ตอนที่ 1 ระบบ
ตอนที่ 1 ระบบ
เมื่อฮัวลี่ลี่กำลังจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันอบอุ่น และรู้สึกว่ามันช่างปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเป็นอย่างมาก ขณะที่นอนขดตัวอย่างสบายใจและไม่ต้องการแม้แต่จะลืมตา
แต่ทันใดนั้น "มหาสมุทรอันกว้างใหญ่" พลันเหือดแห้งไปในพริบตาด้วยแรงผลักดันมหาศาล ซึ่งมันทำให้ร่างของเธอถูกผลักออกมาโดยการบีบตัวของบางอย่าง และในที่สุดทุกคนก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังลั่นด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ
“คลอดแล้ว! เด็กคลอดแล้ว!”
ตอนนี้สิ่งที่ฮัวลี่ลี่เห็นคือหลอดไฟซึ่งกำลังส่องสว่างอยู่เหนือศีรษะของตนเอง ขณะที่ร่างของเธอเหนียวหนึบไปทั้งตัวราวกับว่าตนเองได้ตกลงไปในน้ำเชื่อม ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมากที่มีเมือกอยู่ทั่วทั้งร่างกายเช่นนี้ และกำลังอ้าปากพะงาบ ๆ เพื่อต้องการจะกล่าวบางอย่าง แต่มันกลับกลายเป็นเสียงร้องของเด็กแรกเกิดแทน
อุเเว้...อุแว้!
เสียงเด็กทารกร้องไห้?
อ้าว! แล้วเด็กทารกคนนั้นอยู่ที่ไหน?
จากนั้นเธอได้ลืมตาขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพื่อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว แต่กลับเห็นเพียงแค่เงาอันพร่ามัวที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหา
อีกทั้งตอนนี้ยังมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด และกลิ่นยาฆ่าเชื้อที่หนาแน่นพุ่งเข้ามายังจมูกจนแทบจะหายใจไม่ออก ทันใดนั้นในหัวสมองของเธอพลันว่างเปล่า และในชั่วพริบตาก็มีความสับสนเข้ามาแทนที่
นี่คือ… ห้องคลอดเหรอ?
ไม่นานต่อมาคุณพยาบาลได้จับเธอไปทำความสะอาดด้วยความรวดเร็วและค่อนข้างรุนแรง... เพื่อ... เบา ๆ หน่อยไม่ได้เหรอคะ? เจ็บนะ!
จากนั้นเขาห่อร่างของเธอด้วยผ้าขนหนูเนื้อหนานุ่มแล้วอุ้มไปวางไว้ที่เตียง
เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย!
ขณะนี้แม้ว่าสายตาจะพร่ามัว อย่างไรก็ตามฮัวลี่ลี่สามารถสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาที่ตนเอง และรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังแตะหลังมือที่กำแน่นของเธออย่างอ่อนโยน โดยสัมผัสที่นุ่มนวลอ่อนโยนนั้นราวกับขนนก และเห็นได้ชัดว่าบุคคลนั้นพยายามปฏิบัติต่อเธออย่างแผ่วเบาที่สุดเพราะเกรงว่าจะทำให้เธอเจ็บ
แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นชัดเจนแต่ความอบอุ่นและความสงบภายในที่เกิดจากสายใยแห่งความผูกพันได้ปรากฏขึ้นเมื่อบุคคลนี้ใช้นิ้วสัมผัสปลายนิ้วของเธอ ซึ่งมันทำให้รู้สึกราวกับว่าได้กลับไปอยู่ใน“มหาสมุทรอันกว้างใหญ่”นั้นอีกครั้ง
เธอจึงหงายฝ่ามือของตนเองออกและยื่นมือออกไปจับนิ้วนั้นอย่างแน่นหนาและใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อต้องการเห็นเจ้าของมือ แต่คลื่นแห่งความเหนื่อยล้าได้แผ่เข้ามาปกคลุมไปทั่วร่างของเธอ ทำให้เปลือกตาอันหนักอึ้งของเธอไม่สามารถเปิดกว้างได้อย่างที่ต้องการและค่อย ๆ หมดสติไปท่ามกลางเสียงสั่นเครือ
***
บรรยากาศตอนกลางคืนในโรงพยาบาลนั้นช่างเงียบเหงาจนน่ากลัว ท่ามกลางหลอดไฟหลายดวงที่กำลังเปล่งแสงสว่างไสวบริเวณทางเดินมีผู้คนสัญจรไปมาไม่มากนัก ทว่ามีเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ในไม่ช้ามันกลับเงียบสงัดราวกับว่าบริเวณนี้ไม่มีผู้คนอยู่เลย
ส่วนบริเวณอาคารที่ผู้ป่วยในพักอยู่นั้นมีระบบทำความร้อนส่วนกลาง เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิยังคงอยู่ในช่วงที่เหมาะสม หลังจากรู้สึกตัวฮัวลี่ลี่ลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก ตอนแรกเธอคิดว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นเพียงความฝัน แต่ทำไมตอนนี้สายตาของเธอยังคงพร่ามัวอยู่ และสามารถมองเห็นได้เพียงแสงสีขาวอย่างเดียวเท่านั้น…
ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย?
ฉันอยู่ที่ไหน? ฉันมาทำอะไรที่นี่?
ทำไมมีเด็กเต็มไปหมดเลยล่ะ? นี่โรงพยาบาลเหรอ?
หลังจากตื่นตระหนกอยู่ครู่ใหญ่ ฮัวลี่ลี่ก็ค่อยๆ ตั้งสติโดยพยายามคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตนเอง โดยที่ไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณหมอทำคลอดเธอออกมา ตนเองอยู่ที่นี่ไปกี่วันแล้ว
แต่จากคำสนทนาของคุณพยาบาลทำให้รู้ว่า เธออยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว... จากนั้นก็เป็นหนึ่งเดือน..สองเดือน..สามเดือน…
อ้าว... สรุปว่าสามเดือนแล้วเหรอ?
ในความทรงจำของตนเองทุกครั้งที่เธอตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปในช่วงสั้น ๆ จะมีเพียงพยาบาลสาวผู้อ่อนโยนเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น และในขณะที่เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทันใดนั้นได้มีคนมาจับนิ้วของเธอเอาไว้แน่น
“แม่ของเด็กที่น่าสงสารคนนี้หนีออกไปทันทีหลังจากที่เธอเกิดและบอกว่าพ่อของเด็กจะมารับเด็กคนนี้ด้วยตัวเอง แต่นี่ก็ตั้งนานแล้วยังไม่เห็นมาเลย หรือเขาคิดว่าโรงพยาบาลของเราเป็นศูนย์ดูแลเด็กเล็ก!”
เมื่อได้ยินบทสนทนานั้นฮัวลี่ลี่ก็พยายามดิ้นรนที่จะยกแขนขึ้นและต้องการที่จะยืนขึ้นเพื่อดูสภาพของตนเองในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามแม้จะพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็เห็นได้ชัดว่า ร่างกายเล็ก ๆ ของเธอไม่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวที่หนักหน่วงเช่นนี้ได้
เพราะตอนนี้เธอเป็นเพียงเด็กทารกที่มีอายุแค่สามเดือนเท่านั้น ที่ไม่สามารถพูดหรือเดินได้ มิหนำซ้ำพ่อก็ไม่รักแม่ และแม่ก็ไม่รักเธอเช่นกัน มิฉะนั้นเธอคงไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลนานขนาดนี้โดยไม่มีใครอยากมารับเธอไปอยู่ด้วย
เมื่อนึกขึ้นมาอารมณ์ของฮั้วลี่ลี่ก็ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
มันแปลกมาก... แต่นี่ก็ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุด
ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหูของเธอ
{สวัสดีฉันชื่อเอลี่ ฉันคือระบบของคุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตอนนี้ตัวตนของคุณคือลูกสาวของฮัวซุ่ยเฉิง ผู้ซึ่งเป็นวายร้ายตัวใหญ่ที่คุณพบเคยพบเขาในความฝันของคุณ และงานของคุณคือต้องแนะนำเขา}
“...?”
{ไม่อย่างนั้นฮัวซุ่ยเฉิงจะเสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดอีกสามปีข้างหน้า}
ตอนนี้ในหัวใจของฮัวลี่ลี่กำลังสับสนและไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเสียงของความทรงจำที่กำลังยัดเยียดข้อมูลอันหนักหน่วงนี้ให้กับเธอ โดยที่สามารถได้ยินเพียงแค่ข้อมูลบางอย่างที่เอลี่กล่าวเท่านั้น
คนร้ายเหรอ?
คนร้ายคือพ่อของฉันเหรอ?
พ่อของฉันจะเสียชีวิตในอีกสามปีข้างหน้าเหรอ?
“อีกสามปีอย่างนั้นเหรอ?” ฮัวลี่ลี่โบกมือขาวอ้วนของตนเองไปมาอย่างไร้โมเมนตัมและนึกอยู่ในใจอีกว่า “คุณต้องการให้ฉันแนะนำคนร้ายเหรอ?”
ตอนนี้ช่วยตัวเองยังไม่ได้เลย แล้วจะไปช่วยคนอื่นได้ยังไง?
{อะแฮ่ม…ต้องขอโทษด้วย ผมผิดเองที่ให้คุณกลับมาเกิดเป็นเด็กอ่อน แต่นับว่าโชคดีที่ไม่มีการแท้งบุตร}
“…”
{…}
หลังจากเงียบกันไปชั่วครู่
{อ้าว ทำไมถึงเงียบไปล่ะ คุณไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติภารกิจเหรอ?}
____