Chapter 249 -250: รักษานายท่านจาง, พนันหินในเมืองเถิง
Chapter 249: รักษานายท่านจาง
“เป็นเรื่องปกติค่ะ มันเกิดจากเลือดคั่ง ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มั่นใจว่าสามารถช่วยให้ท่านมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ทำไมเราไม่ลองหลังจากไปถึงร้านของท่านล่ะคะ?” กู้หนิงไม่ได้บอกเขาตรงๆว่าเธอสามารถรักษาโรคของเขาได้ แม้ว่าเธอจะทำได้จริงๆ เธอก็ไม่ต้องการโอ้อวดตัวเอง
“ได้ๆ” นายท่านจางตอบ แม้ว่ากู้หนิงจะไม่ได้ให้คำตอบยืนยันแก่เขา แต่เขาเชื่อว่าเธอทำได้
จางฮานหยินไม่กล้าตั้งคำถามถึงความสามารถของกู้หนิงหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ยังมีข้อสงสัย
เมืองเถิงเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าหยกมีอยู่มากมายในพม่า และจังหวัด Y มีพรมแดนติดกับพม่าดังนั้นจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการค้าหยก ในขณะเดียวกันเมืองเถิงก็มีตลาดการพนันหินที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด Y ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมกู้หนิงจึงบินไปเมืองเถิง
นอกจากนี้ยังมีเศรษฐีชาวต่างชาติหลายคนในเมืองเถิง และนักธุรกิจค้าอัญมณีจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาตั้งสำนักงานที่นี่เพื่อซื้อหยกดิบคุณภาพสูงสำหรับบริษัทของตัวเอง
ตลาดค้าของเก่าในเมืองเถิงก็มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน ดังนั้นกู้หนิงจึงคิดจะไปเยือนตลาดขายของเก่าด้วย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกกู้หนิงก็มาถึงถนนพนันหิน
เธอตะลึงกับภาพเบื้องหน้า เพราะสองข้างทางนั้นคึกคักมาก
ทุกคนไม่อยากเสียเวลาจึงพากันเดินไปยังร้านของตระกูลจาง กู้หนิงจึงไม่ได้ใช้ตาทิพย์สำรวจหินที่อยู่ข้างทาง
เธอไม่มีความตั้งใจจะตัดหินวันนี้ เพราะไม่อยากดึงดูดความสนใจจากผู้คนมาก และเธอไม่รีบร้อนในการหาเงินทุน ดังนั้นเธอจะทำการรักษานายท่านจางก่อนแล้วค่อยหารือเรื่องการร่วมมือทางธุรกิจอีกครั้ง การร่วมมือกันมันจะสะดวกสำหรับเธอมากในการเปิดบริษัทจัดหาหยก หากมีตระกูลจางเป็นซัพพลายเออร์ให้กับเธอ
ส่วนเรื่องตัดหยก เธอกะว่าจะเปลี่ยนชุดแล้วค่อยกลับมาใหม่
ร้านของตระกูลจางตั้งอยู่ศูนย์กลาง กินพื้นที่ขนาดใหญ่
โถงหลักขนาดห้าสิบตารางเมตร มีก้อนหินราคาถูกกองอยู่ในโถงหลัก นอกจากนี้ยังมีห้องอื่นๆอีกสี่ห้อง แต่ละห้องเก็บก้อนหินในระดับที่แตกต่างกัน ราคาก็แตกต่างกันไปตามระดับ
ผู้จัดการร้านเดินออกมาต้อนรับทันทีที่นายท่านจางปรากฏตัว จากนั้นนายท่านจางก็แนะนำกู้หนิงกับคนอื่นๆ พลางเดินไปยังห้องรับรอง
กู้หนิงเริ่มนวดแขนนายท่านจางหลังจากที่พวกเขานั่งในห้องรับรอง
เมื่อพลังค่อยๆไหลเข้าสู่ร่างกายของนายท่านจาง เขารู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย นาทีต่อมาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมากและความเจ็บปวดที่ทรมานเขามาเนิ่นนานก็ค่อยๆหายไปทีละน้อย ทันใดนั้นเขารู้สึกเต็มไปด้วยพลังซึ่งทำให้เขามีความสุข
แม้ว่าเขาจะได้เห็นความสามารถพิเศษของกู้หนิงก่อนหน้านี้ในวันนี้ แต่ก็ยังตกตะลึงที่ได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเอง
กู้หนิงขยับขาของเขา
หลังจากนั้นไม่นานแขนขาทั้งสี่ของนายท่านจางก็ฟื้นตัว
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว กู้หนิงก็ถอนมือกลับออกมา
สุขภาพของนายท่านจางดีกว่านายท่านถาง ชายชราที่กู้หนิงช่วยชีวิตที่สนามบินวันนี้ ดังนั้นครั้งนี้เธอจึงไม่ได้ใช้พลังงานมาก
“ไม่น่าเชื่อ!” ตอนนี้นายท่านจางยิ่งกว่าตะลึง
“คุณปู่ รู้สึกยังไงบ้างคะ?” จางฮานหยินถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
นอกจากกู้หนิงแล้ว คนอื่นๆ เช่น จ้าวหยูเฟิวงและบอดี้การ์ดสองคนล้วนมองเขาเพื่อรอฟังคำตอบ
“ปู่ไม่รู้สึกเจ็บหรืออ่อนแรงอีกแล้ว ตรงกันข้ามปู่รู้สึกถึงความแข็งแรงของตัวเอง!” นายท่านจางกล่าว
“จริงหรอคะ? น่าทึ่งจริงๆ!” จางฮานหยินพูดเสียงดัง
ทุกคนรู้สึกดีใจไปกับนายท่านจาง
“หนูกู้ ขอบใจหนูมากนะ” นายท่านจางพูดกับกู้หนิง
“ด้วยความยินดีค่ะ” กู้หนิงกล่าว “ตอนนี้สุขภาพของท่านเกือบฟื้นคืนเต็มที่แล้ว แต่ยังต้องออกกำลังกายเพิ่มด้วยนะคะ”
กู้หนิงไม่อยากทำให้พวกเขาตกใจ ดังนั้นเธอจึงปิดบังความจริงที่ว่าสุขภาพของเขาฟื้นเต็มที่แล้ว ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายท่านจางแล้วว่าจะรักษาสุขภาพของตัวเอง และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดโรคขึ้นซ้ำสองได้หรือเปล่า
“แน่นอน ฉันจะออกกำลังกาย” นายท่านจางกล่าว
“หนูกู้ ฉันไม่รู้จะขอบคุณหนูเท่าไหร่ถึงจะพอ ถ้าหนูเกิดปัญหาที่เมือง Y บอกฉันได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าตระกูลจางของเราจะไม่ได้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัด Y แต่พวกเราก็มีอำนาจพอสมควรที่นี่ ตราบใดที่ฉันช่วยได้ ฉันจะช่วยอย่างสุดความสามารถ!” นายท่านจางให้สัญญา
อิทธิพลของตระกูลจางยังมีจำกัดในเมือง Y แต่นายท่ายจางสามารถช่วยเหลือกู้หนิงในพื้นที่ของเขา
นี่คือสิ่งที่กู้หนิงกำลังรอจากเขาอยู่
“ในเมื่อท่านเต็มใจช่วยเหลือฉัน ฉันจะทิ้งนามบัตรไว้ให้ ฉันมาเมืองเถิงเพื่อพนันหินค่ะ ตอนนี้ฉันทำธุรกิจขายเครื่องประดับ และในอนาคตมีแผนจะขยายสาขา ดังนั้นจึงต้องการวัตถุดิบหินจำนวนมาก”
“มันเป็นเรื่องยากที่จะเลือกวัตถุดิบจากร้านค้าทีละร้านในเมืองเถิง และฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้น ฉันต้องการซัพพลายที่มั่นคงในระยะยาว ดังนั้นฉันจึงต้องการซื้อทีเดียวชุดใหญ่ และฉันจะตัดหินแวเอาหยกกลับไปที่บริษัทด้วยเอง ฉันได้ยินคุณจ้าวคุยกับท่านตอนที่เราอยู่ที่สนามบินในเมือง Y และทราบว่าครอบครัวของท่านเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ ดังนั้นฉันอยากเป็นพันธมิตรทางการค้ากับท่าน ไม่ทราบว่าท่านมีความคิดเห็นเช่นไรคะ?” กู้หนิงพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม
“แน่นอนฉันอยากทำงานร่วมกับหนู! วิน-วินทั้งสองฝ่าย” นายท่านจางระเบิดเสียงหัวเราะ
ใช่แล้ว ทั้งนายท่านจางและกู้หนิงต่างคนต่างได้ผลประโยชน์จากข้อตกลงนี้
“แต่ว่าการตัดเอาหยกออกมาจากหินมากมาย หนูไม่กลัวว่าจะสูญเงินไปมากหรือ?” นายท่านจางถาม
แม้แต่จ้าวหยูเฟิงที่ทราบถึงความสามารถของกู้หนิงก็ยังอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ แต่กระนั้นก็ตื่นเต้นในคราวเดียวกัน เขาอยากรู้ว่ากู้หนิงจะตัดได้หยกชนิดใด
“ไม่มีธุรกิจไหนไม่เสี่ยง! ฉันไม่กลัวค่ะ” กู้หนิงตอบอย่างมั่นใจ
“ดี ฉันชอบความมั่นใจของหนู ถ้าต้องการอะไรก็บอกได้ เอาล่ะ ฉันจะพาหนูไปยังคลังเก็บของเพื่อเลือกหิน” นายท่านจางกล่าว
Chapter 250: พนันหินในเมืองเถิง
“ดีเลยค่ะ คนของฉันจะมาพรุ่งนี้แล้วเราค่อยคุยกันเรื่องงานทีหลัง” กู้หนิงกล่าว
กู้หนิงคิดว่าคงเป็นการดีกว่าถ้าเลิ่งเชาถิงมาช่วยเธอ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจรอเขาดีกว่า
เธอไม่ห่วงว่าหินจะถูกเลือกไปจนหมด เพราะมันไม่ได้ขายง่ายขนาดนั้น และอีกอย่างเธอไม่มีความตั้งใจจะซื้อหินที่มีแต่หยกข้างในทั้งหมด แค่เธอมีตาทิพย์ช่วยก็ถือว่าเธอโกงมากแล้ว เธอต้องเหลือหินที่มีหยกให้คนอื่นบ้าง
กู้หนิงและนายท่านจางแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกันก่อนออกไปเลือกหิน
กู้หนิงสังเกตเห็นว่านายท่านจางมีเรื่องต้องไปทำ ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “ท่านคะ ถ้าท่านมีธุระต้องไปจัดการ พวกเราไปเลือกหินกันเองได้ค่ะ”
“เอางั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อน เลือกหินตามใจชอบได้เลยนะ ผู้จัดการของเราจะให้ส่วนลด20%” นายท่านจางอยากรีบกลับบ้านไปบอกคนในครอบครัวว่าโรคของเขาถูกรักษาแล้ว ในเมื่อกู้หนิงไม่ว่าอะไร กลุ่มของนายท่านจางจึงออกจากร้านไป
ก่อนที่จะจากไป สายตาของจางฮานหยินเหลือบมองกู้หนิง ตอนนี้เธอสงสัยกู้หนิงมาก เพราะสิ่งที่กู้หนิงทำ ทำให้ทุกคนตะลึงและประหลาดใจมาก
หลังจากที่นายท่านจางจากไปแล้ว กู้หนิงและจ้าวหยูเฟิงก็เข็นรถเข็นไปยังกองหิน
กู้หนิงไม่ได้เดินไปยังห้องทั้งสี่ในตอนเริ่มต้น แต่เดินทัวร์ไปรอบๆห้องโถง ใช้ตาทิพย์สแกนดูหินในห้องโถง
แม้ว่าจะเป็นระดับต่ำสุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีหยกอยู่ข้างในเลย ภายในไม่กี่วินาทีกู้หนิงค้นพบหินสองก้อนที่มีหยกระดับสูงปานกลางและหยกระดับสูงอยู่ภายใน ก้อนแรกมีขนาดเท่าสองกำปั้น และอีกก้อนใหญ่เท่าลูกบาสเก็ตบอล ในขณะที่ก้อนสุดท้ายมีขนาดเท่ากับสองฝ่ามือที่พับเข้าหากัน
นอกจากนี้ยังมีมรกตหลายชนิด แต่กู้หนิงไม่สนใจ
กู้หนิงเดินไปรอบๆก่อนวางหินสามก้อนในรถเข็น คนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นคิดว่าเธอแค่เลือกหินเพื่อความสนุก
แต่จ้าวหยูเฟิงไม่คิดเช่นนั้น เขาคิดว่ากู้หนิงต้องมีเทคนิคเฉพาะตัว แต่กระนั้นความเร็วในการเลือกหินของเธอก็ยังทำให้เขาสับสน จนอดคิดไม่ได้ว่าเธอรู้การพนันหินแน่จริงหรือ?
“คุณกู้ คุณเลือกได้เร็วมากเลยครับ!” จ้าวหยูเฟิงถอนหายใจ
“ความรู้อาจเป็นประโยชน์ แต่ฉันคิดว่าการตัดหยกก็ต้องอาศัยโชคเหมือนกัน ฉันกำลังเลือกหินโดยใช้โชคช่วยค่ะ!” กู้หนิงกล่าว
จ้าวหยูเฟิงเห็นด้วย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ยังตัดหยกออกมาไม่ค่อยได้ หากพวกเขาสามารถมีความรู้ถูกต้อง 100% หรือแม้แต่ 50% ตอนนี้พวกเขาคงจะเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคนส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นใจแบบกู้หนิง เธอไม่ลังเลที่จะซื้อมันตราบใดที่เธอชอบ
หลังจากนั้นกู้หนิงและจ้าวหยูเฟิงก็ไปที่ห้องด้านหลัง พวกเขาเข้าไปในห้อง D ซึ่งเก็บหินระดับ D ก่อน
ใช้เวลาไม่นาน กู้หนิงก็พบหินที่มีหยกอยู่ข้างในหลายก้อน แต่พวกมันขนาดไม่ใหญ่ ขนาดใหญ่ที่สุดแค่ครึ่งลูกบอลเท่านั้นเอง และก้อนที่เล็กที่สุดใหญ่แค่หนึ่งกำปั้น มูลค่าไม่มาก
มีก้อนหินเพียงไม่กี่ก้อนที่มีหยกระดับสูงปานกลาง และมีหินที่มีหยกระดับสูงอยู่ภายในนั้นน้อยมาก การหาหยกระดับสูงนั้นหายากมากๆท่ามกลางหินนับพันๆก้อน หยกส่วนใหญ่ที่เจอจึงอยู่ในระดับปานกลาง
พวกเขาพากันไปที่ห้อง C และกู้หนิงก็ได้หยกระดับกลางมา แต่พวกมันล้วนมีขนาดเล็ก
วันนี้เธอไม่ได้วางแผนซื้อหินจำนวนมาก ดังนั้นเธอจึงไม่ไปที่ห้อง B และห้อง A
“คุณกู้ คุณช่วยผมดูหินพวกนี้ได้ไหมครับ?” จ้าวหยูเฟิงผลักรถเข็นมาตรงหน้ากู้หนิง
ถึงแม้ว่ากู้หนิงจะชี้แจงไปแล้วว่าเธออาศัยโชคช่วย เขายังเชื่อมั่นในความสามารถของเธอ
กู้หนิงไม่ทำให้เขาผิดหวัง เธอแกล้งทำเป็นตรวจดูหินในรถเข็นของเขาอย่างจริงจัง
น่าเสียดายที่ไม่มีหยกสักก้อนอยู่ภายในก้อนหิน
“ฉันไม่คิดว่ามีหยกอยู่ข้างในหินพวกนี้ค่ะ ถ้าคุณเชื่อใจฉัน ฉันสามารถช่วยคุณหาหินที่มีหยกอยู่ข้างในได้ แต่ถ้าไม่มี ก็อย่าโทษกันนะคะ” กู้หนิงแบ่งปันน้ำใจให้จ้าวหยูเฟิง แต่ไม่ได้แบ่งปันให้มากมายอะไร
“จริงเหรอครับ?” จ้าวหยูเฟิงตื่นเต้นดีใจ “แน่นอนครับ ผมไม่มีทางโทษคุณแน่”
กู้หนิงมีน้ำใจช่วยเขา เขาจะโทษเธอได้ยังไง หินสามก้อนราคาประมาณแสนหยวน เขาจ่ายได้สบายๆอยู่แล้ว
จากนั้นกู้หนิงก็ช่วยเขาเลือกหินสามก้อน ก้อนที่หนึ่งเป็นหินกลวงๆ ก้อนที่สองมีหยกระดับกลางค่อนไปทางต่ำอยู่ข้างใน ในขณะที่หินก้อนที่สามมีหยกระดับกลางค่อนไปทางสูง
ไม่ใช่ว่ากู้หนิงไม่เต็มใจช่วยเลือกหินที่มีหยกระดับสูงอยู่ข้างใน แต่ถ้าทำอย่างนั้น จ้าวหยูเฟิงอาจสงสัยได้
“ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง กรุณาอย่าให้คนอื่นทราบว่าฉันช่วยคุณเลือกนะคะ” กู้หนิงกล่าวเตือนจ้าวหยูเฟิง
“ครับ ไม่บอกแน่” จ้าวหยูเฟิงเข้าใจว่ากู้หนิงไม่อยากมีปัญหา เขาเข็นรถเข็นไปจ่ายเงิน เขาจ่ายไปทั้งหมดหนึ่งแสนหกหมื่นหยวน หลังจากนั้นจ้าวหยูเฟิงก็ขอตัวไปตัดหินที่โซนตัดหิน
ที่โซนตัดหินมีคนกำลังตัดหินอยู่ คนกว่าครึ่งของร้านมาออกันอยู่ที่โซนนี้ โดยเฉพาะนักธุรกิจค้าอัญมณี พวกเขาล้วนอยากเห็นหยกที่ถูกตัดออกมา
หินก้อนแรกที่จ้าวหยูเฟิงเลือกออกมามีหยกระดับกลางค่อนไปทางต่ำ เขากระสับกระส่ายเมื่อเขายื่นหินให้พนักงาน
เครื่องตัดหินเริ่มทำงาน และชั้นหินนก็ค่อยๆถูกตัดออกทีละนิดๆ
เมื่อพนักงานลงมือตัดครั้งที่สอง ชั้นสีเขียวก็เผยออกมา “ฉันเห็นสีเขียว!”
“มันคือหยก oil green!”
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงหยกระดับกลางค่อนไปทางต่ำ แต่จ้าวหยูเฟิงก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้น
นาทีที่มีสีเขียวแสดงให้เห็นก็มีคนเสนอราคา แต่ถูกหยุดโดยจ้าวหยูเฟิงเพราะเขาจะเก็บมันไว้เอง
บรรดาคนที่ต้องการประมูลต่างผิดหวังไปตามๆกัน
พนักงานทำการตัดต่อไป ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยกประเภท oil green ขนาดเท่าครึ่งลูกบอลก็ถูกตัดออกมาเรียบร้อย
จ้าวหยูเฟิงตื่นเต้นมากจนอยากจะขอบคุณกู้หนิงเดี๋ยวนี้ แต่เธอบอกเขาให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกความตั้งใจ