Ep.735 - ปากที่สามารถกลืนโลกทั้งใบ

2/5

Ep.735 - ปากที่สามารถกลืนโลกทั้งใบ

ไม่ใช่ว่าฉินเฟิงไม่ต้องการตอบแทน  แต่ปัญหาคือต้องใช้สิ่งใดชดใช้หนี้นี้ อย่างน้อยมันต้องเป็นของที่เขาสามารถจ่ายได้ ประเด็นสำคัญก็คือ แซดอันตรายเกินไป ดังนั้นสิ่งที่เขาเรียกร้อง อาจเป็นสิ่งที่ฉินเฟิงไม่สามารถยอมรับได้

“คราวก่อนที่ฉันได้ต้นไม้เพลิงจากนาย มันช่วยให้ฉันค้นคว้าสิ่งใหม่ๆได้มากมาย เปอร์เซ็นในการปลุกพลังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก นายเหมาะจะเป็นหนูทดลองมันสุดๆ!”

“ถ้าเรื่องนั้นเลิกหวังได้เลย”

สีหน้าของฉินเฟิงแสดงออกถึงความรังเกียจอย่างถึงที่สุด ในปากของแซด ไม่มีคำพูดอะไรดีๆแล้วหรือไร?

แซดปิดปากลง แต่สีหน้าสงบไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวต่อว่า “ถ้าอย่างงั้น มอบเลือดสักนิดสักหน่อยของนายให้ฉัน จะได้เอาไปโคลนร่าง!”

ฉินเฟิงหัวเราะเย็นชา “คุณคิดว่าร่างโคลนที่สร้างขึ้น จะมีความแข็งแกร่งเหมือนกับฉันหรือ? พวกเขาจะสามารถทนต่อยาของคุณได้รึไง? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า อะไรทำให้คุณคิด ว่าฉันจะมอบของสำคัญขนาดนั้นให้!”

หากเป็นคนธรรมดา การโคลนร่างถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!

แต่หลังจากได้รับการปลุกพลังอบิลิตี้หรือวรยุทธโบราณแล้ว เซลล์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีทางใช้วิธีธรรมดาในการโคลน แต่ต่อให้ถูกโคลนสำเร็จ ก็ไม่มีจิตวิญญาณอยู่ดี เพราะการดำรงอยู่ของผู้ใช้พลัง จำเป็นต้องอาศัยพลังสมาธิ (พลังที่เกิดจากจิตสำนึก)

สิ่งที่แซดต้องการจึงไม่ใช่เลือดของฉินเฟิง หากแต่เป็นพลังสมาธิของฉินเฟิงต่างหาก

“นี่ก็ไม่ดี นั่นก็ไม่ได้ นายมันไม่มีความจริงใจเลย!” แซดส่งเสียงฮึ่มๆด้วยความไม่พอใจ

“คุณต้องพูดอะไรที่ฉันสามารถทำให้ได้ อ๊ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่า ไอ้พวกเรื่องที่เกี่ยวกับร่างกายฉัน อย่าแม้แต่จะคิด!”

แซดพยักหน้า และกล่าวว่า “งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน ในเมื่อตอนนั้น ความแข็งแกร่งของนายสามารถต่อกรกับต้นไม้เพลิงระดับจักรพรรดิเลเวล B ได้ ฉะนั้นด้วยพลังของนายในตอนนี้ นายย่อมสามารถสู้กับเลเวล A ได้แน่นอน ข้อเสนอของฉันก็คือ นายต้องไปรวบรวม 10 แก่นจักรพรรดิต้นไม้เพลิงเลเวล A มาให้ฉัน!”

ดวงตาของฉินเฟิงเบิกกว้าง นี่แซดจะปากใหญ่เกินไปแล้ว คำขอของเขาไม่ต่างจากกลืนโลกทั้งใบเลย!

“อ๊ะๆๆ ถ้านายพูดว่าเรื่องนี้ก็ทำไม่ได้ งั้นฉันก็มีตัวเลือกเป็นแก่นจักรพรรดิเลเวล B ของต้นไม้เพลิง 100 ชิ้นให้เหมือนกัน”

การแสดงออกทางสีหน้าของฉินเฟิงในเวลานี้กลายเป็นยิ้มเยาะ

แก่นต้นไม้เพลิง 100 ชิ้น นั่นไม่เท่ากับให้ฉินเฟิงไปไล่สังหารต้นไม้เพลิงทั้งมิติลาวาเดือดหรอกหรือ?

“ไม่ต้องกังวล ฉันจะใช้พวกมันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อันที่จริง เจ้าของพวกนี้มันมีมูลค่าแค่ 500 ล้านล้านเท่านั้นเอง เลเวล S ยอมออกหน้าลงมือช่วยชีวิตแลกกับแค่ 500 ล้านล้าน นี่ไม่คู่ควรหรือ?”

ฉินเฟิงยิ้มหยันและกล่าว “ฉันว่าทำแบบนั้นมันจะเป็นการสูญเสียร้ายแรงเกินไป ให้ได้แค่ 10 เท่านั้น!”

“ไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดต้อง 90 ชิ้น!”

“20 ชิ้น!”

“80 ชิ้น!”

“คุณคิดว่าเจ้าพวกนั้นเป็นกำหล่ำปลี อยากได้ก็ไปเด็ดจากสวนรึไง? ฉันให้ได้มากที่สุด 30 ชิ้น!”

“ให้ต่ำสุดแค่ 70 ชิ้น! นอกเหนือจากนั้นนายสามารถใช้แก่นต้นไม้เพลิงเลเวล A มาชดเชยได้”

กล่าวว่าต่ำสุด แต่ทั้งสองยังคงโต้เถียงกัน ฉินเฟิงไม่ต้องการสูญเสียมากเกินไป ในที่สุดก็ยื่นข้อเสนอ 40 ชิ้น ครั้งนี้เขาเอ่ยน้ำเสียงเด็ดขาด ไม่ยอมปล่อยไปมากกว่านี้อีกแล้ว

เพราะแค่ตอนนี้ แก่นอบิลิตี้ระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B ที่ต้องรวบรวม มีมูลค่าโดยรวมสูงถึง 200 ล้านล้าน!

แน่นอน ในความคิดของฉินเฟิง ทุกสิ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเงิน!

แต่สำหรับเรื่องนี้ มันยากมากๆ

เพราะจนถึงตอนนี้ เลเวล B ส่วนใหญ่ล้วนเคยเข้าไปในมิติลาวาเดือดแล้ว แต่คนที่สามารถล่าต้นไม้เพลิงได้แทบไม่มี จะล่าได้ก็ในกรณีต้นไม้เพลิงเลเวล C ซึ่งยังไม่โตเต็มที่เท่านั้น

ดังนั้นเรื่องนี้ ฉินเฟิงคงได้แต่ลงมือด้วยตัวเอง แต่ปัจจุบันเขายังไม่ว่าง

“ฉันมีอย่างอื่นที่ต้องทำในเร็วๆนี้ รอให้ฉันเสร็จธุระที่นั่น แล้วจะไปเอามาให้!”

“ตกลง การทดลองของฉันสามารถรอได้อีกเป็นเวลาหนึ่งเดือน ภายในหนึ่งเดือน หวังว่าฉันจะได้รับของตอบแทนน้ำใจจากนาย!”

ฉินเฟิงกล่าว “นี่ล้อกันเล่น? คุณคิดว่าสัตว์ร้ายที่กำลังรอฉันอยู่มันคือตัวอะไร? ให้เวลาแค่หนึ่งเดือน? หนึ่งเดือนใครมันจะไปทำได้!”

“ไม่รู้ล่ะ ฉันยอมรับได้แค่ในระยะเวลาเดือนเดียวเท่านั้น!”

ฉินเฟิงต่อรอง “แก่นอบิลิตี้ล็อตแรกในข้อตกลง จะถูกส่งมอบให้ในอีกสองเดือน!”

“นายคิดว่าพวกเรากำลังต่อราคากันอยู่หรอ? นั่นมันนานเกินไป ฉันรอไม่ไหว” พูดถึงจุดนี้ แซดเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก กล่าวว่า “แต่ฉันได้ยินมาว่านายเคยไปทะเลตะวันออกมาก่อน แล้วฆ่าสัตว์ร้ายที่ชื่อเขมือบฟ้าได้ นายยังมีเลือดเนื้อของมันอยู่ใช่ไหม? งั้นเอามันมาให้ฉัน แล้วฉันจะยอมรับข้อตกลงสองเดือน!”

ใบหน้าของฉินเฟิงกลายเป็นเขียวคล้ำ

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงสามารถสังเกตได้ ว่าแซดตัดสินใจแน่วแน่แล้ว

“ตกลง!” ฉินเฟิงกัดฟันเปล่งประโยคนี้ พร้อมสาบาในใจ ว่าในอนาคตเขาจะต้องทุบตีแซดอย่างหนักให้จงได้

จากนั้น แม้จะไม่พอใจ แต่ฉินเฟิงยังคงเพิ่มหมายเลขสื่อสารของแซด นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเฟิงได้รับหมายเลขของผู้ใช้พลังเลเวล S แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ มันดันเป็นหมายเลขศัตรูของเขา!

“เรียบร้อย จบเรื่องแล้วใช่ไหม? ทีนี้คุณไปได้รึยัง?” ฉินเฟิงมอบเลือดเนื้อบางส่วนของเขมือบฟ้าให้แซด อยากให้อีกฝ่ายจากไปซะเดี๋ยวนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่า โอเค โอเค ไม่ต้องไล่ฉันก็ได้ แต่งานวิจัยของฉันในตอนนี้ กำลังคืบหน้าไปอย่างก้าวกระโดด นายลองเก็บไปคิดดู ถ้าสนใจสามารถมาหาฉันได้ตลอดเวลา!” แซดทิ้งคำพูดไว้ก่อนจะจากไป

ใบหน้าของฉินเฟิงดูน่าเกลียดยิ่ง แซดกล่าวได้ถูกต้อง เพราะในความทรงจำของฉินเฟิง ไม่กี่ปีจากนี้ ร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ จะมีจำนวนมากขึ้น และอาละวาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆฉินเฟิงไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเพราะฉินเฟิงได้สร้างทางเข้ามิติลาวาเดือด ผลลัพธ์จากมัน ทำให้ตัวเขาต้องจัดหาวัตถุดิบให้แซด

เมื่อเผชิญหน้ากับแซด ฉินเฟิงทำได้เพียงเออออ แม้ภายนอกตอบตกลง แต่นั่นเพราะเขาไม่ต้องการให้แซดแตะต้องตนเอง เนื่องจากตัวเขาในตอนนี้ ยังไม่แกร่งพอที่จะสู้กับแซด!

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น่าอึดอัดในตอนนี้ จะดำเนินต่อไปอีกไม่นานหรอก!

“เจ้าผู้ชายน่าตายนั่น เห็นๆกันอยู่ว่าเขาแกร่งพอที่จะทำมันเอง ทำไมต้องมาใช้พวกเราด้วย!” ไป๋หลีบ่นไม่พอใจ

ฉินเฟิงถอนหายใจและกล่าว “นี่เป็นเรื่องปกติ จริงอยู่ที่เขาแข็งแกร่งและคงสามารถจัดการเรื่องราวในมิติลาวาเดือดได้อย่างง่ายดาย แต่ฉันเชื่อว่าที่เขาอยู่แถวๆเมืองลาวาเดือดจนถึงตอนนี้ น่าจะเป็นเพราะมิติลาวาเดือดนั่นแหละ”

มิติลาวาเดือดมีอาณาเขตกว้างขวาง แต่การดำรงอยู่ของต้นไม้เพลิง มีไม่มากนัก จำเป็นต้องใช้เวลาสำรวจค่อนข้างนานเพื่อค้นหา

“สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล S เรื่องพวกนี้มีแต่ทำให้เขาเสียเวลา ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าหากยื่นมือช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ แล้วโยนภาระนี้ให้คนอื่นทำ!”

ด้วยเหตุนี้เองแซดจึงออกหน้า ข่มขวัญตาปีศาจจนหวาดกลัว

แต่เรื่องทั้งหมดนี้ ฉินเฟิงเพิ่งมาคิดได้หลังจากได้ยินข้อเสนอให้ล่าสัตว์ร้ายของแซด!

“มันจะเป็นการดีกว่าหากเราไม่เป็นหนี้เขา ไม่อย่างนั้น ในอนาคตพวกเราจะเอาชนะเขาได้อย่างไร?” ฉินเฟิงกล่าว

“ก็ว่าอย่างนั้นแหละ เหมือนที่มนุษย์อย่างพวกคุณพูดกัน ‘ไม่มีศัตรูชั่วนิรันดร์ มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้นที่คงอยู่ตลอดกาล!’ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณยังปล่อยวางความแค้นไม่ลง”

ฉินเฟิงลูบหัวน้อยๆของไป๋หลีและกล่าว “เมื่อฉันก้าวไปยืนอยู่ในความแข็งแกร่งระดับเดียวกับเขา ฉันจะพูดคุยกับเขาถึงเรื่องผลประโยชน์เอง แต่ตอนนี้ ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะเจรจาเงื่อนไขนั่น!”

ไป๋หลีครุ่นคิดตาม สุดท้ายผงกศีรษะ “ฉันพอเข้าใจแล้ว”

หากฉินเฟิงคิดร่วมมือกับแซด ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาหากอยากไปอยู่ภายใต้ความเมตตาของแซด แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าเขารักษาสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้เอาไว้

ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครอยากเสียเวลา ก่อนจากไป แซดวางเงื่อนไขไว้ ที่เหลือก็แค่รอให้ฉินเฟิงไปล่าต้นไม้เพลิง แล้วตอบแทนบุญคุณ

อย่างไรก็ตาม ในหัวฉินเฟิงไม่ได้สนใจถึงเรื่องนี้เลย

ปัจจุบัน เขาเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ติดต่อหาซูซิงฝู

“รบกวนมารายงานตัวกับผมหน่อย ผมกำลังจะออกไปแล้ว อยากฝากคำสั่งทิ้งไว้”