ตอนที่ 2 เเขกไร้มารยาท
ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้บริษัทวิจัยใจเหี้ยมนั่น! ทั้งๆที่พ่อเเละเเม่ของเขาสละชีวิตให้เเก่งานวิจัยของพวกมัน เเต่พวกมันกลับตอบเเทนครอบครัวของลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ด้วยเงินเพียง 5 ล้านดอลล์ล่าเเละคำพูดพล่อยที่ว่า
“เรือซีเบิร์ดถูกพายุพัดถล่ม..ลูกเรือทั้งหมดหายสาปสูญ!!”
เเค่นั้นทั้งๆทีี่ไม่พบศพใครเเม้เเต่คนเดียวเเท้ๆ…จากนั้นไม่นานบริษัทก็ชิงปิดตัวลง
จนถึงตอนนี้มีคำถามหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของเขา
เกิดอะไรขึ้นในปีนั้นกันเเน่?
ทะเลดูเป็นสีฟ้า และคลื่นซัดสาดอย่างไม่ลดละราวกับว่าต้องการปกปิดอดีต..
บางครั้งกู้จวินก็สงสัยว่าพ่อแม่ของเขาตายไปแล้วจริงๆเหรอ? บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้ตายเพราะเรืออับปาง แต่อาศัยอยู่บนเกาะร้างและรอการช่วยเหลือ?
หรือบางที…เรือจมลงสู่พื้นทะเลในบริเวณนี้?
เพื่อจุดประสงค์เดียวในการค้นหาความจริง ด้วยเหตุนี้เขาจึงจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับทัวร์ดำน้ำลึกนี้ ด้วยฐานะนักท่องเที่ยวชั้นวีไอพีคนหนึ่งเขาจึงสามารถขึ้นเรือดำน้ำที่สามารถดำลงไปในทะเลลึกได้ถึง 2,000 เมตรและสังเกตเห็นแถบภูเขาไฟผ่านหน้าต่าง นี่ไม่ใช่สิทธิประโยชน์ที่มาพร้อมกับตั๋วมาตรฐาน แต่เป็นข้อเสนอพิเศษสำหรับคนรวยเท่านั้น นั่นเป็นเพราะการดำน้ำเพียงครั้งเดียวทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมากมาย
ขณะที่เขาอยู่ห่างจากบันไดเรือประมาณสิบก้าว กู้จวินสังเกตเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวสามคนนอกเหนือไปจากลูกเรืออื่นๆ เช่นกัปตัน นักท่องเที่ยวเหล่านั้นเป็นชายสองคนและหญิงหนึ่งคน
“เรียนท่านผู้ชมที่รัก ขณะนี้พวกเรากำลังอยู่ในเขตภูเขาไฟหลงกานซีฟลอร์ในตำนาน!” ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะอายุยี่สิบต้น ๆ เขากำลังถือโทรศัพท์มือถือและดูเหมือนกำลังจะไลฟ์สตรีมสด เขาสวมเสื้อฮาวายลายดอกไม้และมีทรงผมฟูฟ่องราวกับจะเเต่งตัวเป็นเร็กเก้
กู้จวินได้ยินชายคนนั้นพูดกับโทรศัพท์มือถือของเขา ด้วยการดัดเสียงให้ฟังดูน่ากลัวว่า “ชนเผ่าพื้นเมืองในท้องถิ่นเรียกมันว่า ‘ฮัมกานะบะ’ ซึ่งแปลว่า ‘ปีศาจเเห่งขุมนรก’”
ชายอีกคนอายุมากกว่าเขานิดหน่อย เขาเป็นชายที่มีรูปร่างแข็งแรงสูงโย่งและมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ที่เห็นกล้ามเขาก็เพราะว่าเขานั้นใส่เสื้อกั๊กรัดรูปเเบบไม่เต็มตัว จึงช่วยไม่ได้ที่กล้ามของเขาจะเผยโฉมสู่สาธารณชน แขนสองข้างของเขาเหมือนไม้ซุงที่เเข็งเเรงเเละทนทาน เขารอมาพักใหญ่จึงตัดสินใจถามกัปตันอย่างไม่อดทนว่า“จะใช้เวลานานแค่ไหน?”
ผู้หญิงคนเดียวในหมู่พวกเขานั้นดูอายุน้อยที่สุด ดูเหมือนเธอจะอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งและใบหน้าที่สวยงาม เธอสวมเสื้อโค้ทและกางเกงขาสั้นที่มีสไตล์ทะมัดทะเเมงสีเขียวขี้ม้า ขาคู่ยาวของเธอเรียวยาวดูเหมือนตะเกียบคู่หนึ่งและสะดุดตากู้จวินมาก เธอมีรอยสักขนาดใหญ่ที่ต้นขาซ้ายล่างและยากที่จะแยกความแตกต่างว่ามันเป็นของจริงหรือเป็นเพียงสติกเกอร์รอยสัก
เธอเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นการมาถึงของกู้จวิน แต่สายตาของเธอยังคงเย็นชาและเย่อหยิ่งทำตัวไม่สนโลก เธอจับอาวุธเรียวยาวในมืออย่างช่ำชองราวกับจะข่มขู่ใครก็ตามที่กล้าเข้าใกล้เธอ
“คืออย่างนี้ แต่เดิมการดำน้ำครั้งนี้ถูกจองไว้โดยแขกท่านอื่นก่อน…” กัปตันคนเก่าอธิบายอย่างเชื่องช้าและก็อุทานขึ้นมา“อ๊ะ คุณกู้ คุณมาถึงเร็วขนาดนี้เลยเหรอ!?”
กัปตันส่งสัญญาณให้พนักงานเสิร์ฟออกไป จากนั้นกู้จวินก็เดินไปข้างหน้าภายใต้การจ้องมองของทุกคน
กัปตันเมื่อเห็นมาทุกคนมาพร้อมกันเเล้วก็เริ่มการเเนะนำตัว ชายที่เเต่งตัวเหมือนเร้กเก้มีชื่อว่า [หลี่เยี่ยรุ่ย] ในขณะที่ผู้ชายที่มีกล้ามมีชื่อว่า [อู่ต้ง] เเละคนสุดท้ายคือหญิงสาวที่สวมเครื่องแบบทหาร เธอคือ [หลินเสี่ยวถัง] พวกเขาเป็น“วีไอพีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด” บนเรือสำราญ กัปตันบอกด้วยสายตาว่าพวกเขาเป็น[สัตว์ที่ทรงพลัง]ที่ใครก็ไม่สามารถตำหนิหรือโกรธเคืองได้
ในตอนแรกทั้งสามคน มองหาเรือที่จะเช่าได้เร็วที่สุดเพื่อไปเล่นสนุกสนานในมหาสมุทรใกล้ ๆ แต่เรือดำน้ำลำนี้กลับดึงดูดความสนใจของพวกเขาเสียก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงขอเข้าร่วมการสำรวจดำน้ำลึกด้วย เรือดำน้ำมีทั้งหมดเจ็ดที่นั่ง ผู้ปฏิบัติงานสองคนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนึ่งคน..รวมเเล้วใช้ทั้งหมดสามช่อง และเหลือเพียงสี่ช่อง กู้จวินจองช่องที่เหลือทั้งหมด…..
เนื่องจากเรือดำน้ำจำเป็นต้องทำการตรวจสอบความปลอดภัยต่างๆหลังจากการดำน้ำทำให้แต่ละครั้งต้องทำตามแผนการเดินทางเรือ จึงมีโอกาสดำน้ำได้เพียงครั้งเดียวต่อเดือน ทั้งสามคนจึงตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม ดังนั้นกัปตันทำได้เพียงพยายามเจรจากับกู้จวินเพื่อให้ทั้งสามคนนี้ได้เข้าร่วม
กู้จวินกับคนทั้งสามคนตัดสินใจแบ่งค่าใช้จ่ายและที่นั่งในการดำน้ำอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีเหตุผลที่กู้จวินจะหวงที่ว่างไว้เเค่คนเดียว ท้ายที่สุด…ทุกคนได้สมหวังก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นจริงไหม!?
“โอเค ไม่มีปัญหา” กู้จวินยักไหล่และตอบกลับอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากที่นั่งยังไงว่างอยู่แล้วจึงไม่สำคัญสำหรับเข าหากแขกคนอื่นต้องการจะร่วมหารด้วย
“แต่…” อู่ต้งชายกล้ามโตไม่ค่อยเต็มใจที่จะมีคนอื่นร่วมเดินทางด้วย ดวงตาของเขามองมาเข้ามาราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
สำหรับชายที่เเต่งตัวเป็นเร้กเก้..หลี่เยี่ยรุ่ย เขายืนอยู่ที่นั่นนิ่งๆ เเละถ่ายทอดสดต่อไปโดยไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาร่วมหารที่นั่งเเม้เเต่นิดเดียว
กู้จวินมองมาที่หญิงสาวในชุดทหารด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาคลับคล้ายคลับคราว่าจะเคยเห็นเธอจากที่ไหนสักแห่ง เขาเคยเห็นเธอมาก่อนที่จะเจอเธอบนเรือลำนี้ใช่มั้ย!?
“มองหาเตี่ยเเกเหรอ!?” หลินเสี่ยวถังสังเกตเห็นว่ากู้จวินกำลังมองเธอ ดังนั้นเธอจึงหันกลับมามองเขาทันทีด้วยสีหน้าดุร้าย
“ไม่ได้มองหาเตี่ย ผมมองหาคุณ!!” กู้จวินเว่าซื่อๆ
กู้จวินตรงไปตรงมาจนหลินเสี่ยวถังตกตะลึงเล็กน้อย “นายนี่มัน….”
“ตอนนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว อย่างไรก็ตามฉันไม่รังเกียจที่ทุกคนจะใช้เรือร่วมกัน” กู้จวินเหลือบมองอีกสามคนด้วยรอยยิ้มและรีบลงบันไดเรือโดยไม่สนใจความคิดเห็นของพวกเขา