลกเปลี่ยน ในระยะที่เขามองเห็นมันกับเต็มไปด้วยความโกลาหล และเสียงของการต่อสู้

ซอมบี้ที่อาละวาดอยู่ทั่วไปหมด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกมันทั้งหมดพึ่งจะเปลี่ยนร่าง เขามองดูกสามารถวิเคราะห์ได้ในทันทีว่าทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือของมู ที่เหลือครึ่งท่อนนั้นแน่นอน

แต่เมื่อชายหนุ่มมองจากด้านบนกลับไม่เจอกับซอมบี้สติปัญญาระดับ 5 ตนนั้นเลยแม้แต่น้อย นอกจากพื้นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดที่นองอยู่ตามพื้นและเศษซากชิ้นส่วนมนุษย์

บางชิ้นส่วนที่โดนกินครึ่งร่างท่อนร่างไป ส่วนบนที่สมองยังสมบูรณ์ได้กลายเป็นซอมบี้และคลานเข้าหากลุ่มนักล่าที่ต่อสู้กับซอมบี้ตนอื่น ๆ อยู่

ต้องบอกก่อนว่าซอมบี้สติปัญญานั้นเป็นถึงระดับ 5 ถ้าใครที่โดนมันกัดนั้นมีแต่ต้องกลายร่างเป็นซอมบี้เท่านั้น เพราะระดับที่ต่างกันเกินไป

มีแต่ไนเรลเท่านั้นที่สามารถต้านทานเชื้อของมันได้ เพราะเขาก็มีระดับเท่ากับมัน

เมื่อมองหาตัวต้นเหตุหายนะไม่เจอไนเรลก็ต้องจัดการกับปัญหาตรงหน้าก่อนอย่างน้อยก็น่าจะช่วยคนพวกนี้ได้บ้าง

ไม่รอช้า เปลวไฟก็พุ่งออกมาจากตัวของไนเรลเป็นลูกเล็ก ๆ และยิงเข้าใส่ซอมบี้ธรรมดาทางอยู่ในระยะทั้งหมด

ถึงเพลิงที่ไนเรลปล่อยออกมานั้นจะเป็นแค่ลูกเล็ก ๆ แต่ก็อย่าลืมว่ามันมาจากมนุษย์ชั้นสูงระดับ 5 อย่างไนเรล ดังนั้นเมื่อเพลิงสัมผัสกับซอมบี้ก็เผาพวกมันตกตายกลายเป็นแค่ขี้เถ้ากองหนึ่งอย่างฉับพลัน

ภายในเพียงไม่กี่วินาที ซอมบี้ที่อยู่ในระยะ 100 เมตรรอบ ๆ ไนเรลก็ตกตายจนหมด มนุษย์ชั้นสูงและนักล่าคนอื่น ๆ ก็มองไปที่ไนเรลด้วยสายตาที่ขอบคุณ ที่ช่วยเหลือพวกเขาบางคนนั้นถึงกับมองไนเรลด้วยความเคารพและยำเกรงทันที

แต่ไนเรลไม่มีเวลาที่จะมาสนใจ เพราะเมื่อจัดการจุดนี้ได้แล้ว เขาก็ตรงไปยังจุดต่อไปที่มีซอมบี้หนาแน่นเท่านั้น

ส่วนที่มีซอมบี้กระจายตัวอยู่ก็ให้พวกคนด้านล่างจัดการกันไป เพราะพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ คนที่รอดมาอยู่ที่นี่ได้นั้นต่างก็มีความสามารถในการเอาตัวรอดระดับหนึ่ง

ไนเรลบินไปก็ฆ่าซอมบี้ไปหลายร้อยหลายพันตัว ในจำนวนนั้นมีพวกที่กำลังกลายพันธุ์อยู่ด้วย เพราะมันกลายร่างมาจากศพของมนุษย์ชั้นสูง

บูม!!!

“ยิง ปกป้องฐานที่มั่นไว้ให้ได้ หน่วยหนึ่งและสองพาทหาร 20 นายไปช่วยทางนั้น หน่วยอื่น ๆ ปกป้องตัวอย่างวิจัยไว้รอผู้พันกลับมา”

เสียงสั่งการของเจ้าหน้าที่ทหารที่ยังรอดอยู่ดังออกมาเป็นระยะ ดูเหมือนพวกเขาจะเสียหายพอสมควร แต่ก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะเสียหายมาก เพราะทหารเหล่านั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นกำแพงชั้นแรกที่ปะทะกับซอมบี้สติปัญญาระดับ 5

ชายหนุ่มมองไปที่เจ้าหน้าที่สาวคนสนิทของผู้พันเจก็รวมอยู่ในกลุ่มทหารที่เหลือรอด ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถจัดการกับซอมบี้ได้อยู่ เพราะมีปืนใหญ่พลังงานอยู่หลายกระบอก และนั้นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่มู ซอมบี้ระดับ 5 จะเลือกจากไป

ไนเรลเลือกที่จะตรงไปช่วยพวกเขาเพื่อที่จะถามสถานการณ์ของซอมบี้มูว่ามันหนีไปทิศทางใด เพราะพวกทหารน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอีกอย่างไนเรลก็ต้องการของจากพวกเขาเช่นกัน

เมื่อเขาไปถึงก็ลงมือสังหารซอมบี้ในระยะจนสิ้นซากไม่มีเหลือสักตัวในระยะ 100 เมตรรอบ ๆ พวกทหาร แต่การปรากฏตัวของเขาก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าหน้าที่ทหารรอบ ๆ เช่นกัน

แต่เมื่อเห็นว่าคนที่มานั้นเป็นมนุษย์ และดูจากเจตนาแล้วเหมือนจะไม่ได้เป็นศัตรูกับพวกเขา แต่ทหารพวกนั้นก็ไม่ได้ลดความระวังลงแต่อย่างไร เพราะมนุษย์ชั้นสูงที่อยู่ตรงหน้านั้นอาจจะอาศัยจังหวะที่พวกทหารอ่อนแอเข้ามาโจมตีและปล้นพวกเขาก็ได้

อันที่จริงก็มีกรณีที่มนุษย์ชั้นสูงโจมตีทหารของกองทัพไทกีล่าอย่างเปิดเผยเพื่อปล้นอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์อย่างไม่เกรงกลัวอยู่เหมือนกัน

แต่ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่สาวคนสนิทก็ดูเหมือนจะจำไนเรลได้ เธอจึงรีบเข้ามาทักเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อถามถึงผู้พันเจและหน่วยดาบที่ไปทำภารกิจกับไนเรล

“ใช่ท่านไนเรลหรือไม่คะ ผู้พันเจและคนอื่น ๆ ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างคะท่าน” เจ้าหน้าที่สาวถามชายหนุ่มด้วยความสุภาพ

เขาลดระดับลอยตัวลงมาที่พื้นหยุดอยู่เบื้องหน้าของหญิงสาว ทำให้เธอถอยหลังไปสองก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับไนเรลไว้

“ตอนนี้ผู้พันเจพร้อมด้วยหน่วยดาบและนักล่าบางส่วนตายหมดแล้ว เพราะซอมบี้สติปัญญาระดับ 5 ตัวที่โจมตีที่นี่” เขากล่าวออกมาด้วยความรวดเร็ว ทหารที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของไนเรลต่างก็พากันตกใจหน้าซีดทันที แต่ก็มีทหารบางคนที่พากันกระซิบกระซาบกับคนข้าง ๆ บ้างก็ไม่เชื่อคำพูดของไนเรล

แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจเพราะเขามีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ

“เรื่องนั้นพวกนายจะเชื่อหรือไม่ก็ให้รอถามกับคนที่เหลือรอดกลับมาก็แล้วกัน แต่บางที่พวกเขาก็อาจจะยืนยันได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะตอนที่พวกนั้นตาย ฉันก็สู้กับซอมบี้ระดับ 5 ตัวนั้นจนตึกถล่มฝังร่างทุกคนไปแล้ว”

“แต่ตอนนี้อย่าพึ่งไปสนใจเรื่องพวกนั้น พวกนายเห็นไหมว่าซอมบี้ระดับ 5 ที่เหลือร่างกายครึ่งท่อนมันหนีไปทางไหน” ไนเรลถามเรื่องของซอมบี้ระดับ 5 ทันที แต่ก็ไม่มีใครสามารถตอบคำถามของชายหนุ่มได้

เขาขมวดคิ้วมองไปที่ทุกคน ด้วยจำนวนคนมากขนาดนี้จะไม่มีใครสักคนที่เห็นเลยอย่างนั้นหรือ ไนเรลได้แต่คิดในใจและในขณะนั้นเองที่มีทหารคนหนึ่งยักมือขึ้นและตะโกนเสียงดังมาทางไนเรล

“ท่านครับ”

“เรียกไนเรลก็พอ” ไนเรลขัดคำพูดของทหารหนุ่ม เพราะเขารู้สึกว่าท่านเอาไว้เรียกพวกไร้ประโยชน์

“คุณไนเรลครับ ผมเห็นตอนที่มันบินหนีไป ดูเหมือนมันจะไปทางค่ายโลหะ ถ้านับจากเวลาและความเร็วของมันคงจะไปถึงที่นั้นแล้วเกร่งว่า....” เสียงของทหารหนุ่มหายไป แต่ทุกคนรู้ความหมายของทหารหนุ่มที่จะสื่อ

ที่ค่ายโลหะนั้นถึงจะมีนักล่าและมนุษย์ชั้นสูง แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับเมืองแลกเปลี่ยนนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นป่านนี้ซอมบี้สติปัญญานั้นคงจะจัดการกินบุฟเฟ่ต์หม้อใหญ่จนหมดค่ายไปแล้วอย่างแน่นอน

ไนเรลได้ยินอย่างนั้น หัวสมองของเขาก็ทำงานอย่างรวดเร็ว และผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที สายตาของเขาก็เป็นประกายและรู้แล้วว่าจะไปดักมันได้ที่ไหน

แต่ก่อนหน้านั้นไนเรลต้องเตรียมตัวก่อน เขาหันไปถามกับเจ้าหน้าที่หญิง

“เดาว่าผู้พันเจคงสั่งเธอไว้แล้วสินะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา”

“ใช่ค่ะ ผู้พันเจสั่งไว้ว่าให้ถอนกำลังกลับไปที่เมืองย่อย 77 ในทันที” เจ้าหน้าที่สาวตอบออกไปตามตรงอย่างไม่ปิดบัง เพราะมันไม่ได้ถือว่าเป็นความลับอะไร

แต่ในสายตาของเธอก็ยังเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าผู้พันเจ เจ้านายของเธอจะเสียชีวิตแล้วจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นใจเธอก็เชื่อไปมากกว่าครึ่งแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นช่วงที่เกิดเรื่องเธอพยายามให้เจ้าหน้าที่วิทยุคลื่นฉุกเฉินไปที่ผู้พันเจแล้วแต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด

“ถ้างั้นฉันขอฝากเด็กสาวนี้ไปด้วยก็แล้วกัน” ไนเรลพูดจบก็มีเด็กสาวที่กำลังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นปรากฏตัวออกมาจากเงา เธอก็คือเซลี่นั้นเอง

“เธอรับนี่ไป และตามพวกเขากลับไปที่เมืองย่อย จากนั้นถ้าเธอต้องการก็ไปพบกับฉันที่เมืองย่อย 101 ที่ภูมิภาคตะวันออก” ไนเรลเลือกที่จะแยกทางกับเด็กสาวตรงนี้ เพราะมันไม่สะดวกที่จะเดินทางแล้วให้เธอหลบอยู่แต่ในเงาตลอดเวลา

เขาส่งการ์ดเงินสำรองของตนเองให้กับเด็กสาวเพื่อใช้จ่าย อีกทั้งได้บอกวิธีการติดต่อพิเศษกับซีโร่ถ้าต้องการความช่วยเหลือ เธอดูงงแต่ก็เข้าใจในเรื่องที่ไนเรลอธิบาย

เขายังคงฝากให้เจ้าหน้าที่สาวช่วยดูแลเธอ เพราะถึงอย่างไรชายหนุ่มและเด็กสาวก็คือสองผู้รอดชีวิตมาจากอุโมงค์หลัก หมายเลข 3 ด้วยกันดังนั้นไนเรลจึงแสดงท่าทีเช่นนี้ แต่มันก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

เพราะเขากระทำไปทั้งหมดก็เพื่อตอบแทนสิ่งที่คิงเคยกระทำก็แค่นั้น

หลังจากจัดการเรื่องนี้จบไนเรลก็บอกความต้องการอีกสองอย่างนั้นก็คือหนึ่งเรื่องที่ตกลงกันไว้ตอนไปเริ่มภารกิจว่าเขาจะขอยืมช่องทางติดต่อของทหาร

ส่วนข้อสองไนเรลขอแก่นพลังงานตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป ถ้าได้ระดับ 4 และ 5 จะดีมาก โดยเขาให้เหตุผลว่าจะไปตามล่าซอมบี้นั้นจึงจำเป็นต้องใช้แก่นพลังงานอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าไนเรลไม่ได้ขอฟรี ๆ เขาจะจ่ายให้เป็นเงิน G ตามมูลค่าของแก่นพลังงานพวกนั้น

ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารนั้นมองหน้ากันไปมาด้วยความลังเล แต่เมื่อพวกนั้นคิดอย่างรอบครอบแล้วก็พยักหน้าตกลง

ไนเรลหายเข้าไปด้านในฐานปฏิบัติการของพวกสักพักก็ออกมาเพื่อใช้อุปการณืสื่อสารของพวกทหาร จากนั้นก็บินออกไปบนท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว

ระหว่างที่บินนั้นไนเรลก็คิดย้อนกลับไปเมื่อสักพักที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารพวกนั้นเห็นไนเรลกินแก่นพลังงานลงไปเป็นทีละกำมือพวกนั้นก็ถึงกับมีสีหน้าเหวอไปทันที

เพราะไม่คิดว่าจะมีมนุษย์ชั้นสูงแบบไนเรลที่กินแก่นพลังงานเป็นขนมแบบนี้ โดยปกติแล้วแก่นพลังงานที่ไนเรลกินเข้าไปถ้าเป็นมนุษย์ชั้นสูงคนอื่นคงร่างระเบิดตายไปแล้ว

แต่กับไนเรลที่มีความสามารถดูดซับพลังงานนั้นมันถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก

“ถึงจะได้แก่นพลังงานมา แต่ราคาที่จ่ายนั้นก็แพงเอาเรื่อง” ชายหนุ่มบ่นออกมาเล็กน้อย เพราะถึงจะเป็นเขาก็ใช่ว่าจะใช้เหรียญ G ได้อย่างอิสระ

ทุก G นั้นไม่ใช่นึกอยากจะสร้างก็สร้างขึ้นมาได้ แต่ทุก G ถูกสร้างขึ้นมาจากสิ่งของที่มีมูลค่าจริง ๆ ในการรองรับเหรียญแต่ละเหรียญนั้นทำให้มันน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากนั้นเอง

ไนเรลบ่นพึมพำแต่ก็ไม่ลืมที่จะยกเครื่องวัดระดับพลังงานที่ข้อมือขึ้นมาดู จากการที่เขากินแก่นพลังงานไปจำนวนมากเมื่อสักครู่ ถึงจะมีแก่นพลังงานระดับ 3 จำนวนมาก แต่ก็ยังโชคดีที่มีระดับ 4 อยู่หลายอันทำให้พลังงานของเขาเพิ่มขั้นมาอีก 1,300 หน่วยเป็น 14,300 หน่วยแล้ว

....................

Witterry : ไรท์ต้องขอโทษรีดเดอร์ทุกคนจากจริงใจด้วยที่อยู่ ๆ ก็หายไป 3 วัน ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด