ตอนที่แล้วตอนที่ 8 - เซียนอมตะหวัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 - ของวิเศษเซียนโบราณ

ตอนที่ 9 - การต่อต้าน


ตอนที่ 9 - การต่อต้าน

เซียนอมตะหวังเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้เขารู้สึกหวาดหวั่นใจไม่กล้าที่จะแสดงท่าทีผลีผลาม

เป็นเพราะแผนภาพในมือของผู้อาวุโสใหญ่นั้นน่ากลัวเกินไปขุนเขาและแม่น้ำภายในดวงดาวที่สวยงามยิ่งใหญ่เคลื่อนไหวไปมาทุกอย่างเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ นี่เป็นของวิเศษสุดล้ำค่า

ในช่วงสุดท้ายของสงครามในยุคเซียนโบราณของวิเศษชิ้นนี้เข่นฆ่าผู้แข็งแกร่งของอีกฝั่งจนภูตผีร่ำไห้ทวยเทพโหยหวนสร้างชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์ แผนภาพนี้มีชื่อเสียงมากจนสามารถเขย่าโลกอย่างได้!

เจิ้ง!

เสียงตะโกนเบา ๆ เหมือนกับเสียงมังกรร้องหรือเสียงพยัคฆ์คำราม ง้าวสงครามโผล่ออกมาจากระหว่างคิ้วของเซียนอมตะหวังปลดปล่อยปราเซียนแพรวพราว ปราณเซียนปลดปล่อยออกมานั้นเย็นชาทำให้จิตวิญญาณของคนสั่นสะท้าน

นี่เป็นอาวุธที่เขาสร้างขึ้นมาเอง!

ง้าวสงครามที่มีเพียงสามนิ้วปรากฏขึ้น มันทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อไอสังหารเอ่อล้นออกมานี่เป็นอาวุธที่น่ากลัวทำให้ผู้พบเห็นหวาดหวั่นจับใจ

เป็นเพราะมันมีปราณเซียนงดงามหมุนรอบตัวนี่ย่อมเป็นอาวุธเซียนชั้นสูงสุด อย่างไรก็ตามมันมีไอสังหารมากเกินไปซึ่งทำลายความมงคลของของอาวุธเซียนทำให้มันกลายเป็นอาวุธสังหารเทพ

สือฮ่าวตัวสั่นอยู่ด้านข้าง ออร่านั้นเยียบเย็นเกินไป เมื่อความสว่างเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมันก็ฉีกมิติออกเป็นริ้ว

เซียนอมตะหวังเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าจากนั้นใช้ง้าวสงครามยิงแสงสีแดงเข้มทะลวงท้องฟ้าทำลายดวงดาวในจักรวาลหลายดวงให้ระเบิดเหมือนดอกไม้ไฟ!

“นี่มัน…” สีหน้าของมดตัวน้อยอึมครึมอย่างมาก

เซียนอมตะหวังใช้สมบัติวิเศษประจำตระกูลซึ่งเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง การระเบิดดวงดาวจากนอกโลกได้อย่างง่ายดายในตอนนี้เป็นเพียงการข่มขู่และแสดงให้เห็นว่าอาวุธนี้น่ากลัวแค่ไหน?

นี่เป็นการแสดงถึงความสามารถในการต่อต้านแผนภาพสิบพิภพในมือของผู้อาวุโสใหญ่

“เจ้าต้องการต่อสู้กับข้าจริงเหรอ? ข้าไม่รังเกียจหรอกนะ!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในตอนนี้เขายังคงสงบไม่รีบร้อนหรือประหม่าแต่อย่างใด ในขณะที่พูดแผนภาพอาณาสิบพิภพในมือของเขาก็ปลดปล่อยเสียง ฮัวลาลา และเริ่มเคลื่อนไหวพื้นที่โดยรอบพังทลายลงในทันที

เหลือเพียงพระราชวังโบราณที่สร้างด้วยหินลึกลับสามารถต่อต้านได้ชั่วขณะแต่ดูท่าแล้วคงจะอีกไม่นานก่อนจะถูกทำลาย

“เมิ่งเทียนเจิ้งเจ้ากล้า!” ไม่ใช่แค่มังกรทั้งเก้าเท่านั้นที่ตื่นตระหนกแม้แต่เซียนอมตะหวังก็จ้องมองเขาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว

เป็นเพราะพระราชวังโบราณแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเป็นวังที่บรรพบุรุษของพวกเขาทิ้งไว้ พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้มันถูกทำลายได้นี่คือสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณเป็นศักดิ์ศรีของของตระกูลหวัง

พระราชวังแห่งนี้เป็นตัวแทนความรุ่งเรืองของพวกเขา ตราบใดที่มันตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่มันจะทำให้ตระกูลนี้ยังดำรงสิ่งหนึ่งอยู่ตลอดกาลนั่นคือความเชื่อมั่น เชื่อมั่นว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นผู้อมตะ!

อย่างไรก็ตามพระราชวังแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง มันส่องแสงในตัวเองหยุดพลังทำลายล้างอันมหาศาล ไม่ได้แตกออกจากกันภายใต้พลังของแผนภาพสิบพิภพ

สิ่งนี้ควรค่าแก่การเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษตระกูลหวัง ก่อนหน้านี้มันเคยอาบปราณเซียนของผู้อมตะที่แท้จริงเป็นพยานให้กับการถือกำเนิดของผู้ที่มีชีวิตยืนยาวท้าทายสวรรค์

“ทำไมข้าถึงจะไม่กล้าล่ะ? มีเพียงพวกเจ้าเท่านั้นเหรอที่ได้รับอนุญาตให้กลั่นแกล้งศิษย์ของข้าแต่ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้มาทวงหนี้?” ผู้อาวุโสไม่อ่อนข้อแม้แต่น้อย

ดวงตาของเซียนอมตะหวังเย็นชาราวกับน้ำแข็งรอยยิ้มที่สดใสก่อนหน้านี้ของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ ความตั้งใจในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมานั้นเป็นความพร้อมที่จะโจมตีได้ตลอดเวลา นี่เป็นจุดยืนที่แท้จริงของการเผชิญหน้าครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ทั้งสองต่างยิ้มแย้มแจ่มใสดูเหมือนสหายเก่าพบกัน แต่จริงๆแล้วพวกเขาไม่เคยมีความปรารถนาดีต่อกัน ตอนนี้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของพวกเขาถูกเปิดเผยออกมาแล้ว

ฮ่อง!

ลำแสงจำนวนมากสว่างขึ้นทั่วทั้งดินแดนโบราณตระกูลหวัง ยอดเขาใหญ่ทั้งหมดหมื่นยอดไม่มากไม่น้อย พวกมันแกว่งไปมาก่อตัวเป็นค่ายกลใหญ่ที่ซับซ้อนที่สุดสามารถซ่อนท้องฟ้าและปิดบังดวงอาทิตย์

นี่เป็นค่ายกลสังหารเซียนแม้ว่าจะได้รับความเสียหายไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง แต่ก็ยังสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก!

พระราชวังบรรพบุรุษถูกห่อหุ้มด้วยวงอาคมเวทย์ทุกประเภทปกป้องกันไว้

“เป็นเจ้าบังคับให้ข้าลงมือเอง กล้าทำร้ายลูกๆของข้าวันนี้เจ้าต้องตาย!” เซียนอมตะหวังกล่าวอย่างเย็นชา

การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะยังคงบอบบางและหล่อเหลาแต่ดวงตาสดใสคู่นั้นมีการปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าหวั่นอย่างสุดจะพรรณนาราวกับว่าราชาปีศาจฟื้นขึ้นมา!

ร่างกายของเซียนอมตะหวังเปล่งแสงเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ แม้ว่าเขาจะยังคงถูกห่อหุ้มด้วยปราณเซียนล้อมรอบด้วยหมอกสีขาวศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้เขาความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

ราวกับง้าวสังหารเทพไม่สามารถบรรจุไอสังหารได้มากกว่านี้ มันพรุ่งพล่านพร้อมจะหลุดจากการควบคุมของเซียนอมตะหวังทุกเมื่อ

“อย่างนี้นี่เอง? ดูเหมือนว่าเจ้าตั้งใจจะละทิ้งบุตรทั้งหลายแล้ว ดีให้ข้าได้เคาะสนิมออกจากร่างสักหน่อย รับมือ!”

เสียงของผู้อาวุโสใหญ่เย็นชา ในเวลาเดียวกันคลื่นแห่งความเย็นและไอสังหารที่หนาแน่นแผ่ออกจากร่างเขาที่เป็นศูนย์กลางขยายไปทุกทิศทาง

ทุกชีวิตในรัศมีหนึ่งแสนลี้สั่นสะท้านภายในจิตใจของพวกเขาโหมกระหน่ำต้องการหนีออกจากที่นี่ ปักษาและสัตว์ร้ายหลายตัวสั่นด้วยความกลัวหมอบลงกับพื้นอย่างรวดเร็วและก้มหัวไปทางนั้น

การคว้าดวงดาวและดวงจันทร์ด้วยการใช้แค่เพียงมือเปล่าไม่ใช่แค่ตำนาน แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ผู้อาวุโสใหญ่มีณานวิเศษที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

ใบหน้าของหวังต้า หวังเอ้อ และคนอื่นๆซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ท้าทายผู้อาวุโสใหญ่ช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่งนัก

แม้แต่มังกรลำดับ 8 ของตระกูลหวังที่เป็นคนหยิ่งผยองยังรู้สึกหวาดกลัว ตอนแรกเขาต้องการจะท้าทายผู้อาวุโสใหญ่ แต่ตอนนี้หลังจากได้เห็นพลังของผู้อาวุโสใหญ่เขาก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คู่มือของฝ่ายตรงข้าม

มีเพียงหวังจิ่วมีที่มีผมสีเทาเท่านั้นที่ยังคงนิ่งสงบอยู่ได้

นี่เป็นอีกบุคคลที่น่ากลัว ในตอนนี้ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นโดยพูดว่า

“ท่านพ่อข้าขอยืมง้าวสงครามของท่าน ต่อสู้กับเขาตัวต่อตัว!”

เสียงของหวังจิ่วไม่ได้ดังมากนัก แต่มันก็โอ่อ่าและน่าเกรงขามทำให้ไม่ว่าใครที่ได้ยินก็ต้องคาดหวังว่าคนผู้นี้สักวันหนึ่งเขาต้องเป็นผู้ปกครองโลกในอนาคตอย่างแน่นอน

“ไม่ได้ข้าจะไม่ยอมให้มีการสูญเสียใดๆในวันนี้ พวกเจ้าทั้ง 9 ออกไปให้หมดข้าจะสู้กับเขาเอง ด้วยค่ายกลและอาวุธของบรรพบุรุษนี้เขาไม่สามารถหลบหนีไปได้!” เซียนอมตะหวังปฏิเสธ

เป็นเพราะเขารู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่นั้นน่ากลัวมาก อาจเกิดหายนะครั้งใหญ่หากพวกเขาแสดงความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

ทุกผู้คนต่างเข้าใจว่าเซียนอมตะหวังคือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของเก้าสวรรค์สิบพิภพเขาเป็นผู้ที่เซียนโบราณปิดผนึกไว้จากยุคสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตามแม้จะมีสถานะที่น่าอัศจรรย์และความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการกับผู้อาวุโสใหญ่

เขาเคยต่อสู้กับผู้อาวุโสใหญ่สองครั้ง ทั้งสองครั้งต่างได้รับบาดเจ็บกลับมาไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้

“  ท่านพ่อทำไมพวกเราทุกคนถึงไม่รุมจัดการเขาในครั้งเดียวไปเลย ในเมื่อเฒ่าชราตัวนี้ กล้ามาท้าทายตระกูลหวังเราถึงที่ ก็เป็นโอกาสดีแล้วที่เราจะแสดงให้ผู้คนเห็นว่าตระกูลหวังไม่สามารถถูกหมิ่นเกียรติได้” วังต้ากล่าว

เป็นเพราะเขาหวาดกลัวแล้วจริงๆ ชายชราคนนี้ยังคงเป็นเหมือนเมื่ออดีตทำให้เขารู้สึกกดดันแทบหายใจไม่ออกทุกครั้งที่พบกันยังคงเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้

“พี่ใหญ่พูดถูกนี่เป็นโอกาสที่หายากมาก เมื่อเขาเสนอตัวมาเองเราก็ควรจัดการเขาซะเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามในวันข้างหน้า!” หวังเอ้อกล่าวสำทับ เสื้อคลุมเต๋าทองของเขากระพือไปมาปรานโลหิตหมุนวนเพิ่มความแข็งแกร่งจนถึงจุดสูงสุด

ฮ่อง!

ริ้วลวดลายจากค่ายกลส่องลงบนพื้นสอดประสานในความว่างเปล่าปกคลุมท้องฟ้าและปฐพี

นี่คือรูปแบบวงเวทย์สังหารระดับเซียนที่แกะสลักไว้โดยบรรพบุรุษตระกูลหวัง ซึ่งตอนนี้เปิดใช้งานแล้วและกำลังจะโจมตี ที่นี่ต่างเต็มไปด้วยค่ายกลหลากหลายชนิดหนึ่งในนั้นคือค่ายคนกระบี่ทองคำซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสใหญ่

สือฮ่าวกับมดตัวน้อยสีทองรู้สึกถึงความกดดันที่ทำให้แทบขยับตัวไม่ได้

หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสใหญ่กางม่านสีทองออกมาปกป้องพวกเขา ไม่เช่นนั้นแค่โดนวัจนะแห่งเต๋าก็เพียงพอที่จะทำให้วิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาระเบิดเป็นชิ้น

วงเวทย์ของตระกูลอมตะฟื้นขึ้นมาและกำลังจะกวาดล้างศัตรูทั้งหมด

“เมิ่งเทียนเจิ้งเจ้าบังคับข้าเอง !” เซียนอมตะหวังกล่าวอย่างเย็นชา

หว่างคิ้วของเขาง้าวสงครามขนาดเล็กถูกดึงออกทีละนิ้วกำลังจะกลายเป็นอาวุธเซียนขนาดเท่าฝ่ามือเพื่อใช้ต่อกรกับแผนภาพสิบพิภพ

นี่เป็นเรื่องแปลกมากตระกูลนี้มีวิชาสยบความวุ่นวายซึ่งเป็นวิชากระบี่ที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณ แต่อาวุธประจำตระกูลของพวกเขากลับเป็นง้าวสงคราม เรื่องนี้ต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

“เจ้ามั่นใจในตัวเองมากเกินไป” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว รอบตัวเขามีเศษผ้าที่เปียกโชกไปด้วยเลือดกระพือไปมาตามสายลม คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวถาโถมออกมาทันทีด้วยไอสังหารไร้ที่เปรียบ!

นี่คืออะไร?

อย่าว่าแต่สือฮ่าวเลยแม้แต่หวังต้า หวังเอ้อ และคนอื่นๆก็รู้สึกตกใจ ผ้าที่เปื้อนเลือดเหล่านั้นดูเหมือนสิ่งที่ใช้ห่อศพทำไมมันถึงมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้?

ในตอนนี้อาวุธวิเศษประจำตระกูลหวัง กำลังต่อต้านแผนภาพสิบพิภพอย่างสุดกำลัง

"อะไร? ของวิเศษประจำตระกูลซูมาอยู่กับเจ้าได้ยังไง? ใบหน้าของเซียนอมตะหวังเปลี่ยนไป

“นั่นคือธงประจำตัวของเทพสงครามในยุคเซียนโบราณ? ผ้าคลุมศพราชาอมตะ!” หวังต้าคร่ำครวญออกมาด้วยความตื่นตระหนกสีหน้าสีเผือดสติหลุดลอยไปแล้ว

“ทำไมตระกูลซูถึงให้เจ้ายืมของวิเศษประจำตระกูล? นี่คือเส้นชีวิตของพวกเขา! พวกเขาไม่กลัวว่าจะมีคนอื่นฉวยโอกาสโจมตีพวกเขาหรือ” เซียนอมตะหวังถอนหายใจเบาๆเรื่องนี้ร้ายแรงเกินกว่าเขาจะคาดเดา

ตระกูลซูเป็นตระกูลราชวงศ์แห่งเก้าสวรรค์สิบพิภพ

องค์หญิงเหยาเยว่ก็มาจากตระกูลนี้ ผู้นำตระกูลคือพ่อของนางซูหมิงซวน

เมื่อสือฮ่าวได้ยินที่มาของเศษผ้านั้นเขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ในเวลาเดียวกันเขาสัมผัสได้ถึงปราณทรงพลังน่ากลัวซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้า

เขารู้ว่าเศษผ้าผืนนี้มีต้นกำเนิดที่น่าตกใจซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด