ตอนที่ 2: ลูกที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด
{คุณไม่เต็มใจเหรอ?}
“…”
{งานนี้ง่ายและสะดวกสำหรับคุณนะ!}
“…” ฮัวลี่ลี่อยากจะสนทนาด้วยแต่ในใจยังคงรู้สึกลังเล
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง แต่ท้ายที่สุดเธอต้องยอมรับแต่โดยดีว่ามันไม่ใช่ความฝัน
และแม้ว่าคำกล่าวเหล่านี้จะฟังดูน่าสงสัย แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของเธอมันบีบบังคับให้เธอต้องเชื่อในสื่งที่เขากล่าว เพราะตอนนี้เธอไม่ได้ฝันไป... มันเป็นความจริง!
ตอนนี้เธอเป็นเพียงเด็กทารกที่มีอายุเพียงสามเดือนเท่านั้น… แต่จะต้องช่วยคนร้ายคนนี้ให้ได้ภายในสามปีนี้?
ต้องช่วยชีวิตคนอื่นในวัยสามขวบอย่างนั้นเหรอ?
โอ้พระเจ้า!
คิดได้ยังไง!
ระบบนี้สุดยอดมาก!
ฮัวลี่ลี่จะขอบคุณมากเลยถ้าเด็กอายุสามขวบสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
แต่เรื่องที่จะให้ช่วยชีวิตคนร้ายนี่สิ! ลองนึกภาพเด็กอายุสามขวบที่ยังใส่กางเกงในถูกจับป้อนอาหารและช่วยชีวิตคนดูสิ!
แค่ได้ฟังฮัวลี่ลี่ก็ไม่ต้องการปฏิบัติภารกิจนี้แล้ว!
เมื่อวานนี้เธอได้รับการแจ้งถึงการสอบผ่านเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในอุดมคติของเธอซึ่งอยู่ห่างจากการทำตามความฝันของเธอเพียงก้าวเดียว แต่ในพริบตาเธอกลับเปลี่ยนร่างจากเด็กสาวที่มีอนาคตเป็นทารกน้อย?
เมื่อนึกถึงภาพเด็กวัยหัดเดินที่สวมผ้าอ้อมกับขวดนม ทันใดนั้นเธอถึงกับต้องหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่คิดว่านี่เป็นงานที่เธอทำไม่ได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญคือเธอเป็นเพียงความผิดพลาดจากการมึนเมาของคนที่เป็นพ่อเท่านั้น
ส่วนภาษิตที่ว่ากันว่าเสือแม้จะโหดร้ายแต่ก็ไม่ยอมกินลูกของมัน คงจะใช้กับกรณีนี้ไม่ได้ เพราะจากข้อมูลของระบบ ถ้าฮัวซุ่ยเฉิงรู้ว่าผู้หญิงที่ตนเองหลับนอนด้วยเพียงแค่ครั้งเดียวเนื่องจากความมึนเมาเกิดตั้งท้องขึ้นมา เขาคงจะไม่มีวันปล่อยให้เด็กคนนั้นมีโอกาสออกมาลืมตาดูโลกอย่างแน่นอน
มาถึงตอนนี้แล้วฮัวลี่ลี่ยังสงสัยว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้พบกับบิดาวายร้ายของเธอก่อนที่เธอจะอายุสามขวบ
ระบบ “อีกสามปีคนร้ายจะตายด้วยเหตุการณ์ระเบิดและคุณจะต้องอดตายเนื่องจากไม่มีใครดูแลคุณ”
“…” นี่มันมากเกินไป!
ระบบ “เอาเป็นว่าฉันจะช่วยเสริมสร้างร่างกายของคุณให้แข็งแรงกว่าเด็กทั่วไปก็แล้วกัน คุณคิดว่ายังไง?”
“?” ฟังดูแล้วเหมือนจะโอเคนะ!
จากนั้นฮัวลี่ลี่ก็พยายามแยกแยะความทรงจำที่วุ่นวายในใจของตัวเองอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับผลร้ายเกือบทั้งหมดที่เกิดจากนิสัยอันเลวร้ายของวายร้ายในนวนิยายที่เคยอ่านเท่าที่เธอพอจะจำได้
ปกติเนื้อเรื่องในนิยายทั่วไปนั้นหลังจากคนร้ายตายก็มักจะทำให้ผู้อ่านน้ำตาซึม เพราะชีวิตในวัยเด็กที่น่าสังเวชจึงทำให้เขากลับกลายเป็นคนหัวดื้อและมีนิสัยร้ายกาจ
แต่ฮัวซุ่ยเฉิงนั้นได้รับการยกเว้น เพราะเขาไม่มีทั้งวัยเด็กที่น่าเศร้าหรืออดีตที่น่าสงสาร แต่เขาเป็นผู้ทีไร้ความปรานีซึ่งมีความทะเยอทะยานและหยิ่งผยองโดยสันดาน!
และหากเขาเพ้อฝันอะไรบางอย่างตราบเท่าที่เขาต้องการ เขาจะทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นเงินอำนาจหรือผู้หญิง และนี่เป็นเหตุผลที่เขาทำให้พระเอกและนางเอกของนิยายเรื่องนี้เกิดความขุ่นเคือง
ด้วยเหตุนี้พระเอกของนวนิยายเรื่องนี้จึงฆ่าคนร้ายผู้ชั่วช้า
…ใช่แล้ว! นี่คือบรรทัดฐานในตอนจบของนวนิยาย
ระบบบอกว่านี่เป็นงานที่ง่ายอย่างนั้นเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเหมือนกับแผ่นเหล็กและเธอต้องใช้ความพยายามอย่างหนักของตัวเองในการทำให้แผ่นเหล็กที่แข็งนี้อ่อนยวบลง
นี่เป็นเรื่องยากพอ ๆ กับการกอบกู้ประเทศเลยทีเดียว!
หากเป็นเพราะวัยเด็กที่มืดมนของเขาบางทีเธออาจคิดหาวิธีแก้ปมได้ อย่างไรก็ตามนิสัยของฮัวซุ่ยเฉิงนั้นเกิดจากธรรมชาติของเขาเอง แล้วเธอจะทำได้เหรอ?
อาศัยความน่าเอ็นดูของเธอเหรอ? มันง่ายเกินไปหรือเปล่า?
ฮัวลี่ลี่ยกมือขึ้นมาบีบใบหน้าอันอวบอ้วนของเธอ โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาของตนเองนั้นเป็นอย่างไร อันที่จริงแล้วแม่ของเด็กเป็นคนที่มีเสน่ห์มากและพ่อขก็หล่อเหลามิใช่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นเธอคิดว่าตัวเองก็ไม่น่าจะขี้เหร่!
หลังจากหยุดคิดสักครู่ ในที่สุดเธอก็หันกลับมาและมองไปรอบ ๆ ทำให้เห็นว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น ขณะมีเพียงเด็กทารกหลายคนกำลังนอนอยู่บนเบาะ โดยไม่ได้ส่งเสียงดังแต่ก็ไม่ได้นอนหลับ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ฮัวลี่ลี่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าอย่างแน่นหนารู้สึกได้ถึงความอับชื้นและร้อนมากจนมีเหงื่อซึมไปทั่วทั้งร่าง เธอจึงถีบผ้านวมอย่างแรงด้วยเท้าของตนเอง
แต่หลังจากที่ใช้เท้าถีบออกไปอย่างแรงสองครั้ง เธอก็ไม่สามารถรวบรวมพละกำลังได้อีกต่อไปเพราะร่างกายเล็ก ๆ นี้มันอ่อนแอเกินไป จากนั้นจึงหายใจอย่างเหนื่อยหอบอยู่ครู่หนึ่งและนิ่งไปสักพัก
จากนั้นในท้ายที่สุดเธอก็รู้สึกร้อนมากขึ้นจนแทบจะทนไม่ได้ โดยในตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเธอจึงกัดฟันพร้อมกับใช้ทั้งมือและเท้าทั้งสองข้างของตนเองเตะและถีบอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ในที่สุดผ้านวมผืนนั้นก็เลื่อนหลุดออกจากตัวไป
ตอนนี้สิ่งที่ฮัวลี่ลี่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือเธอต้องเรียนรู้ที่จะพลิกตัวก่อน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยคุณพ่อวายร้าย
แต่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เด็กที่เพิ่งเกิดมานั้นช่างมีความบอบบางราวกับตุ๊กตาที่ทำจากกระเบื้องลายคราม ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการพลิกตัว เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถลืมตาและมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวได้อย่างชัดเจน
แล้วเธอจะทำได้หรือเปล่า?
*******