Ep.736 - เงินทุนมหาศาล

3/5

Ep.736 - เงินทุนมหาศาล

ณ เมืองเฟิงหลี ภายในวิลล่าของฉินเฟิง

“ท่านประธาน การโจมตีเมื่อกี้มันอะไรกัน? ทำไมถึงรุนแรงขนาดนั้น หรือว่ามีคนมุ่งเป้ามาที่กลุ่มเฟิงหลีของพวกเรา?” ซูซิงฝูสอบถามอย่างระมัดระวัง

ช่วงเวลานี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกประหม่า

ไม่ใช่แค่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะสิ่งที่ฉินเฟิงขอให้ซูซิงฝูจัดการ

เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากสังหารเขมือบฟ้า ภายในท้องของมัน มีอุปกรณ์รูนมิติอยู่เป็นจำนวนมาก และฉินเฟิงทิ้งทั้งหมดไว้ให้เขา

ยิ่งไปกว่านั้นคำขอของฉินเฟิงก็คือ ให้ขายพวกมันโดยเร็ว เปลี่ยนเป็นเงิน และทั้งหมดต้องเป็นในรูปแบบเหรียญพลังงาน!

เดิมซูซิงฝูไม่ได้คิดมากอะไร แต่คราวนี้จู่ๆพอถูกคนโจมตีอย่างกะทันหัน บวกกับเรื่องเงินเหรียญพลังงานล็อตใหญ่ เลยทำให้ซูซิงฝูเกิดความคิดว่า ฉินเฟิงได้ไปทำให้บุคคลสำคัญบางคนขุ่นเคืองใช่หรือไม่? และเรื่องคงร้ายแรงจนเขาแบกรับไม่ไหว จึงเกิดความคิดหลบซ่อนตัว

ถึงเวลานั้น กลุ่มใหญ่อย่างเฟิงหลี หรือทั้งรัฐทะเลเหนือ อาจตกลงสู่ความโกลาหลจริงๆ

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก นั่นคือฝีมือของตัวตนทรงอำนาจจากพันธมิตรวู้ดแลนด์ ก่อนกลับมา ผมเพิ่งสังหารหมู่คนจากองค์กรมืดของฝั่งพวกเขาไป”

ข่าวนี้คนอื่นคงไม่มีทางรู้ หากฉินเฟิงไม่เปิดเผยมันด้วยตัวเอง เกรงว่าผู้คนในหัวเซี่ย คงไม่มีใครทราบว่าฉินเฟิงได้กระทำบางสิ่งที่สั่นสะเทือนแผ่นดินไป

ฉินเฟิงสารภาพ จากนั้นหันเหหัวเรื่อง เอ่ยปากว่า “เงินทุนที่เก็บรวบรวมมาได้ก่อนหน้านี้ ไปถึงไหนแล้ว”

ซูซิงฝูรับฟัง พยายามสังเกตลักษณะท่าที  แต่ก็ไม่พบว่าฉินเฟิงมีความเครียดอะไร เมื่อครู่เขาพูดว่าพันธมิตรวู้ดแลนด์ใช่ไหม? มันตั้งอยู่ที่ไหนกัน? ซูซิงฝูไม่ทราบเกี่ยวกับมัน

แต่เอาไว้กลับไปค่อยเริ่มตรวจสอบก็ได้!

ซูซิงฝูคิดในใจ สักพักเรียกสติกลับคืน เพื่อบอกเล่าแก่ฉินเฟิงถึง ‘ผลงาน’ ล่าสุดของเขา

“ลูกพี่ เนื่องจากมีสินค้ามากเกินไป ฉันเลยไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่เริ่มกระจายสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ อันดับแรกทุ่มลงโฆษณาในเครือข่ายนักสู้ จากนั้น ก็เริ่มขายของผ่านเครือข่ายนักสู้โดยตรง โดยใช้เทคโนโลยีมิติของพวกเรา สร้างคลังสินค้าในเมืองใหญ่ และจัดส่งผ่านที่นั่น ส่งมอบถึงมือผู้ซื้อโดยตรง รวมไปถึงการประมูลโดยใช้เรือเหาะเป็นที่จัดงาน ในตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ มีสินค้าถูกประมูลไปนับไม่ถ้วน”

ซูซิงฝูรวบยอดแก่ฉินเฟิง แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยอดนี้คือเงินที่สามารถเรียกเก็บได้ถึงช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาเท่านั้น รายรับของวันนี้ยังไม่ปรากฏ

อย่างไรก็ตาม จำนวนของมันก็มากพอให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน อ้าปากจนกรามค้าง!

ตัวเลขชุดนี้ ถึงขั้นฉินเฟิงต้องใช้พลังสมาธิกวาดลงสแกนมัน เพื่อยืนยันว่าตนไม่มองผิดไป

“เพราะสินค้ามีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เราต้องเปลี่ยนเป็นเหรียญพลังงาน สุดท้ายพวกเราเลยนำเหรียญพลังงานไปแปรรูป และได้มาเท่านี้”

ซูซิงฝูมอบอุปกรณ์รูนมิติสามชิ้นแก่ฉินเฟิง มันคืออุปกรณ์รูนมิติที่มีลักษณะเหมือนแหวน แต่ข้างในมีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 100 เมตร ในบรรดาอุปกรณ์รูนมิติขนาดเล็ก มันคือแหวนที่ครอบครองพื้นที่มิติมากที่สุดที่เคยมีมา!

แหวนวงนี้ มีพื้นที่ประมาณ 100,000 ลูกบาศก์เมตร เรียกได้ว่าพื้นที่จัดเก็บกว้างขวาง แต่ในปัจจุบัน มันถูกยัดจนเต็ม ไม่มีช่องว่างแม้แต่นิดเดียว!

และแหวนอีกสองวงก็ไม่ต่างกัน

เมื่อนับรวมทั้งสามเข้าด้วยกัน เท่ากับว่าภายในบรรจุไว้ทั้งสิ้น 300,000 พลังงานลูกบาศ์ก์เมตร!

เจ้าสิ่งนี้มีค่าเท่าไหร่น่ะหรือ?

1 พลังงานลูกบาศก์เมตร เท่ากับ 1 ล้านเหรียญพลังงาน เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เทียบเท่ากับ 300,000 ล้านเหรียญพลังงาน

หากตีเป็นเงินธรรมดา แปลงเหรียญพลังงานในอัตราส่วน 1 : 10,000 จะเท่ากับว่า นี่เป็นเงินมากถึง 3,000 ล้านล้าน!

มันคือจำนวนมหาศาลจนน่าหวาดกลัว!

ต้องไม่ลืมนะว่ากระทั่งฉินเฟิงที่รับภารกิจต่างๆ ต่อให้เขาสามารถล่าหรือได้รับรางวัล มากสุดก็แค่อยู่ในหลักร้อยล้านล้านเท่านั้น แต่ในแหวนสามวงนี้กลับมีเงินหมุนเวียนอยู่มากถึง 3,000 ล้านล้าน เกรงว่ากระทั่งเลเวล A หลายคน ยังไม่เคยเห็นเงินมหาศาลขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

ในการสั่งสมเงินแต่ละปีของเลเวล B อย่างมากสุดก็แค่ 5 - 6 ล้านล้าน ในขณะที่เลเวล A มากสุดแค่หลัก 100 ล้านล้าน อย่างซางฮันเอง ยังมีอยู่หลายครั้งที่อารมณ์ไม่ดีเพราะฉินเฟิงมีรายได้มากกว่าตนเอง ฉะนั้นเม็ดเงินขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

หรือถ้าให้พูดก็คือ เม็ดเงินจำนวนนี้ หากมีข่าวหลุดออกไปว่ามันตกอยู่ในมือของใคร ทุกคนคงกลายเป็นคลุ้มคลั่ง!

ซูซิงฝูยามถือเงินก้อนนี้ ยังรู้สึกหวาดกลับจับใจ ตอนนี้พอได้ส่งต่อให้ฉินเฟิง เขาอดบังเกิดความรู้สึกโล่งอกขึ้นมาไม่ได้

ไม่นาน ฉินเฟิงก็มอบบางสิ่งบางอย่างให้แก่ซูซิงฝูบ้าง

“นี่คือสินสงครามที่ผมเพิ่งได้รับมาเมื่อเร็วๆนี้ รีบขายโล๊ะพวกมันออกให้หมด เหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เดียว คุณต้องเร่งมือแล้ว!” ฉินเฟิงกล่าว

ซูซิงฝูก้มลงมองอุปกรณ์รูนมิติที่เพิ่งได้รับมาใหม่ เริ่มเกิดอาการปวดหัว ต้องรู้นะว่า พนักงานของกลุ่มเฟิงหลีที่ตอนนี้ต้องมาคอยคัดแยกสมบัติที่ได้รับมาจากฉินเฟิง ปัจจุบันมีจำนวนมากถึงหลายพันคน แต่ละชิ้นหากถูกขโมยไป อาจสามารถพลิกชีวิต รวยในชั่วข้ามคืน เพียงแต่ไม่มีใครกล้าทำมัน!

“อีกแล้วหรือ? ทำไมกัน ท่านประธาน คุณกำลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่?” ซูซิงฝูแทบทนไม่ไหว

“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะเอาเงินที่ได้ไปเข้าร่วมประมูลน่ะครับ”

ซูซิงฝูผงะกับคำตอบนี้ สักพักคล้ายนึกอะไรบางอย่างออก ดวงตาเขาเปล่งประกายสว่างไสว กล่าวว่า “หรือจะเป็นคลับมังกรดำ!”

ฉินเฟิงพยักหน้ารับว่าใช่

ขณะนี้ ซูซิงฝูยกสองมือขึ้นมาถูๆ ตื่นเต้นจนตัวแทบลอย กล่าวอย่างกระตือรือร้น “ลูกพี่ ที่คุณเรียกฉันมาในวันนี้ …”

ฉินเฟิงเหลือบมองซูซิงฝู เอ่ยขัดทันที “เอาไว้รอให้ความแข็งแกร่งของคุณไปถึงเลเวล B แล้วผมจะพาคุณไปที่นั่น”

เสียงของซูซิงฝูขาดห้วงไป ด้านธุรกิจเขาทำผลงานได้ดีมากๆ แต่สำหรับด้านฝึกยุทธ เขาเหมาะไปทางสนับสนุน เพาะปลูกต้นกล้าใหม่ๆมากกว่าแทนที่จะโยนตัวเองลงไปฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง จริงอยู่ว่าช่วงที่ผ่านมาเขาพยายามอย่างหนัก และปัจจุบันได้ผลดีมาก แต่ถ้าให้ไปถึงเลเวล B หนทางยังอีกยาวไกล

“ก็ได้ ฉันเชื่อคำพูดของคุณ ตอนนี้ฉันยังแข็งแกร่งไม่พอ ยังไม่พอที่จะกล้าป่าวประกาศในโลกภายนอกว่าตัวเองมาจากกลุ่มเฟิงหลี ไม่มากพอที่จะให้ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง แต่เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันเชื่อว่าตัวเองจะสามารถไปได้ทุกที่”

ความแข็งแกร่งจะสั่งสมได้มากน้อยเท่าไหร่ มันขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว

จากนั้น ฉินเฟิงยังถามไถ่เกี่ยวกับกิจการของกลุ่ม แม้ซูซิงฝูจะมีความสามารถเป็นเลิศในด้านธุรกิจ แต่ฉินเฟิงมีความทรงจำก่อนกลับมาเกิดใหม่ ดังนั้นสามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ มอบแนวทางให้แก่ซูซิงฝูเก็บไปคิด แม้บอกแบบอ้อมๆ แต่ซูซิงฝูก็เข้าใจ นี่ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกชื่นชมในตัวอีกฝ่ายมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจซื้อขายในเครือข่ายนักสู้ ไม่ใช่ว่ากลุ่มหวั่นซ่งไม่เคยทำแบบนี้ แต่พวกเขาใช้สัตว์ร้ายนกพิราบในการขนส่งสินค้า มันยังคงมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง ทั้งยังไปได้ไม่ไกล

อย่างไรก็ตาม หากท่านซื้อขายออนไลน์ในเครือข่ายนักสู้ตอนนี้ ทางเฟิงหลีสามารถใช้เรือเหาะจั๊มป์ผ่านมิติไปจัดส่งให้ได้ทันที ไม่ต้องกล่าวถึงว่ามันเร็วขนาดไหน!

“อา เท้าข้างหนึ่งเพิ่งไปเตะตัดขากลุ่มซ่งเฉิงมา ผมไม่นึกเลย ว่าตอนนี้เท้าอีกข้างของพวกเราจะไปเตะตัดขากลุ่มหวันซ่ง!” ฉินเฟิงยิ้มขมและส่ายหัว บางครั้ง การก้าวหน้าเร็วเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเช่นกัน

“ท่านประธาน ถ้างั้นพวกเรา … คุณต้องการให้หยุดไหม บอกตามตรง สิ่งที่พวกเรานำไปขาย ล้วนได้มาจากอุปกรณ์รูนมิติที่คุณมอบให้ ต่อให้พวกเราถอนตัว อย่างมากแค่ไม่ได้กำไร แต่ถ้ายังอยู่ต่อ กลุ่มหวันซ่งอาจถึงขั้นขาดทุน และนั่นยังเป็นการทำให้เพื่อนร่วมธุรกิจรู้สึกขุ่นเคือง” อย่างตอนนี้ผู้จัดการของกลุ่มหวันซ่งที่ย้ายมาจากสถานชุมชนเฟิงหลีในตอนแรก กำลังปวดหัวเจียนจะเป็นลมแล้ว

ฉินเฟิงขมวดคิ้วครุ่นคิด รู้กันหรือไม่ ว่าประธานของกลุ่มหวันซ่ง ไม่ใช่แบบเดียวกับกลุ่มซ่งเฉิง หัวหน้าของพวกเขาคือเลเวล S ของจริง!

เมื่อลองทบทวนดูสักพัก คิ้วก็เริ่มคลายจากกัน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ส่งข้อความหาพวกเขา ถามพวกเขาว่าจะรับสินค้าของพวกเรารึเปล่า ถ้ารับ พวกเราก็จะขายให้ตามราคาคลัง!”

สินค้าที่ซูซิงฝูขาย เขาลดราคามันลงจากราคาตลาดหลายส่วน ซึ่งราคาจริงๆก็ประมาณเดียวกับราคาคลัง ถ้าอีกฝ่ายรับซื้อ นั่นเท่ากับ วิน-วินทั้งสองฝ่าย!