ตอนที่ 5 - ผู้ยิ่งใหญ่เขย่าโลก
ตอนที่ 4 - ผู้ยิ่งใหญ่เขย่าโลก
ซุ้มประตูที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามพังทะลายในพริบตาก้อนหินยักษ์ร่วงลงมากระแทกพื้นเสียงดังสนั่น!
ผู้สูงส่งที่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่อาจไม่อาจนั่งต่อไปได้แล้ว ดวงตาเย็นชาของเขาจ้องไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ กี่ปีแล้วที่มีคนกล้าทำตัวหยิ่งยโสขนาดนี้!
ที่นี้คือที่ไหน? นี่คือตระกูลหวังซึ่งเป็นตระกูลอมตะสืบเชื้อสายมาแต่บรรพกาลใครจะบังอาจมาหาเรื่องตายที่นี่?!
ถึงกระนั้นวันนี้กลับมีคนโยนซากศพทิ้งไว้หน้าซุ้มประตูตำหนักตระกูลหวัง นี่เป็นการท้าทายอย่างจงใจ
“เจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเจ้าต้องการท้าทายตระกูลหวัง เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป เจ้ากำลังนำหายนะมาสู่ตัวเอง!” ชายคนนั้นพูด. เขาเป็นชายวัยกลางคนต้นๆรูปร่างสูงใหญ่ดุจเจ้าโลกบาล
“ในที่สุดก็มีคนออกมาพูดแทนสัตว์เสียที” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว เขาพาสือฮ่าวเดินไปที่ซากซุ้มประตูที่หักพังลง
เมื่อสังเกตุสถานที่แห่งนี้จะสามารถเห็นพลังปราณไหลเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยอดเขาทุกแห่งดูเหมือนมีจิตวิญญาณของตัวเอง ขุนเขาที่ยิ่งใหญ่ล้วนปลดปล่อยพลังวิญญาณออกไม่รู้จบสิ้น นับเป็นสรวงสวรรค์ในแดนสวรรค์อย่างแท้จริง
ที่นี่เป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่งไม่มีสถานที่ไหนในโลกจะมียอดเขาศักสิทธ์มากมายอย่างที่นี่ สามารถรองรับผู้บ่มเพาะมากกว่าหมื่นคนทั้งใหญ่โตและกว้างใหญ่
หมอกอมตะคดเคี้ยวเกี่ยวกับยอดเขาที่จำนวนมากกว่าหมื่นลูกเรียกได้ว่าอลังการ!ยังน้อยไป
น้ำตกสีเงินไหลลงมาจากเกาะลอยฟ้ามีให้เห็นอยู่ทั่ว นกศักสิทธิ์และสัตว์ร้ายเคลื่อนตัวไปมา นี่คือดินแดนหวงห้ามของตระกูลอมตะ
อาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือดินแดนอมตะไม่ใช่แค่ในนาม แต่ในความเป็นจริงด้วย
เป็นเพราะในสมัยโบราณสถานที่แห่งนี้ได้ถือกำเนิดสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะที่แท้จริง นี่คือดินแดนอันบริสุทธิ์ของผู้ฝึกเต๋ามาตั้งแต่สมัยโบราณ
หากมีผู้แข็งแกร่งต้องการได้ครอบครองดินแดนบริสุทธิ์ประเภทนี้พวกเขาทำได้เพียงขุดแผ่นดิน ตัดถ้ำดึกดำบรรพที่คนโบราณทิ้งไว้ อย่างไรก็ตามไม่มีทางที่จะนำไปเปรียบกับดินแดนอมตะของตระกูลหวังที่นี่
ชายวัยกลางคนคนนั้นไม่รอช้า เขาลงมือทันทีโดยใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุด เขาฉีกมิติออกเป็นเส้นหนึ่งแสงกระบี่เหมือนสายรุ้งขณะที่พวกมันพุ่งตกลงมาตามแนวริ้วพร่างพราวโหดร้ายโดยต้องการกระแทกผู้อาวุโสใหญ่ให้ตายไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
ในชั่วพริบตานั้นลำแสงปรากฏขึ้นทุกที่บนท้องฟ้า ราวกับว่ามีดาวหางจำนวนมากเคลื่อนผ่านท้องฟ้าเข้าถล่มจุดเดียวกัน
ตูม!
เมื่อเผชิญกับการโจมตีนี้ผู้อาวุโสใหญ่ยกมือขึ้นพร้อมกับสะบัดไปด้านหน้า ริ้วกระบี่ทั้งหมดสลัวเหมือนเทียนในสายลมและดับลงอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็เอื้อมแขนออกไปจับชายวัยกลางคนด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวพร้อมกับบีบนิ้วของเขาเบา ๆ ชายวัยกลางคนที่เมื่อครู่ยังทรงพลังอย่างยิ่งตอนนี้กระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมากเขาเกือบถูกผู้อาวุโสใหญ่บีบตายคามือ
ในช่วงเวลาสำคัญผู้อาวุโสใหญ่แสดงความเมตตาด้วการขว้างเขาลงกับพื้น
ด้านหลังมีผู้ฝึกตนหนุ่มสาวจากตระกูลหวังจำนวนไม่น้อยที่ได้เห็นฉากนี้ทุกคนต่างสั่นสะท้านถึงจิตใจใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว ผู้อาวุโสคนนี้น่ากลัวเพียงใด? เขาจัดการปรมาจารย์ของตระกูลเพียงแค่ยกมือ!
ต้องเข้าใจว่าชายวัยกลางคนนับเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในความคิดของพวกเขาไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเอาชนะได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาถูกจัดการอย่างง่ายดาย มันน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว
“ศัตรูบุก!” ใครบางคนร้องเอะอะโวยวาย
ในความเป็นจริงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่พวกคนที่อยู่ข้างในภูเขาก็มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เสียงแตรเสียงยาวดังขึ้นกึกก้องเพื่อส่งสัณญาณเตือน
ซุ้มประตูที่พังทะลายนั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าจุดระวังภัยแรกเท่านั้น หน้าประตูภูเขาที่แท้จริงมีพระราชวังอันยิ่งใหญ่ปิดกั้นถนนเพียงสายเดียว
พระราชวังแห่งนี้ยิ่งใหญ่มากและมีขนาดใหญ่ยักษ์ทำจากโลหะบางชนิด ตอนนี้มันสั่นสะเทือนไปมาด้วยแสงสีเงินสีขาวเปล่งประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
“ตำหนักดาราเงิน!”
นี่เป็นสถานที่สำคัญของตระกูลหวังซึ่งเป็นสถานที่ที่มีบุคคลที่ทรงอำนาจสูงสุดคอยดูแลอยู่เสมอ
“ท่านบรรพบุรุษอาวุโสเกิดเรื่องแล้ว!” น้ำเสียงเคร่งเครียดดังจากชายคนหนึ่ง เขาอุ้มชายวัยกลางคนที่นอนอยู่กับพื้นคนนั้นพร้อมกับหอบเอาซากศพของวังหมิงหลงและศีรษะของผู้อาวุโสที่เสียชีวิตในเวลาเดียวกันกลับเข้าไปในตำหนักดาราเงิน
“โวยวายอะไรกัน!” บรรพบุรุษอาวุโสตระกูลหวังตะคอก จากนั้นดวงตาของเขาก็หรี่ลง “คนเหล่านี้เป็นคนจากตระกูลของเราหรือเปล่า”
"ใช่!" ใครบางคนพูดด้วยเสียงที่เงียบ
บรรพบุรุษอาวุโสยืนขึ้นดวงตาของเขาและสาดรังษีอำมหิตและเย็นชาก้าวเพียงก้าวเดียวก็ออกจากตำหนักดาราเงิน เขามองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่และสือฮ่าวจากระยะไกล
“พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าฆ่าคนของตระกูลหวังจะต้องชดใช้ด้วยเลือดเท่านั้น!” บรรพอาวุโสกล่าวอย่างเด็ดขาดด้วยทัศนคติและความเชื่อมั่นเขามั่นใจว่าจะจัดการกับผู้บุกรุกได้อย่างแน่นอน
“บรรพบุรุษอาวุโสที่เก้า เจ้าหนูคนนั้นคือ…ฮวง!” มีคนจำสือฮ่าวได้ เนื่องจากเหตุผลหลายประการรุ่นหลังของตระกูลจึงได้เห็นภาพเหมือนของเขา
ตอนนี้ชื่อของสือฮ่าวเป็นที่รู้จักอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นเขายังเคยถูกมองว่าเป็นทาสโดยถูกพวกเขาบังคับให้เข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดเพื่อขุดหาหินอายุวัฒนะ ทำให้เกิดความวุ่นวายมากมายดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะไม่รู้เกี่ยวกับสือฮ่าวแม้ว่าพวกเขาจะพยายามไม่ใส่ใจก็ตาม
“เจ้าเด็กอวดดีคนนั้นเหรอ” สายตาของบรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้าของตระกูลหวังกลายเป็นเย็นชา
“ถูกต้องแล้วเขาตั้งตนต่อต้านตระกูลหวังของเราครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่รู้ถึงความลึกของสวรรค์และโลก ท่านบรรพบุรุษโปรดจัดการเขา!” มีคนกล่าวว่าส่งเสริม
บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้านี้เป็นคนหยิ่งยโสแม้ว่าอายุของเขาจะมากแล้วแต่เขายังคงไม่แยกแยะผิดถูกทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนของเขาหรืออาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนสุดโต่ง
เขาไม่สนใจว่าถูกหรือผิดเพียงถามว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลหวังหรือไม่เมื่อเขาได้ยินว่า สือฮ่าวตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลหวังก่อนหน้านี้เขาอยากจะออกไปฆ่าเจ้าหนูคนนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สือฮ่าวพาตัวเองมาหาที่ตาย เป็นเรื่องธรรมดาแล้วที่เขาจะไม่แสดงความเมตตาใดๆ
“เป็นเพียงคนหนุ่ม แต่โหดเหี้ยมไร้ความปราณีกล้าที่จะฆ่าคนของตระกูลหวังของข้าตอนนี้เจ้าสามารถลืมเรื่องมีชีวิตรอดไปได้เลย!” บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้ากล่าวอย่างเย็นชา
“ท่านไม่ถามหน่อยเหรอว่าทำไมข้าถึงฆ่าเขา” สือฮ่าวกล่าว
“ข้าไม่จำเป็นต้องถาม แม้ว่าเจ้าจะมีเหตุผลเต็มเปี่ยมอยู่ข้างกายก็ตาม ตราบใดที่เจ้ากล้าแตะแม้แต่ปลายนิ้วของคนในตระกูลหวังของข้า ข้าจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด!” บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้าของตระกูลหวังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“นี่คือวิธีที่ตระกูลหวังใช้เพื่อตระกูลดำรงมาอย่างยาวนาน? เอาแต่ใจจริงๆ!” สือฮ่าว กล่าวด้วยความโกรธแค้น
“ตระกูลหวังเกินเยียวยาแล้วจริงๆ!” ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ก็คลื้มลงเช่นกัน อีกฝ่ายหน้าด้านเกินไปถามแค่ว่าพรรคพวกของเขาได้รับความเดือดร้อนหรือไม่โดยไม่สนใจเหตุผลอื่น
"ทำไม? พวกเจ้ายอมรับไม่ได้? พวกเจ้าจะทำอะไรได้แม้ว่าจะยอมรับไม่ได้ก็ตาม เนื่องจากพวกเจ้ากล้าท้าทายตระกูลหวังของข้า ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วยเลือดเท่านั้น!” บรรพบุรุษรุ่นที่เก้าของตระกูลหวังกล่าว
ในขณะที่พูดนิ้วของเขาก็เหมือนกระบี่กวาดไปทางสือฮ่าวเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณแสงเปล่งประกายของใบมีดที่น่ากลัวและแหลมคมมากมายจนนับไม่ถ้วน
นี่คือลมปราณกระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้าผู้นี้เป็นผู้ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อตอนนี้เกือบจะกลายเป็นผู้สูงส่งขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง!
เมื่อมีคนอย่างเขาที่มีสถานะสูงส่งเสียดฟ้าลดตัวลงมาจัดการกับรุ่นหลังอย่างสือฮ่าว ก็ไม่ได้แสดงความเมตตาแม้แต่น้อยถึงขนาดที่เรียกได้ว่าไร้ยางอายสุดๆ หากโดนการโจมตีนี้จริงๆสือฮ่าวต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ฟิ้ว!
ผู้อาวุโสใหญ่ขยับตัวบังหน้าสือฮ่าวไว้ นิ้วชี้ออกไปอย่างเรียบง่ายญาณวิเศษเปลี่ยนกระบี่ทั้งหมดของบรรพบุรุษอาวุโสรุ่นเก้าก็กระจัดกระจายออก ยิ่งไปกว่านั้นพลังของนิ้วนั้นไม่ได้ลดลงเลย แต่กลับขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เจ้า!…” บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้าตระกูลหวังตื่นตระหนกขีดสุด รีบต่อต้านอย่างทุลักทุเล
เขารู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่ไม่ใช่คนธรรมดา แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เคยคิดว่าว่าการบ่มเพราะของอีกฝ่ายจะสูงส่งขนาดนี้ เขาแสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายมากพอแล้วโดยคิดว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ในระดับเดียวกับตัวเอง อย่างไรก็ตามใครจะคาดคิดว่าอีกฝ่ายกลับเหนือกว่ามากถึงขนาดนี้!
บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้ารู้ทันทีว่าสถานการณ์เลวร้ายสุดขีด เขารีบถอยกลับในทันที
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ผู้อาวุโสใหญ่ลงมือมันจะเลิกราง่ายๆได้อย่างไร? นิ้วนั้นขยายใหญ่ขึ้นราวกับว่าเป็นเสาค้ำยันสวรรค์กระแทกลงมาบนร่างกายบรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้า
ปู!
บรรพบุรุษรุ่นที่เก้าของตระกูลหวังกระอักเลือดออกมาเต็มปากร่างกระดูกเส้นเอ็นหักสลาย เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังออกมาจากปากของเขา
นี่มันน่าตกใจเกินไปพวกเขาเพิ่งประมือ แต่เขากลับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย!
“ อย่าลืมว่าเจ้ายังไม่ได้เป็นผู้สูงสุดขั้นสูงแม้ว่าเจ้าจะก้าวเข้ามาในอาณาจักรนี้ แต่เจ้าก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะทำตัวอวดดีต่อหน้าข้า ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา
ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างกระพริบตาของพวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรสูงสุดบรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้าพ่ายแพ้แล้ว? พวกเขาเพิ่งเริ่มประมือ! ง่ายเกินไปมั้ย? ไม่มีใครกล้าเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น
“เจ้า..เจ้า…เป็นใครกันแน่” บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้าของตระกูลหวังตกใจกลัว เขารู้ดีว่าตอนนี้สิ่งต่างๆจะเลวร้ายแน่นอนหากชายตรงหน้าเป็นผู้สูงสุดระดับสูงเทียบได้กับเซียนในยุคโบราณ
อย่างไรก็ตามเขายังคงต้องการข่มขู่อีกฝ่ายด้วยชื่อของตระกูลหวังโดยกล่าวว่า "ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตามนี่คือตระกูลหวังศักดิ์ศรีของตระกูลอมตะของเราจะไม่ยอมให้ถูกดูหมิ่น:
“ศักดิ์ศรีของตระกูลอมตะ…จะไม่ยอมให้ถูกดูหมิ่น?” ผู้อาวุโสใหญ่มองไปที่เขา เมื่อเขานึกย้อนไปถึงคำพูดที่แสดงตัวตนของคน ๆ นี้การปฏิเสธผู้คนโดยไม่ต้องพูดเหตุผลนั้นอารมณ์เขาก็เย็นชาในทันที
“ตระกูลหวังยืนอยู่ที่สูงเสมอ ไม่คลุกคลีกับมนุษย์ที่อยู่ด้านล่างมองเห็นทุกชีวิตเหมือนมดแมลงจนกลายเป็นนิสัย วันนี้ข้าจะให้บทเรียนทั้งหมดแก่พวกเจ้า” ผู้อาวุโสใหญ่พูดอย่างเย็นชา
ในขณะที่พูดเขายกมือขึ้นโดยใช้นิ้วแทนกระบี่จากนั้นฟันฉับไปข้างหน้า
“อ๊ะ ไม่!” บรรพบุรุษอาวุโสรุ่นที่เก้ากรีดร้องออกมาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ปู!
กระบี่นี้ทำลายทุกสิ่งที่อยู่ใต้ศรีษะของเขาลงไปทำให้ร่างกายของบรรพบุรุษอาวุโสรุ่นเก้ากลายเป็นหมอกเลือด ศีรษะที่ยังคงอยู่ก็สั่นสะท้านเช่นกันรอยแตกวิญญาณดั้งเดิมลามไปเรื่อยๆเขาบาดเจ็บสาหัส!ยากจะมีชีวิตรอด
ปัง!
ในเวลาเดียวกันผู้อาวุโสใหญ่สะบัดแขนเสื้อออก ศรีษะนี้พุ่งตรงไปที่ตำหนักดาราเงิน
ฮ่อง!
ตำหนักหลังมหึมาระเบิดกลายเป็นชิ้นส่วนโลหะสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปทุกทิศทาง
สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดคลื่นยักษ์ทันทีพวกเขาอาจลืมเกี่ยวกับประตูภูเขาได้ แต่ตำหนักหลังนี้...ร่างจำนวนมากทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อต้านทานความเสียหาย
เป็นเพราะสิ่งนี้ส่งผลกระทบมากเกินไป!
ตำหนักดาราเงินนั้นเป็นประตูของตระกูล เป็นทางเข้าสู่ดินแดนศักสิทธิ์มันถูกใครบางคนระเบิดจริงๆ!
ต้องเข้าใจว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ยุคเซียนโบราณผ่านไป เกิดเรื่องแบบนี้เพียงสองครั้ง ทั้งสองครั้งนั้นก่อให้เกิดความโกลาหลตามมามากมาย!
ตอนนี้มีใครบางคนบังอาจลงมือเช่นนี้อีก!
“ท่าน…เป็นใครกันแน่” มีคนถามด้วยเสียงสั่นเครือน้ำเสียงสุภาพขึ้นไม่น้อย
มีคนจำนวนมากจากตระกูลวังที่แทบไม่ได้ออกจากที่นี่มาโดยตลอด เพราะการบ่มเพาะในดินแดนศักสิทธิ์แห่งนี้พวกเขาจึงไม่เคยพบกับผู้อาวุโสใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับการบ่มเพาะของผู้อาวุโสใหญ่นั้นลึกซึ้งเพียงใดคนปกติไหนจะมีโอกาสได้พบเขาแม้ว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอกก็ตาม
“ขอให้เจ้าวังอมตะออกมาพบข้า!” ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกน เสียงของเขาเหมือนฟ้าร้องดังก้องไปทั่วสถานที่แห่งนี้ทำให้พิธีกรรมเต๋าอมตะโบราณทั้งหมดสั่นสะเทือน
เมื่อพวกเขาได้ยินคำของผู้อาวุโสใหญ่หนังศีรษะของทุกคนชาด้านมึนงงตัวสั่นอยู่ข้างใน นี่ใครกันแน่? เขากล้าท้าทายท่านบรรพบุรุษใหญ่ของพวกเราจริงๆ!
เจ้าวังอมตะคือใคร? เขาคือหลานชายโดยสายเลือดของผู้อมตะเมื่อครั้งนั้น บรรพบุรุษใหญ่ของตระกูลหวังเขายังคงมีชีวิตอยู่! เป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้วนับตั้งแต่ที่เขาเกิดมาเขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ!
ทันใดนั้นบุคคลที่สวมมงกุฎสีม่วงทองร่างกายปกคลุมด้วยเสื้อคลุมเต๋าสีขาวดวงจันทร์ เดินตรงมาร่างของเขาวูบวาบไปมาดูลึกลับ
รัศมีพลังของเขาน่ากลัวเกินไปราวกับว่าผู้อมตะลงมาในโลกนี้
จากนั้นอีกคนก็เดินมาจากทิศทางที่แตกต่างกันผมสีขาวราวหิมะร่างกายปกคลุมไปด้วยพลังอมตะน่าตกใจอย่างยิ่ง
จากนั้นร่างที่สามปรากฏตัวในชุดเสื้อคลุมเต๋าสีทอง เขาเดินไปทีละก้าวดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาวปรากฏอยู่ใต้เท้าของเขาเป็นฉากที่น่ากลัว!ถึงที่สุด
...
“สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง!” มดตัวน้อยสีทองยืนอยู่บนไหล่ของสือฮ่าวคอของมันหดกลับทันทีเลือดในกายสือฮ่าวเย็นเฉียบ เป็นเพราะผู้อาวุโสใหญ่เรียกหาเจ้าวังอมตะ แต่กลับปรากฏผู้ทรงพลังลึกลับขึ้นสามคนออกมาพร้อมกัน!
ปราณเซียนที่แผ่ออกมารอบบุคคลเหล่านี้น่ากลัวเกินไปอาบด้วยความงดงามเป็นอมตะ ราวกับว่าพวกเขาได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งชีวิตอันยาวนานด้วยพลังที่ไม่มีใครเทียบได้