ตอนที่แล้วตอนที่ 5 หาวิธี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 หนูหิว

ตอนที่ 6 หนูยังเป็นเด็กอยู่นะ


เด็กน้อยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? และสิ่งที่สามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือ

“อุแว้! อุแว้!”

ทันใดนั้นเสียงของฮัวซุ่ยเฉิงก็ดังขึ้นเหนือบริเวณศีรษะของเธอ

“อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้แบบนี้ ต้องการให้ปล่อยลุงของเธอไปรึไง?”

จากนั้นเสียงร้องไห้ที่ดังมากจนแผ่นดินแทบจะสะเทือนของเจ้าตัวน้อยพลันหยุดลงในทันทีทันใด และครู่หนึ่งจากนั้นก็เริ่มร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินสิ่งนี้

“รู้ตัวหรือเปล่าว่าเธอกำลังปกป้องคนผิด?”

ฮัวซุ่ยเฉิงยื่นมือออกมาและบีบแก้มอันอวบอ้วนของทารกน้อยด้วยฝ่ามือที่หยาบกระด้างด้วยความหมั่นไส้จนทำให้ฮัวลี่ลี่รู้สึกเจ็บที่บริเวณแก้ม

อุ๊ย!…อุ๊ย!…อุ๊ย!

จากนั้นเด็กน้อยรีบหดหัวเพื่อที่จะซ่อนตัวอยู่ในชุดสูททันที ทำให้ฮัวซุ่ยเฉิงรู้สึกผิดจึงลูบไล้แก้มของทารกน้อยอย่างแผ่วเบาด้วยความอ่อนโยน และพยายามควบคุมน้ำเสียงกับอารมณ์ของตนเอง

“หยุดร้องไห้เถอะ”

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เด็กจะเข้าใจความหมายของเขาได้อย่างไร? และจากนั้นไม่ว่าเขาจะพูดอะไรเด็กทารกน้อยก็ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุด

“เก่งจริงก็ยิ้มสิ แล้วฉันจะปล่อยเขาไป!”

“?”

เขาจะให้เธอทำอย่างนั้นจริงเหรอ? ให้เด็กสามเดือนยิ้มเนี่ยนะ?

เด็กตัวแค่นี้จะเข้าใจคุณได้ยังไง?

หรือที่ทำเช่นนี้ก็เพียงเพราะเขาต้องการหักขาของจีซูหยางใช่หรือเปล่า?

โชคดีนับว่าเป็นโชคดีของจีซูหยาง เนื่องจากเธอไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป ดังนั้นเธอต้องหาทางช่วยเขาให้ได้ มิฉะนั้นจี้ซูหยางคงจะต้องกลายเป็นคนขาด้วน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทันใดนั้นทารกน้อยก็หยุดร้องไห้พร้อมกับมีอาการสำลักสองสามครั้ง และเริ่มฉีกยิ้มโดยพยายามดึงมุมปากของตนเองเพื่อที่จะยิ้มให้กับฮัวซุ่ยเฉิงด้วยดวงตาดำขลับที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้ขนตายาวของเธอที่เปียกโชกนั้นม้วนงอ

ส่งผลให้ดวงตาของฮัวซุ่ยเฉิงเริ่มสลดลงเล็กน้อย ขณะที่จัองมองไปยังทารกน้อยด้วยสีหน้าบึ้งตึงพลางกล่าวว่า

“แน่ใจนะว่านั่นคือรอยยิ้ม? หักขา!”

ทารกน้อย “???”

อะ..อะ.. ก็ยิ้มแล้วนี่...

อันนี้ฉันยิ้มแล้วนะ!!!

ฉันยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้ว ตาบอดหรือเปล่าถึงมองไม่เห็นน่ะ?

สิ่งที่ฮัวลี่ลี่ทราบคือบิดาของตนเองเป็นคนร้ายที่ใจคอโหดเหี้ยม แต่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเขาตาบอดด้วย!

บ้าไปแล้วเหรอ?!

เธอถีบเขาทันทีด้วยความรู้สึกหงุดหงิดแต่ขาของเธอนั้นสั้นเกินไป ดังนั้นภาพที่เห็นคือเด็กน้อยกำลังเตะเท้าอยู่กลางอากาศโดยไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับร่างกายของฮัวซุ่ยเฉิงเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่ฮัวซุ่ยเฉิงจับเท้าทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว และรู้สึกได้ว่ามันช่างอวบอ้วนและอุดมไปด้วยไขมัน ถึงกระนั้นกล้ามเนื้อบริเวณน่องของเด็กน้อยค่อนข้างแข็งแรง โดยเธอเตะอย่างแรงเข้าที่ฝ่ามือของเขาถึงสองครั้ง แต่บังเอิญว่ามันลื่นมากจนทำเธอพลาดเป้า

จากนั้นเขาทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่รวบเท้าของเธอเอาไว้ในชุดสูทแล้วก้าวเท้าขึ้นรถและปิดประตูรถทันที

ทันใดนั้นบรรยากาศได้กลับกลายมาเป็นความเงียบสงบ โดยแยกเสียงรบกวนภายนอกหน้าต่างรถและไม่มีใครกล่าวอะไรในรถ ทั้งยังไม่ได้ยินเสียงร้องไห้อีกต่อไป เพราะเด็กน้อยไม่มีแรงที่จะอ้าปากร้องครวญคราง ขณะที่จมูกของเธอแดงก่ำและพยายามดิ้นรนเพื่อดึงตัวเองออกมาให้พ้นจากตำแหน่งที่น่าอึดอัด

'ขาของคุณลุงจะหักหรือเปล่านะ?'

ราวกับว่าเขาสามารถล่วงรู้ในสิ่งที่เด็กน้อยกำลังคิด เพราะเธอได้ยินเขากล่าวว่า

“มั่นใจได้.. มันไม่หักหรอก ก็แค่เจ็บ!”

“…เฮ้อ! โล่งอกไปที”

ดูเหมือนคุณพ่อจอมโหดของเธอจะไม่ใจร้ายอย่างที่คิด ลองคิดดูดีๆมันน่าจะเป็นระยะเริ่มต้นและมันยังไม่ถึงจุดที่หัวใจแข็งเท่าเหล็กไหล

อืม… อย่างน้อยเขาก็ปล่อยคุณลุงของเธอไป

แขนของฮัวซุ่ยเฉิงงอขณะที่อุ้มทารกน้อยที่ถูกห่อด้วยเสื้อสูทด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยถนัด ซึ่งมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่มีประสบการณ์ในการอุ้มทารก ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่บริเวณแขนของตนเองพลางขมวดคิ้วและตัดสินใจวางร่างของเด็กน้อยเอาไว้ที่เบาะด้านข้าง

…ถ้าตอนนี้เธอพูดได้สิ่งแรกที่จะขอคือ จะขอให้ผู้ชายคนนี้ช่วยติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กในรถให้เธอ

เมื่อรถแล่นไปสักครู่ คนขับรถที่กำลังขับรถด้วยความนุ่มนวลอยู่ที่เบาะหน้าได้หันหน้ามาเรียนถามอย่างสุภาพว่า

“คุณฮัวครับ! เราจะไปไหนกันครับ?”

จะไปไหนก็ไปสิ ! แต่ขอร้อง.. ได้โปรดอย่าวางฉันเอาไว้แบบนี้!

ฮัวซุ่ยเฉิงนิ่งเงียบไปราวกับว่ากำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ามันคงจะต้องเกี่ยวกับการเมามายของเขาในคืนนั้นที่ส่งผลให้มีเด็กเกิดขึ้นหนึ่งคนโดยที่เขาไม่เคยรู้เลยจนกระทั่งวันนี้

อย่างไรก็ตามเด็กคนนี้ก็เป็นเลือดเนื้อของเขาเอง นอกจากนี้บ้านตระกูลฮัวไม่ได้ยากจน โดยพวกเขาสามารถเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนนี้ได้อย่างสบาย อีกทั้งชายชราในครอบครัวยังต้องการมีหลานมานานแล้ว และเมื่อมีทารกคนนี้มาอยู่ในบ้านความฝันของเขาก็คงจะเป็นจริงแล้วในวันนี้

ด้วยความคิดเช่นนี้ เขาจึงตอบกลับไปว่า

“กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฮัว!”

"ครับ"

เมื่อได้ยินดังนั้นเด็กน้อยจึงหันขวับไปหาเขา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฮัวซุ่ยเฉิงชำเลืองมองมาพอดี ทำให้ทั้งสองคนสบตากันกลาางอากาศด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง จากนั้นเพียงชั่วอึดใจเขาก็หรี่ตาลงและเปลี่ยนใจภายในเวลาเพียงชั่วพริบตา

“เปลี่ยนใจละ กลับไปที่รอยัลออร์คิดวิลล่า”

"ครับ"

‘หลายใจจริง ๆ’

********

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด