Ep. 750 - ไม่เหลือสักคนเดียว
3/5
Ep. 750 - ไม่เหลือสักคนเดียว
ฉินเฟิงเลือกที่จะเก็บหัวของชายคนแรกเอาไว้ เพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนของกองกำลังมืด นอกจากนี้ยังมีโอกาสเป็นไปได้สูง ว่าเขาอาชญากรที่เครือข่ายนักล่าเงินรางวัลประกาศจับ
แต่คนที่เพิ่งตายลงเบื้องหน้า ดูเหมือนจะเป็นประธานกลุ่มอะไรสักอย่าง การที่ฉินเฟิงฆ่าเขา ย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คน ถ้างั้นทำไมไม่ทำลายหลักฐานเสียเล่า?
ถึงเวลานั้น ต่อให้มีใครทวงถาม ฉินเฟิงก็สามารถบ่ายเบี่ยงได้ว่าไม่เคยเห็น ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังสวมใส่หน้ากากอีก
บางครั้ง เกิดความขัดแย้งจากฝั่งเดียวกัน ก็ถือเป็นเรื่องปกติ!
คนยอมตายเพื่อเงิน นกยอมตายเพื่ออาหาร ความโลภสามารถบงการให้พันธมิตรด้วยกันเอง ทำร้ายกันได้
ฉินเฟิงออกไล่สังหารไปทีละห้อง!
ไป๋หลีสามารถดัดแปลงพื้นที่มิติได้ดั่งใจนึก ดังนั้นต่อให้คนเหล่านี้ร่วมมือกันทำลายกำแพงอุปสรรค มันก็ไม่มีทางถูกทำลายโดยพวกเขา เมื่อถูกขังแล้วอย่างไรย่อมไม่อาจหนีพ้น!
ฉินเฟิงไล่สังหารจนห้องเชือดทั้ง 27 ห้องกลายเป็นว่างเปล่า เก็บเกี่ยวชีวิตผู้คนไปทั้งสิ้น 31 คน มีราวๆ 26 หัวอยู่ในมือเขา
ผู้ใช้พลังภายนอกไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน แต่พวกเขาไม่คิดทำอะไรผลีผลาม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ลูกบาศก์สีเงินสว่างไสว ในที่สุดก็ค่อยๆเลือนหายไปในอากาศ อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่เดิมปิดล้อมฉินเฟิงไว้ข้างใน บัดนี้ได้หายไปแล้วเช่นกัน
สายลมทะเลพัดผ่าน ชวนให้ผู้คนภายนอกสัมผัสได้ถึงกลิ่นไม่ดี --นี่มันเป็นกลิ่นของเลือด!
พวกเขาจ้องมองฉินเฟิง หรี่ตาเพ่งอย่างรอบคอบ และพบว่าฉินเฟิงกำลังถือโซ่เหล็กอยู่ในมือ
โดยบนโซ่นี้ คล้องไว้ด้วยศีรษะมนุษย์อย่างกะทันหัน และทั้งหมดล้วนเป็นหัวของคนที่เพิ่งโห่ร้องว่าจะสังหารฉินเฟิง!
ช่วงเวลานี้ ฝูงชนชักฝีเท้าถอยไปหลายก้าว แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะวิ่งหนี!
แผ่นหลังของพวกเขาเย็นเยียบ ลมหายใจเริ่มกลายเป็นหนักอึ้ง
ฉากนี้มันน่ากลัวเกินไป เลเวล A ที่คิดสังหารฉินเฟิง ผลสรุปกลับเป็นพวกเขาทั้งหมดถูกฆ่า!
นั่นเลเวล A มากกว่า 30 คนเชียวนะ!
ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงลากโซ่เหล็ก พลางก้าวเดินไปบนอากาศ
นี่มิใช่ทักษะหมื่นภูติ มิได้ใช้ออกด้วยอบิลิตี้ใดๆ เพียงเดินแบบธรรมดา คล้ายไม่มีการเตรียมป้องกันใดๆเลย ทว่า--
--คนอื่นๆก็ไม่มีใครกล้าขยับตัวเช่นกัน!
ฉินเฟิงก้าวไปเยื้องย่างไปข้างหน้าทีละก้าว ทีละก้าว
ผู้ใช้พลังที่รายล้อมรอบเขา ค่อยๆชักฝีเท้าถอยตามจังหวะการเดินของฉินเฟิง
ฉินเฟิงเดินหนึ่งก้าว พวกเขาก็ถอยไปหนึ่งก้าว
พวกเขาหลีกทางให้แก่ฉินเฟิง หวั่นเกรงว่าหากเสนอหน้าอยู่ในเส้นทางที่ฉินเฟิงกำลังเดิน จะกลายเป็นอีกหัวที่ถูกปีศาจตนนี้จับล่ามโซ่เอาไว้
ฉินเฟิงเดินออกไปอีกหลายสิบเมตร แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องเขา กระทั่งพลังสมาธิและการรับรู้ ยังไม่กล้ากวาดเข้ามาบนกายฉินเฟิง ทั้งหมดได้แต่ใช้สายตา มองดูร่างของฉินเฟิงจากระยะไกล
สุดท้ายฉินเฟิงหยุดฝีเท้า กวาดมองคนเหล่านั้น หัวใจของเหล่าผู้ใช้พลังพลันสั่นสะท้านในเวลาเดียวกัน
ฉินเฟิงผุดยิ้มเย็นชา เรียกยานรบออกมาโดยตรง
เขาคร้านที่จะเดินแล้ว ตัดสินใจนั่งเครื่องบินกลับ แบบนี้สะดวกกว่า
ทั้งสองเดินเข้าไปในรถ ฉินเฟิงเก็บหัวล่ามโซ่ทั้งหลายไว้ในอุปกรณ์รูนมิติ และขับจากไป
ไม่มีใครคิดหยุดฉินเฟิง แถมเวลานี้ เกือบทั้งหมดกลับถอนหายใจโล่งอก ปาดเช็ดเหงื่อเย็นบนหนังศีรษะพวกเขา
“อึก …” กวนจินฮ่าวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เวลานี้เขาได้จัดการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตนแล้ว และกลับมาซ่อนตัวท่ามกลางฝูงชน เพื่อจับตาดูเหตุการณ์ เมื่อเห็นฉากตรงหน้า บอกได้เลยว่าต้องขอบคุณความเมตตาของฉินเฟิงจริงๆที่ไม่ฆ่าเขา!
แน่นอน เมื่อคนอื่นๆในที่นี้กลับไปยังเกาะแห่งความมืด เรื่องราวของฉินเฟิง ก็ได้ถูกแพร่กระจายออกไปเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากฉินเฟิงได้เปิดเผยใบหน้าของเขา นอกจากนี้ยังมีหลายคนมาจากพันธมิตรมนุษย์ และพวกเขาย่อมทราบถึงตัวตนของฉินเฟิงว่าเป็นใคร
ในพริบตา ข่าวที่ว่าผู้ใช้พลังที่มีความแข็งแกร่งเพียงเลเวล B2 แต่กลับสามารถสังหารตัวตนทรงอำนาจเลเวล A หลายคนได้อย่างง่ายดาย ก็กลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว
แต่เรื่องพวกนี้ ฉินเฟิงไม่สนใจ
เขากลับมายังเมืองหลวงแห่งความมืด เข้าพักในโรงแรมเดิม เจ้าของโรงแรมอ้าปากค้าง กรามแทบร่วกระแทกกับพื้น เขาหวั่นใจสุดแสน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฉินเฟิงถูกไล่โดยกลุ่มเลเวล A แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาสามารถกลับมาได้
พอเจ้าของโรงแรมทราบเรื่อง หนึ่งทางรู้สึกเทิดทูนฉินเฟิง แต่อีกหนึ่งทางหวาดกลัวว่าฉินเฟิงจะไม่พอใจ แล้วจัดการสังหารหมู่ทั้งโรงแรม
ภายในห้องพัก ฉินเฟิงตรวจสอบกำลังภายในของเขา จากในบรรดาเลเวล A ทั้ง 31 คนที่ถูกสังหาร มี 23 คนเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ความแข็งแกร่งแตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้ว ฉินเฟิงได้รับกำลังภายในมาทั้งสิ้น 92 มหาสมุทร
ซึ่งเมื่อแปลงเป็นทะเลสาบแล้ว จะเป็นจำนวนมากถึง 900 ทะเลสาบกำลังภายใน ตันเถียนของฉินเฟิง รู้สึกจุกแน่นอีกครั้ง
“พลังพิเศษดูดกลืน! ดูดกลืน! ดูดกลืน!”
ฉินเฟิงกลั่นกำลังภายในของเขา
ขณะเดียวกันไป๋หลีไม่ได้อยู่เฉย ทรัพย์สินของผู้ใช้พลังที่ถูกสังหาร ในส่วนของเหรียญพลังงานถูกจับแยกออกมาเป็นพิเศษ ส่วนวัสดุอื่นๆที่เหลือ ทั้งหมดถูกโยนลงในสุสานเทพสงคราม ให้ซูซิงฝูเป็นคนจัดการ
ในบรรดา 31 เลเวล A ต่อให้คนๆเดียวมีเหรียญพลังงานแค่ 5,000 ล้าน แต่เมื่อทั้ง 30 คนรวมกัน มันจะเป็นจำนวนมากกว่า 150,000 ล้านเหรียญพลังงาน ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า มีหลายคนในนี้มั่งคั่งร่ำรวย!
ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงผู้ซึ่งเพิ่งกระเป๋าแห้ง บัดนี้จึงกลับมาร่ำรวยเงินทองอีกครั้ง
ฉินเฟิงเสร็จธุระของตัวเอง แต่ไป๋หลียังจัดการภารกิจฝั่งเธอไม่เสร็จเลย
ฉินเฟิงสำรวจมองสมบัติต่างๆที่ไป๋หลีกำลังจัดสรร เขาพบว่าในนั้นมีกระทั่งอาวุธเทวะรวมอยู่ด้วย และมันคือหนึ่งในอาวุธที่ถูกประมูลในช่วงเช้าที่ผ่านมา
“เจ้าคนพวกนี้ โลภไม่รู้จักพอจริงๆ”
ตัวเองก็ได้อาวุธเทวะไปครอบครองแล้ว แต่ยังคิดมาตามล่าฉินเฟิง ถ้าพวกเขาไม่โลภ ป่านนี้คงยังมีชีวิตสุขสบาย
จากนั้น ฉินเฟิงมองไปยังกองเงินกว่า 200,000 ล้านเหรียญพลังงาน ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“พอนึกว่าไม่มีเงิน เงินก็มาโยนถึงหน้าประตู ได้มาแล้วก็ใช้มันเถอะ พรุ่งนี้พวกเราไปงานประมูลกันต่อ!”
งานประมูลในวันนี้ เป็นเพียงรอบแรกเท่านั้น งานประมูลจะมีติดต่อกันทั้งสิ้นห้าวัน จนกว่าเกาะนรกจะเปิดออก
ในคืนนั้น ฉินเฟิงกับไป๋หลีนอนหลับอย่างสงบตลอดทั้งคืน มีหลายคนทราบว่าฉินเฟิงพักอยู่ในโรงแรมนี้ แต่ไม่มีใครกล้าก่อความวุ่นวาย
ในคืนเดียวกัน กวนจินฮ่าวได้รับคำร้องสังหารถึง 10 ภารกิจ และทั้งหมดล้วนจ้างวานให้ลอบฆ่าฉินเฟิง ทว่าถูกเขาปฏิเสธไปทั้งหมด
รุมกันจ้างอย่างกับว่าเขาเบื่อหน่ายชีวิตแล้วอย่างนั้นแหละ ให้ลอบสังหารปีศาจตนนั้นเนี่ยนะ? ไม่รู้หรือ คนๆนั้นสามารถเรียนรู้และใช้งานทักษะหมื่นภูติได้ในลมหายใจเดียว ไหนจะหญิงสาวที่สามารถใช้อบิลิตี้มิติได้อีก นักฆ่าคนไหนทะลึ่งไปรับภารกิจสังหารสองคนนี้ จุดจบคงไม่พ้นนอนเป็นกองเลือด!
…
วันถัดมา ฉินเฟิงเดินทางไปยังตึกประมูลของคลับมังกรดำอีกครั้ง แค่ลงจากรถ ก็มีสายตานับไม่ถ้วนมองมา ตรึงลงบนร่างของฉินเฟิง
ท่ามกลางสายตาเหล่านั้น คล้ายต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีทั้งริษยากับเกลียดชัง
ฉินเฟิงกวาดสายตามองกลับไป แล้วพบว่าในหมู่คนที่เกลียดชังเขา แท้จริงแล้วกลับเป็นเลเวล B คนหนึ่ง และเหมือนว่าจะมีเลเวล A อยู่ข้างกายคนๆนั้น เมื่ออีกฝ่ายเห็นสายตาของฉินเฟิงมองมา เจ้าตัวพลันสั่นงันงก และรีบลากเลเวล B ออกไปทันที!
ไป๋หลีขมวดคิ้ว อ้าปากว่า “นั่นน่าจะเป็นคนจากพันธมิตรมนุษย์ ถูกไหม?”
ฉินเฟิงพยักหน้าและกล่าว “น่าจะเป็นคนของหนึ่งในห้าที่ฉันฆ่าไปเมื่อวาน อาวุโสตระกูลถูกสังหาร เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเกลียดฉัน”
แน่นอน ฉินเฟิงรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องปกติที่จะฆ่าอีกฝ่าย ก็ในเมื่อเลือกที่จะทำร้ายกัน เช่นนั้นใครที่แพ้ ก็ถึงคราวเคราะห์ไป ไม่มีที่ว่างให้เมตตา สำหรับบางคน จำเป็นต้องชดใช้ในสิ่งที่ตนเองทำลงไปเสมอ เฉือนเนื้อจ่ายราคาของมัน
ในเวลานั้นเอง ท่ามกลางฝูงชน ฉินเฟิงเหลือบไปเห็นหลิวฮังอย่างกะทันหัน
รอยยิ้มเย็นประทับลงบนใบหน้าเขาทันที เดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย
แรงกดดันของฉินเฟิงน่าหวาดกลัวมาก ณ จุดนี้บนหน้าผากของหลิวฮังหลั่งไปด้วยเหงื่อเย็น คิดไม่ทันว่าจะซ่อนหรือหนีดี สมองเขาตอนนี้ กลายเป็นว่างเปล่าไปแล้ว
“เห~ นี่ไม่ใช่คนที่เปิดเผยตัวตนของผมเมื่อวานหรอกหรอ? คุณตะโกนดังมากเลยนะรู้ไหม แต่ผมงงจริงๆ ว่าสุดท้ายแล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมเข้ามาฆ่าผม คงคิดหลอกใช้คนอื่นสิท่า ใช่ไหม?” ฉินเฟิงประชดประชัน
