Ep.747 - แพะรับบาป
5/5
Ep.747 - แพะรับบาป
กวนจินฮ่าวว่องไวมาก แต่ความเร็วที่สมควรเป็นข้อดี ในครั้งนี้มันเกือบฆ่าเขา!
ตัวเขาไร้ซึ่งโล่ปราณกำลังภายในคอยปกป้อง แล้วเนื้อหนังมังสาของมนุษย์ ยามชนเข้ากับพลังของรูนมิติ มันจะทานทนได้อย่างไร?
เนื้อและกระดูกของเขาถูกเฉือนออกไปทันที
แต่กวนจินฮ่าวก็ยังโชคดี เพราะรอยแยกมิติที่เขาพุ่งผ่านมา ตามตำแหน่งต่างๆที่ได้รับบาดเจ็บมันไม่ใช่จุดสำคัญ
กระนั้น หนังศีรษะของกวนจินฮ่าวบางส่วนยังคงถูกขูดออกเป็นแผลเหวอะ กระดูกแขนของเขาจุดหนึ่งถูกตัดออก เหลือเพียงเนื้อฝั่งในที่ยังคอยเชื่อมติดกัน แต่ตำแหน่งหนักสุดคงไม่พ้นช่วงท้อง เวลานี้มันเต็มไปด้วยรูเล็กๆน้อยๆ ถูกเจาะทะลวงจากหน้า ทะลวงหลังโดยสมบูรณ์
และที่พีคสุดก็คือ เบื้องหน้าเขา ปรากฏรอยแยกมิติขนาดสิบเซนติมเตร ลอยอยู่กลางอากาศตำแหน่งเดียวกับคอพอดิบพอดี หากตนหยุดฝีเท้าไม่ทัน รอยแยกนี้อาจสะบั้นศีรษะได้
พรวดด!
กวนจินฮ่าวกระอักเลือดออกมา รีบนำเม็ดยาออกมาจากอุปกรณ์รูนมิติอย่างรวดเร็ว โยนมันเข้าปากเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
ตอนนี้เขาไม่กล้าขยับ เพราะมีรูนมิติเวียนวนอยู่รอบตัว ปกคลุมอย่างหนาแน่น และมีดของฉินเฟิง ก็วางลงบนไหล่เขาแล้วเวลานี้ ชุดรบและเกราะในเริ่มลุกเป็นไฟ กระทั่งชุดคลุมของเขา ยังส่งเสียงเปรี๊ยะๆระคายหู คล้ายพร้อมจะลุกไหม้ทุกเมื่อ
ต้องรู้นะว่า เสื้อคลุมของกวนจินฮ่าว เป็นถึงการดำรงอยู่ในระดับเกราะเทวะ
“กวนจินฮ่าว ตอนนี้คุณลองคิดดูรึยัง ว่าจะชดใช้ด้วยทักษะอยู่ไหม?” ฉินเฟิงถาม
กวนจินฮ่าวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ยังคงมีกลิ่นหอมสดชื่นจากเม็ดยาเล็ดลอดออกจากในปากเขา เจ้าตัวรับรู้ได้ถึงความฝาดขมของมัน
“ถ้าฉันบอกไป นายจะไม่ฆ่าฉันจริงๆหรอ?” กวนจินฮ่าวเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อฉินเฟิง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขากับฉินเฟิงไม่ใช่คนรู้จักกัน ตอนนี้กวนจินฮ่าวไม่ต่างจากปลาบนเขียง จะตายหรือรอดล้วนขึ้นอยู่กับความเมตตาของผู้อื่น ต่อให้ยอมคายวิชาออกมา หากคิดฆ่า อีกฝ่ายก็สามารถฆ่าเขาได้อยู่ดี
แต่ในมุมมองของฉินเฟิง เขาไม่มีความคิดที่จะสังหารกวนจินฮ่าว เพราะแม้สุดท้ายกวนจินฮ่าวจะเป็นคนของกองกำลังมืด แต่ชายผู้นี้ไม่เคยฆ่าผู้บริสุทธิ์ เขาจะตามล่าเฉพาะผู้ใช้พลังระดับสูงเท่านั้น นอกจากนี้เขายังรับงานจากทางพันธมิตรมนุษย์เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนของกองกำลังมืดที่ถูกประกาศจับ
ดังนั้น ฉินเฟิงจะไม่ฆ่าเขา แต่ฉินเฟิงมิได้เอ่ยคำเหล่านี้ออกมาปลอบใจกวนจินฮ่าว เพียงปล่อยให้อีกฝ่ายยอมคายออกมาเอง
“ตอนนี้คุณน่าจะรู้ตัว ว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
ช่วงเวลานี้ในใจของกวนจินฮ่าวเต้นครึกโครม เขาสัมผัสได้ว่าตามร่างของฉินเฟิงไม่มีความผันผวนของเจตนาฆ่าอยู่เลย คาดว่าฉินเฟิงไม่อยากสังหารตนจริงๆ ถ้าอย่างนั้น เขาจะยอมบอกวิชาตัวเบาแบบไม่ครบสูตรไปก็ได้
ทว่าระหว่างที่กวนจินฮ่าวกำลังขบคิด ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังออกมา
“จงมองมาที่ฉัน!”
กวนจินฮ่าวที่ไม่ทันระวัง เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว สบเข้ากับสายตาคู่หนึ่ง
ตาคู่นี้ช่างลึกล้ำ ไม่ต่างจากทางช้างเผือก ช่วงเวลานี้ หญิงงามล่มเมืองที่กวนจินฮ่าวไม่สนใจ ได้ใช้พลังสมาธิทั้งหมด ผสานเข้ากับดวงตาคู่นั้น
ดวงตาของไป๋หลี!
“วิธีการฝึกฝนทักษะหมื่นภูติ จงพูดมา!” ไป๋หลีกล่าว
กวนจินฮ่าวช็อก แต่กลับพบว่าตัวเขาไม่สามารถควบคุมการกระทำได้ เริ่มอธิบายถึงวิธีการทำงานของทักษะหมื่นภูติอย่างรวดเร็ว ฉินเฟิงคอยรับฟังอยู่ข้างๆ ถึงจุดหนึ่งบังเกิดการตระหนักรู้ในฉับพลัน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงเคยฝึกฝนก้าวแห่งหมอกมาก่อน เพียงแต่ทิศทางการฝึกฝนแตกต่างกัน ในตอนท้ายมันไม่อาจเปลี่ยนไปถึงขั้นทักษะหมื่นภูติได้
แต่ปัจจุบัน เมื่อหลอมรวมที่เคยฝึกกับคำพูดเหล่านี้เข้าด้วยกัน ฉินเฟิงก็บรรลุมันทันที
ทั้งยังสามารถใช้งานในรูปแบบที่ต่างไปได้เล็กน้อย
“ทักษะหมื่นภูติ จำเป็นต้องมีชุดคลุมซ่อนภูติบนตัวฉันช่วยเสริมเข้าไปด้วย มันมีคุณสมบัติสร้างเงา เมื่ออัดฉีกกำลังภายในลงไป สามารถกระตุ้นให้นายซ่อนร่างของตัวเอ--”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ ความคิดของกวนจินฮ่าวเริ่มดิ้นรนขัดขืนอย่างแรง
ในใจของเขาบังเกิดเสียงร้องตะโกนโวยวายว่า ‘ไม่! ทำไมแกถึงพูดแบบนั้นออกไป ถ้าเจ้าหมอนั่นเอาชุดคลุมซ่อนภูติไปจะทำยังไง? ความแข็งแกร่งของบิดาคงถดถอยลงไปมาก’
เมื่อเกิดการดิ้นรนขึ้น ไป๋หลีก็ไม่ต้องการสูญเสียพลังสมาธิอีก ยอมปล่อยกวนจินฮ่าวไป
นอกจากนี้ ยังยกเลิกอบิลิตี้มิติปิดล้อม!
ฉินเฟิงเก็บมีดกษัตริย์ครามกลับคืน
“ดีมาก คุณไปได้แล้ว” ฉินเฟิงกล่าว
กวนจินฮ่าวมองฉินเฟิงอย่างหวาดระแวง แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายไม่มีความคิดฉกฉวยชุดคลุมซ่อนภูติ และเหมือนจะมีท่าทีพอใจจริงๆ
กวนจินฮ่าวหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ พกความสงสัยอยู่เต็มอก ทั้งยังเกิดความคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ในตอนนั้นเขาตั้งใจบอกรายละเอียดของทักษะหมื่นภูติแบบผิดๆ ผลคือผู้หญิงคนนั้นใช้วิธีชั่วร้ายบางอย่างงัดปากเขาให้พูดความจริงออกมา
ในความคิดของกวนจินฮ่าวตอนนั้น โอกาสออกไปจากที่นี่ได้แทบริบหรี่
แต่จู่ๆกลับรอดอย่างปาฏิหาริย์ วินาทีนั้นดวงตาของกวนจินฮ่าวสว่างวาบ ผุดลุกขึ้นวิ่งจากไปทันที
อบิลิตี้มิติของไป๋หลีถูกถอนไปเรียบร้อย ทว่าหลังจากที่กวนจินฮ่าวพุ่งออกจากห้อง กลิ่นอายนับไม่ถ้วนพลันตรึงลงบนร่างเขาทันที
และกลิ่นอายทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเลเวล A !
มีจำนวนนับร้อยคนอย่างกะทันหัน!
เป็นกองทัพที่หน้าหวาดกลัวมาก!
“บัดซบ!” กวนจินฮ่าวสบถคำหนึ่ง ไม่สนว่าร่างกายจะบาดเจ็บหรือไม่ ตอนนี้การหนีเอาชีวิตรอดสำคัญกว่า!
“ทักษะหมื่นภูติ!”
ในพริบตา ปรากฏร่างเงานับไม่ถ้วนของกวนจินฮ่าว หลบหนีกระจายไปทุกทิศทาง!
สำหรับทักษะหมื่นภูติ มันจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการสำแดงฤทธิ์!
ดูเหมือนว่านี่แหละคือพลังที่แท้จริงของทักษะหมื่นภูติ!
“เขาออกมาแล้ว!”
“ฆ่า!”
“หยุดเขาไว้! แก่นสัตว์เทวะอยู่กับเขา!”
เลเวล A ที่ดักรอตะโกน บางส่วนไล่ตามกวนจินฮ่าวไป
กวนจินฮ่าวระหว่างสับขาวิ่งก็ร้องขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“โว้ย ไล่ตามผิดคนแล้ว ของไม่ได้อยู่กับบิดา!”
ช่างน่าสงสารที่คนอื่นๆไม่เชื่อเลย เลเวล A บางคนไม่ทันเห็นร่างของกวนจินฮ่าวในตอนแรกอย่างชัดเจน หลงคิดว่าเป็นฉินเฟิง ดังนั้นทั้งหมดกระโจนเข้าหยุดเขาทันที แต่ก็มีบางคน ระบุได้ว่านั่นคือกวนจินฮ่าว
“เขาคือกวนจินฮ่าว เป็นนักฆ่าระดับสูง หน้ากากจิ้งจอกคงตายไปแล้วแน่ๆ!”
“ไม่ผิดแล้ว เขาคือนักฆ่าเลเวล A คิดจะฆ่าผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ!”
“ไล่ตามไป! ได้เท่าไหร่แบ่งกันอย่างเท่าเทียม ร่วมมือกันหยุดเขา!”
เลเวล A กลุ่มใหญ่เริ่มไล่กวด ถูกกวนจินฮ่าวล่อออกไปทันที
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงกับไป๋หลีในโรงแรม ได้เทเลพอร์ตมาหยุดยืนบนยอดอาคารสูงที่ห่างออกไปนับพันเมตร เฝ้ามองเรื่องตลกฉากนี้
เลเวล A บางคนย่อมไม่วางใจ บุกเข้าไปในห้องโรงแรม แต่ไม่พบร่องรอยของคนอื่น แสดงว่ากวนจินฮ่าวฆ่าทั้งสองคนแล้วจริงๆ และกระโจนเข้าร่วมสมรภูมิไล่ล่าอีกระลอก
กระนั้น ชื่อเสียงนักฆ่าอันดับต้นๆของกวนจินฮ่าวมิได้มีไว้แค่ประดับ ‘ทักษะหมื่นภูติ’ ถือเป็นวิชาตัวเบาเลเวล S ภายใต้การปิดล้อมดังกล่าว กวนจินฮ่าวยังสามารถหลบหนีรอดพ้นไปได้
“ไม่เลว กวนจินฮ่าวไม่เพียงมีวิชาตัวเบา แต่เขายังช่วยล่อคนจำนวนมากออกไป ถือเป็นผลงานชั้นเยี่ยม!” ฉินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮี่ฮี่ ก็แล้วใครบอกให้เขาบุกมาหาเรากัน ไม่อย่างนั้น คงไม่โชคร้ายขนาดนี้”
อย่างไรก็ตาม กวนจินฮ่าวสามารถตามหาฉินเฟิงได้ ฉะนั้นคนอื่นๆก็สามารถหาได้เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วการปรากฏตัวของฉินเฟิงกับไป๋หลีมันสะดุดตาเกินไป เมื่อรู้รูปลักษณ์ การหาเบาะแสเพิ่มเติมก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
แต่กวนจินฮ่าวดันเป็นคนเปิดฉากโจมตีก่อน และห้องถูกผนึกเอาไว้โดยมิติ พวกเขาโจมตีเท่าไหร่ก็เหมือนถมดินลงทะเล ไป๋หลีย่อมทราบเป็นธรรมดาว่าภายนอกมีคนดักรออยู่มากมาย
ดังนั้นยอมปล่อยกวนจินฮ่าวออกไปพบเจอกับสถานการณ์ดังกล่าวนี้
อย่างไรก็ตาม เวลารับชมความสนุกได้จบลง พลังสมาธิสายหนึ่งกวาดเข้ามา ตรึงลงบนร่างของฉินเฟิงกับไป๋หลี