ตอนที่ 4 เควสลับ (อ่านฟรี)
ตอนที่ 4 เควสลับ
หยวนยังคงเล่นกับเสี่ยวฮัวตลอดทั้งคืนโดยไม่สนใจโลกภายนอก ในขณะเดียวกันผู้เล่นคนอื่นๆกำลังพยายามสุดตัวกับการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
ผู้เล่นยังคงเสพติดความแข็งแกร่งและพลังที่เขาได้รับซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ด้วยการทุบหิน ปล่อยหมัด แม้กระทั่งกระโดดไกล มันทำให้พวกเขารู้สึกดี ที่ทำเช่นนี้ เนื่องจากชีวิตจริงนั้นไม่สามารถทำได้
ไม่ต่างจากหยวนที่เป็นคนพิการและตาบอดในโลกแห่งความเป็นจริง หยวนไม่คิดจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำอะไรแบบนั้น เค้ายังคงเล่นกับเสี่ยวฮัวต่อเพราะมันให้ความรู้สึกว่าเขาได้เล่นกับน้องสาวของเค้า
“เสี่ยวฮัวเธอสบายดีไหม นี่เราเล่นกันจนดึกแล้วนะถ้าไม่รีบกลับพ่อแม่จะเป็นห่วงเอาได้นะ”หยวนถามหลังสังเกตุเห็นว่าเธอเล่นกับเขามาทั้งวันแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวฮัวมักจะออกมาเล่นคนเดียวแบบนี้อยู่ตลอดแหละพวกเขาคงชินแล้วล่ะ”
“.......” ความสงสารของเค้าที่มีต่อเธอเพิ่มขึ้นทุกนาทีที่เขาใช้เวลาร่วมกับเธอ “เอาล่ะเสี่ยวฮัวพวกเราพักกันก่อนดีกว่าเดี๋ยวพี่ชายจะเล่าเรื่องเพิ่มเติมให้เธอฟัง”
“เล่าเรื่องหรอ?” ดวงตาของเธอเริ่มสั่นไหวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเมื่อได้ยินถ้อยคำแสนวิเศษเธอเดินไปนั่งที่ต้นไม้ที่เดิม
หยวนเดินตามเธอมานั่งข้างๆ “เรื่องราวที่พี่จะเล่าให้ฟังในวันนี้เป็นเทพนิยายจากบ้านเกิดของพี่เอง”
“เทพนิยายหรอเทพนิยายนี้เหมือนกับตำนานไหม”
“อืม... ก็อาจจะใช่นะเทพนิยายเป็นเรื่องสั้นสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงมากกว่า” หยวนพูด “เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
หยวนเริ่มเล่านิทานพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงให้กับเธอฟังเป็นนิทานที่เขา เคยได้ยินเมื่อยังเด็กเช่นเรื่องเจ้าหญิงที่ตื่นขึ้นเพราะจุมพิตจากเจ้าชายเรื่องนางเงือกในมหาสมุทรและโจรสลัดที่ต่อสู้ในทะเล
“คนพวกนี้... พวกเขาทั้งหมดเป็นมนุษย์หรือเปล่า”จู่ๆเธอก็ถามเขา
“ที่ฉันรู้มานานะก็ใช่แหละ”
“นี่ไม่เหมือนกับเรื่องราวสัตว์ในตำนานที่ปกครองโลกหรือสัตว์อมตะที่ยึดครองสวรรค์ที่เคยได้ยินมาแต่นี่ก็สนุกใช่ย่อยนะ”เธอไม่รู้ว่ามนุษย์จะสนุกสนานขนาดนี้แม้ว่าจะเป็นจุดสำคัญของเรื่องราวนี้ก็ตาม
“มีเรื่องอื่นอีกไหม”เธอถาม
“น่าเสียดายทั้งหมดที่จำได้ก็มีเท่านี้แต่เดี๋ยวพี่ชายจะหามาเล่าใหม่นะ”
“นั่นเป็นสัญญาใช่ไหม”
“ใช่มันเป็นสัญญา”หยวนยิ้ม
“แม้รู้ว่าพี่หยวนจะเรียนรู้เทคนิคนี้ไปแล้ว แต่พี่ก็ยังไม่เชี่ยวชาญมันอย่างเต็มที่อย่างไรก็ตามด้วยทักษะการเข้าใจที่ทรงพลังของเสี่ยวฮัวเชื่อว่าพี่หยวนจะเชี่ยวชาญในเวลาไม่ช้า” หลังจากนั้นเธอก็เริ่มอ่านหนังสือต่อ
อย่างไรก็ตามครั้งนี้หยวนสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ตั้งแต่เริ่มต้น. ราวกลับได้ฟังเรื่องราวที่มีเนื้อเรื่องที่ลึกลงไปอย่างรวดเร็วในขณะที่ดำเนินไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
เสี่ยวฮัวใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการอ่านหนังสือที่มีความหนาเพียง 12 หน้าเมื่อเธออ่านเสร็จเธอก็มองไปที่หยวนเพื่อดูอาการของเค้าหยวนนั่งนิ่งกำลังหลับตาและมีใบหน้าที่สงบราวกับตกอยู่ในภวังค์
“พี่หยวนเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง” เธอพึมพำกับตนเองเธอเคยทำเช่นนี้ให้กับผู้อื่นพวกนั้นต้องใช้เวลาหลายปีในการจะเรียนรู้แต่หยวนใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเธอได้แต่จ้องเขาด้วยความแปลกใจ “พี่เป็นใครกันแน่?”
<การเรียนรู้ศิลปะลับแห่งสวรรค์เพิ่มขึ้นอย่างมาก>
<ศิลปะลับแห่งสวรรค์เพิ่มอันดับขึ้น( 1–> 2) >
<คุณได้เรียนรู้ศิลปะลับแห่งสวรรค์. เฮเว่นสปริตติ้งซอร์ดสไตร์ (ดาบแยกสวรรค์)>
……………………
<ศิลปะลับแห่งสวรรค์ลำดับที่ 2 : ดาบแยกสวรรค์>
<อันดับ : พระเจ้า >
<ระดับความเชี่ยวชาญ : 1>
<รายละเอียด : ใช้ 10,000 ฉีและควงดาบเพื่อเปิดใช้งานสร้างเสาแห่งแสงที่จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางมัน>
……………
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นว่าเสี่ยวฮัวกำลังหนุนตักของเขาและท้องฟ้ายามค่ำคืนก็ผ่านไปนานแล้วพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า
“มันเช้าแล้วหรอ?” เขาสงสัยว่าตัวเองตกอยู่ในภาวะงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว
“โอ้... ตื่นแล้วหรอพี่หยวน” เสี่ยวฮัวขยี้ตาแล้วลุกขึ้นนั่ง“พี่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ใหม่ระหว่างการทำสมาธิงั้นหรอ”
“ได้สิพี่เข้าถึงศิลปะลับแห่งสวรรค์คันที่สองและได้เรียนรู้การใช้งานการใช้ดาบแยกสวรรค์”
เสี่ยวฮัวมองได้ดวงตาเบิกกว้างกว่าปกติเล็กน้อยดูเหมือนเต็มไปด้วยความแปลกใจ “เก่งมากพี่หยวน”
“แต่พี่ยังใช้มันไม่ได้หรอกพี่ต้องฝึกฝนกว่านี้” เสี่ยวฮัวยกนิ้วให้
“ใช่แล้วมันบอกว่าต้องการ 10,000 ฉี่เพื่อเปิดใช้งานแล้วมันเป็นฉี่แบบเดียวกันกับที่พี่ฝึกฝนเมื่อวานไหม”
“ถูกต้อง”เธอพยักหน้า
“มันบอกว่าพี่มี 5,010/10,000 ฉี ในตอนนี้ถ้าพี่ฝึกฝนจนเต็มแล้วพี่ใช้ท่านี้เท่ากับว่าฉีทั้งหมดของพี่ก็จะหมดไปแล้วทำยังไงฉีพี่ถึงจะกลับคืนมาล่ะ”
“ฉีที่หมดลงของพี่จะฟื้นตัวตามธรรมชาติจนกว่ามันจะเต็มดังนั้นพี่ไม่ต้องฝึกฝนทุกครั้งที่ใช้เทคนิค อย่างไรก็ตามการฟื้นพลังของชีวิตตามธรรมชาตินั้นจะต้องใช้เวลาและมันจะทำให้การฝึกฝนของพี่ช้าลงนั่นคือเหตุผลที่ผู้ฝึกฝนไม่ใช้พลังฉีอย่างไรจดหมาย”. เสี่ยวฮัวอธิบายให้เค้าฟังราวกับว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญ “นอกจากนี้หากพลังฉีของพี่ลดลงต่ำกว่าจุดหนึ่งที่ร่างกายรับไหว นั่นอาจทำให้พี่ถึงกับหมดสติเลยก็เป็นได้”
ไม่ต่างจากเกมอื่นๆเกมนี้ต้องฝึกฝนเพื่อให้ฉีสูงสุดเพิ่มขึ้นแต่เมื่อใช้เทคนิคจนฉีลดลงใช้เวลาไม่นานฉีก็จากค่อยค่อยเพิ่มขึ้นจนกลับมาเท่าเดิม
“ขอบคุณมากเสี่ยวฮัวถ้าไม่ได้เธอพี่คงแย่”
“พี่หยวนต้องแสดงความกตัญอยู่ด้วยการกระทำไม่ใช่คำพูด”เธอจับมือเขามาวางบนหัวตัวเองทำให้เขาหัวเราะ
“ได้สิขอบคุณมาก...” เขาพูดพลางลูบหัวเธอ
หลังจากนั้นหยวนก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ถึงเวลาที่พี่จะต้องเดินทางอีกครั้งแล้วพี่จะกลับมาใหม่นะ”
ครั้งนี้เสี่ยวฮัวไม่ได้หยุดเขาและพยักหน้า“ลาก่อนพี่หวานแล้วกลับมาเล่นกับเสี่ยวฮัวใหม่นะใช้สิ่งนี้เพื่อเรียกเสี่ยวฮัวนะ”เธอถอดสร้อยที่อยู่ที่คอแล้วยื่นให้เขา
หยวนรับสร้อยมาโดยไม่คิดมาก “งั้นไว้เจอกันใหม่นะ” เค้าบอกลาเธอ ก่อนจะหายไปราวกับภูตผีกลางแสงแดด
หลังจากหยวนจากไปเสี่ยวฮัวก็จ้องไป. ที่เขายืนอยู่ก่อนหน้าด้วยความงุนงง “ขอบคุณที่เล่นกับเสี่ยวฮัว...”
ท่านใดนั้นร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นและร่างกายของเธอก็แปลงแสงสวยงาม“สนุกมากจริงๆ”ร่างกายของเธอค่อยค่อยแตกสลายเป็นแสงเล็กๆใครคล้ายหิงห้อยก่อนจะลอยเข้าหากลุ่มเมฆและหายไป
<ยินดีด้วย! ผู้เล่นหยวนได้ทำภารกิจลับสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก!>
“พี่หยวน......”. และข้ามคืนก็จบลงด้วยเสียงวันหวานของเด็กเล็กและดวงดาวเต็มท้องฟ้า