สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 35
ตอนที่ 35 ซุ่มยิงจากข้างหลัง และ Headshot !!!
ลุคเหวี่ยงปืนลูกซองที่พาดอยู่บนหลังข้ามหัวไหล่ของเขาพร้อมกับจับมันไว้ในมืออีกครั้ง และขณะเดียวกันเขาก็ปลดล็อคเซฟตี้ จากนั้นลุคก็เหนี่ยวไกปืน
ปัง!
ลุคยิงปืนลูกซองตรงเข้าไปที่หน้าอกของศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างจัง
เมื่อลุคเห็นคนร้ายยังไม่ตายและกระตุกอยู่บนพื้น ลุคกระชากปืนลูกซองและยิงออกไปอีกนัดโดยไร้ซึ่งความลังเลใดๆ
แคร่ก! ปัง
คราวนี้คนร้ายที่กำลังนอนอยู่บนพื้น ก็ได้เสียชีวิตโดยทันที
จากนั้นลุคก็ก้าวขาไปที่ศพคนร้ายและเตะปืน AK ที่หล่นอยู่ข้างๆ ศพ จากนั้นลุคดึงไฟฉายของเขาออกมาจากเอวและส่องไปที่ใบหน้าของคนร้าย
เป็นที่ยืนยันว่า คนๆนี้คือ เฮอร์นันเดซ คาร์ลอส
จากข้อมูลของพวกเอฟบีไอระบุว่าบุคคลนี้เป็นผู้นำคนสำคัญของตระกูลคาร์ลอส เฮอร์นันเดซถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บริหารของแก๊งหลักที่นำเหล่านักฆ่ามาในครั้งนี้และเขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของหัวหน้าแก๊ง ดิเอโก คาร์ลอส
หลังจากที่ลุคเข้าไปตรวจเช็คแล้วว่าศัตรูของเขาจะไม่มีทางลุกวิ่งหนีได้และตายอย่างแน่นอนโดยการเอานิ้วแตะไปที่คอคนร้าย ลุคก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่มีชีจพร เฮอร์นันเดซเสียชีวิตอย่างแน่นอน
ลุคไม่มีความคิดจะไว้ชีวิตใครก็ตามที่มาจากคาร์ลอสแฟมิลี่ ถ้าเป็นไปได้ลุคคิดจะฆ่าพวกมันทุกคน แทนที่จะจับพวกมัน
นั่นเป็นสาเหตุที่ลุคยิงซ้ำถึงแม้ว่าคนพวกนั้นจะล้มลงไปกองกับพื้นแล้วก็ตาม
พวกคาร์ลอส จะมาหาพวกลุคเพื่อล้างแค้นอยู่แล้วเพราะฉะนั้นลุคจึงตั้งใจที่จะไม่ปล่อยให้พวกมันเข้าไปในอยู่ในคุกอยู่แล้ว
หลังจากตรวจสอบชีจพรของเฮอร์นันเดซแล้ว ลุคก็ลุกขึ้นยืนและเก็บไฟฉาย พร้อมสะพายปืนลูกซองไว้ที่หลังของเขาอีกครั้งก่อนจะมุ่งหน้าไปที่บ้านของเขา
โรเบิร์ตอาจจะมีฝีมือจัดการพวกผู้ร้ายได้ แต่ทว่าลุคก็ยังอดห่วงไม่ได้ เขาถึงต้องการกลับไปตรวจสอบให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรแปลกๆ เกิดขึ้น
ลุควิ่งไปที่บ้านของเขาและเมื่อลุคอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ลุคก็ชะลอความเร็วและเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ
ทันใดนั้นก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น หลังจากนั้นไม่นานลุคก็เห็นคนหลายคนวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกในทิศตรงข้ามกับเสียงก่อนหน้า
ลุคตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ในตอนที่คนเหล่านั้นปรากฏตัวและวิ่งบนถนน ลุคก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในสนามหญ้าที่อยู่ใกล้ๆ และลุคยื่นหัวออกมาจากนอกรั้วเพียงเล็กน้อยเพื่อสังเกตุการณ์เท่านั้น
ในระแวงนี้มีไฟกิ่งอยู่บ้างประปราย แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะให้แสงสว่างภายใต้คืนเดือนมืดเช่นคืนนี้ ในความมืดขนาดนี้สามารถมองเห็นร่างของคนเท่านั้น แสงส่วางไม่มากพอที่จะระบุตัวตนของเงาคนได้
อย่างไรก็ตามลุคก็สังเกตุเห็นว่าพวกเขาทุกคนมีถือปืนอาก้าไว้ในมือ
และนั่นเป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาเป็นใคร
ไม่มีเจ้าหน้าที่เอฟบีไอหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจคนไหนใช้ปืน AK อย่างแน่นอนในปฏิบัติการครั้งนี้ คนร้ายเหล่านี้กำลังวิ่งอย่างตื่นตระหนก
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนกลุ่มที่สองปรากฎตัวขึ้นตามหลังพวกคนร้าย และเริ่มยิงใส่พวกมัน
ลุคเห็นร่างที่คุ้นเคยในคนกลุ่มที่สอง - โรเบิร์ต
ลุคถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เห็นโรเบิร์ต ฝีมือของโรเบิร์ตเก่งจนน่ากลัวอย่างที่ลุคจินตนาการไว้จริงๆ
เสียงปืนระแวกนี้ค่อนข้างรุนแรงอย่างมาก ซึ่งทำให้ลุคเป็นห่วงโรเบิร์ตอย่างมาก แต่จากสิ่งที่ลุคได้เห็นตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าการห่วงโรเบิร์ตเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ โรเบิร์ตได้จัดการปิดฉากเหล่าคนร้ายไปแล้วจำนวนหนึ่ง
ลุคยังคงไม่ออกไปแสดงตัวและเขาเริ่มเคลื่อนที่ย้ายตำแหน่งในขณะที่ลุคเคลื่อนที่เขายังคงหมอบอยู่ในที่ซ่อนของเขา ลุคยืนพิงรถในสนามและสังเกตกลุ่มคนร้ายที่กำลังพยายามหลบหนีต่อไป
ในขณะที่พวกร้ายหนีด้วยความตื่นตระหนก เมื่อโรเบิร์ตยิงปืนออกไป จะต้องมีคนร้ายที่กำลังวิ่งหนีเหล่านั้นก็ล้มลงไปอย่างน้อยคนหนึ่ง
โรเบิร์ตยิงไปที่หลังของคนร้ายที่กำลังวิ่งหนีด้วยปืนไรเฟิล กระสุนพุ่งตรงผ่านร่างของคนร้าย ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ในที่ลำตัวของเขา
ลุคก็มั่นใจว่าคนร้ายคนนั้นตายอย่างแน่นอน
กลุ่มคนร้ายที่กำลังหลบหนีเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตอนนี้เหลือเพียงสี่คนเท่านั้น
พวกคนร้ายเริ่มวิ่งอย่างหนีบ้าคลั่ง บางคนถึงขั้นโยนปืนในมือของเขาทิ้งเลยทีเดียว
ซึ่งนั่นเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด
ในการเผชิญหน้ากับทหารผ่านศึกจากกองทัพอย่างโรเบิร์ตพวกเขาควรคิดถึงยอมแพ้ในการต่อสู้กลับ และควรคิดถึงการวิ่งหนีเพื่อรักษาชีวิตเป็นอย่างแรก และควรจะคิดว่าทำอย่างไรถึงจะวิ่งให้ได้ไวกว่าคนอื่น เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของโรเบิร์ตจะอยู่ที่ศัตรูที่ยังมีปืนอยู่แน่นอน
อีกสามคนที่เหลือยังคงพยายามยิงสวนกลับไปพร้อมๆ กับวิ่งหนีต่อไป
ลุคเอื้อมมือไปไปหยิบปืน Glock ที่เอวของเขา
ลุคยังคงหมอบอยู่กับพื้นในขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆ เพื่อหาตำแหน่งที่ดีที่สุด ในการจู่โจมกลุ่มคนร้ายที่กำลังเข้าวิ่งมาใกล้เขา
หลังจากนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามาใกล้ลุค
คนที่วิ่งอยู่นำหน้าที่สุดคือคนร้ายที่ทิ้งปืนออกไปก่อนหน้านี้ แทนที่จะยิงลุคกลับปล่อยให้เขาวิ่งผ่านไป
ไม่ถึงสองวินาทีต่อมาก็มีคนอีกสามคนปรากฏตัวในครรลองสายตาของลุค
ลุคสลัดความคิดพุ้งซ่านทั้งหมดทิ้งไปและพยายามนึกถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และเริ่มที่ยิงปืน
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง
หลังจากนั้นรูกระสุนพุ่งตรงไปที่คนร้ายคนละรูสองรู
มีคนร้ายสองคนที่อยู่ด้านหน้าสุดหยุดวิ่งและตัวโอนเอนไปมาก่อนที่จะทรุดตัวลงกับพื้น ส่วนคนที่สามเขาเซเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มวิ่งต่อไป
ลุคยิงอีกครั้งโดยไม่ลังเล
ปัง ปัง ลุคยิงสองนัดที่ด้านหลังของคนร้ายคนนั้นและในที่สุดก็ทำให้คนร้ายคนนั้นล้มลงกับพื้นเช่นกัน
จากนั้นลุคก็รีบวิ่งออกไปจากที่ซ่อนของเขาและขยับเข้าไปใกล้พวกคนร้าย เมื่อลุคมาถึงจุดที่มองเห็นพวกคนร้ายได้อย่างถนัดสายตา
ทั้งสามคนนอนกองอยู่บนพื้น คนสุดท้ายที่โดนยิงซ้ำกระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะล้มลงนิ่งสนิทตายอย่างเห็นได้ชัด
คนแรกยังคงส่งเสียงครวญครางและคลานไปบนพื้นอย่างช้าๆ
กระสุนทั้งสองนัดที่ลุกยิงโดน พุ่งเข้าที่แขนซ้ายและไหล่ขวาของเขา ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่คนร้ายที่อยู่หน้าสุดยังมีชีวิตอยู่ได้
ส่วนคนที่สองเขาโชคร้ายกว่าคนแรกเพราะกระสุนทั้งสองนัดเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา เขาตายทันทีที่ล้มลง
แววตาเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของลุคอีกครั้งขณะที่เขายืนอยู่เหนือคนร้ายที่กำลังคลานก่อนจะยกปืนขึ้นมาและยิงไปที่คนร้าย
ปัง
ใบหน้าของคนร้ายคนนั้นกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง ในระยะใกล้เช่นนี้ลุคเลือกที่จะยิงไปที่หัวของคนร้ายซึ่งลุคไม่กังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของเขาเลย
ปัง ปัง
ลุคจัดการยิงกระสุนเข้าที่หัวของคนร้ายอีกสองคนอย่างรวดเร็ว
ลุคต้องการที่จะทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีสมาชิกแก๊งคาร์ลอสคนใดก็ตามมีชีวิตรอดไปได้
ห่างไปไม่ไกลโรเบิร์ตตะโกนว่า“ใครอยู่ตรงนั้น”
ลุคตอบว่า“ ผมเอง ลุคคนร้ายทั้งสามคนตายแล้ว.
โรเบิร์ตคิดกับตัวเองว่า ‘... อะไรว่ะไอ้เด็กคนนี้มาที่นี่เพื่อขโมยเหยื่อของฉัน!’
หลังจากนั้นไม่นานพวกกลุ่มของโรเบิร์ตก็มารวมตัวกัน และโรเบิร์ตก็เริ่มให้คำสั่งใหม่ทันที
กองกำลังตำรวจนั่นมีหน้าที่ต่างจากเอฟบีไอ พวกกองกำลังตำรวจจะให้ความสำคัญไปที่ความปลอดภัยของพลเรือนเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นโรเบิร์ตจึงมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น
สำหรับเอฟบีไอนั้นพวกเขามีเป้าหมายที่ชัดเจน เนื่องจากพวกเอฟบีไอทุกคนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีพวกเขาจึงถูกส่งไปที่บ้านของเซลิน่าเพื่อช่วยพวกทีมที่อยู่ที่บ้านเซลิน่าในการกำจัดศัตรู
หลังจากตำรวจไปขับรถมาที่พวกเขารวมกลุ่มตามคำสั่งโรเบิร์ต เขาก็เรียกลุคขึ้นรถก่อนจะขับรถไปที่บ้านของเซลิน่าเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าความสามารถในการต่อสู้ของโรเบิร์ตและลุคน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ มาก
ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มพูดคุยกันทางวิทยุภายในรถ
“หัวหน้าโรเบิร์ตเก็บคนร้ายไปเก้าคนด้วยตัวคนเดียว พวกเราที่เหลือขนาดว่าช่วยกันแล้วยังฆ่าคนร้ายได้เพียงแค่สองคนและบาดเจ็บอีกห้าคนเอง แล้วพอลุคมาถึง เจ้าเด็กนั่นก็ฆ่าไปสามคน มีเพียงคนเดียวที่หนีรอดไปได้”
“เ_ดแม่! หัวหน้าโรเบิร์ตโหดสัส!”
“ พวกคุณคิดว่าโรเบิร์ตไปใช้ชีวิตในกองทัพมากี่ปี? ผมขอบอกพวกคุณทุกคนเลยว่าทั้งเก้าคนที่ถูกหัวหน้าโรเบิร์ตฆ่าตาย นั้นโดนเก็บด้วยกระสุนนัดเดียวทั้งนั้น หัวหน้าโรเบิร์ตแทบจะใช้กระสุนไม่เปลืองเลยกระสุนหนึ่งนัดเก็บหนึ่งชีวิต
“เฮ้ แต่ว่าคนร้าย 10 คนที่บ้านของบิลถูกเก็บไป พวกนายไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้บ้างเลยหรอ?”
“คุณหมายถึงจุดที่ที่ลุคและเซลิน่าซุ่มอยู่ใช่ไหม”
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจพูดคุยติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127