Ep.717 - ไม่ต่างจากเงาตามตัว

2/4

Ep.717 - ไม่ต่างจากเงาตามตัว

ฉินเฟิงเร่งเร้าพลังสมาธิในทำนองเดียวกัน เปลวเพลิงสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบกายเขา ก่อร่างเป็นนกยูงเพลิงฟ้าขนาดยักษ์

ไม่เพียงแค่นั้น นกยูงเพลิงฟ้ายิ่งมายิ่งขยายใหญ่ พรวดเดียวพุ่งสูงถึง 30 เมตร ก่อนสยายปีกของมันบดบังผืนฟ้า

“แกว๊ก!”

ฟุฟ ฟุฟ ฟุฟฟฟ

หอกเหล็กนับไม่ถ้วนไม่ทันได้เข้าถึงตัวฉินเฟิง ถูกสกัดกั้นไว้โดยปีกนกยูงเพลิงฟ้า บังเกิดกระแสระเบิดของพลังงานก่อตัวขึ้น เปลวเพลิงแผดเผาเหล็ก เหล็กทะลุเปลวเพลิง

นี่มิใช่การปะทะกันในแง่กายภาพ หากแต่เป็นอักษรรูน เป็นการสะกดข่มกันระหว่างรูนธาตุ หากอิงตามที่รู้กันแล้ว ไฟถือว่าได้เปรียบเหล็ก นั่นคือผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

การโจมตีท่วมทับฟ้าอันน่าหวาดกลัว สลายหายไปในอากาศ ไม่หลงเหลือให้มองเห็นอีกเลย

สีหน้าของซาบาห์ที่มองฉินเฟิงเริ่มกลายเป็นดำคล้ำ

“แกเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ หรือเป็นผู้ใช้อบิลิตี้กันแน่!”  ซาบาห์ส่งพลังสมาธิออกไป

ช่วงแรก ซาบาห์เห็นว่าฉินเฟิงได้ระเบิดกระบวนท่าวรยุทธอันทรงพลังออกมา และพลังที่ว่าร้ายกาจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหลบเลี่ยง พยายามอยู่ห่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเข้าถึงตนเอง

อย่างไรก็ตาม แม้เคยใช้ออกด้วยกระบวนท่าวรยุทธไปแล้ว แต่ฉินเฟิงกลับสามารถปลดปล่อยอบิลิตี้ได้อย่างกะทันหัน นี่เป็นเรื่องยากนักที่จะเชื่อ

เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ หรือผู้ใช้อบิลิตี้ การจะไปถึงเลเวล B ไม่ใช่เรื่องง่าย มีสองอาชีพเท่ากับต้องใช้ความพยายามในการฝึกฝนสองเท่า ไม่มีใครว่างขนาดนั้น ดังนั้นฝึกฝนเจาะลึกเพียงหนทางเดียว

แต่ประเด็นก็คือ อายุของฉินเฟิงยังน้อยมาก

แต่กลับมาถึงเลเวล B ได้ทั้งสองอาชีพแล้ว แบบนี้มันเป็นไปได้หรอ?

“ถามแบบนี้ แกคิดหรือว่าฉันจะยอมบอก?”

ความแข็งแกร่งของตัวเอง ถือเป็นไพ่ในมือ แล้วจะยอมบรรยายมันให้คนอื่นฟังได้อย่างไร?

ซาบาห์เห็นฉินเฟิงไม่ร่วมมือ สีหน้ามืดมนกว่าเดิม แต่คราวนี้ เขาระมัดระวังตัวกว่าในตอนแรกมาก

เปลี่ยนมาเป็นเอาจริงเอาจังยามเผชิญหน้ากับฉินเฟิง

“เทคนิคป่าโลหะ!”

ซาบาห์เอาจริงแล้ว!

เขาใช้ออกด้วยอบิลิตี้เขตแดนโลหะ!

เพียงพริบตา อาคารที่อยู่ใต้เท้าของซาบาห์ ทุกส่วนพลันถูกย้อมด้วยเหล็กกล้า เหล็กกล้ากระจายไปทุกหนแห่ง ขยายมายังทิศทางของฉินเฟิง คล้ายต้องการรวบอีกฝ่ายมาไว้ในโลกของตน ถึงเวลานั้น ฉินเฟิงจะถูกคมเหล็กนับไม่ถ้วน ทั้งสับทั้งบดจนมีสภาพไม่ต่างจากข้าวต้ม!

“เหอะ! เทคนิคเพลิงบรรจบ!”

ฉินเฟิงปลดปล่อยเขตแดนเปลวเพลิงเช่นกัน เพียงพริบตา ทั้งตึกใต้เท้าเขาพลันลุกไหม้ ถูกแผดเผา พื้นดินรอบๆแปรสภาพเป็นลาวา

“ไปเลย!”

ฉินเฟิงกวาดมือ สั่งการธารเพลิงหนืดบนพื้นก่อตัวเป็นคลื่นใหญ่ สูงกว่าสิบเมตร โถมเข้าหาตึกเหล็กใต้ฝ่าเท้าของซาบาห์

ซี่ ซี่ ซี่ …

ภายใต้การปกคลุมของลาวา ตัวอาคารเริ่มกลายเป็นสีแดงทันที อุณหภูมิพุ่งสูงร้อนลวกแผดเผา

สีหน้าของซาบาห์แปรเปลี่ยนไป เขาควบคุมเหล็กเข้าสกัดกั้น ก่อร่างเป็นกำแพงหนา ป้องกันไม่ให้ลาวาไหลเข้ามา

“เอาไปอีกที!”

ฉินเฟิงสะบัดมือ มังกรไฟกว่าสิบตัวลุกฮือจากธารลาวา ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แหวกว่ายในอากาศเข้าหาซาบาห์

ซาบาห์ทำได้เพียงกระโจนขึ้นไปในอากาศ เรียกมังกรโลหะเข้าต่อต้าน

แต่การโจมตีของฉินเฟิง ยิ่งมายิ่งปลดปล่อยราวกับไร้ที่สิ้นสุด

“ฮี่ฮี่ งั้นถ้าแบบนี้ล่ะเป็นยังไง?”

“ยังป้องกันได้อีก? งั้นเจอนี่หน่อย!”

“เร็วเข้าซาบาห์ รีบหยุดมันสิ ไม่อย่างนั้นผมแกกำลังจะไหม้แล้วนะ!”

อักษรรูนไฟของฉินเฟิง เมื่อเทียบกับรูนเหล็กของซาบาห์ ปริมาณมันต่างกันมากเกินไป ผสานกับพลังสมาธิของฉินเฟิงที่อยู่ในระดับจักรพรรดิเลเวล B เมื่อเทียบกับเลเวล A แล้วไม่ได้ห่างไกลกันเท่าไหร่

ทั้งสองใช้ออกด้วยเทคนิคอบิลิตี้ โจมตีใส่กันไปใส่กันมา แต่จริงๆแล้วเหมือนจะเป็นฝั่งฉินเฟิงที่มีอำนาจมากกว่า

ช่วงเวลานี้ ผู้คนจากพันธมิตรวู้ดแลนด์นอกสนามรบ และตัวแทนจากพันธมิตรอื่นๆ ทั้งหมดต่างสูดหายใจลึก

พวกเขาไม่คาดฝันจริงๆ ว่าสิ่งที่ฉินเฟิงพูดก่อนหน้านี้ มันจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากแต่เป็นเรื่องจริง!

เขาเข้าสู้กับผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล A ทั้งยังสามารถบดขยี้อบิลิตี้ของฝ่ายตรงข้าม นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

อย่าลืมสิว่าคู่ต่อสู้คือเลเวล A นะ!

เมื่อถึงจุดนี้ นายพลจากพันธมิตรญี่ปุ่นที่เคยหยิ่งผยอง ต้องยอมก้มหัวหันมาถามซื่อฉิง “เขาเป็นใครกัน? แล้วเขาแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? คุณก็เป็นหนึ่งในตัวแทนฝั่งหัวเซี่ย หมายความว่าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญไม่ต่างจากเขาใช่ไหม?”

แต่ซื่อฉิงพอได้ฟังกลับยิ้มขม กล่าวว่า “ในเลเวล B เขาคือตัวตนคงกระพัน! สามารถท้าทายระดับที่เหนือกว่า ยามต่อสู้จะไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และบางทียังถึงขั้นสามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้!”

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟังถึงจุดนี้ ชายอีกคนจากพันธมิตรญี่ปุ่นกลับขมวดคิ้ว “ฉันยอมรับในความแข็งแกร่งของเขา แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสังหารเลเวล A นั่นไม่สมควรเป็นไปได้”

แม้ตอนนี้สองคนจากญี่ปุ่นจะเห็นว่าฉินเฟิงกำลังเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบ แต่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าพลังสมาธิและอักษรรูนของผู้ใช้พลังเลเวล A อย่างไรย่อมมากกว่า ภายใต้การต่อสู้อันน่าสะพรึงนี้ สมควรบริโภคพลังสมาธิมหาศาล ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายหมดแรงก่อน

ซื่อฉิงส่ายหัว แม้เขาไม่แน่ใจว่าฉินเฟิงกำลังลำบากอยู่หรือไม่ แต่ก็ยังกล่าวว่า “แต่ที่เห็นอยู่นี่ ยังไม่ใช่เทคนิคที่ทรงพลังที่สุดของเขา!”

“ก็อาจจะจริง เพราะกระบวนท่าทักษะมีดก่อนหน้านี้ของเขามันร้ายกาจมาก ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แต่จู่ๆเขาก็เปลี่ยนไปใช้อบิลิตี้อย่างกะทันหัน นั่นอาจหมายความว่าทักษะมีดกินพลังงานเยอะกว่า”

ซื่อฉิงพอฟังยังคงส่ายหัว แต่คราวนี้เลือกที่จะเงียบ ไม่อธิบายใดๆ

เพราะสิ่งที่ฉินเฟิงแข็งแกร่งที่สุด มันไม่ใช่ที่พวกคุณกำลังเห็น โถ่เอ๊ย!

แต่มันคือเทคนิคที่ยังไม่มีใครรู้ตัว --เป็นอบิลิตี้มืดต่างหาก!

ช่วงเวลานี้ ภายใต้เขตแดนของทั้งสอง เขตแดนไฟของฉินเฟิง ได้ล้อมรอบเขตแดนของซาบาห์จากทุกทิศทางเป็นที่เรียบร้อย

ใต้เท้าของซาบาห์ หลงเหลือเพียงอาคารเหล็กหลังเดียว ขณะที่รอบๆท่วมท้นไปด้วยธารลาวา!

ตูม!

ลาวารอบๆปะทุสูงขึ้นมาเรื่อยๆ พยายามที่จะท่วมทับอาคารเหล็กหลังสุดท้าย

“ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแกแข็งแกร่งจริงๆ แต่ถ้าต้องการฆ่าฉัน แค่นี้ยังไม่พอ!”

ซาบาห์คำรามเกรี้ยวกราด

การต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดนี้ ซาบาห์ถูกกดดันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงเป็นแค่เลเวล B แต่สามารถระเบิดพลังอันแข็งกร้าว ที่กระทั่งผู้ใช้พลังเลเวล A ก็ยังไม่สามารถบรรลุออกมาได้

กระนั้น จากในมุมมองของซาบาห์ ฉินเฟิงแม้มีอำนาจเหนือกว่า แต่หากต้องการฆ่าเขา แค่นี้ยังไม่พอ!

ปัจจุบัน พลังสมาธิของซาบาห์เหือดแห้งไปมาก ฉะนั้นฝั่งฉินเฟิงเองย่อมไม่ต่างกัน

“นับว่าตัวแกยังโชคดี!”

ซาบาห์กัดฟันเอ่ยประโยคหนึ่งอย่างโหดเหี้ยม ทว่าในดวงตากลับแสดงออกถึงเจตนาล่าถอย

“เทคนิคป้อมปราการเหล็ก!”

ในพริบตา อาคารที่อยู่ใต้เท้าของซาบาห์พลันถีบตัวสูงขึ้น ปรากฏผนังหนา ลักษณะรูปทรงคล้ายบ้าน ปกคลุมซาบาห์เอาไว้ภายใน

ชั้นเหล็กนี้หนาอย่างต่ำก็สิบเมตร นั่นหมายความว่าแม้เปลวไฟจะท่วมทับ แต่ก็มิอาจบุกเข้ามาได้

เคร้ง!

ป้อมปราการเหล็กถูกปิดตาย ซาบาห์ซ่อนตัวอยู่ในกระดองเต่า ไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ภายในปราการเหล็กนี้ ซาบาห์สามารถควบคุมรูนเหล็กรอบตัวเขา สร้างเป็นช่องว่างได้

จากนั้นก็ใช้ตัวเชื่อมมิติ ขอแค่ป้องกันไว้สักหลายวินาที มันมากพอให้ซาบาห์หลบหนี!

ภายนอก เนโบเมื่อเห็นฉากนี้ ก็ต้องลอบปาดเหงื่ออย่างเงียบๆ เขาไม่คิดมาก่อนเลย ว่าในบรรดาพันธมิตรที่ถูกเชิญมา จะมีการดำรงอยู่เช่นฉินเฟิงอย่างกะทันหัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ระหว่างที่ทุกคนกำลังเฝ้ามองลาวาล้อมรอบกำแพงเหล็ก และขยับถอยออกมา ยังมีคนๆหนึ่งหายตัวไปเช่นกัน

นั่นคือฉินเฟิง!

ช่วงเวลานี้ ภายในปราการเหล็ก ซาบาห์ถอนหายใจโล่งอก หยิบศิลามิติออกมา เพื่อเตรียมเปิดใช้งานตัวเชื่อมมิติ

อย่างไรก็ตาม พริบตานั้นเองสภาพแวดล้อมรอบกายเขา จู่ๆก็กลายเป็นดำสนิท

“โอบกอดทมิฬ!”

ฉินเฟิงใช้ออกด้วยอบิลิตี้มืดของเขา

ท่ามกลางความมืดมิด ฉินเฟิงกุมมีดกษัตริย์ครามไว้ในมือ และไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขามาโผล่อยู่ภายในป้อมปราการเหล็กได้อย่างไม่คาดฝัน!

“เกิดอะไรขึ้น?” ดวงตาของซาบาห์เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว มองสภาพแวดล้อมรอบตัว ท่ามกลางความมืดมิด เขาพยายามเปิดปาก สูดกลิ่น และรับฟัง แต่กลับไม่มีความรู้สึกใดเลย

--เขาได้สูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าไปแล้ว!